Apr 29, 2014

Lover At Last (ฺBlack Dagger Brotherhood #11)



ชื่อเรื่อง Lover At Last
จากชุด Black Dagger Brotherhood
ผู้เขียน : J.R.WARD
สำนักพิมพ์ : SIGNET NOVEL

เรื่องย่อ

Qhuinn, son of no one, is used to being on his own. Disavowed from his bloodline, shunned by the aristocracy, he has finally found an identity as one of the most brutal fighters in the war against the Lessening Society. But his life is not complete. Even as the prospect of having a family of his own seems to be within reach, he is empty on the inside, his heart given to another.... Blay, after years of unrequited love, has moved on from his feelings for Qhuinn. And it’s about time: The male has found his perfect match in a Chosen female, and they are going to have a young- just as Qhuinn has always wanted for himself. It’s hard to see the new couple together, but building your life around a pipe dream is just a heartbreak waiting to happen. As he’s learned firsthand. Fate seems to have taken these vampire soldiers in different directions... but as the battle over the race’s throne intensifies, and new players on the scene in Caldwell create mortal danger for the Brotherhood, Qhuinn finally learns the true definition of courage, and two hearts who are meant to be together... finally become one.

REVIEW

ควินน์พยายามมีลูกกับเลย์ล่าในเล่มที่แล้ว แต่ลึกๆในใจของเขายังตัดใจจากเบลย์ไม่ได้ เมื่อควินน์ประสบอุบัติเหตุจากเรื่องที่รถของเขาถูกขโมยไป เบลย์รีบไปช่วยเขาอย่างไม่รอช้า และที่นั่น ... ควินน์ได้เอ่ยกับขอโทษเบลย์และบอกเล่าว่าจริงๆแล้วเขาไม่ได้รักเลย์ล่า และเลย์ล่าก็ไม่ได้รักเขา แต่เบลย์คิดว่าจริงๆแล้วควินน์ก็รักเลย์ล่าและอยากจะมีลูกด้วยกันอยู่ดี ไหนจะมีตอนที่แซ็กซ์ตันคิดว่าเบลย์พยายามจะบอกเลิกเขา และลึกๆเขาก็รู้ดีว่าเบลย์ยังรักควินน์และยังตัดใจไม่ได้

คอร์ยังหวนรำลึกถึงช่วงเวลาที่เขาได้อยู่กับเลย์ล่า ตอนที่หล่อนให้เขาดื่มกิน คอร์มักจะย้อนกลับขึ้นเหนือไปเพื่อเฝ้ามองหาเลย์ล่า แต่เขาไม่เจอหล่อนที่นั่น เขาได้แต่หวังว่าให้หล่อนอยู่อย่างปลอดภัยและเหล่าภราดรจะไม่ทำร้ายหล่อนที่เคยให้ความช่วยเหลือแก่เขา

ควินน์และเบลย์ยังเกิดความต้องการในตัวกันละกันทุกครั้งที่พบหน้า แต่ทั้งคู่กลับปฏิเสธความต้องการของตัวเองออกไป ทางด้านของราธ ... เขาให้แช็กซ์ตันจัดการกับกฎหมายฉบับเก่าเพื่อเปลี่ยนแปลงเรื่องการรับภราดรหน้าใหม่เข้ามา แต่นั่นไม่ใช่เรื่องง่ายเพื่อเขาพิจารณาแล้วว่าอาจจะกระทบกับความรู้สึกของเหล่าพี่น้องภราดรของเขาอยู่บ้าง

Apr 26, 2014

เมืองวิญญาณสาบสูญ - นครรัตติกาล (The Mortal Instrument#5)



สำนักพิมพ์ : อิ่มอ่าน
ผู้เขียน : คาสซานดร้า แคลร์
ผู้แปล : ฤทัยรัตน์ สุขถาวร

เรื่องย่อ

เมื่อเจซถูกจับตัวไป และผูกพันด้วยสัญญาทางร่างกายกับเซบาสเตียน ยากจะหาอาวุธใดมาทำลายพันธนาการของทั้งสองที่มีต่อกันได้ ถึงเวลาที่คลารี่ต้องเลือกระหว่างความรักกับการตัดสินใจอันเด็ดเดี่ยวเพื่อรักษาคนรักของเธอ เรื่องราวน่าตื่นเต้นกับการตามล่าหาบางสิ่งที่หายไป เพื่อรอให้เธอกลับมาเป็นเจ้าของอีกครั้ง นครรัตติกาล นครลึกลับ หลากสีสัน งามจับตา น่าหลงใหล พร้อมผู้คนที่มีชีวิตลุ้นระทึกน่าติดตามกลับมาอีกครั้ง ชีรีส์ชุดนี้ เล่มที่มีชื่อว่า เมืองวิญญาณสาบสูญ รับรองว่าอ่านสนุกสุดๆ คุ้มค่ากับที่รอคอย

REVIEW

เล่มนี้สนุกขึ้นกว่าเล่มที่แล้ว ...

หลังจากที่เจซหายตัวไป คลารี่ตามตัวเจซจนเจอ แต่เจซกลับไม่ใช่คนที่เธอรู้จักอีกต่อไป เจซอยู่กับเซบาสเตียน พี่ชายผู้ชั่วร้ายของคลารี่ เจซพยายามเกลี้ยกล่อมให้คลารี่ไปอยู่กับเขา แต่เธอทำไม่ได้ เธอทำร้ายเซบาสเตียนไม่ได้ เพราะถ้าเซบาสเตียนบาดเจ็บ เจซก็จะบาดเจ็บตามด้วย

เนื้อเรื่องก็ดำเนินมาเรื่อยๆมีจุดที่ลุ้น สนุก ตื่นเต้น บีบหัวใจ ทางเดียวที่จะช่วยเจซได้คือก็คือต้องใช้อาวุธของเทวดา นั่นทำให้ไซม่อนต้องแลกกับลายคาอินของเขาเพื่อให้ได้มันมา เมื่อคลารี่ช่วยเจซได้สำเร็จ เจซมีไฟสวรรค์อยู่ในตัวในขณะที่แผนของเซบาสเตียนยังดำเนินต่อไป ภัยร้ายกำลังคุกคามโลกของนักล่าเงา ...

เราชอบเล่มนี้มากกว่าเล่มที่แล้วนะ เพราะเนื้อเรื่องไม่เอื่อย แถมความสัมพันธ์ระหว่างคลารี่กับเจซก็ดูไม่กระอักกระอ่วนเหมือนเล่มก่อนๆ ฝีมือการแปลก็ไหลลื่นแล้ว คาดว่าเล่มหน้า (City of Heavenly Fire ที่กำลังจะออก) เนื้อเรื่องคงเข้มข้นน่าติดตามมากขึ้นแน่ๆ

คะแนน 8/10

Apr 25, 2014

Before I Go to Sleep - ก่อนนอนคืนนั้น


สำนักพิมพ์ : แพรวสำนักพิมพ์
ผู้เขียน : S.J. WATSON
ผู้แปล : โสภณา เชาว์วิวัฒน์กุล

เรื่องย่อ

ห้องนอนดูแปลกๆ ไม่คุ้นตา ฉันไม่รู้ว่าฉันอยู่ที่ไหน มาอยู่ที่นี่ได้ยังไง ทุกเช้า 'คริสทีน ลูคัส' ตื่นขึ้นมาโดยปราศจากความทรงจำ เธอลืมทุกอย่างที่เพิ่งเกิดขึ้น ความทรงจำหยุดอยู่ที่เมื่อยี่สิบกว่าปีก่อน 'เบน' สามีที่คอยดูแลบอกว่าเธอประสบอุบัติเหตุรถชน ทำให้สมองผิดปกติ และทุกๆ เช้า เมื่อเบนออกจากบ้าน คริสทีนจะได้รับโทรศัพท์จากชายคนหนึ่งที่บอกว่าเขาเป็นหมอของเธอ เขาบอกให้คริสทีนเปิดตู้ใบหนึ่ง ในกล่องที่ซ่อนอยู่ในตู้นั้นอีกที คริสทีนพบไดอะรี่ที่เธอเขียนทุกวันก่อนจะหลับไป เธออ่านและรับรู้เรื่องราวที่ปะติดปะต่อกันในแต่ละวัน ด้วยความหวังว่ามันจะช่วยให้ความทรงจำที่หายไปกลับคืนมา แต่แล้วประสาทก็ตึงเขม็ง เพราะในหน้าแรกนั้น นอกเหนือจากชื่อของเธอแล้ว สิ่งที่เขียนต่อมาคือ อย่าไว้ใจเบน

REVIEW

การอ่านหนังสือเล่มนี้ ... ไม่เหมือนการอ่านหนังสือ แต่มันเหมือนกับการอ่าน 'ไดอารี่' เสียมากกว่า ...

คริสทีน เป็นโรคความจำเสื่อมจากอุบัติเหตุที่เธอได้รับเมื่อหลายปีก่อน ทุกครั้งที่เธอเข้านอน แล้วตื่นขึ้นมา ... เธอจะจำความทรงจำของวันก่อนๆไม่ได้เลย ไม่รู้แม้กระทั่งตัวเองเป็นใคร อยู่ที่ไหน และไม่รู้ว่าผู้ชายที่นอนอยู่ข้างๆหล่อนทุกคืนคือสามีของหล่อน


[Spoiler Alert!!!]


ส่วนแรก ... ของหนังสือ จะปูเรื่องถึงสภาพชีวิตประจำวันของคริสทีนว่าเธอสับสนแค่ไหน ก่อนเนื้อเรื่องจะดึงผู้อ่านเข้าไปใส่กระดานจิ๊กซอว์ที่ภาพต่างๆค่อยๆต่อรวมกัน เป็นภาพที่ใหญ่ขึ้น ใหญ่ขึ้น และถึงกระนั้น ... ชิ้นส่วนจิ๊กซอว์ที่คุณหยิบขึ้นมาอาจจะเป็นชิ้นส่วนที่ไม่ถูกต้อง ทำให้ภาพที่คุณกำลังจะได้ผิดเพี้ยนไปจากเดิม

ส่วนที่สอง ... เป็นเรื่องราวของสมุดบันทุกที่คุณหมอแนซให้คริสทีนเขียนบันทึกไว้ในแต่ละวันว่าวันนี้เธอรู้อะไร ? เธอจำอะไรได้บ้าง ? น่าเสียดายที่ความทรงจำบางส่วนที่คริสทีนรำลึกได้กลับขาดๆหายๆและไม่ปะติดปะต่อ ทำให้บางส่วน ถึงรู้ไป ... ก็ไม่ได้ช่วยอะไรอยู่ดี จนกระทั่งเนื้อเรื่องดำเนินมาถึงจุดไคลแม็กซ์ที่ค่อยๆบีบคั้นอารมณ์คนอ่านมากขึ้นเรื่อยๆเมื่อคริสทีนรู้ว่าเบน สามีของเธอกำลังโกหกเรื่องราวทั้งหมดที่เธอหลงลืมไป ทั้งเรื่องลูกชายของเธอที่ตายไปแล้ว ทั้งเรื่องสาเหตุที่เธอสูญเสียความทรงจำ การโกหกเพิ่มขึ้นมากเรื่อยๆ แต่ตรงกันข้าม ... ทุกครั้งที่คริสทีนสับสน เบนกลับดูแลเธอเป็นอย่างดี แสดงความรักที่เขามีให้คริสทีนอย่างเต็มที่จนเธอหลงลืมไปว่าบางทีสามีของเธออาจจะรักเธอจริงๆ

แต่การโกหกไม่ได้มีเพียงแค่นั้นไม่ว่าแรงจูงใจและสาเหตุคืออะไร ทุกครั้งที่คริสทีนเริ่มไว้ใจเบน ... กลับมีบางอย่างผลักความไว้ใจของเธอออกไปทำให้คริสทีนไม่สามารถไว้วางใจเขาได้ เมื่อเรื่องราวเริ่มพีคเมื่อคริสตีนรู้ว่า เพื่อนรักของเธอที่สามีของเธอเล่าว่าย้ายไปอยู่ที่อื่น แต่ความจริงแล้วกลับไม่ได้ย้ายไปไหน รวมถึงการหย่าของคริสทีนกับเบนที่เกิดขึ้นเมื่อเธอย้ายเข้าไปอยู่ในสถานบำบัดได้ไม่นาน คริสทีนสับสน ... คนใกล้ตัวเริ่มไว้ใจไม่ได้อีกต่อไปแล้ว

ส่วนที่สาม ... เมื่อคริสทีนอ่านไดอารี่ที่ตนเองเขียนไว้จนหมด ประจวบเหมาะกับที่เบนพาหล่อนมาเที่ยวพักผ่อนที่ทะเลแห่งหนึ่ง ห้องพักของโรงแรมนั้นให้ความรู้สึกคุ้นตาราวกับว่าเคยมาที่นี่แล้ว และความจริงก็ถูกเปิดเผยเมื่อคริสทีนค้นพบหน้ากระดาษของไดอารี่ที่หล่อนเขียนถูกฉีกออกไปและไปอยู่ในกระเป๋าของเบน ความจริงเริ่มลงล็อคเมื่อคริสทีนค้นพบแล้วว่าความจริง ... ลูกชายของเธอ อดัม ยังไม่ได้ตายจากไปไหน และความจริงเกี่ยวกับสามีของเธอ ไมค์ คือคนที่เธออยู่ด้วยมาตลอด ไม่ใช่เบน ไมค์แอบอ้างเป็นเบน เพราะเขารักคริสทีน เขาคือชู้รักของเธอและเมื่อเธอตัดสินใจทิ้งเขาไป ไมค์ลงมือทำร้ายคริสทีนจนเธอความจำเสื่อมและลงมือปั้นเรื่องราวทั้งหมดเพื่อที่จะได้อยู่กับร่วมกันกับคริสทีนต่อไป

ส่วนตัวชอบการเล่าเรื่องของผู้เขียนนะ เรารู้สึกว่าเป็นแปลกใหม่ดีในการดึงผู้อ่านให้มีอารมณ์ร่วมและติดตามไปพร้อมๆกับตัวละคร แต่ด้วยความเรียบง่ายของเหตุการณ์ต่างๆที่เกิดขึ้นทำให้บางครั้งและรู้สึกง่วงนอนบ้าง ยิ่งช่วงที่เป้นไดอารี่นะ บางตอนนี่จะหลับเสียให้ได้ แต่เมื่อมาถึงจุดไคลแมกซ์ท้ายๆเรื่องรวมถึงการเฉลยความจริงทั้งหมดเกี่ยวกับสามีของคริสทีนที่ทำให้เราช็อคมาแล้ว เราก็ยอมรับว่าผู้เขียนผูกเรื่องไว้ดีจริงๆ แม้ว่าจะยังมีบางจุดที่ดูเหมือนไม่ค่อยเชื่อมโยงกันดีและยังระแคะระคายอยู่บ้าง ความบังเอิญที่มากเกินไปจนดูเหมือนว่าพยายามฝืนความเป็นธรรมชาติของตัวละคร

แต่โดยรวมแล้วเราถือว่าสนุกทีเดียวเลยแหละ แม้ว่าจะมีหลายช่วงที่น่าเบื่อจนอยากจะอ่านข้ามๆไป ... เนื้อเรื่องคาดเดาไม่ได้ (ถึงจะเดาได้ลางๆว่าสามีของคริสทีนต้องเป็นโรคจิตแน่นอนมาตั้งแต่ต้นก็เถอะ) และตอนจบกลับเป็นสิ่งที่ไม่มีใครคาดถึงอย่างแน่นอน

คะแนน 8/10

จำเลยหัวใจ - Unraveled (Turner #3)



สำนักพิมพ์ : แก้วกานต์
ผู้เขียน : Courtney Milan
ผู้แปล : กัญชลิกา

เรื่องย่อ

เขาคือความท้าทายในชีวิตหล่อน... สไมต์ เทอร์เนอร์มีชื่อเสียงว่าเป็นผู้พิพากษาที่ซื่อตรง อุทิศตนต่อหน้าที่ ทว่าเขามีความลับในอดีตที่คอยหลอกหลอนจนต้องกันคนอื่นให้ออกห่างจากชีวิตเขา จนกระทั่งมีสตรีที่ไม่อาจต้านทานได้ผู้หนึ่ง มาปรากฏตัวในฐานะพยานในห้องพิจารณาคดี... มิแรนดา ดาร์ลิ่งก้าวเข้าไปใกล้เกินไปจนเขาต้องขู่หล่อน หญิงสาวรู้ว่าควรวิ่งหนีไปในทิศตรงกันข้าม แต่ไม่ว่าชายผู้นั้นจะดูน่ากลัวเพียงไร หล่อนก็ไม่อาจตัดใจจากไปได้ ยิ่งเขาผลักไส หล่อนยิ่งเข้าใกล้ ทะลุผ่านการควบคุมตัวที่แข็งแกร่งของเขา และตรงเข้าสู่ห้องหัวใจแห่งความพิศวาสที่เขาซ่อนเร้นไว้เนิ่นนาน...

REVIEW

เล่มนี้เป็นเล่มที่ HOT ที่สุดในทั้งหมด 3 เล่ม ...

สไมต์ เทอร์เนอร์ เกิดความสนใจในตัวของมิแรนดา ดาร์ลิ่งในวินาทีที่หล่อนก้าวเข้าไปในห้องพิจารณาคดี หล่อนกำลังปลอมตัวมาเพื่อหลอกลวงเขา เขาจำหล่อนได้ว่าหล่อนเคยปลอมตัวเป็นผู้หญิงคนนึงมาเป็นพยานเมื่อปีที่หน้า คราวนี้เขาต้องรู้ให้ได้ว่าการที่หล่อนทำแบบนี้ หล่อนมีจุดประสงค์อะไร

แต่การที่สไมต์ยิ่งรู้จักและใกล้ชิดหล่อนมากขึ้น นั่นทำให้เขาเกิดความสนใจในตัวของมิแรนดาอย่างไม่ต้องสงสัย เขาเล่าความลับดำมืดในอดีตของตัวเขาให้หล่อนฟัง และเมื่อเขาตัดสินใจปล่อยหล่อนไป ... เขาคิดว่าเขาคงไม่มีโอกาสได้เจอหล่อนอีกแล้ว แต่เมื่อโอกาสอีกครั้งมาถึงมือเขา สไมต์ยื่นข้อเสนอการเป็นผู้หญิงเก็บแก่มิแรนดา และนั่นคือการตัดสินใจของหล่อนเมื่อมิแรนดากลายเป็นผู้หญิงเก็บของสไมต์ในที่สุด

สไมต์ยื่นข้อเสนอแก่มิแรนดาว่าการที่หล่อนจะมาเป็นผู้หญิงเก็บของเขา หล่อนจะต้องไม่มีอารมณ์ความรู้สึก ความรักอะไรต่อกัน และเขาปฏิเสธการสัมผัสลูบไล้ใบหน้าจากหล่อนเพียงเพราะเรื่องราวในอดีตของแม่เขาที่เคยจับเขาขังไว้ในห้องใต้ดินแล้วน้ำฝนก็ไหลท่วมเข้ามา นั่นคือฝันร้ายที่ตามหลอกหลอนเขามาตลอด

เมื่อภัยคุกคามอย่างนึงก้าวเข้ามาในชีวิตของมิแรนด้า เมื่อผู้อุปถัมภ์ที่หล่อนเคยไปทำสัญญาด้วยกลับมาขู่หล่อนและปองร้ายร็อบบี้ น้องชายของมิแรนด้า นั่นทำให้สไมต์ต้องพาร็อบบี้ไปหลบอยู่ที่บ้านของมาร์คเพื่อความปลอดภัย และเขาต้องส่งหล่อนไปยังลอนดอนเพื่อให้ทั้งคู่ไม่ต้องพบหน้ากันอีก เพราะเขาต้องเดินตามทางบนสายอาชีพของเขานั่นก็คือการเป็นผู้พิพากษา และเขาจะทำหน้าที่อย่างยุติธรรมไม่ได้อยากเขายังเหนี่ยวรั้งมิแรนดาไว้กับเขา

มิแรนดาออกจากเมืองเพื่อความปลอดภัยของหล่อน แต่แล้ว .. หล่อนก็คิดได้ว่าหล่อนจะต้องบอกลาเจเรอมี เพื่อนของหล่อน และที่นั่น ทำให้หล่อนรู้ถึงโฉมหน้าที่แท้จริงของผู้อุปถัมภ์ แต่ก่อนที่มิแรนดาจะทำอะไรได้มากกว่านั้น หล่อนก็ถูกข่มขู่และถูกจับตัวไปพิจารณาคดีต่อหน้าผู้พิพากษา

สไมต์ไม่สามารถตัดสินคดีของมิแรนดาได้เพราะเขาจะเอาความรู้สึกของตัวเองมาร่วมด้วย นั่นทำให้เขาต้องผละออกจากห้องพิจารณาคดีไป เขาพยายามทุกวิถีทางเพื่อช่วยหล่อนและในที่สุดสไมต์ก็ร่วมมือกับแอชเพื่อตามตามจับตัวผู้อุปถัมภ์ได้ในที่สุด นอกจากนั้นแล้วเขายังหาทางออกระหว่างความยุติธรรมของเขาและองค์การของผู้อุปถัมภ์

การเล่าเรื่องจะสนุกกว่าเล่มที่แล้วนะ มีให้ลุ้นบ้าง หักมุมนิดหน่อย ถือว่าได้น่าสนใจดีสำหรับนิยายแนวย้อนยุคแบบนี้

ส่วนนึงที่เรารู้สึกไม่ค่อยชอบในหนังสือเล่มนี้คือคาแรคเตอร์ของสไมต์ที่เข้าใจยากมากกกกกก เราว่ามาร์คในเล่มที่แล้วก็เข้าใจยากแล้วนะ แต่สไมต์เป็นอะไรที่เที่ยงตรงและเป๊ะราวกับไม้บรรทัด ต่อต้านทุกสิ่งรอบตัว ปฏิเสธคนรอบข้างตลอด

เรื่องสั้น -- Unlocked หัวใจซ่อนรัก

เป็นเรื่องสั้นเนื้อหา 100 หน้าเศษๆ เรื่องราวต่อจากหนังสือเล่มที่ 1 Unveiled

เอเลน เธอปกป้องตัวเองจากการเข้าสังคมตลอดมา เนื่องจากถูกเคยโดนล้อเรื่องเสียงหัวเราะของเธอ จากผู้ชายคนหนึ่ง ไอวาน เขาชื่นชอบหล่อน แต่เขาใช้วิถีทางผิดๆในการเข้าถึงตัวหล่อน ทำให้เอเลนปิดกั้นตัวเองจากการถากถางเย้ยหยันตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา

เมื่อไอวานและเอเลนได้พบกันอีกครั้ง ไอวานพยายามจะขอโทษและขอโอกาสเอเลนอีกครั้ง แต่สิ่งที่หล่อนให้ได้มากที่สุดคือมิตรภาพ ทั้งสองเป็นเพื่อนกันและแม้ว่าสุดท้ายสิ่งที่ไอวานทำให้เอเลนเปลี่ยนใจพัฒนาความสัมพันธ์ก็คือความพยายามของเขาที่ทำให้แม่ของเอเลนเป็นที่ยอมรับในทฤษฎีด้านดาราศาสตร์ของหล่อน

สนุกดีนะเรื่องนี้ อ่านได้เรื่อยๆ ตอนจบก็เรื่อยๆ แต่เราว่าบทสรุปสำหรับไดอาน่ามันง่ายไปหน่อยอ่ะ แค่คำขอโทษที่ต้องชดเชยสำหรับการกระทำทั้งหมด เราว่ามันง่ายเกินไป แต่ก็โอเค สำหรับเรื่องสั้นเรื่องหนึ่ง ความสัมพันธ์ของไอวานและเอเลนก็น่าสนใจมากๆ

คะแนน 8.5/10

Apr 23, 2014

เล่ห์ร้ายลวงรัก - Unclaimed (Turner #2)


สำนักพิมพ์ : แก้วกานต์
ผู้เขียน : Courtney Milan
ผู้แปล : กัญชลิกา


เรื่องย่อ

ความหวังเดียวของหล่อนเพื่อการอยู่รอด... ก็คือการทำลายผู้ชายที่หล่อนรัก... เซอร์มาร์ค เทอร์เนอร์ทั้งรูปงาม ร่ำรวย และเป็นที่นับถือของผู้คน เขาเป็นชายหนุ่มที่สตรีใฝ่ฝันถึงมากที่สุดในลอนดอน แต่เบื้องหลังชื่อเสียงใสสะอาดนั้นมีความเร่าร้อนที่เขาเก็บกลั้นไว้อย่างระมัดระวัง... จนกระทั่งได้พบกับเจสสิกา ฟาร์เลห์คนสวย ผู้หญิงที่เขารอคอยมาตลอดชีวิต แต่เจสสิกาไม่ใช่สุภาพสตรีในสังคมผู้ดีอย่างที่เซอร์มาร์คเชื่อ หล่อนใฝ่ฝันจะหลุดพ้นจากชีวิตที่ตัวเองรังเกียจ และฉวยโอกาสนั้นเมื่อศัตรูของเซอร์มาร์คยื่นข้อเสนอที่หล่อนปฏิเสธไม่ได้ เขาขอให้หล่อนหลอกล่อและทำให้ชื่อเสียงของมาร์คมีมลทินแลกกับเงินก้อนใหญ่ แต่เมื่อได้รู้จักตัวตนของผู้ชายที่หล่อนสาบานว่าจะทำลาย เจสสิกาก็จำเป็นต้องเลือกระหว่างอนาคตที่หล่อนต้องการ... กับความรักที่หล่อนรู้ว่าเป็นไปไม่ได้...

REVIEW

มาร์ค เทอร์เนอร์ กลายเป็นคนมีชื่อเสียงจากหนังสือของเขา การใช้ชีวิตอยู่ในลอนดอนของเขาห้อมล้อมไปด้วยผู้คนที่ชื่นชอบในตัวเขามากมาย ส่วน เจสสิกา ฟาร์เลห์ หล่อนคือหญิงสาวที่ปากกัดตีนถีบ ชีวิตของหล่อนอับจน หล่อนเป็นอดีตผู้หญิงเก็บของเวสตัน คนที่ทำลายชีวิตของหล่อนจนย่อยยับมาแล้ว

เจสสิกาต้องการทำลายชื่อเสียงของมาร์คโดยการยั่วยวนเขาเพื่อทำลายภาพลักษณ์ของหนุ่มบริสุทธิ์ผู้ซึ่งถือพรหมจรรย์ แต่ยิ่งหล่อนรู้จักกับมาร์คมากขึ้นเท่าไร หล่อนก็เริ่มเปิดเผยตัวเองให้กับชายหนุ่มากขึ้นเท่านั้น

เมื่อเรื่องราวดำเนินมาถึงตอนที่มาร์คขอเจสสิกาแต่งงานแล้วหญิงสาวเลือกบอกความจริงกับเขาไปว่าหล่อนทำแบบนี้เพื่อต้องการแบล็คเมล์เขา มาร์คโกรธมากและท้าให้หล่อนเขียนเรื่องราวของเขาลงหนังสือพิมพ์ แต่สิ่งที่เจสสิกาทำกลับสื่อเรื่องราวออกมาตรงกันข้ามโดยสิ้นเชิงเมื่อหล่อนเลือกที่จะขายข่าวเกี่ยวกับด้านดีๆของเขา ปกปิดความลับสำคัญของเขาเอาไว้ นั่นทำให้รู้ว่ามาร์คต้องการหล่อนมากเพียงใด เจสสิกาคือผู้หญิงที่เขารอคอยมานานแสนนาน

ตอนท้ายเรื่องจะเต็มไปด้วยความลังเลและความกลัวของเจสสิกาเกี่ยวกับอนาคตของหล่อนว่าชื่อเสียงทางด้านลบของหล่อนเกี่ยวกับการที่หล่อนเคยขายตัวจะทำให้ชื่อเสียงทางด้านมาร์คเสียหายตามไปด้วย และเมื่อเวสตันกลับมาเพื่อแบล็คเมล์หล่อนกลับถึงเรื่องที่เขาคิดจะแฉเรื่องราวของเจสสิกาให้ผู้อื่นรับรู้

เราหงุดหงิดเนื้อเรื่องตรงนี้นี่แหละทั้งๆที่ก่อนหน้านี้เราว่าเรื่องนี้ก็อ่านได้เรื่อยๆนะ แต่เรื่องราวตอนที่เจสสิกาโวยวายใส่หน้ามาร์คเพื่อตัดรอนอีกฝ่ายให้เขาออกไปจากชีวิตหล่อนเพื่อที่หล่อนจะได้ไม่ต้องทำให้ชื่อเสียงของเขาเสียหาย แล้วจู่ๆเจสสิกาก็ไปหามาร์คแล้วก็บอกความจริงเรื่องจดหมายให้ฟัง เราว่ามันไม่ค่อย make sense เท่าไรเลยอ่ะในชีวิตเรา เหมือนอยู่ๆคนสองคนแล้วทะเลาะกัน สักพักก็มาลูบหลังกันเงี้ย เราว่ามันดูไม่สมเหตุสมผลเลย

แต่ก็ถือว่าหนังสือเล่มนี้ทำได้ดี ในด้านการตีแผ่เกี่ยวกับสื่อสิ่งพิมพ์ที่มีอิทธิพลต่อชีวิตความเป็นอยู่ของคนในลอนดอนมากขนาดไหน ชื่อเสียงของคนๆหนึ่งที่ถูกผูกอยู่กับการนำเสนอข่าวและผลกระทบต่างๆที่ตามมา เป็นนิยายที่ค่อนข้างอ่านยากนะในความคิดเรา อ่านยากกว่าเล่มของแอชเสียอีก จะอ่านนี่ต้องตั้งสมาธิดีๆ ถ้าไม่มีสมาธิเราจะไม่เข้าใจบทสนทนาของตัวละครบางครั้งที่แฝงไปด้วยนามธรรมด้วยอาศัยการตีความเพื่อเข้าใจว่าประโยคนั้นต้องการจะสื่ออะไรกับเราและเจตนารมณ์ของประโยคนั้นไปในทิศทางไหน

คะแนน 7.5/10

Apr 22, 2014

ศัตรูหัวใจ - Unveiled (Turner #1)


สำนักพิมพ์ : แก้วกานต์
ผู้เขียน : Courtney Milan
ผู้แปล : กัญชลิกา

เรื่องย่อ

เขาเป็นศัตรูตัวร้ายที่สุด...และเป็นที่รักที่สุดของหล่อน... แอช เทอร์เนอร์รอคอยมาตลอดชีวิตเพื่อแก้แค้นผู้ชายที่ทำลายครอบครัวของเขา บัดนี้ เวลาแห่งการทวงความยุติธรรมมาถึงแล้ว เขาเข้ายึดครองคฤหาสน์พาร์ฟอร์ดและบรรดาศักดิ์ดยุคในฐานะทายาทที่มีสิทธิ์โดยชอบธรรม และแก้แค้นดยุคคนปัจจุบันได้ในที่สุด แต่เขากลับพบตัวเองถูกดึงดูดเข้าหาสาวสวยเย้ายวนใจ ซึ่งมีพลังอำนาจผ่อนคลายอารมณ์แค้น... เลดี้มาร์กาเร็ตรู้ว่าหล่อนควรรังเกียจผู้ชายที่ขโมยอนาคตของหล่อนและทรัพย์สินของพ่อ แต่ยิ่งหล่อนเรียนรู้เกี่ยวกับดยุคคนใหม่มากเท่าไร หล่อนก็ยิ่งต่อต้านเสน่ห์เร้าใจของเขาได้น้อยลงเท่านั้น ในไม่ช้าทั้งมาร์กาเร็ตและแอชต่างพบว่าตนเองติดกับอยู่ระหว่างความจงรักภักดีเก่าก่อน... และสัญญาแห่งรักเร่าร้อนที่น่าเคลิบเคลิ้ม...

REVIEW

แอช เทอร์เนอร์เข้ายึดครองคฤหาสน์พาร์ฟอร์ดและยื่นคำร้องต่ำสภาถึงเรื่องลูกนอกนสมรสของดยุคพาร์ฟอร์ด นั่นทำให้มาร์กาเร็ตไม่เหลืออะไรอีกต่อไป พี่ชายของหล่อนไม่มีสิทธิในมรดกที่เขากำลังจะได้รับถ้าดยุคพาร์ฟอร์สิ้นชีวิต นอกจากนี้แล้วหล่อนยังต้องถูกเดะโด่งออกจากคฤหาสน์อีกด้วยเพราะหล่อนไม่สิทธิ์ในทรัพย์สินใดๆของพาร์ฟอร์ดอีกแล้ว

มาร์กาเร็ตปลอมตัวเป็นสาวใช้คอยพยาบาบดยุคพาร์ฟอร์ด พ่อของหล่อน แม้ว่าเขาจะเป็นคนปากร้ายและน่ารังเกียจมากขนาดไหน หล่อนก็ยังคงรับมือกับเขา ทั้งแอชที่เข้ามาวุ่นวายในชีวิตของหล่อนด้วยการเล้าโลมที่หล่อนไม่เคยพบเจอ แอชสอนให้มาร์กาเร็ตรู้ถึงคุณค่าในตัวของคนโดยไม่ขึ้นอยู่กับยศฐาบรรดาศักดิ์ใดๆ

จิตใจของมาร์กาเร็ตเริ่มอ่อนไหวไปทีละน้อยเมื่อแอชเริ่มเข้ามาในชีวิตของหล่อนมากขึ้นในแต่ละคืน แต่ละวัน เขาได้รับรู้ความลับที่สำคัญมากๆของเขาที่จะทำให้หล่อนได้กลับไปใช้ชีวิตแบบเดิมหากหล่อนบอกความลับนี้แก่พี่ชายของหล่อนให้นำไปยื่นแก่สภา แต่มาร์กาเร็ตไม่ทำ หล่อนไม่สามารถทรยศแอชได้

เมื่อพี่ชายของมาร์กาเร็ต ริชาร์ดมาหาหล่อน มาร์กาเร็ตก็ได้เปิดเผยความจริงทั้งความสัมพันธ์ระหว่างหล่อนกับแอชให้พี่ชายของหล่อนรู้ กับฐานะที่แท้จริงของหล่อนที่หล่อนปิดบังแอชมานาน

แอชไม่ได้โกรธมาร์กาเร็ตเลย ตรงกันข้าม ... เขากลับกระตือรือร้นที่จะแต่งงานกับหล่อน มาร์กาเร็ตแต่งงานกับแอชไม่ได้เพราะนั่นจะทำให้พี่ชายของหล่อนต้องพ่ายแพ้ในการออกเสียงของทางรัฐสภาที่กำลังจะมาถึง

ท้ายสุดแล้ว ... ริชาร์ดเองกลับทรยศต่อมาร์กาเร็ต น้องสาวแท้ๆของเขา โดยการตัดชื่อของหล่อนออกจากคำร้องเพื่อให้ได้เสียงในสภาเพิ่มอีกหนึ่งเสียง มาร์กาเร็ตเสียใจต่อการกระทำแบบนี้ของพี่ชายเขา หล่อนจึงตัดสินใจทำในสิ่งที่หล่อนต้องทำ นั่นคือ ... แต่งงานกับแอช

เรื่องนี้อ่านได้เรื่อยๆ ได้กลิ่นอายของโรมานซ์ย้อนยุคอยู่พอสมควร

แต่เราไม่ค่อยชอบสาระบบความคิดของมาร์กาเร็ต บางครั้งก็ดูน่าเวียนหัว ก็เข้าใจว่าต้องเลือกระหว่างชายที่ตนรักกับการทรยศครอบครัว มันเป็นทางเลือกที่ตัดสินใจยากอยู่ แต่รู้ทั้งรู้ว่ายังไงหล่อนรักแอช ตัดเขาทิ้งไม่ได้ แต่ก็ยังพยายามเบี่ยงประเด็น ยืดเยื้อไปเรื่อย จนอารมณ์ที่กำลังลุ้นว่าตกลงแล้วเรื่องราวจะไปทางไหน กลายเป็นว่า ... รีบๆเลือกเสียทีเถอะ เรื่องมากเหลือเกินนะหล่อน !!

ส่วนความฮ็อตก็ยังไม่ค่อยเท่าเล่มก่อนๆหน้านี้ที่เคยอ่าน แต่ก็ถือว่ากำลังพอดีสำหรับโรมานซ์ย้อนยุคของอังกฤษแนวนี้ ลงตัว อ่านเพลินกันเลยทีเดียว

คะแนน 9/10

Apr 17, 2014

Lover Reborn (Black Dagger Brotherhood #10)



ชื่อเรื่อง Lover Reborn
จากชุด Black Dagger Brotherhood
ผู้เขียน : J.R.Ward
สำนักพิมพ์ : SIGNET NOVEL

เรื่องย่อ
Ever since the death of his shellan, Tohrment has been a heartbroken shadow of the vampire leader he once was. Brought back to the Brotherhood by a self-serving fallen angel, he fights again with ruthless vengeance, unprepared for a new tragedy. Seeing his beloved in dreams—trapped in a cold, isolated netherworld—Tohr turns to the angel Lassiter to save his former mate. The only way to rescue her is for Tohr to love another. As war with the lessers rages, and a new clan of vampires vie for the Blind King’s throne, Tohr struggles between an unforgettable past and a hot, passion-filled future. But can his heart let go and set all of them free?

REVIEW

เล่มนี้ซื้อมาอ่านต่อเนื่องกับ Lover Unleashed ฉบับแปลไทยที่เพิ่งออกไปเลยพอดี ... ความหนาก็มากกว่าเล่มที่ผ่านๆมาซะอีก เท่าๆกับเล่มของเรฟเลย

โดยเนื้อเรื่องของ Lover Reborn จะเป็นเรื่องราวของทอร์เมนท์ หลังจากที่เขาสูญเสียภรรยาสุดที่รัก เวลซี่ และลูกน้อยในครรภ์ของหล่อนไป เขาก็หนีออกจากคฤหาสน์ของกลุ่มภราดร แต่เขาไม่ฆ่าตัวตายตามภรรยา เพราะจะทำให้เขาไม่สามารถล่วงสู่เดอะเฟดไปอาศัยอยู่กับภรรยาของเขาได้

ทอร์ต่อสู้กับเลสเซอร์อย่างดุเดือดและไม่เป็นห่วงชีวิตของเขาตนเอง เขาทำให้จอห์นและเหล่าพี่น้องของเขาเป็นห่วง ส่วนเฮ็กซ์ก็พยายามปรับตัวเข้ากับชีวิตใหม่คือการเป็นเชลแลนของจอห์น แต่หล่อนยังกระหายการต่อสู้อยู่ ทำให้ทั้งจอห์นและโน'วัน แม่ของเฮ็กซ์พลอยเป็นห่วงตามไปด้วย เมื่อเฮ็กซ์ออกต่อสู้กับเหล่าเลสเซอร์ หล่อนได้รับบาดเจ็บ นั่นทำให้จอห์นเดือดดาลเป็นอย่างมากเพราะเขาเป็นบุรุษที่มีคู่ครองแล้ว แต่เฮ็กซ์คิดว่าหล่อนไม่ใช่ผู้หญิงชนิดที่จำเป็นต้องได้รับการปกป้องดูแลจากคู่ครองของหล่อน เฮ็กซ์คือนักสู้และหล่อนสามารถดูแลตนเองได้

โน'วันพยายามจะชดเชยการดูแลเฮ็กซ์ที่หล่อนละทิ้งไปเมื่อนานที่แล้ว เฮ็กซ์เข้าใจว่าแม่ไม่ต้องการหล่อน นั่นทำให้เฮ็กซ์ยิ่งวางตัวไม่ถูกเข้าไปใหญ่เมื่ออยู่ใกล้ๆโน'วัน

แลสซิเตอร์ เทวดาตกสวรรค์(ที่ปรากฏตัวเป็นผู้ช่วยชีวิตทอร์) มีภารกิจสำคัญที่ต้องทำคือช่วยทอร์ให้ผ่านพ้นความทุกข์ทรมานจากการสูญเสียเชลแลนของเขาไปให้ได้ เมื่อแลสซิเตอร์ได้เห็นใบหน้าภายใต้เสื้อคลุมของโน'วันแล้ว เขาก็คิดว่าโชคชะตาอาจนำพาทั้งโนวันและทอร์มาอยู่ด้วยกันก็ได้

รุ่งอรุโณทัย ล.2 - ทไวไลท์ (Twilight Saga#4.2)


สำนักพิมพ์ : ปราชญ์เปรียว / Book innovation
ผู้เขียน : Stephenie Meyer
ผู้แปล : อาทิตยา

เรื่องย่อ

หลังจากที่เบลล่าเปลี่ยนเป็นแวมไพร์แล้ว สิ่งที่เธอได้รับไม่ใช่แค่เพียงความเป็นอมตะเท่านั้น แต่เธอยังได้ลูกสาวแสนสวยนาม เรเนสเม มาอีกด้วย เรเนสเมได้ชื่อว่าเป็นแวมไพร์ลูกครึ่งระหว่างคนและแวมไพร์ที่มีความสามารถพิเศษ เธอเป็นเด็กที่เติบโตอย่างรวดเร็วและที่สำคัญ เธอเป็นเด็กที่สวยงามชนิดที่ใครเห็นเป็นต้องตกหลุมรัก แม้แต่กับเจคอบเองก็ไม่เว้น เจคอบได้ผูกวิญญาณกับเรเนสเม สิ่งที่ทำให้ครอบครัวคัลเลนเป็นกังวลก็คือ การมาของพวกโวลตูรี ราชวงศ์แวมไพร์จากอิตาลีที่ต้องการกำจัดเรเนสเม เพราะโวลตูรีถือว่าเรเนสเมนั้นเป็นเด็กอมตะที่เป็นภัยต่อพวกเขา เบลล่าและเอ็ดเวิร์ดทำทุกวิถีทางที่จะปกป้องลูกรักของพวกเขาให้พ้นจากอันตรายครั้งนี้ อลิซเองก็ออกเดินทางไปทั่วโลกเพื่อรวบรวมบรรดาแวมไพร์ลูกครึ่งมายืนยันกับพวกโวลตูรีว่า ลูกครึ่งแวมไพร์ไม่ได้เป็นตัวอันตรายอย่างที่เขาคิดสุดท้าย พวกโวลตูรีก็ยอมรับพวกลูกครึ่งแวมไพร์ และกลับไปยังอิตาลีตามเดิม ครอบครัวคัลเลนจึงอยู่พร้อมหน้าพร้อมตากันอย่างสงบสุข

REVIEW

เล่มนี้เนื้อหาจะต่อเนื่องจากรุ่งอรุโณทัยเล่มที่ 1 

หลังจากที่เบลล่ารอดชีวิตจากการคลอดลูกและกลายเป็นแวมไพร์แล้ว เธอก็ต้องต่อสู้กับการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในชีวิต เริ่มด้วยการเผชิญหน้ากับชาร์ลี พ่อแท้ๆของเธอ โดยจะต้องปกปิดไม่ให้เขารู้ว่าลูกสาวตัวเองกลายเป็นแวมไพร์ไปแล้ว และการออกล่าครั้งแรกของเบลล่าที่ประสบผลสำเร็จเป็นอย่างมาก

เรเนสเม่ ลูกสาวของเบลล่า มีอัตราการโตมากกว่าเด็กปกติ นั่นทำให้สาวน้อยถูกเพ่งเล็งจากโวลตูรีเมื่อมีหนึ่งในเหล่าแวมไพร์ที่นำเรื่องของการให้กำเนิดลูกสาวของเบลล่าไปฟ้อง ภัยคุกคามใหญ่ก้าวเข้ามา ครอบครัวคัลเลนต้องสรรหาทุกวิถีทางเพื่อรับมือกับเหล่าโวลตูรีที่มีพลังอำนาจร้ายกาจเป็นอย่างมาก

ตอนเราอ่านเล่มนี้จำได้ว่าตื่นตาตื่นใจกับด้านใหม่ๆของหนังสือชุดนี้เป็นอย่างมากโดยเฉพาะด้านความสามารถพิเศษของแวมไพร์ที่สามารถควมคุมดิน น้ำ ลม ไฟ ได้ และการใช้ทักษะด้านอื่นๆอีก

คะแนน 9/10

รุ่งอรุโณทัย ล.1 - ทไวไลท์ (Twilight Saga#4.1)



สำนักพิมพ์ : ปราชญ์เปรียว / Book innovation
ผู้เขียน : Stephenie Meyer
ผู้แปล : อาทิตยา

เรื่องย่อ
หลังจากที่ได้ซาบซึ้งประทับใจไปกับความรักต้องห้ามที่แสนหวานใน แรกรัตติกาล, นวจันทรา, และคราสสยุมพร ในที่สุดเรื่องราวระหว่างเบลล่า เอ็ดเวิร์ดและเจคอบก็ดำเนินมาจนถึงอีกภาคหนึ่งใน "รุ่งอรุโณทัย" หากจะเปรียบไปก็เสมือนหนึ่งว่าชีวิตของเบลล่าได้เดินทางข้ามราตรีกาลอันยาวนาน ต้องเผชิญกับความเปลี่ยนแปลงมากมายจนบรรลุถึงเช้าตรู่ของวันใหม่ที่มีความเป็นนิรันดรรอเธออยู่เบื้องหน้า ซึ่งเราแน่ใจว่าแฟนๆ นวนิยายชุดนี้จะต้องประทับใจไปกับอรรถรสอันสุดแสนหวานของความรักโรแมนติกและสนุกสนาน ตื่นเต้นเร้าใจไปกับความแฟนตาซีของนวนิยายที่โด่งดังที่สุดในทศวรรษนี้ ที่ชวนติดตามตั้งแต่บทแรกจนถึงบทสุดท้ายสมกับที่รอคอยเลยทีเดียว และเนื่องจากต้นฉบับภาษาอังกฤษของภาคนี้มีความหนาถึงเกือบแปดร้อยหน้า จนเกรงว่าเมื่อแปลเป็นภาษาไทยและจัดพิมพ์ออกมาแล้วจะมีรูปเล่มเทอะทะเกินขนาดมาตรฐานของเล่มก่อนๆ จึงได้แบ่งเนื้อหาออกเป็นสองเล่ม โดยเล่มที่หนึ่งนี้จะเป็นเนื้อหาจากมุมมองของเบลล่าและเจคอบ ซึ่งจะขมวดปมเรื่องราวต่างๆ อย่างเข้มข้นเพื่อที่จะไปคลี่คลายในเล่มที่สอง ซึ่งมีกำหนดออกมาให้ได้ติดตามกันในเร็วๆ นี้อย่างแน่นอน

REVIEW

เล่มนี้จะเล่าผ่านมุมมองของเบลล่าและเจคอบ

เบลล่าแต่งงานกับเอ็ดเวิร์ดหลังจากเล่มที่แล้ว ทั้งคู่ไปฮันนีมูนที่เกาะส่วนตัว ...

ชีวิตของทั้งคู่เกือบไปได้สวยเมื่อเบลล่าพบว่าตัวเองท้อง และทารกในครรภ์กำลังจะฆ่าหล่อน แต่เบลล่าไม่ยอมให้ใครหน้าไหนก็ตามมาฆ่าลูกน้อยของหล่อน เบลล่าจึงโทรขอความช่วยเหลือโรซาลี่ให้ช่วยปกป้องลูกของเธอ

ครอบครัวคัลเลนพยายมทำทุกวิถีทางเพื่อช่วยให้เบลล่ารอดพ้นภาวะนี้ไปให้ได้ แต่ในท้ายที่สุดเมื่อเบลล่าคลอดลูกออกมา หัวใจของเธอกลับหยุดเต้น เอ็ดเวิร์ดพยายามยื้อทุกวิถีทางโดยการฉีดพิษแวมไพร์ของเขาเพื่อทำให้เบลล่าเป็นแวมไพร์...

ทันทีที่เจคอบเห็นเรเนสเม่(ลูกของเอ็ดเวิร์ด-เบลล่า) เขาก็รู้สึกผูกพันธ์ทางวิญญาณ และนั่นหมายถึงว่าต่อจากนี้ไปเรเนสเม่คือคู่เพียงคนเดียวของเขา

เล่มนี้ไม่ค่อยมีประเด็นให้ลุ้นเยอะแยะเหมือนเล่มก่อนๆหน้า มีช่วงที่น่าเบื่อบ้าง แต่ก็อ่านเพลินดีตอนช่วงที่เอ็ดเวิร์ดกับเบลล่าไปฮันนีมูนกันบนเกาะ

คะแนน 8.5/10

Apr 16, 2014

คราสสยุมพร - ทไวไลท์ (Twilight Saga#3)


สำนักพิมพ์ : ปราชญ์เปรียว / Book innovation
ผู้เขียน : Stephenie Meyer
ผู้แปล : อาทิตยา

เรื่องย่อ

ผลงานของผู้เขียนที่เคยฝากความประทับใจมาแล้วจากเรื่อง แรกรัตติกาล Twilight และนวจันทรา New Moon ซึ่ง "คราสสยุมพร Eclipse" นี้ เป็นภาคต่อของนวจันทรา New Moon ครั้งนี้ สาวน้อยเบลล่าตกอยู่ท่ามกลางภยันตรายมากมาย ไม่ว่าจะเป็นการสังหารหมู่ลึกลับในเมืองซีแอตเติล ผีดิบดูดเลือดสาวผู้ยังคงกระหายการล้างแค้น และความรักสามเส้าที่ไม่สามารถปล่อยให้ค้างคาได้อีกต่อไป ซึ่งการเลือกเอ็ดเวิร์ดหรือเจคอบ อาจทำให้ความขัดแย้งระหว่างเหล่ามนุษย์หมาป่า และผีดิบดูดเลือดปะทุขึ้นมาได้ ลุ้นระทึกไปกับชีวิตใกล้วันสำเร็จการศึกษาที่จะเปลี่ยนแปลงไปมากกว่านักเรียนมัธยมปลายคนไหนๆ ด้วยฝีมือการแปลของอาทิตยา ที่คงอรรถรสความอบอุ่น วาบหวาม สนุกสนาน ตื่นเต้น ด้วยภาษาที่สละสลวยและถึงใจ ได้รับอารมณ์ตรงๆ จากสเตฟานี เมเยอร์ ราวกับอ่านจากต้นฉบับภาษาอังกฤษ

REVIEW

เล่มนี้จะเป็นเรื่องราวเมื่อวิคตอเรียกลับมาแก้แค้นเบลล่าเมื่อเอ็ดเวิร์ดได้ฆ่าเจมส์ แฟนหนุ่มของเธอไปในเล่มแรก

เนื้อเรื่องหลักๆจะเกี่ยวข้องกับกองทัพแวมไพร์เกิดใหม่ที่มีเป้าหมายคุกคามชีวิตของเบลล่า และการร่วมมือกันระหว่างแวมไพร์กับหมาป่า รวมถึงฉากแอคชั่นเล็กๆน้อยๆที่เรียกความสนุกในตอนจบ

เราชอบเรื่องราวของเล่มนี้พอสมควรเพราะได้มีการเล่าที่มาที่ไปของตัวละครแต่ละตัวมากอยู่พอสมควร เช่น แจสเปอร์ โรซาลี่ ที่เราได้เห็นอีกด้านของตัวละครเหล่านี้ว่ามีความเป็นมาอย่างไรในอดีต

นอกจากนี้ ... รักสามเศร้าของเบลล่า เอ็ดเวิร์ด และเจคอบ ยังเป็นจุดขายของหนังสือเล่มนี้อีกด้วย เมื่อสุดท้าย ... เบลล่าต้องรั้งเจคอบไม่ให้เขาออกไปต่อสู้และเสี่ยงให้ตัวเองเป็นอันตรายด้วยจูบเพียงหนึ่งจูบในขณะที่เอ็ดเวิร์ดยังอยู่ด้วย เอ็ดเวิร์ดเข้าใจดีว่าที่เบลล่าทำไปเพราะอะไร และเขาไม่โทษหล่อนเลยที่เลือกตัดสินใจแบบนี้

บอกเลยว่า ... Eclipse เป็นหนังสือนิยายแนวเพ้อฝันที่อ่านได้เรื่อยๆและเหมาะสำหรับวัยรุ่นที่ชอบจินตนาการเกี่ยวกับสิ่งเหนือธรรมชาติและรักสามเศร้า เราสามคน

คะแนน 9/10

นวจันทรา - ทไวไลท์ (Twilight Saga#2)



สำนักพิมพ์ : ปราชญ์เปรียว / Book innovationผู้เขียน : Stephenie Meyer
ผู้แปล : อาทิตยา

เรื่องย่อ

ความรักอันสดใสของสาววัยแรกแย้มอย่าง "เบลล่า" มีอันต้องพังทลายลง เมื่อ "เอ็ดเวิร์ด" คนรักของเธอตัดสินใจจากไป ด้วยเหตุผลที่คิดว่า ตนเองเป็นต้นเหตุให้เบลล่าได้รับอันตรายต่างๆ ในชีวิต... ความรักที่ล่มสลายกระทบไปถึงจิตวิญญาณของเบลล่าเข้าอย่างจัง เธอจึงโหยหาขอนไม้ใหม่มาเป็นสิ่งทดแทน เพื่อยึดเกาะให้ตนเองลืมความเจ็บปวดรวดร้าวในจิตใจ และ "เจค๊อบ" ลูกชายของเพื่อนพ่อ คือขอนไม้ที่เข้ามาเติมเต็ม ชดเชยความรู้สึกเปลี่ยวเหงาให้กับสาวน้อยเบลล่า จนเธอเผลอเทใจให้กับเจค๊อบเกินกว่าฉันมิตร... แล้ววันหนึ่งเมื่อคนรักเก่าของเธอหวนคืนกลับมา สาวน้อยเบลล่าจะจัดการกับชีวิตของตนเองอย่างไร? ร่วมสัมผัสกับพิสูจน์รักแท้อันบริสุทธิ์ของมนุษย์และแวมไพร์ ที่จะตราตรึงใจคุณพร้อมกันได้ในเล่ม

REVIEW

เมื่อความรักถึงคราวต้องพลัดพราก และระยะทางคือบทพิสูจน์ของ 'หัวใจ'

ในวันครบรอบวันเกิดของเบลล่า เกิดเหตุไม่คาดฝันขึ้นเมื่อเบลล่าถูกกระดาษห่อของขวัญบาดมือ ทำให้แจสเปอร์ หนึ่งในสมาชิกของครอบครัวคัลเลนพุ่งเข้าโจมตีหล่อน เอ็ดเวิร์ดจึงไม่มีทางเลือกนอกจากออกห่างจากเบลล่าซะ แม้ว่านั่นจะเป็นการทำลายชีวิตของทั้งคู่การตามแต่ ...

เบลล่าหัวใจแหลกสลาย หล่อนไม่เหลืออะไรอีกแล้วเมื่อเอ็ดเวิร์ดออกไปจากชีวิตของหล่อน ทั้งเนื้อทั้งตัวของหล่อนว่างเปล่าราวกับมือโพรงขนาดใหญ่อยู่ที่ตรงใจกลางหน้าอก แต่นั่นก็ไม่ได้เลวร้ายเสมอไป ... เมื่อเจคอบเข้ามาในชีวิตของเธอและทำให้เบลล่ามีตัวตนขึ้นมาอีกครั้ง

เบลล่ารู้ได้ในที่สุดว่าเจคอบเป็นหมาป่า แต่ชีวิตของเธอยังมีอะไรให้ต้องตกใจอีก ในเมื่อเอ็ดเวิร์ดที่จากไปแล้วก็เป็นแวมไพร์

แต่เมื่อเบลล่าคิดทำอะไรแผลงๆโดยการกระโดดหน้าผาทำให้อลิซเห็นภาพของอนาคตว่าเบลล่าฆ่าตัวตาย ทำให้เอ็ดเวิร์ดตัดสินใจปลิดชีพตัวเองและเดินทางไปอิตาลีเพื่อขอความตายกับพวกโวลตูรี

เบลล่าต้องตามไปอิตาลีให้ทันเพื่อยับยั้งดวงตะวันในชีวิตของเธอที่กำลังจะดับมอดหากเธอไปไม่ทันเวลา ..

สำหรับนวจันทราเล่มนี้ ออกจะน่าเบื่อสักเล็กน้อยในช่วงแรกๆของเล่ม แต่ด้วยองค์ประกอบอะไรหลายๆอย่างรวมถึงความสัมพันธ์ด้านใหม่ๆของเจคอบกับเบลล่าทำให้เราอ่านจบ และทำให้เราคิดว่าหนังสือเล่มนี้สนุกพอๆกับเล่มแรกเลย ...

ความสัมพันธ์ระหว่างเจคอบกับเบลล่าดูน่าสนใจพอๆกับเอ็ดเวิร์ดกับเบลล่าเลย ออกแนวสงสารเจคอบด้วยซ้ำเมื่อในท้ายที่สุดเบลล่าก็ตัดสินใจไปตามหาเอ็ดเวิร์ด ...

สำหรับสำนวนการแปลของคุณอาทิตยาเราว่ายังสู้ของคุณเจนจิราไม่ได้ เล่มแรกเรารู้สึกว่าอ่านไหลลื่นและเข้าถึงอารมณ์มากกว่าเล่มต่อๆมาอีกนะ

คะแนน 8/10

แรกรัตติกาล - ทไวไลท์ (Twilight Saga#1)


สำนักพิมพ์ : ปราชญ์เปรียว / Book innovation
ผู้เขียน : Stephenie Meyer
ผู้แปล : เจนจิรา เสรีโยธิน

เรื่องย่อ
นิยายรักโรแมนติกที่มีส่วนผสมที่ลงตัวระหว่างความรักของมนุษย์และแวมไพร์ กับความตื่นเต้นชวนติดตามของแฟนตาซีเหนือจินตนาการชนิดที่ต้องพลิกอ่านหน้าต่อหน้าจนวางไม่ลง!! ติดอันดับขายดีที่สุดในอเมริกา ยอดขาย 1.3 ล้านเล่มภายใน 24 ชั่วโมง ตีพิมพ์มาแล้ว 33 ประเทศทั่วโลก และได้ถูกนำไปสร้างเป็นภาพยนตร์ซึ่งวัยรุ่นทั่วโลกตั้งตารอคอย...

REVIEW

ขอบอกไว้ก่อนเลยว่าเราอ่านหนังสือชุดนี้ตั้งแต่ช่วงที่หนังภาคแรกเพิ่งฉายใหม่ๆ อาจจะเก็บประเด็นได้ไม่ครบ แต่ด้วยความที่อยากทำรีวิว ก็พยายามขุดๆและก็เปิดหนังสือดูว่าจะหยิบประเด็นไหนมารีวิวบ้าง

เบลล่า เด็กสาวสุดแสนจะธรรมดา เมื่อเธอย้ายมาอาศัยอยู่กับพ่อ เธอก็ได้พบกับเอ็ดเวิร์ด วินาทีแรกที่สบตา ทั้งสองคนรู้ว่าเกิดแรงดึงดูดบางอย่างขึ้น หรือว่านี่คือรักแรกพบ ...

เบลล่ามารู้ทีหลังว่าเอ็ดเวิร์ดเป็นแวมไพร์ เธอถูกดึงเข้าสู่อีกโลกนึงที่เธอไม่เคยรู้จัก ... ความรักต้องห้ามระหว่างสองเผ่าพันธุ์จึงถืออุบัติขึ้น

เอาล่ะ ... คงไม่ต้องสปอยล์เนื้อเรื่องอะไรมากมายหรอกเนอะสำหรับเล่มนี้ เพราะคิดว่าแทบจะทุกคนคงได้อ่านหนังสือหรือดูหนังไปบ้างแล้ว สำหรับ Twilight นั้น ... เราว่าการที่จะชอบหรือไม่ชอบเล่มนี้ ขึ้นอยู่กับ 'จริต' ของผู้อ่านทั้งนั้นว่าเลือกที่จะคล้อยตามไปกับเนื้อเรื่องหรือไม่ เพราะถ้าใครชอบก็ชอบไปเลย แต่ถ้าใครไม่ชอบก็คงจะเกลียดกันไปเลยแหละ

นี่เป็นนิยายรักวัยรุ่น ถึงจะไม่ได้โรมานซ์จ๋าแบบนิยายผู้ใหญ่ที่เราอ่านส่วนมากก็ตาม แต่ก็แฝงไปด้วย 'ความโลกสวย' 'ความเพ้อฝัน' ที่ไม่มีทางจับต้องได้ในชีวิตจริง ถ้าอ่านเล่นๆเราว่าหนังสือเล่มนี้จะทำให้คุณเพลิดเพลินได้เชียวล่ะ แต่ถ้าอ่านเอาประเด็นหรืออ่านเอาความสนุก คุณจะได้พบกับความน่าเบื่อของส่วนแรกของหนังสือที่เนื้อเรื่องดำเนินไปอย่างเอื่อยเฉื่อย ไม่มีอะไรมากไปกว่าชีวิตไฮสคูลและการออกเดทแบบวัยรุ่น

แต่ถ้าถามว่าเราชอบไหม ... ตอบได้เลยว่าชอบและประทับใจมาก เพราะการอ่านนิยายเรื่องหนึ่งสำหรับเรา นิยายเรื่องนั้นไม่จำเป็นต้อง Realistic อะไรมากมายหรอก แค่ทำให้เราหลุดออกมาจากโลกแห่งความเป็นจริงแล้วหลงลืมตัวไปกับโลกอีกโลกหนึ่งที่ทางผู้เขียนสร้างไว้เท่านั้นก็พอแล้ว

สำหรับ แรกรัตติกาลนี้ คือจุดเริ่มต้นการความรักระหว่าง 'เอ็ดเวิร์ด' และ 'เบลล่า' ยังมีหนังสืออีกหลายเล่มในชุดนี้ที่จะแสดงให้เห็นถึงการพัฒนาของตัวละครแต่ละตัวและเรื่องรางต่างๆที่ผูกร้อยกันอย่างมีมิติมากยิ่งขึ้น ...

คะแนน 9.5/10

Apr 15, 2014

พยัคฆ์สาวผู้พิทักษ์ - Lover Unleashed (Black Dagger Brotherhood #9)



ชื่อเรื่อง Lover Unleashed
จากเรื่อง Black Dagger Brotherhood
ผู้แต่ง J.R. Ward
โรมานซ์ เหนือจริง

แปลไทยโดย
สำนักพิมพ์ เกรซ
ผู้แปล จิตอุษา

เรื่องย่อ
ในเงามืดยามราตรีของเมืองคาลด์เวลล์ นิวยอร์ก มีความขัดแย้งระหว่างเผ่าพันธุ์ที่หาใดเสมอเหมือน เมืองนี้คือบ้านของกลุ่มภราดรผู้เกิดมาเพื่อปกป้องเผ่าพันธุ์ของพวกเขา: นักรบแวมไพร์กลุ่มภราดรแบล็กแด็กเกอร์ เพนน์ น้องสาวคู่แฝดของวิชั่น ถือกำเนิดมาพร้อมกับความเย้ายวนใจและร้ายกาจเฉกเช่นเดียวกับแวมไพร์หนุ่ม คู่แฝดของหล่อน หล่อนถูกมารดาของทั้งคู่...เดอะสไครบ์เวอร์จิน จองจำมานานนับกัปกัลป์ ในที่สุดหล่อนก็ปลดปล่อยตนเองให้เป็นอิสระได้—เพียงเพื่อที่จะมาประสบกับอาการบาดเจ็บสาหัส นายแพทย์มานูเอล มาเนลโลถูกกลุ่มภราดรลักพาตัวมาเพื่อช่วยชีวิตหญิงสาว เพราะมีเพียงเขาเท่านั้นที่ทำได้—แต่เมื่อศัลยแพทย์หนุ่มชาวมนุษย์กับนักรบสาวแวมไพร์ได้พบกัน โลกของสองหนุ่มสาวก็พลันเกิดเพลิงพิศวาสที่ไม่อาจปฏิเสธได้ ยิ่งสองหนุ่มสาวถูกต่อต้านมากเท่าไร ความรักของทั้งสองก็ยิ่งแข็งแกร่งขึ้น แข็งแกร่งเสียจนความแตกต่างทางชาติกำเนิดและชีววิทยาไม่อาจพรากสองหนุ่มสาวจากกันได้

REVIEW

เพนน์เป็นอัมพาตเนื่องการได้รับการบาดเจ็บที่กระดูกสันหลังจากการเป็นคู่ฝึกซ้อมของราธ การรักษาเกินกว่าความสามารถของคุณหมอเจนจะทำได้ ทำให้หล่อนต้องไปตามตัวคุณหมอมาเนลโล่ หรือคุณหมอแมนนี่มารักษา

วิชั่นเพิ่งรู้ความจริงว่าแม่ของเขาหรือเดอะสไครบ์เวอร์จินได้กักขังน้องสาวเพียงคนเดียวของเขามาโดยตลอด ทำให้เขาทั้งเดือดดาลและสับสน เขาอยากจะฆ่าแม่ตัวเอง แต่ก็ทำไม่ได้ นั่นทำให้เกิดปัญหากับอารมณ์ของภราดรหนุ่ม ความสัมพันธ์ระหว่างวิชั่นกับเจนจึงดูเหมือนเกิดปัญหาขึ้นมา

แมนนี่ตกหลุมรักเพนน์ตั้งแต่แรกพบ เขาพยายามรักษาหล่อนอย่างสุดความสามารถแม้ว่าเขาร้ว่าแท้จริงแล้วหล่อนเป็นแวมไพร์ และเขายอมรับความจริงข้อที่ว่า ... หลังจากเขารักษาหล่อนแล้ว เขาจะจำเรื่องราวของหล่อนและสิ่งที่เกิดขึ้นไม่ได้เลย

Apr 13, 2014

เมืองเทวดาตกสวรรค์ - นครรัตติกาล (The Mortal Instrument#4)



สำนักพิมพ์ : อิ่มอ่าน
ผู้เขียน : คาสซานดร้า แคลร์
ผู้แปล : ฤทัยรัตน์ สุขถาวร

เรื่องย่อ

ภาคต่อสุดมันของซีรีส์นครรัตติกาล สงครามมรรตัยเสร็จสิ้น คลารี่กลับบ้านที่นิวยอร์ก ตื่นเต้นกับความเป็นไปได้ต่างๆ ที่จะเผชิญ เธอฝึกฝนเพื่อเป็นนักล่าเงาและเพื่อใช้พลังพิเศษ แม่กำลังจะแต่งงานกับลุคผู้เป็นรักแท้ ในที่สุดก็มีสันติภาพระหว่างชาวบาดาลและนักล่าเงา ที่สำคัญคือ ในที่สุดเธอเรียกเจซว่าแฟนได้ แต่ทุกสิ่งไม่ได้มาเปล่าๆ มีคนฆ่านักล่าเงา ก่อความตึงเครียดระหว่างชาวบาดาลและนักล่าเงา ไซม่อนช่วยคลารี่ไม่ได้ เพราะไม่ว่าจะหันไปทางไหน ก็มีแต่คนอยากได้เขาไปเป็นพวก และอยากได้พลังแห่งคำสาปที่กำลังทำลายชีวิตเขา

REVIEW

หลังจากที่วาเลนไทน์โดนกำจัดไปแล้ว เล่มนี้เซบาสเตียนขึ้นแท่นเป็นตัวร้ายแทนพ่อของเขา ...

เจซมีนิสัยเปลี่ยนไป เขาฝันว่าทำร้ายคลารี่ ทำยิ่งทำให้ทั้งคู่ต้องมีเรื่องหลบหน้ากันทั้งๆที่ปรับความเข้าใจกันได้แล้วในเล่มที่แล้ว

ไซม่อนเป็นแวมไพร์ เขามีความสัมพันธ์กับทั้งอิซาเบลและมายา เขามีลายรูนที่ทำให้ไม่มีใครสามารถฆ่าเขาได้

เจซถูกลิลิธควบคุม ไซม่อนและคลารี่ตามไปช่วยเจซได้สำเร็จ แต่ในวินาทีที่ทุกคนคิดว่าทุกสิ่งทุกอย่างเรียบร้อยแล้ว เจซกลับถูกเซบาสเตียนเข้าครอบงำ

เราว่าเล่มนี้คล้ายๆกับภาค 2 อ่ะ หลังจากที่จบเนื้อเรื่องของวาเลนไทน์ในเล่ม 1-3 ไปแล้ว เล่มนี้เหมือนเนื้อเรื่องที่แยกออกมาอีกภาค เหมือนถ้าอ่านเฉพาะเล่ม 1-3 ก็คล้ายๆจบในตัวได้เลยนะ จบแฮปปี้ด้วย

เล่มนี้อารมณ์ก็กลับไปคล้ายๆเล่ม 2 เมืองเถ้า อ่ะ เจซกับคลารี่ก็ง้องแง๊ง มีปัญหาแล้วไม่ยอมพูดกัน ทั้งๆที่ทั้งคู่ก็ผ่านอะไรด้วยกันมาตั้งเยอะแล้วนะ ทำไมไม่พูดกันซะให้จบๆ เฮ้อ ...

คะแนน 7.5/10

ดวงใจผู้พิทักษ์ - Lover Mine (Black Dagger Brotherhood #8)



ชื่อเรื่อง Lover Mine
จากชุด Black Dagger Brotherhood
ผู้เขียน J.R.WARD

แปลไทยโดย
สำนักพิมพ์ เกรซ
ผู้แปล จิตอุษา

เรื่องย่อ

จอห์น แมทธิวเดินทางมาไกลนับตั้งแต่วันที่มีผู้พบเขาอาศัยอยู่ท่ามกลางหมู่มวลมนุษย์ ซึ่งทั้งตัวเขาและผู้คนที่อยู่รอบตัวไม่รู้เลยว่าเขาเป็นแวมไพร์ หลังจากจอห์นได้เข้าสู่กลุ่มภราดร ไม่มีใครเดาอดีต...หรือตัวตนที่แท้จริงของเขาออกเลย แท้จริงแล้วภราดรดาไรอัสผู้ล่วงลับได้กลับคืนมาอีกครั้ง แต่เขามาในโฉมหน้าแปลกใหม่ และชะตาชีวิตที่แตกต่างจากเดิมอย่างยิ่ง เมื่อความพยาบาทส่วนตัวที่ชั่วร้ายชักนำจอห์นเข้าสู่หัวใจแห่งสงครามระหว่างเผ่าพันธุ์แวมไพร์กับศัตรูตัวฉกาจ เขาจึง้ต้องเรียกตัวตนทั้งปัจจุบันและตัวตนที่เคยเป็นมาหลอมรวมกัน เพื่อเผชิญหน้ากับการอวตารของจอมโฉดชั่ว...และเพื่อกอบกู้รักแท้ของเขา

REVIEW

ต่อจากเล่มที่แล้วเมื่อเฮ็กซ์ถูกแลชจับตัวไป ...

จอห์นตามหาตัวเธอ เขามุ่งเป้าไปที่เลสเซอร์เพราะคิดว่าฝ่ายนั้นเป็นคนจับตัวเฮ็กซ์ไป ... เมื่อจอห์นบุกที่อยู่ที่แลชอาศัย เขาฆ่ามิสเตอร์ดีอย่างโหดเหี้ยมเพราะเขาเป็นบุรุษที่มีคู่ครองแล้ว เขารู้ว่าเฮ็กซ์เคยอยู่ที่นี่ แต่ตอนนี้ไม่อยู่แล้ว แต่แท้จริงแล้ว ... เฮ็กซ์ถูกแลชซ่อนตัวเอาไว้ต่างหาก ทำให้คนอื่นมองไม่เห็นเธอ (ชอบตอนที่จอห์นหยิบหมอนที่มีกลิ่นของเฮ็กซ์ติดมาด้วยแล้วเผลอลืมตอนที่ฆ่ามิสเตอร์ดี โชคดีที่เบลย์หยิบออกมาให้ ตอนนั้นน่ารักมาก เราเผลอยิ้มออกมาเลยแหละ)

เฮ็กซ์หนีออกมาได้และไปพักหลบในที่พักส่วนตัวของหล่อนตอนที่หล่อนมีเซ็กส์กับจอห์นครั้งแรก หลังจากนั้นจึงโทรบอกรีเวนจ์ว่าหล่อนปลอดภัย ในที่สุดจอห์นก็ตามตัวหล่อนจนพบ เขาทำทุกวิธีทางเพื่อให้หล่อนมีชีวิตรอด ...

เฮ็กซ์ต้องการจะแก้แค้นแลชให้สาสม เมื่อจอห์นรู้ว่าแลชทำอะไรกับเฮ็กซ์ เขาโกรธมาก และต้องการจะฆ่าแลชด้วยตัวของเขาเองเหมือนกัน แต่เฮ็กซ์ได้กำหนดทางเลือกสำหรับตัวเองเอาไว้แล้ว ... ว่าหล่อนจะจบทุกสิ่งทุกอย่างของหล่อนไปพร้อมกับชีวิตของศัตรูหล่อน นั่นจึงทำให้ระยะทางระหว่างทั้งคู่ยิ่งห่างไกลมากขึ้นทุกที เมื่อเฮ็กซ์โดนอดีตของหล่อนตามหลอกหลอน จอห์นกำลังจะเป็นบ้าเหมือนกันคนรักเก่าของหล่อนเคยเป็น เฮ็กซ์เลยพาตัวเองออกมาไกลมากขึ้นเรื่อยๆ

มีเรื่องของเพนน์ที่จะมาเป็นนางเอกในเล่มหน้า เมื่อเพนน์บาดเจ็บจากการฝึกการต่อสู้กับราธ บาดแผลเป็นสิ่งที่คุณหมอเจนไม่สามารถเยียวยาได้ เพนน์เลยถูกส่งไปสู่มือของคุณหมอมอนนี่ คุณหมอชาวมนุษย์ที่มีบทบาทใน Lover Unbound

ส่วนคู่ของควินน์-เบลย์นี่เราคิดว่างี่เง่าขึ้นวิกฤตแล้วนะ ควินน์ตัดสินใจมีอะไรกับเลย์ล่าในสถานที่ที่ตอกย้ำให้เบลย์ยิ่งรู้สึกแย่และเตลิดไปกันใหญ่ ประจวบเหมาะกับที่แซกซ์ตันเข้ามาในชีวิตของเบลย์ ทำให้เบลย์ตัดสินใจคบกันแซกซ์ตัน แต่ควินน์ก็ยังแอบหึงหวง ไม่อยากให้เบลย์ไปจากเขา แต่การแสดงออกมันไม่ใช่อ่ะ! ในเมื่อควินน์พยายามผลักไสเบลย์ไปทุกวิถีทางแล้วมาทำแบบนี้ เราเลยหงุดหงิดกับคู่นี้มาพอสมควรว่าทำไมไม่มีเปิดปากพูดให้มันจบๆไปเลย มัวแต่คิดแทนกันและกันอยู่นั่นแหละ อึกอักไม่ยอมพูด เฮ้อ !! เซง -*-

ชอบตอนจบที่สุดท้ายเรื่องราวที่เจ อาร์ วอร์ดเขียนแตกออกเป็นประเด็นย่อยๆก็ประกอบกันเป็นภาพเดียว เรื่องของดาไรอัสที่ช่วยชีวิตหญิงสาวคนนึงกับลูกสาวของหล่อนไว้ ภายหลังทอร์เมนท์ก็ได้ตระหนักว่า ... เฮ็กซ์คือลูกสาวของหญิงสาวคนนั้นที่เขากับดาไรอัสเคยช่วยเอาไว้ และแม่ของเฮ็กซ์ที่ตัดสินใจฆ่าตัวตายในวินาทีที่หล่อนกำเนิดลูกก็กลายมาเป็นโน'วันนั่นเอง

รวมถึงเรื่องของ ... เมอห์เดอร์ คนรักเก่าของเฮ็กซ์ที่ไปปรากฏตัวในบ้านผีสิงที่มีพิธีกรไปถ่ายทำรายการนั่นอีก ตอนแรกเราก็แปลกใจว่าเรื่องนี้มันเกี่ยวยังไงกับเรื่องทั้งหมดเนี่ย !? ไปๆมาๆก็กลายมาเป็นจิ๊กซอว์ของภาพเดียวกันซะงั้น ชอบมากๆอ่ะ

ตอนแรกเราให้คะแนนเรื่องนี้ 9.5 เพราะรำคาญคู่ควินน์-เบลย์ แต่พอได้อ่านตอนจบตอนที่เฮ็กซ์กำลังจะครองคู่นะ เฮ้ย ! คือมันชอบ คือมันใช่เลยอะเล่มนี้ แม้ว่าเรื่องความมัน บทต่อสู้จะไม่สนุกเท่าเล่ม Lover Avenged แต่เรื่องของอารมณ์ ความรู้สึก เราให้คะแนนเต็ม 10 เลยนะ มันสลับซับซ้อนและน่าประทับใจมากๆ

คะแนน 10/10

Apr 11, 2014

THE KING มาถึงแล้ว [Bookdepository]

รอบนี้ใช้เวลาไม่นานเลยกับการสั่งหนังสือจากเว็บไซต์ Book Depository นั่นเอง

เพราะหนังสือเล่มนี้เป็นหนังสือ Pre-order ที่มีกำหนดออกวันที่ 1 เมษายน 2557 แต่เนื่องจากหนังสือออกก่อนกำหนด ทำให้ทางเว็บแจ้งมาว่าจัดส่งให้เราตั้งแต่วันที่ 29 มีนาคม 2557

ซึ่งถ้านับรวมวันที่ส่งแล้วก็จะใช้เวลา 14 วัน (รวมเสาร์-อาทิตย์) น้อยกว่าการสั่งครั้งที่แล้วเป็นอาทิตย์เลย

เอาล่ะ ... มาดูรีวิวกันดีกว่า

เนื่องจากครั้งนี้หนังสือที่สั่งเป็น Hardback ด้วยราคาที่สูงกว่า Paperback หลายเท่าตัว และขนาดหนังสือที่ใหญ่กว่า ทำให้สภาพแพคเกจแตกต่างจากการสั่งครั้งที่แล้ว


ลักษณะกล่องจะไม่มีกันกระแทกบุมาเพราะมุม 4 มุมเป็นกันกระแทกในตัวอยู่แล้ว



กระดาษของ Hardback จะดีกว่า Paperback และการจัดหน้าจะอ่านง่ายกว่า ตัวหนังสือไม่ติดกัน



สรุป ... ครั้งนี้ Book Depository จัดส่งเร็วมาก ตกใจว่าทำไมได้ของไวกว่าครั้งที่แล้วตั้งหลายวัน หากใครสนใจสั่งหนังสือต่างประเทศ Book Depository คืออีกหนึ่งทางเลือกของคุณ เนื่องจากค่าหนังสือที่ถูกกว่าหลายเว็บแล้ว เว็บนี้ยังมีบริการจัดส่งมาประเทศไทย ฟรี ! อีกด้วย

นักสู้ผู้พิทักษ์ - Lover Avenged (Black Dagger Brotherhood #7)



ชื่อเรื่อง Lover Avenged
จากชุด Black Dagger Brotherhood
ผู้เขียน J.R.WARD

แปลไทยโดย
สำนักพิมพ์ เกรซ
ผู้แปล จิตอุษา

เรื่องย่อ

รีเวนจ์คุ้นเคยกับชีวิตในเงามืดและการรับมือกับผู้คนหยาบคายเลวร้ายที่ตระเวนไปในยามราตรี...รวมถึงกลุ่มภราดรแบล็กแด็กเกอร์ การมีชื่อเสียงว่าไร้ความหวาดกลัวของเขาทำให้เรฟถูกชักชวนให้สังหารองค์ราชัน และตัวตนด้านที่ชั่วร้ายของเขาอยากรับงานนี้แทบขาดใจ และเมื่อตัวตนจริงที่ถูกปกปิดเป็นความลับของเขาถูกคุกคาม เรฟจึงต้องหันไปหาแสงสว่างเพียงอย่างเดียวในโลกอันดำมืดของเขา...แวมไพร์สาวบริสุทธิ์ผุดผ่อง ผู้ไม่ถูกความชั่วร้ายกล้ำกราย ทว่าสิ่งเดียวที่ยืนขวางระหว่างสองหนุ่มสาวคือหายนะชั่วนิรันดร

REVIEW

เล่มนี้ประกอบไปด้วย 3 คู่หลัก นั่นคือ รีเวนจ์-เอห์เลน่า / ราธ-เบธ / จอห์น-เฮ็กซ์

-รีเวนจ์-เอห์เลน่า

เอห์เลน่าเป็นพยาบาลที่คลินิคของเฮเวอร์ส เมื่อหล่อนได้เจอกับรีเวนจ์แล้ว เอห์เลน่าได้ตัดสินใจขโมยย่าปฏิชีวนะไปให้รีเวนจ์ ทำให้หล่อนต้องออกจากการทำหน้าที่พยาบาลไป บวกกับภาระทางการเงินของบ้านและการดูแลพ่อของหล่อนซึ่งถูกขับไล่ของจากแวดวงกลิเมร่าแล้ว ถือว่าเป็นความลำบากอย่างยิ่งในชีวิตของหล่อน

รีเวนจ์เป็นซิมพาธ เขากลายเป็นโสเภณีชายเพื่อแลกกับการปกปิดความลับไว้กับเจ้าหญิง แต่เมื่อเจ้าหญิงรู้ว่าเอห์เลน่าอยู่กับรีเวนจ์ หล่อนจึงหาทางเปิดโปงเขา ทำให้รีเวนจ์ตัดสินใจละทิ้งทุกสิ่งทุกอย่างเพื่อปกป้องคนที่เขารักด้วยการกลับไปยังอาณานิคมซิมพาธ ...

Apr 10, 2014

ม็อกกิ้งเจย์ - Mockingjay (The Hunger Games#3)

สำนักพิมพ์ : Post book
ผู้เขียน : Suzanne Collins
ผู้แปล : นรา สุภัคโรจน์

เรื่องย่อ

งานเลี้ยงย่อมมีวันเลิกรา งานรบก็เช่นกัน และนี่คือบทจบของ "เกมล่าชีวิต" ซึ่งยังคงเข้มข้นและพลิกผันตลอดเวลาเช่นเดียวกับสองภาคที่ผ่านมา ในภาค 2 "ปีกแห่งไฟ" แคตนิสและพีต้าต้องเข้าสู่เกมอีกครั้งอย่างไม่คาดฝัน แต่คราวนี้ต่างก็มีจุดมุ่งหมายเดียวกัน นั่นคือทำทุกทางเพื่อรักษาชีวิตของอีกฝ่าย ซึ่งแน่ละว่าเป็นจุดมุ่งหมายที่ขัดแย้งกันโดยสิ้นเชิง และแคปิตอลคงไม่ยินยอมให้มีผู้พิชิตสองคนอีกเป็นครั้งที่สองแน่ แต่ที่น่าแปลกใจกว่านั้น แคตนิสพบว่า นอกจากตัวเธอเองแล้ว ผู้ร่วมแข่งขันอีกจำนวนหนึ่งต่างก็ยอมสละชีวิต เพื่อให้พีต้ารอดเช่นกัน มีอะไรหรือใครอยู่เบื้องหลังเกมนี้อีกอย่างนั้นหรือ แคตนิสพยายามหาคำตอบเรื่องนี้ แต่ก่อนจะรู้ที่มาของมัน เธอก็ทำในสิ่งไม่คาดฝันอีกครั้ง... แคตนิสระเบิดสนามประลองด้วยธนูดอกเดียว... ธนูดอกเดียวนั้นพลิกประวัติศาสตร์แห่งพาเน็ม และก่อให้เกิดเหตุการณ์ร้ายแรงตามมาอีกมากมาย รวมทั้งความลับอันน่าตกใจซึ่งถูกปิดซ่อนมาตลอด 75 ปี นับตั้งแต่ยุคมืดและเกมล่าชีวิตเริ่มต้น อำนาจเป็นสิ่งหอมหวานเสมอ ไม่มีใครรู้ว่าคนเราจะทำอะไรได้บ้างเพื่อให้ได้มันมาครอบครอง การส่งเด็กไปฆ่ากันเองในสนามประลอง อาจเป็นเรื่องเล็กน้อย เมื่อเทียบกับอีกหลายๆ "เกม" ที่เกิดขึ้นในชีวิตจริงในโลกจริงใบนี้

REVIEW

เขต 12 ถูกทำลายราบเป็นหน้ากลอง แคตนิสกลายมาเป็นสมาชิกของเขต 13 และเธอยังต้องเป็น 'ม็อกกิ้งเจย์' ของเหล่ากบฏตามเขตต่างๆอีกด้วย

นี่ไม่ใช่เรื่องง่ายเลย หลังจากที่แคตนิสต้องฝ่าฝันเรื่องราวมามากมาย ภาระหน้าที่นี้ดูเหมือนจะหนักเกินไปเมื่อฝันร้ายเรื่องพีต้าถูกลักพาตัวและเรื่องที่เกิดขึ้นทั้งหมดตามหลอกหลอนเธอ เธอรับหน้าที่นี้ไม่ได้ แต่เธอก็ต้องทำ !

เมื่อแคปปิตอลรุกคืบมากขึ้นเรื่อยๆ การปรากฎตัวของแคตนิสคือสิ่งเดียวที่ทำให้การก่อกบฎยังคงเดินหน้าต่อไป โดยแกนนำที่ควบคุมการก่อกบฎทั้งหมดคือประธานาธิบดีคอยน์ การกระทำบางอย่างของเธอก็ดูเหมือนจะบีบคั้นแคตนิสมากเกินไป แต่นั่นก็เป็นทางเลือกเพียงหนึ่งเดียวที่เหลือไว้ ทางเลือกที่แคตนิสต้องเดินไปอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

เมื่อสถานการณ์กำลังเข้าขั้นวิกฤติ พีต้าถูกช่วยออกมาจากแคปปิตอล แต่เขากลับมาในสภาพที่สมองถูกไฮแจ็กซ์ เขาคิดว่าแคตนิสเป็นศัตรู ความรู้สึกของเขาพังทลาย รวมถึงหัวใจของแคตนิสด้วยที่ถูกทำลายจนย่อยยับ

การตัดสินใจครั้งสุดท้ายคือการบุกเข้าแคปปิตอล ที่นั่น ... กองทัพของแคตนิสต้องเจอะเจออะไรมากมายและเหนือความคาดคิด ฟินนิกซ์ตายในระหว่างการต่อสู้ เมื่อการบุกทำลายลามมาถึงใจกลางของแคปปิตอล วินาทีที่ความสำเร็จอยู่ใกล้แค่เอื้อม พริมกลับปรากฏตัวขึ้นและถูกระเบิดคร่าชีวิตต่อหน้าต่อตาแคตนิส

ประธานาธิบดีสโนว์ถูกจับได้ในท้ายที่สุด แคตนิสสติแตกและย่อยยับในท้ายที่สุด เมื่อวินาทีแห่งการตัดสินใจครั้งสุดท้ายมาถึง...วินาทีที่คันของธนูกำลังจะปลิดชีพต้นตอของเรื่องรางทั้งหมดนั่นก็คือประธานาธิบดีสโนว์ ชั่ววินาทีสุดท้าย ... คันศรกลับเล็งไปยังคอยน์ ว่าแคตนิสตระหนักได้ในท้ายสุดว่าศัตรูที่แท้จริงคือใคร เมื่อสิ่งที่คอยน์กำลังจะทำหลังการจบสงครามคือการแก้แค้นแคปปิตอลด้วยการจัดเกมส์ล่าชีวิตครั้งสุดท้ายที่จะก่อให้เกิดวังวนแห่งหายนะที่ไม่รู้จบ

แคตนิสกลับมาอาศัยอยู่กับพีต้า กระนั้นรอยแผลเป็นอย่างสงครามก็ยังไม่ยอมไปไหน มันฝังอยู่ในหัวของเธอทุกครั้งที่ตื่นและตามไปหลอกหลอนเธอในทุกห้วงที่เธอหลับตา ...

ตอนจบของวรรณกรรมเยาวชนไตรภาคชุดนี้ขอบอกเลยว่าเป็นอะไรที่ไม่นึกไม่ฝันมาก่อน ตอนจบที่หม่นหมอง มีแต่ความเสียหาย อาจทำให้ใครหลายคนไม่ชอบเล่มนี้ไปได้เลยง่ายๆ แต่เรากลับชอบ ... ชอบตรงที่ว่า ม็อกกิ้งเจย์ไม่ได้เป็นเพียงตอนจบของหนังสือนิยายเล่มหนึ่ง แต่มันทำให้เรารู้ว่าหนังสือเล่มนี้คือตอนจบของสงครามที่เกิดขึ้น สงครามไม่ได้ทิ้งเพียงซากแห่งความเสียหายไว้เบื้องหลัง กระนั้นสงครามยังทิ้งอะไรต่อมิอะไรมากมายรวมถึงจิตใจที่ถูกทำลายจนย่อยยับไม่แพ้สมรภูมิรบภายหลังที่ทุกอย่างจบสิ้น

หนังสือ The Hunger Games เป็นชุดหนังสือที่ทิ้งให้หลายๆอย่างหลังอ่านจบ รวมถึงแง่คิด คติเตือนใจที่ทำให้นักอ่านทุกคนได้ฉุกคิดถึงผลเสียหายของสงคราม ที่สามารถเกิดขึ้นจริง และความเสียหายในตอนจบของหนังสือเล่มนี้ ก็เป็นความเป็นจริงอย่างน่าเหลือเชื่อ

สรุปแล้ว The Hunger Games เป็นมากกว่าหนังสือนิยายเพื่อความบันเทิง แต่หนังสือชุดนี้คือสิ่งเตือนใจ และข้อคิดสำหรับใครหลายๆคนซึ่งเราอยากให้ทุกคนได้ลองอ่านดู และคุณจะพบว่าหนังสือชุดนี้มีอะไรมากกว่าที่คุณคิดมากนัก

คะแนน 9.5/10

ปีกแห่งไฟ - Catching Fire (The Hunger Games#2)



สำนักพิมพ์ : Post book
ผู้เขียน : Suzanne Collins
ผู้แปล : นรา สุภัคโรจน์

เรื่องย่อ

หลังจากอาสาเข้าสู่สนามประลองแทนน้องสาว แคตนิส เอฟเวอร์ดีน “เด็กสาวผู้มากับไฟ” วัย 16 ก็ใช้ทั้งประสบการณ์จากการล่าสัตว์ ฝีมือการยิงธนู และเล่ห์เหลี่ยมไหวพริบทุกชนิด จนสามารถเอาตัวรอดแถมยังพ่วงเด็กหนุ่มจากเขตเดียวกัน ให้รอดชีวิตออกมาในฐานะ “คู่รักที่ชะตาไม่ชักนำ” นับว่าเป็นการพลิกประวัติศาสตร์ของเกมล่าชีวิตที่ดำเนินต่อเนื่องมาถึง 74 ปีเต็ม ชัยชนะของเธอนำความเปลี่ยนแปลงมาสู่ผู้คนในเขต 12 โดยเฉพาะอย่างยิ่งครอบครัวของเธอเอง เพราะนั่นหมายความว่าทุกคนจะมีกินมีใช้ไปตลอดชีวิต ไม่ต้องอดอยากหิวโหยอย่างที่เป็นมา ทุกอย่างดูเหมือนจะเป็นไปด้วยดี แม้ว่าความโหดเหี้ยมรุนแรงในสนามประลองจะยังคงฝังลึกเป็นฝันร้ายที่มาเยี่ยมกรายทุกคืนก็ตาม แต่มีอีกหลายสิ่งที่แคตนิสยังไม่รู้ การกระทำของเธอในเกมล่าชีวิต เป็นการท้าทายอำนาจของ “แคปิตอล” อย่างรุนแรง มันทำให้ผู้คนในเขตต่างๆ ได้ตระหนักถึงพลังของตนเอง พลังที่จะไม่ยอมอยู่ใต้อำนาจแห่งแคปิตอลอีกต่อไป ซึ่งแน่นอนว่าประธานาธิบดีสโนว์ย่อมวางเฉยไม่ได้ และแผนการอันล้ำลึกของเขาก็ย่อมลึกล้ำและโหดเหี้ยมอย่างที่ใครก็คาดไม่ถึง เพียงแต่ว่า ตอนนี้แคตนิสไม่ใช่เด็กสาวผู้มากับเปลวไฟปลอมๆบนชุดที่สวมใส่อีกต่อไปแล้ว เธอกลายเป็นเปลวไฟของจริง เปลวไฟที่สามารถเผาผลาญพาเน็มให้ย่อยยับ ความโหดร้ายในสนามประลองและในชีวิตจริงทำให้เธอเติบโตและแข็งแกร่งขึ้น และไม่ว่าเธอจะรู้ตัวหรือไม่ ประวัติศาสตร์ของพาเน็มกำลังเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ ด้วยสัญลักษณ์บางอย่างที่เธอนำเข้าสู่สนามประลองในคราวก่อน

REVIEW

เล่มนี้แคตนิสต้องกลับเข้าสู่เกมส์ล่าชีวิตกับพีต้าอีกครั้งในฐานะเครื่องบรรณาการจากเขต 12 ในการแข่ง Quarter Quell ครั้งที่ 75

ซึ่งแท้จริงแล้วเรื่องทั้งหมดเป็นแผนการประธานาธิบดีสโนว์หลังจากที่เบอร์รี่เพียงไม่กี่ลูกในเล่มที่แล้วก่อให้เกิดการต่อต้านระบอบการปกครอง ถ้าเขาไม่ทำอะไรสักอย่าง ระบบระเบียบทั้งหมดต้องพังลงมาต่อหน้าต่อตาเขา

หนังสือเล่มนี้เราคิดว่าเป็นเล่มที่สนุกที่สุดในบรรดา 3 เล่มของ The Hunger Games แล้วนะ

ด้วยความรู้สึกที่ตัวละครมีความเป็นผู้ใหญ่มากขึ้นหลังจากเล่มที่แล้ว ความสัมพันธ์ของพีต้ากับแคตนิสที่รักกันปานจะกลืนกลายเป็นแค่หน้าฉากที่ต้องแสดงให้คนทั้งแคปปิตอลเห็น ผู้พิทักษ์สันติภาพที่มาใหม่ของเขต 12 ทำให้อะไรๆเปลี่ยนไปในทางที่แย่ลง

เมื่อแคตนิสกับพีต้าเข้าสู่สนามประลอง ทั้งคู่ได้ฟินนิกและป้าแม็กซ์เป็นพันธมิตร แต่นั่นก็ไม่ได้หมายความทุกอย่างจะไปได้สวย เมื่อสนามประลองครั้งนี้คือนาฬิกาที่เหตุการณ์แปลกประหลาดจะเกิดขึ้นทุกๆ 1 ชั่วโมง ในแต่ละพื้นที่ของหน้าปัดนาฬิกา (ตรงนี้ขอชื่นชมว่าผู้เขียนไอเดียเจ๋งมาก)

สุดท้ายด้วยแผนของบรูตัส ทำให้การแข่งขันครั้งนี้กลายเป็นชนวนสงครามไปอย่างสิ้นเชิง แคตนิสถูกช่วยออกมาจากสนามประลองแต่พีต้ากับโจแอนนากลับถูกแคปปิตอลจับไว้เป็นตัวประกัน เขต 12 ทุกทำลายหลังจากสโนว์เห็นถึงการก่อกบฏภายในและภายนอกเกมส์

หนังสือจะมีฉากที่ในภาพยนตร์ไม่มีคือฉากที่เกี่ยวกับเขต 12 มีผู้อพยพได้บอกแคตนิสว่าพวกเขาจะเดินทางไปเขต 13 ซึ่งตอนนั้นแคตนิสไม่เชื่อว่าเขต 13 จะยังมีอยู่เพราะได้ถูกทำลายไปแล้วก่อนหน้านี้ แต่ประเด็นตรงนี้นี่แหละที่จะหยิบไปขยายความในเล่มต่อไป(เล่มจบ) เมื่อแคตนิสถูกส่งตัวไปยังเขต 13 และเธอต้องแบกรับภาระหน้าที่ที่ยิ่งใหญ่ก็คือ

เธอต้องเป็น 'ม็อกกิ้งเจย์'

ส่วนตัวแล้วเราชอบเล่มนี้มาก ชอบทั้งหนังสือและภาพยนตร์ เนื้อเรื่องสนุกเข้มข้นน่าติดตามกว่าเล่มแรก แฝงไปด้วยแง่มุมและแนวคิดหลายเรื่องที่หยิบจับได้ในชีวิตจริง รวมถึงปมสำคัญบางอย่างที่ทำให้หนังสือเล่มนี้มีเสน่ห์กว่าเล่มก่อนหน้า ...

หากใครไม่เคยอ่านฉบับหนังสือ เราแนะนำว่าหนังสือ Catching Fire จะไม่ทำให้คุณผิดหวังแน่นอน !

คะแนน 10/10

เกมล่าชีวิต - The Hunger Games (The Hunger Games#1)


สำนักพิมพ์ : Post book
ผู้เขียน : Suzanne Collins
ผู้แปล : นรา สุภัคโรจน์

เรื่องย่อ

กฎของเกมล่าชีวิตเรียบง่าย เพื่อเป็นการลงทัณฑ์สำหรับการจราจลนั้น เขตทั้งสิบสองเขตต้องส่งเด็กหญิงหนึ่งคนเด็กชายหนึ่งคน เรียกว่าเครื่องบรรณาการมาเข้าร่วมการแข่งขัน เครื่องบรรณาการทั้งยี่สิบสี่คนจะต้องถูกขังไว้ในลานประลองกลางแจ้งขนาดมหึมา ที่ซึ่งสามารถมีทุกสิ่งทุกอย่าง ตั้งแต่ทะเลทรายที่แผดเผาไปจนถึงที่รกร้างอันหนาวเหน็บตลอดช่วงเวลาหลายสัปดาห์ ผู้แข่งขันจะต้องต่อสู้กันจนถึงตาย...

REVIEW

The Hunger Games คือหนังสือไตรภาคที่ดีที่สุดเท่าที่เคยอ่านมา ...

หากลองนึกถึงสังคมแบบดิสโทเปีย ทุกอย่างล้วนโหดร้าย คุณต้องต่อสู้ดิ้นรนเพื่อเอาชีวิตรอดภายใต้เงื่อนไขที่จำกัด คุณจะทำอย่างไร ...
'แคตนิส' อาสาเป็นเครื่องบรรณาการจากเขต12 แทนน้องสาวอันเป็นที่รักยิ่งของตนเอง 'พริม' และนั่นทำให้เธอได้เจอกับ 'พีต้า' ในฐานะบรรณาการชายเขตเดียวกับเธอ

กฎของเกมนั้นง่ายแสนง่าย .... ฆ่ากันจนกว่าจะเหลือผู้รอดชีวิตเพียงหนึ่งเดียว

ในสนามประลอง แคตนิสต้องตัดสินใจเลือกทางเลือกอย่างระมัดระวัง เด็กสาวตัดสินใจเข้าร่วมกับ 'ริว' สาวน้อยที่มีหัวใจอันบริสุทธิ์  แต่การพบกันของทั้งคู่ คือรอยแผลเป็นที่จะฝากฝังไว้ในใจของแคตนิสตลอดกาล

เมื่อริวตาย  นั่นคือการสูญเสียครั้งยิ่งใหญ่ของแคตนิส  แคตนิสกับพีต้ารวมพลังเพื่อต่อสู้และฟันฝ่าอุปสรรคเพื่อหนทางสุดท้ายในเกมล่าชีวิตครั้งนี้

โดยหารู้ไม่ว่า ... ผลลัพธ์ที่เกิดจากผลเบอร์รี่เพียงไม่กี่ลูก คือการท้าทายอำนาจแคปปิตอล ทำให้ผู้คนลุกฮือขึ้นมาอีกครั้ง และแคตนิสกลายเป็น Mockingjay สัญลักษณ์ของการกบฏ

หนังเล่มนี้แฝงไว้ด้วยความสนุกและข้อคิดมากมาย อารมณ์เฉือดเฉือนที่จะทำให้คุณต้องรีบพลิกหน้าต่อไปเพื่อลุ้นชะตากรรมของตัวละครแบบหน้าต่อหน้า

โดยส่วนตัว ... เราคิดว่าหนังสือเล่มนี้เป็นการเปิดมุมมองสู่ 'โลกใหม่' สำหรับเราเลยทีเดียว เพราะ The Hunger Games ไม่ใช่หนังสือแนว YA ที่จะทำให้คุณเพลิดเพลินไปกับโลกแห่งจินตนาการที่ตัวละครทุกตัวจบลงด้วยความสุขตามแบบฉบับ แต่หนังสือเล่มนี้ ... สะท้อนความเป็นจริงของสังคมปัจจุบันอย่างตรงไปตรงมา ทำให้คุณได้รู้ว่า ... สงคราม นำมาซึ่งความสูญเสีญและยากเกินเยียวยา

เป็นหนังสืออีกเล่มนี่อยากแนะนำให้ 'เยาวชน' ทุกคนได้อ่าน ส่วนฉบับแปลไทยนั้น ... ในความคิดของเราว่า ภาษาไม่ได้แย่มากมายแบบที่ใครเขาว่ากัน อาจจะเป็นเพราะนักแปลใช้ภาษาแปลตรงตัว ไม่ได้ขัดเกลาให้สวยหรูเหมือนนิยายเรื่องอื่นๆ ทำให้ใครหลายคนรู้สึกขัดใจกับสำนวนการแปลแบบนี้ก็ได้


คะแนน 9.5/10

Apr 9, 2014

เมืองแก้ว - นครรัตติกาล (The Mortal Instrument #3)


สำนักพิมพ์ : อิ่มอ่าน

ผู้เขียน : คาสซานดร้า แคลร์

ผู้แปล : ฤทัยรัตน์ สุขถาวร

เรื่องย่อ

อิ่มอ่านขอนำคุณคืนสู่นครรัตติกาล นครลึกลับ น่าหลงใหล พร้อมผู้คนที่มีชีวิตลุ้นระทึกน่าติดตาม เราขอเสนอ เมืองแก้ว เล่มสามในชุดนี้ ที่เรื่องราวและเรื่องรักกำลังเข้มข้น เมื่อเจซกับคลารี่ต้องตัดสินใจทำสิ่งที่ยากเย็นและท้าทายความสามารถที่สุดในเมืองแก้ว บ้านเกิดนักล่าเงา เพื่อช่วยเหลือทุกคน กับความรักที่ต้องการคำตอบของทั้งคู่

REVIEW

นี่เป็นหนังสือเล่มที่สนุกที่สุดในชุด ... นครรัตติกาล

เนื้อเรื่องดำเนินมาถึงจุดไคลแม็กซ์เมื่อคลารี่ต้องเดินทางไปอลิกันเต้เพื่อช่วยแม่ของเธอ โดยวาดทวาราไปเองโดยที่ไม่รู้ ไม่แน่ใจในอะไรเลย

สงครามระหว่างนักล่าเงากับวาเลนไทน์ปะทุขึ้น คราวนี้ทุกคนต้องเข้ามามีส่วนร่วมด้วย เจซกับคลารี่ใกล้ชิดกัน แต่กระนั้นทั้งคู่ก็ยังมีความเป็นพี่น้องค้ำคออยู่ นั่นทำให้เจซพยายามจะผลักตัวเองออกห่างจากคลารี่มากขึ้นทุกที

เราชอบตอนสุดท้ายที่วาเลนไทน์เรียกเทวดาขึ้นมาและถูกฆ่าตายในที่สุด คลารี่รู้ว่าเจซไม่ใช่พี่่น้องของเธอ เซบาสเตียนคือพี่ชายแท้ๆของเธอต่างหาก แต่เขาหลบหนีไปได้ เขาเป็นภัยอันตรายต่อโลกของนักล่าเงา

ในเล่มนี้ เนื้อเรื่องจะเข้มข้นขึ้นมากกว่าเล่มก่อนๆ จนเราคิดอยากให้เล่มนี้เป็นเล่มจบเลยด้วยซ้ำ เนื้อเรื่องสมบูรณ์แบบชนิดที่ว่า ไม่อยากอ่านเล่มต่อไปแล้ว กลัวจะไม่ดีเท่าเล่มนี้ ...

เราชอบฉากที่อเล็คกับแม็กนัสจูบกันต่อหน้าประชาชีก่อนที่จะออกไปต่อสู้อ่ะ เราอ่านแล้วอมยิ้มแบบไม่รู้ตัวเลย

คะแนน 9/10

THE FAULT IN OUR STARS - ดาวบันดาล

" The fault, dear brutus is not in our stars, but in our selves. "
" อันความผิด มิตรเอยเฉลยเอา  ใช่ดวงดาวพราวเพรา เจ้าบันดาล"



สำนักพิมพ์ : คลาสแอดท์

ผู้เขียน : John Green

ผู้แปล : เขมรินทร์ พงษ์สุวรรณ

(ปกฉบับภาษาไทย)

(ปกฉบับ Movie tie-in)

REVIEW

เป็นหนังสือที่เรียกได้ว่าเลอค่ามากที่สุดในทศวรรษนี้ ...

เนื้อเรื่องกล่าวถึง 'เฮเซล' เด็กสาวที่ป่วยเป็นโรคมะเร็งต่อมไทรอยด์แล้วมีอาการติดเชื้อที่ปอด ได้พบกับ 'ออกัสตัส' เด็กหนุ่มนิสัยยียวน แต่มีเสน่ห์โดยบังเอิญ

ทั้งคู่ถูกโชคชะตาบันดาลให้แบ่งปันและใช้ชีวิตร่วมกัน โดยมีหนังสือนิยายเล่มหนึ่งเป็นตัวเชื่อมและดำเนินเรื่อง the imperial affliction เป็นหนังสือที่ 'ปีเตอร์' เป็นคนเขียนขึ้นมา แต่ตอนจบของหนังสือเล่มนี้กลับจบดื้อๆ ทั้งเฮเซลและออกัสจึงเดินทางสู่อัมสเตอร์ดัมส์เพื่อค้นหาตอนจบของหนังสือนิยายเล่มนี้จากนักเขียนโดยตรง

ออกัสตัสได้ใช้ 'คำอธิษฐาน' ของเขาเป็นตั๋วเครื่องบินเพื่อบินไปยังอัมเตอร์ดัมส์  ก่อนที่เขาทั้งคู่จะรู้ว่า ... มะเร็งของออกัสตัสได้ลุกลามไปจนถึงขั้นเกินที่จะเยียวยาแล้ว ออกัสไม่ต้องการที่จะรั้งรอแม้แต่วินาทีเดียวเพื่อเดินทางไปค้นหาคำตอบที่อัมเตอร์ดัมส์กับเด็กสาวที่เขาหลงรัก เขาปฏิเสธการให้คีโมก่อนเดินทาง และไม่บอกเฮเซลเพราะกลัวว่าเด็กสาวจะเสียใจ ถึงแม้ว่าการพบปะกับนักเขียนปีเตอร์จะไม่เป็นที่น่าประทับใจสักเท่าไร แต่อย่างน้อยทั้งคู่ก็มีความสุขเมื่ออยู่ด้วยกันและได้ใช้เวลาร่วมกัน

ตรงนี้คือจุดหักมุมที่ทำร้ายจิตใจเราอย่างมาก แทนที่เฮเซลจะเป็นเด็กสาวที่ต้องจมอยู่กับความสิ้นหวัง แต่เพียงไม่กี่หน้าหนังสือ เนื้อเรื่องก็พลิกผันจากหน้ามือเป็นหลังมือ แท้จริงแล้ว ... ออกัสตัสป่วยมาโดยตลอด อาการของเขาไม่ได้ดีขึ้นเลย เขาแค่แสร้งทำเป็นว่าทุกอย่างเรียบร้อยดีเท่านั้น

ยิ่งตอนใกล้จบนะ เราไม่ถึงกับร้องไห้แต่รู้สึกจุกๆในอก กับความทรมานของออกัสตัส  ไม่ใช่เขาคนเดียวที่ต้องทรมาน คนรอบข้าง ครอบครัว รวมถึงคนรักที่ต้องทนทุกข์กับเรื่องเหล่านี้ไปพร้อมกับๆเขา ยิ่งฉากที่ออกัสตัสติดอยู่ที่ปั๊มแล้วโทรหาเฮเซลให้ไปหานะ เรานี่เกือบจะร้องไห้ เจ็บมากๆ ไม่เคยอ่านหนังสือเล่มไหนแล้วรู้สึกเจ็บหน่วงๆในอกเช่นนี้มาก่อนเลย

ตอนจบก็เป็นแบบไม่ได้สวยหรู แต่เป็นตอนจบที่เรียบง่ายตรงกับชีวิตจริง แม้ว่าเฮเซลอาจไม่ได้รับคำตอบอะไรมากมายเกี่ยวกับหนังสือนิยายที่เธอชอบอ่าน แต่อย่างน้อย ... ชีวิตของเธอก็ได้รับรู้แล้วว่า "คุณเลือกไม่ได้ที่จะรู้สึกเจ็บปวดหรือไม่ แต่คุณเลือกได้ว่าใครจะเป็นคนที่ทำให้คุณเจ็บ"

เป็นหนังสือที่อ่านได้เรื่อยๆ ระหว่างที่อ่านอาจมีเบื่อบ้าง ไม่อยากอ่านต่อบ้าง แต่เชื่อเราเถอะ ... เราอยากให้ทุกคนลองอ่านหนังสือเล่มนี้ แล้วลองพลิกไปให้ถึงหน้าสุดท้าย แล้วคุณจะรู้ว่า ... สิ่งที่มีค่าที่สุดไม่ใช่บทประพันธ์ชั้นเลิศของ John Green แต่มันคือมุมมองความคิดของคุณที่จะเปลี่ยนไปเมื่อคุณอ่านหนังสือเล่มนี้จบอย่างแน่นอน


คะแนน 10/10



ฉบับภาพยนตร์ ที่กำลังจะเข้าฉาย ... น่าดูมากๆ ^___________^


Apr 5, 2014

เจ้าสาวของหมาป่า - A Hunger Like No Other (Immortals After Dark #2)



ชื่อเรื่อง A Hunger Like No Other
จากชุด Immortals After Dark
โรมานซ์ เหนือธรรมชาติ

แปลไทยโดย
สำนักพิมพ์ : แก้วกานต์
ผู้แปล : จิตอุษา

เรื่องย่อ

หลังจากต้องทนทุกข์ทรมานมานานแสนนานจากฝีมือของเหล่าแวมไพร์ แลคเลน ผู้นำเผ่ามนุษย์หมาป่าก็แสนจะเกรี้ยวกราดเมื่อพบว่าเนื้อคู่ที่เขา เฝ้ารอมานานนับพันปีกลับกลายเป็นแวมไพร์นางหนึ่ง แต่แล้วเอ็มมาลีน ผู้งดงามและบอบบางและเป็นลูกครึ่งวัลคีรีกับแวมไพร์ผู้นี้ กลับปลอบประโลมเพลิงพิโรธที่แผดเผาอยู่ในใจเขาลงได้ เอ็มมาลีน ทรอยออกเดินทางเพื่อค้นหาความจริงเกี่ยวกับบุพการีของหล่อน จนกระทั่งเมื่อไลเคทรงพลังผู้หนึ่งอ้างว่าหล่อนคือคู่ครองของเขา และบังคับให้หล่อนเดินทางไปยังปราสาทโบราณในสกอตแลนด์ แล้วความหวาดกลัวที่หล่อนมีต่อไลเคผู้ดุดันก็เริ่มเบาบางลง เมื่อเขาค่อย ๆ เย้ายวนหล่อนอย่างเจ้าเล่ห์และหวานล้ำ ขณะที่ความชั่วร้ายจากอดีตของหล่อนปรากฏตัวขึ้นอีกครั้ง ความปรารถนาของสองหนุ่มสาวจะหยั่งลึกจนกลายเป็นความรัก ที่ชักนำให้นักรบผู้ทระนงยอมคุกเข่าและเปลี่ยนสาวงามผู้อ่อนโยน ให้เป็นนักสู้อย่างที่หล่อนเกิดมาเพื่อจะเป็นได้หรือไม่...

REVIEW

สนุกมากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก ...

ตอนซื้อเล่มนี้มาไม่คิดว่าจะสนุกขนาดนี้

เนื้อเรื่องเกี่ยวกับนางเอก 'เอ็มม่า' เป็นลูกครึ่งแวมไพร์กับวัลคีรี ส่วนพระเอก 'แลคเลน' เป็นราชาแห่งไลเค(หมาป่า) ซึ่งนิสัยดั้งเดิมแล้ว ... ไลเคเกลียดแวมไพร์มาก

เมื่อแลคเลนรู้ว่าคู่ครองของเขาที่เสาะหามานานอยู่ใกล้แค่เอื้อม เขาก็ตัดสินใจสละขาข้างหนึ่งเพื่อให้หลุดออกจากขุมนรกที่จองจำเขาอยู่

เมื่อเขาพบเอ็มม่าแล้ว เขาผิดหวัง โมโห ในตัวตนของอีกฝ่าย เพราะเอ็มม่าเป็นแวมไพร์ แลคเลนกระทำต่อเอ็มม่าได้อย่างไม่ดีนักในตอนแรก แต่เขาก็ตัดใจทิ้งหญิงสาวไปไม่ได้

แลคเลนหวุดหวิดจะฆ่าเอ็มม่าเมื่อเขากำลังฝันร้ายอยู่ เอ็มม่าตกใจมากและคิดจะไปจากเขา แต่แลคเลนไม่ยอมปล่อยหล่อนไป

Apr 3, 2014

เมืองเถ้า - นครรัตติกาล (The Mortal Instrument#2)


สำนักพิมพ์ : อิ่มอ่าน
ผู้เขียน : คาสซานดร้า แคลร์
ผู้แปล : ฤทัยรัตน์ สุขถาวร

เรื่องย่อ

คลารี่ เฟรย์ หวังแค่ว่าชีวิตจะกลับเป็นปกติ แต่อะไรคือปกติเมื่อตนเป็นนักล่าเงาปีศาจ แม่โคม่าเพราะถูกสาป และทันใดนั้นคุณก็เห็นชาวบาดาล เช่น มนุษย์หมาป่า ค้างคาวผีดูดเลือด และภูต คลารี่อยากใช้เวลากับไซม่อนเพื่อนรักมากขึ้น แต่นักล่าเงาไม่ปล่อยเธอไป โดยเฉพาะพี่ชายรูปหล่อ กวนโมโหที่เพิ่งพบหน้า เจซ และโอกาสเดียวที่คลารี่จะช่วยแม่ได้ก็คือ ตามหานักล่าเงาผู้ร้าย วาเลนไทน์ ผู้อาจบ้า เลวร้ายแน่นอน และเป็นพ่อของเธอ เรื่องราวยิ่งสลับซับซ้อน เมื่อมีผู้สังหารชาวบาดาลในนิวยอร์ก วาเลนไทน์อยู่เบื้องหลังฆาตกรรมนี้หรือเปล่า

REVIEW

เนื้อเรื่องเล่มนี้จะสืบเนื่องต่อจากเล่มที่แล้วและจะมีความเข้มข้นมากขึ้นเรื่อยๆ  ความสัมพันธ์ระหว่างคลารี่กับเจซอยู่ในขั้นกลืนไม่เข้าคายไม่ออก หลังจากในเล่มที่แล้วที่ทั้งสองรู้ว่าพวกเขาเป็นพี่น้องกัน

วาเลนไทน์ได้ถ้วยมรรตัยไป เจซจึงกลายเป็นผู้ต้องสงสาร เขาได้พบกับ 'มือปราบ' และโดนจับตัวไป วาเลนไทน์ได้ขโมยดาบมรรตัยไปอีก ไซม่อนกลายเป็นแวมไพร์ และเขาถูกวาเลนไทน์จับตัวไปเพื่อต้องการทำให้ดาบมรรตัยกลายเป็นดาบปีศาจ

บอกตรงๆเลยว่าแอบรำคาญสาระบบความคิดของนางเอกเรื่องนี้มากๆ วุ่นวายชวนสับสนเสียเหลือเกิน เมื่อหล่อนรู้แล้วว่าเจซเป็นพี่น้องกับหล่อน หล่อนจึงไปอยู่กับไซม่อนมากขึ้น ทั้งๆที่เอาจริงๆหล่อนก็ไม่ได้รักไซม่อนจริงๆหรอก เพราะไซม่อนดูจะเข้ากันได้กับอิซาเบลมากกว่านะเราว่า

แม็กนัสกับอเล็คเริ่มมีบทบาทมากขึ้นในเล่มนี้ และจะมีมากขึ้นในเล่มถัดไป ...

คลารี่ค้นพบความสามารถพิเศษของตัวเองว่าสามารถสร้างรูนลายใหม่ๆขึ้นมาได้

เราว่าฉากที่สนุกและไคลแม็กซ์ที่ทำให้หนังสือเล่มนี้มีสีสันขึ้นมาและมากกว่าเล่มที่แล้วนิดหน่อยคือฉากที่มีการต่อสู้กันบนเรืออ่ะ ดูพีคมากๆเลยในความรู้สึกเรา ทุกคนรวมพลังกันสู้กับกองทัพปีศาจของวาเลนไทน์และในขณะที่คลารี่ต้องช่วยเจซให้ได้

ถือว่าซีรีส์ชุดนี้สนุกมากขึ้นเรื่อยๆตามจำนวนเล่มและเราว่าเล่มต่อไป (เล่ม 3) ซึ่งเป็นเล่มที่สนุกที่สุดในบรรดาหนังสือที่ออกมาของซีรีส์ชุดนี้แล้วนะ เดี๋ยวจะเขียนรีวิวเล่มสามต่อจากเล่มนี้อีก ...

ถ้าใครชอบนิยายแฟนตาซีกึ่งสงคราม มีกลิ่นอายร่วมสมัยและความรักโรแมนติค เราหวังว่านิยายชุดนี้จะสามารถตอบโจทย์ของใครหลายคนได้เป็นอย่างดี นอกจากนี้ฝีมือการแปลของนักแปลยังปรับปรุงและดีขึ้นกว่าเล่มที่แล้วมากๆ เพราะในความคิดของเรา เราอ่านไหลลื่นและสะดุดน้อยกว่าเล่มที่แล้ว


คะแนน 7.5/10

ทดลองสั่งหนังสือจาก Bookdepository

นี่เป็นครั้งแรกที่สั่งหนังสือจากต่างประเทศ เพราะปกติจะสั่งกับร้าน Kinokuniya ตลอด แต่พอเรากลับมาบ้านที่ต่างจังหวัดแล้วค่าส่งหนังสือมาที่บ้านจะแพงมากเพราะคิดตามระยะทาง (ประมาณ 200+) ก็เลยหันไปหาอีกทางเลือกหนึ่งก็คือ ... Bookdepository

http://www.bookdepository.com/

เราสั่งหนังสือไปวันที่ 10 มีนาคม 2557 ตามสถานะหนังสือในเว็บแจ้งว่าจะมีการ Dispatch ให้ภายใน 48 ชั่วโมง แต่จนแล้วจนรอด หนังสือก็ยังไม่มา ในทึ่สุดเราก็เลยเมลล์ไปถาม แล้วเค้าก็ตอบมาว่า ...

"We are terribly sorry for the delay in dispatching your item; it appears we have had some difficulties in trying to obtain stock of this from our suppliers in the usual time period due. If you do not wish to continue with this, please advise and we may be able to cancel this providing it still hasn’t been dispatched."

คือเค้าก็ขอโทษที่มันช้า แล้วก็ถามเราว่าจะยกเลิกมั้ย พอเราไม่ยกเลิก วันที่ 13 มีนาคม 2557 สินค้าก็ถูกส่งออกมา ... (ใช้เวลา Dispatch 72 ชั่วโมง)


โดยออร์เดอร์นี้กว่าจะได้รับนั้นใช้เวลาประมาณ 21 วัน (รวมเสาร์-อาทิตย์) นับตั้งแต่วันที่ทางเว็บแจ้งสถานะเป็น "Shipped"


สภาพหนังสือ ถือว่าอยู่ในสภาพที่ดีใช้ได้เลยทีเดียว


พัสดุมาพร้อมกับซองกันกระแทก และแยกมา 2 ซอง (1 ซองต่อหนังสือ 1 เล่ม)

ถือว่า ... Bookdepository คือทางเลือกอีกทางสำหรับผู้ที่ชื่นชอบนิยายต้นฉบับภาษาอังกฤษ และต้องการลดค่าขนส่ง เพราะเว็บนี้ ! ไม่เสียค่าจัดส่ง และรายการหนังสือบางรายการยังถูกกว่าตามร้านหนังสือต่างประเทศไทยในเสียอีก 

และจากบริการลูกค้าก็ถือว่าอยู่ในระดับดีมากเลยทีเดียว เพราะเวลามีเรามีปัญหาหรือไม่แน่ใจเกี่ยวกับขั้นตอนการสั่งซื้อหรือจัดส่ง เราสามารถติดต่อกับฝ่าย Customer ได้โดยตรง !

Bookdepository คืออีกหนึ่งช่องทางที่อยากแนะนำให้ทุกคนได้สั่งซื้อหนังสือในราคาที่ถูกและไม่ค่าเสียค่าจัดส่งอีกด้วย

เพลิงปรารถนาแวมไพร์ - Playing Easy to Get (Immortals After Dark #1)



ชื่อเรื่อง Playing Easy to Get (The Warload Wants Forever)
จากชุด Immortals After Dark
ผู้เขียน : Kresley Cole, Sherrilyn Kenyon, Jaid Black
โรมานซ์ เหนือธรรมชาติ

แปลไทยโดย
สำนักพิมพ์ : แก้วกานต์
ผู้แปล : จิตอุษา

เรื่องย่อ 

นิโคไล รอธ ขุนศึกผู้กร้าวแกร่งในสนามรบได้รับโอกาสให้ฟื้นคืนชีพขึ้นมาใหม่ ในฐานะแวมไพร์ ทว่าเขายังต้องเสาะหาเจ้าสาวของเขา สตรีเพียงหนึ่งเดียว ที่จะปลุกให้เขามีเลือดเนื้ออย่างสมบูรณ์ แต่เขาไม่คาดคิดว่าเจ้าสาวของเขา จะเป็นวัลคีรีสาวแสบที่แสนงดงามน่าตะลึงหลง มิสต์เป็นนักรบสาวเผ่าพันธุ์วัลคีรีที่มีชื่อเสียงระบือไกลในเรื่องความงดงาม ชีวิตของหล่อนอุทิศให้กับการปกป้องเครื่องประดับล้ำค่าที่มีพลังอำนาจลึกลับ และการกำจัดพวกแวมไพร์ เมื่อหล่อนได้พบกับนิโคไล หล่อนก็ปลุกให้เขามี เลือดเนื้อขึ้นมาเพียงเพื่อที่จะทิ้งเขาไป ปล่อยให้เขาตกอยู่ในความรวดร้าวทรมาน ของการโหยหา หลังจากที่ทิ้งเขามาถึงห้าปี บัดนี้นิโคไลตามล่าจนพบตัวหล่อน และเมื่อ เครื่องประดับล้ำค่าตกอยู่ในมือเขา พลังอันลึกลับก็ทำให้เขามีอำนาจเหนือหล่อน อย่างมิอาจต้านทาน และนิโคไลมีแผนที่จะทำให้หล่อนเป็นทาสของเขาโดยสิ้นเชิง...

REVIEW

นิยายเล่มนี้เป็นรวมเรื่องสั้นของ 3 นักเขียน

เรื่องแรก ... เพลิงปราถนาแวมไพร์ The Warload Wants Forever by Kresley Cole 

เป็นเรื่องราวของวัลคีรีสาวสาย 'มิสต์' ที่ปลุกเลือดเนื้อของแวมไพร์ชายรายหนึ่ง 'นิโคไล รอธ' จนทำให้เขาต้องทนทุกข์ทรมานกับการจากไปของหล่อนในท้ายสุดและต้องทนปวดร้าวเพราะความอยากปลดปล่อยที่เกิดขึ้นกับร่างกายของเขา

หลังจากผ่านไป 5 ปี นิโคไลตามหาตัวมิสต์เจอในที่สุด เขามีสิ่งของที่จะทำให้มิสต์ตกอยู่ในอำนาจของเขา (มัน Hot ตรงนี้นี่แหละ) แล้วคิดดูสิ ! ว่าแวมไพร์ชายที่ปราถนาผู้หญิงคนหนึ่งจะทำอะไรกับเธอเมื่อผู้หญิงคนนั้นคือคนเดียวที่เขาปราถนามาตลอด 5 ปี

เราชอบเรื่องนี้มากที่สุดในบรรดา 3 เรื่องสั้น ... เนื้อเรื่องมีกลิ่นอายแฟนตาซีและความทันสมัย มีการเอาเรื่องราวและตำนานของสิ่งมีชีวิตที่อยู่เหนือจินตนาการมาเล่าใหม่ได้อย่างน่าสนใจ เนื้อเรื่องไม่เอื่อยจนเกินไปถือว่าอยู่ในระดับดีถึงดีมาก 

คะแนน 10/10

เรื่องที่สอง ... ปฏิบัติการรัก by Sherrilyn Kenyon

ขอบอกเลยว่าพออ่านเรื่องนี้จบแล้วนึกถึงภาพยนตร์เรื่อง Austenland เลย ... กล่าวถึงหญิงสาวรายหนึ่งที่เป็นผู้โชคดีได้ไปใช้ชีวิตสุขสบายอยู่บนเกาะที่รายล้อมด้วยหนุ่ม เธอกลายเป็นนางเอกในนิยายโรมานซ์ที่เธอชื่นชอบ มีบรรดาหนุ่มๆห้อมล้อม แต่สิ่งที่สะดุดใจเธอกับเป็นผู้ชายท่าทางขึงขังที่อยู่เหนือตัวเลือกของหล่อน

ท้ายสุดแล้วก็มีบทบู๊แอ็คชั่นให้มันส์พอเป็นน้ำจิ้ม แล้วเรื่องก็ลงเอยด้วยความสุขหรรษาตามแบบฉบับนิยายโรมานซ์ ไม่มีอะไรแปลกใหม่และน่าประทับใจนักสำหรับเรื่องสั้นเรื่องนี้

คะแนน 7/10

เรื่องสุดท้าย ...ปฏิญาณรักไวกิ้ง by Jaid Black

เป็นเรื่องที่เราประทับใจพอๆกับเรื่องราวของแคชลีย์เลยนะ เรื่องของหญิงสาวที่่ถูกลักพาตัวไปเป็นเจ้าสาวของชาวไวกิ้ง เธอถูกประมูลตัวด้วยจำนวนเงินสูงลิบ และผู้ที่มาประมูลตัวเธอได้คือ 'โจเฮน' หนุ่มใหญ่หล่อล่ำด้วยสัดส่วนที่เกิน 7 ฟุต

โซเฟียโดนยาปลุกเซ็กส์ในตอนแรก จึงต้องเป็นหน้าที่พระเอกในการบรรเทาความทรมานของหล่อย (>////<) สุดท้ายแล้วโซเฟียก็ตัดสินใจหนีไปและในตอนท้ายโจเฮนก็ทำให้เธอรักเขาและอยู่กับเขาได้

ซึ่ง....................มันเป็นจุดที่เราจะหักคะแนนเรื่องนี้ เนื้อเรื่องสนุก ลงตัว อ่านเพลินมากในตอนแรกๆ เราสัมผัสได้ถึงความตั้งใจของผู้เขียนที่ต้องการจะใส่ลงไปในเนื้อหาให้ผู้อ่านซึมซาบอารยธรรมความเป็นไวกิ้งและบุคลิกที่น่าครั่นคร้าม สุขุมนุ่มลึกของโจเฮน

แต่ดันมาตกม้าตายตอนจบซะงั้น ... ตอนบทส่งท้ายเป็นอะไรที่เราเหวอมาก อ่านอยู่ดีๆถึงตอนที่โซเฟียลังเลว่าจะอยู่ในโลกของชาวไวกิ้งหรือจะกลับไปยังโลกเดิมที่ไม่มีใครรอหล่อนอยู่แล้ว พอขึ้นบทใหม่ ... โซเฟียตัดสินใจหนี แล้วอยู่ๆอีตาโจเฮนก็โผล่ไปหาได้ไงก็ไม่รู้ พูดคุยกันไม่เท่าไร นางเอกก็เออออไปซะงั้น 

พอบทส่งท้าย ... นางมีลูก O_o จบแฮปปี้ ครอบครัวสุขสันต์ คือเข้าใจว่ามันเป็นเรื่องสั้นซึ่งจำกัดพื้นที่ในการเขียน แต่กรุณาขยายความตอนจบออกไปให้หน่อยได้ไหม มันห้วนมาก ทั้งๆที่เนื้อเรื่องเรื่องนี้สนุกและน่าสนใจพอสมควร  ตอนจบน่าจะละเมียดกว่านี้หน่อยนะ น่าเสียดาย T^T

คะแนน 8.5/10

สำหรับหนังสือเล่มนี้ เราให้คะแนน 8.5/10