Apr 3, 2014

เมืองเถ้า - นครรัตติกาล (The Mortal Instrument#2)


สำนักพิมพ์ : อิ่มอ่าน
ผู้เขียน : คาสซานดร้า แคลร์
ผู้แปล : ฤทัยรัตน์ สุขถาวร

เรื่องย่อ

คลารี่ เฟรย์ หวังแค่ว่าชีวิตจะกลับเป็นปกติ แต่อะไรคือปกติเมื่อตนเป็นนักล่าเงาปีศาจ แม่โคม่าเพราะถูกสาป และทันใดนั้นคุณก็เห็นชาวบาดาล เช่น มนุษย์หมาป่า ค้างคาวผีดูดเลือด และภูต คลารี่อยากใช้เวลากับไซม่อนเพื่อนรักมากขึ้น แต่นักล่าเงาไม่ปล่อยเธอไป โดยเฉพาะพี่ชายรูปหล่อ กวนโมโหที่เพิ่งพบหน้า เจซ และโอกาสเดียวที่คลารี่จะช่วยแม่ได้ก็คือ ตามหานักล่าเงาผู้ร้าย วาเลนไทน์ ผู้อาจบ้า เลวร้ายแน่นอน และเป็นพ่อของเธอ เรื่องราวยิ่งสลับซับซ้อน เมื่อมีผู้สังหารชาวบาดาลในนิวยอร์ก วาเลนไทน์อยู่เบื้องหลังฆาตกรรมนี้หรือเปล่า

REVIEW

เนื้อเรื่องเล่มนี้จะสืบเนื่องต่อจากเล่มที่แล้วและจะมีความเข้มข้นมากขึ้นเรื่อยๆ  ความสัมพันธ์ระหว่างคลารี่กับเจซอยู่ในขั้นกลืนไม่เข้าคายไม่ออก หลังจากในเล่มที่แล้วที่ทั้งสองรู้ว่าพวกเขาเป็นพี่น้องกัน

วาเลนไทน์ได้ถ้วยมรรตัยไป เจซจึงกลายเป็นผู้ต้องสงสาร เขาได้พบกับ 'มือปราบ' และโดนจับตัวไป วาเลนไทน์ได้ขโมยดาบมรรตัยไปอีก ไซม่อนกลายเป็นแวมไพร์ และเขาถูกวาเลนไทน์จับตัวไปเพื่อต้องการทำให้ดาบมรรตัยกลายเป็นดาบปีศาจ

บอกตรงๆเลยว่าแอบรำคาญสาระบบความคิดของนางเอกเรื่องนี้มากๆ วุ่นวายชวนสับสนเสียเหลือเกิน เมื่อหล่อนรู้แล้วว่าเจซเป็นพี่น้องกับหล่อน หล่อนจึงไปอยู่กับไซม่อนมากขึ้น ทั้งๆที่เอาจริงๆหล่อนก็ไม่ได้รักไซม่อนจริงๆหรอก เพราะไซม่อนดูจะเข้ากันได้กับอิซาเบลมากกว่านะเราว่า

แม็กนัสกับอเล็คเริ่มมีบทบาทมากขึ้นในเล่มนี้ และจะมีมากขึ้นในเล่มถัดไป ...

คลารี่ค้นพบความสามารถพิเศษของตัวเองว่าสามารถสร้างรูนลายใหม่ๆขึ้นมาได้

เราว่าฉากที่สนุกและไคลแม็กซ์ที่ทำให้หนังสือเล่มนี้มีสีสันขึ้นมาและมากกว่าเล่มที่แล้วนิดหน่อยคือฉากที่มีการต่อสู้กันบนเรืออ่ะ ดูพีคมากๆเลยในความรู้สึกเรา ทุกคนรวมพลังกันสู้กับกองทัพปีศาจของวาเลนไทน์และในขณะที่คลารี่ต้องช่วยเจซให้ได้

ถือว่าซีรีส์ชุดนี้สนุกมากขึ้นเรื่อยๆตามจำนวนเล่มและเราว่าเล่มต่อไป (เล่ม 3) ซึ่งเป็นเล่มที่สนุกที่สุดในบรรดาหนังสือที่ออกมาของซีรีส์ชุดนี้แล้วนะ เดี๋ยวจะเขียนรีวิวเล่มสามต่อจากเล่มนี้อีก ...

ถ้าใครชอบนิยายแฟนตาซีกึ่งสงคราม มีกลิ่นอายร่วมสมัยและความรักโรแมนติค เราหวังว่านิยายชุดนี้จะสามารถตอบโจทย์ของใครหลายคนได้เป็นอย่างดี นอกจากนี้ฝีมือการแปลของนักแปลยังปรับปรุงและดีขึ้นกว่าเล่มที่แล้วมากๆ เพราะในความคิดของเรา เราอ่านไหลลื่นและสะดุดน้อยกว่าเล่มที่แล้ว


คะแนน 7.5/10

No comments:

Post a Comment