Jun 18, 2014

Fifty Shades of Grey (Fifty Shades #1)



ชื่อเรื่อง Fifty Shades of Grey
จากเรื่อง Fifty Shades
ผู้แต่ง E.L. James
แนว Erotic BDSM

เรื่องย่อ


When literature student Anastasia Steele goes to interview young entrepreneur Christian Grey, she encounters a man who is beautiful, brilliant, and intimidating. The unworldly, innocent Ana is startled to realize she wants this man and, despite his enigmatic reserve, finds she is desperate to get close to him. Unable to resist Ana’s quiet beauty, wit, and independent spirit, Grey admits he wants her, too—but on his own terms.

Shocked yet thrilled by Grey’s singular erotic tastes, Ana hesitates. For all the trappings of success—his multinational businesses, his vast wealth, his loving family—Grey is a man tormented by demons and consumed by the need to control. When the couple embarks on a daring, passionately physical affair, Ana discovers Christian Grey’s secrets and explores her own dark desires.

Erotic, amusing, and deeply moving, the Fifty Shades Trilogy is a tale that will obsess you, possess you, and stay with you forever.

This book is intended for mature audiences.

REVIEW

อนาสตาเซีย สตีล ต้องไปสัมภาษณ์มิสเตอร์ เกรย์ หรือ คริสเตียน เกรย์ เนื่องจากเพื่อนของเธอที่รับหน้าที่นี้ป่วย อนาเธอไม่รู้มาก่อนเลยว่ามิสเตอร์เกรย์คนนี้มีรูปร่างหน้าตาเป็นยังไง หรือเป็นคนแบบไหนก่อนที่เธอจะเข้าไปสัมภาษณ์ แต่วินาทีที่เธอเห็นมิสเตอร์เกรย์ เขาคือนักธุรกิจหนุ่มอายุยี่สิบปลายๆผู้ซึ่งประสบความสำเร็จด้วยความสามารถและความตั้งใจของเธอตัวเอง แต่อนากลับรู้สึกว่ามีความลึกลับแปลกประหลาดบางอย่างอยู่ในทีท่าการแสดงออกของเขา
แรงดึงดูดของชายหนุ่มทำให้อนาสตาเซียเก็บเอามาเพ้อเอามาฝัน เธอเอาแต่คิดว่า ไม่นะ ! ต้องไม่ใช่มิสเตอร์เกรย์คนนี้สิ ! แต่เธอไม่เคยสนใจชายใดมาก่อนเลย จนกระทั่งเธอมาเจอมิสเตอร์เกรย์นี่แหละ

แล้วก็มีเหตุบังเอิญให้อนาสตาเซียมาเจอมิสเตอร์เกรย์อีกครั้ง ทั้งคู่เจอกันที่ร้านขายของที่อนาทำงานอยู่

จากนั้นอนาก็นัดคริสเตียนเพื่อที่จะได้ถ่ายรูปเพื่อนำไปลงในบทความที่เขาให้สัมภาษณ์เอาไว้ เมื่อคริสเตียนเสร็จจากภารกิจถ่ายรูปแล้ว เขาก็ชวนอนาไปดื่มกาแฟ และทั้งคู่ก็ได้ทำความรู้จักกันและกันมากขึ้น คริสเตียนถามอนาว่าผู้ชายคนนั้นคนนี้ที่เขาเคยเห็นเธอคุยด้วยตอนกำลังทำงานใช่แฟนของเธอหรือเปล่า อนาเลยคิดว่าคริสเตียนต้องชอบเธอแน่ๆเลย ให้ตายสิ !

อนาฉลองสอบเสร็จด้วยการดื่มเหล้าจนเมา คริสเตียนโทรมาและรู้ว่าอนากำลังเมาจึงคิดจะไปหาเธอ เขาติดตามที่อยู่ของเธอจากโทรศัพท์จนพบว่าอนากำลังอยู่กับเพื่อนของเธอและเขาคนนั้นกำลังจะจูบอนา คริสเตียนโมโหที่อนากำลังจะจูบชายอื่น เขาจึงพาอนากลับโรงแรมของตัวเองเพราะเธอเมาจนไม่ได้สติ เมื่อนาตื่นขึ้นมาในตอนเช้า ทั้งคู่ก็คุยแลกเปลี่ยนความคิดกันเล็กๆน้อยๆ จนอนารู้ว่าคริสเตียนมีความลับบางอย่างที่ต้องการจะบอกเธอ ถ้าเธอไปหาเขาตอนเย็นหลังเลิกงาน ...

ทั้งคู่ใช้เฮลิคอปเตอร์ส่วนตัวของคริสเตียนบินไปยังซีแอตเติล คริสเตียนบอกว่าเขามีบางอย่างที่ต้องการเปิดเผยและอนาสามารถหันหลังกลับเมื่อไรก็ได้ แต่เธอไม่สน ... เธออยากร่วมรักกับผู้ชายคนนั้นแทบขาดใจ จนคริสเตียนให้เธอเซ็นเอกสารบางอย่าง จากนั้นเขาจึงพาอนาไปดูห้องที่เก็บของเล่นของเขา

แวบแรกที่อนาเห็นของเล่นเหล่านั้น เธอถึงกับช็อค เพราะมันมีทั้ง โซ่ แส้ กุญแจมือ ! แต่อีกใจหนึ่งเธอก็อยากรู้อยากเห็น คริสเตียนอธิบายให้อนาฟังว่าเขาเป็น Dominant คือพวกที่ชอบออกคำสั่งกับคู่นอนของตัวเอง และหากคู่นอนขัดคำสั่งเขาละก็ ... เขาจะต้องลงโทษหล่อน

คริสเตียนให้อนาอ่านข้อตกลงของเขา ซึ่งมันยิบย่อยเหลือเกิน ทั้งเรื่องเสื้อผ้าหน้าผม การออกกำลังกาย ไปจนถึงการรับประทานอาหาร จากนั้นคริสเตียนก็ตกใจด้วยความไม่อยากจะเชื่อเมื่อรู้ว่าอนายังเป็นสาวบริสุทธิ์อยู่ เขาจึงตั้งใจสอนให้เธอได้รู้เรื่องเซ็กส์ ...

(คริสเตียนใช้คำว่า make love ในขณะที่กำลังปฏิบัติภารกิจลับเฉพาะกับอนา แต่เราขอเรียกว่า Fuck ดีกว่า เพราะมันไม่มีส่วนไหนที่จะทำให้เราเชื่อว่าคนสองคนกำลัง make love กันเลย)

รุ่งเช้า ... อนาตื่นขึ้นมาโดยมีคริสเตียนนอนเคียงข้าง เธอรู้สึกปลื้มปริ่ม จนเมื่อคริสเตียนชวนเธออาบน้ำกินข้าว ทั้งคู่ก็มีเซ็กส์กันอีกรอบในห้องอาบน้ำ คราวนี้เป็น Oral sex จากนั้นคริสเตียนก็ขับรถส่งอนากลับไปยังอพาร์ตเมนท์ของเธอ พร้อมกับพูดคุยถึงอดีตของเขาว่าเขาเคยเป็น submissive ให้กับเพื่อนของแม่เขาอยู่หลายปี นั่นทำให้อนารู้เรื่องเกี่ยวกับอดีตอันดำมืดของเขามากขึ้นกว่าเดิม แล้วกระหายอยากรู้มากขึ้นไปอีกเมื่อเพื่อนสาวคนสนิทของเธอดูเหมือนจะรู้อะไรบางอย่างเกี่ยวกับคริสเตียนแต่ไม่ยอมบอกเธอ

คริสเตียนให้เอกสารอนามาฉบับหนึ่งเพื่อให้เธอศึกษาข้อตกลงเกี่ยวกับการเป็น Submissive ของเขาเป็นเวลา 3 เดือน อนาอ่านข้อตกลงที่ละเอียดยิบย่อยนั่นแล้วเธอไม่อยากจะเชื่อว่าเธอจะสามารถทำทั้งหมดนี้ให้ จากนั้นไม่นานคริสเตียนก็ส่งแมคบุ๊คตัวใหม่มาให้อนาเอาไว้ให้เธอใช้โต้ตอบอีเมลล์กับเขา

คริสเตียนมาหาอนาถึงบ้าน เขามีเซ็กส์กับเธอ แม้ว่าอนาจะไม่แน่ใจเกี่ยวกับของตัดสินใจของเธอเองที่จะเป็น Submissive ให้กับคริสเตียน เธอแอบน้อยใจเรื่องที่คริสเตียนพูดถึงเพื่อนของแม่เขาที่เคยมีเซ็กส์ด้วย อนาร้องไห้ พอเพื่อนของเธอเข้ามาปลอบ เธอก็ต้องหาข้ออ้างเพื่อปกปิดความจริงเรื่องข้อตกลงระหว่างทั้งคู่ซึ่งจะให้ใครรู้ไม่ได้ !

เมื่อถึงวันที่อนาฉลองเรียนจบ คริสเตียนก็ไปปรากฏตัวที่นั่น แม้ว่าก่อนหน้านี้เธอจะยังตัดสินใจไม่ได้เรื่องข้อตกลงที่จะเป็น Submissive ให้แก่เขา แต่อนาก็ต้องการคริสเตียนเหมือนกัน ตกเย็น ... คริสเตียนก็เลยไปหาอนาที่บ้าน พร้อมซื้อรถคันใหม่ให้เธอ อนาเลยยอมรับข้อตกลงที่จะเป็น Submissive ให้แก่เขา คริสเตียนเริ่มด้วยการมีเซ็กส์ธรรมดากับอนาก่อนที่จะใช้มือฟาดก้นเธอ(อย่างแรง)จนอนาเก็บเอาไปร้องห่มร้องไห้ทีหลัง คริสเตียนเลยต้องย้อนกลับมาปลอบเธอและอยู่กับเธอตลอดทั้งคืน เพราะอนาอยากให้คริสเตียนอยู่กับเธอหลังจากที่ทั้งคู่มีเซ็กส์กันแล้ว

เมื่ออนาย้ายไปทำงานที่ซีแอตเติลกับเพื่อนของเธอที่ตอนนี้คบกับน้องชายของคริสเตียนอยู่ คริสเตียนก็ตามไปด้วยเพราะบ้านของเขาอยู่ที่นั่น เย็นวันนั้นคริสเตียนชวนอนาไปรับประทานอาหารที่บ้านของเขา และแนะนำเธอให้รู้จักกับพ่อแม่ของตัวเอง ระหว่างการสนทนาบทโต๊ะอาหาร เพื่อนสนิทของอนาก็เผลอหลุดปากพูดเรื่องที่อนาได้เจอกับผู้ชายที่เคยจะจูบกับเธอ แล้วอนาก็ยังปฏิเสธคริสเตียนเมื่อเขาพยายามจะเอามือสอดเข้าไปในกระโปรงของเธอใต้โต๊ะระหว่างที่กำลังรับประทานอาหาร นั่นทำให้คริสเตียนโมโหมาก

คริสเตียนลากพาตัวอนาออกมายังโรงเก็บเรือ และบอกว่าจะ fuck เธอ แต่จะไม่ยอมให้อนาได้ปลดปล่อย ไม่งั้นเขาจะลงมือตีก้นเธอ อนาที่เคยขยาดกับการที่ถูกคริสเตียนฟาดก้นมาแล้วครั้งหนึ่งจนเธอเสียศูนย์นั้น ก็ทั้งหวาดกลัวและตื่นตัวภายในเวลาเดียวกัน

อนาต้องเดินทางไปเยี่ยมแม่ของเธอ คริสเตียนเลยตั้งใจที่จะเว้นช่องว่างให้เธอตัดสินใจเรื่องการเซ็นสัญญาที่จะมาเป็น Submissive ของเขา แต่เมื่ออนารู้ว่าคริสเตียนยังไปพบกับเพื่อนของแม่ที่เขาเคยมีเซ็กส์ด้วย อนาก็โกรธจัด แต่คริสเตียนก็มาหาเธอและอธิบายทุกอย่างให้อนาฟังว่าเขาไม่ได้มีอะไรกับผู้หญิงคนนั้นแล้ว ทั้งสองแค่ร่วมธุรกิจกันเฉยๆ

คริสเตียนมีเรื่องต้องจัดการ นั่นทำให้อนาต้องบินเดี่ยวกับซีแอตเติลตามลำพัง เมื่อทั้งคู่ได้เจอกัน ... คริสเตียนก็บอกกับอนาว่าเขาคิดถึงเธอมากขนาดไหน ทุกคู่มีเซ็กส์กันโดยใช้อุปกรณ์ของคริสเตียน หลังจากที่อนาตื่นขึ้นมาและพบคริสเตียนเล่นเปียโนอยู่ อนาก็พูดคุยถึงเรื่องที่ตลอดเวลาทีผ่านมาคริสเตียนไม่เคยยอยให้เธอได้สัมผัสเนื้อตัวของเขาเลย อนาเลยยื่นข้อตกลงว่าถ้าเธอสามารถทนความเจ็บปวดที่เขาจะลงโทษเธอได้ คริสเตียนก็ต้องทนความเจ็บปวดของเขาได้เหมือนกัน !

คริสเตียนใช้เข็มขัดฟาดอนาถึง 6 ครั้ง เกือบๆครั้งสุดท้ายที่อนารู้สึกว่าทนไม่ไหว แต่เธอก็ทน คริสเตียนมาขอโทษอนา เธอจึงสารภาพออกมาว่าเธอรักคริสเตียน แต่คริสเตียนไม่สามารถรับรักจากเธอได้ อนาเลยตัดสินใจออกไปจากชีวิตของเขา ...

.......................................................................

อยากลองอ่าน เห็นเสียงลือเสียงเล่าอ้างว่าเป็นหนังสือที่ขายดีแห่งปี พอลองซื้อมาอ่านแบบภาษาอังกฤษถึงรู้ว่ามีการใช้คำซ้ำเยอะมากอย่าง My Inner Goddess / Holy Cow อะไรเนี่ย มีมาบ่อยเหลือเกิน แถมนิสัยของอนายังน่ารำคาญเหลือหลายสำหรับเรา คิดเล็กคิดน้อยจนทำให้เนื้อเรื่องแทบจะไม่ขยับไปไหนเลย

คืออนาดูเหมือนจะมีปมกับปฏิกิริยาของคนอื่นมากๆ เธอเซนต์ซิทิฟมากจนขนาดคริสเตียนกำลังจะผละไปจากเธอ เธอเอาแต่คิดว่า เขาไม่ต้องการฉัน เขาไม่ต้องการฉันแล้วงั้นหรอ ? ... เราก็ไม่รู้จะช่วยเธอยังไงดีนะอนา แต่เราขอถอนหายใจกับการกระทำอันแสนน่าเบื่อของเธอละกันเนอะ

สำหรับเรา เราคิดว่าเล่มแรกเป็นการ Intro BDSM แบบเบาๆก่อน (ถ้ามาจัดหนักอะไรกัน สงสัยคนอ่านคงตกใจกันแน่ๆ) ติดตรงที่ว่าเนื้อเรื่องมันวนไปวนมาจนทำให้หนังสือมันหนาเตอะมากๆ ถ้าไม่มีความพยายามจริงๆ เราคิดว่าเราอาจจะอ่านไม่จบด้วยซ้ำ เพราะฉากเซ็กส์ก็มีอยู่แค่นั้น เน้นปริมาณอย่างเดียว 555 เนื้อเรื่องก็ไม่มีอะไร เราว่าที่หนังสือมันดูหนาก็เป็นเพราะความคิดของอนาที่วนเวียนอยู่ที่เดิมไม่ยอมไปไหนสักทีนี่แหละ

ส่วนตัวเราคิดว่า 1/3 ของเรื่องนี้ยังอ่านได้เรื่อยๆ พอได้ครึ่งเล่มก็รู้สึกว่า อืม ... ก็ยังพออ่านได้ แต่พอเหลืออีก 1/3 ก่อนจบเล่มนี่สิ ! เป็นอะไรที่ไม่ไหวอย่างแรง ! ทั้งด้านความรู้สึก อารมณ์ความคิดของตัวละครที่สับสนยุ่งเหยิงไปหมด ตอนท้ายๆยิ่งอยากจะเลิกอ่าน มิสเตอร์เกรย์ทำตัวน่าโมโหซะเหลือเกิน ส่วนอนาก็เอาแต่น้อยอกน้อยใจ จนสุดท้ายก็แตกหักกันไปตามระเบียบ 555

เห็นมีคนบอกว่าฉบับแปลไทยตัดฉากอย่างว่าซะกระจุย แต่เราอ่านฉบับภาษาอังกฤษก็รู้สึกว่าสมควรตัดจริงๆนะ เพราะถ้ามาแปลไทยสงสัยสนพ.โดนเก็บแน่ๆ สังคมในบ้านเรายังเปิดกว้างไม่มากพอด้วยละมั้ง

ปล.ตอนนั่งพิมพ์รีวิวนี่สงสัยจะเพลินไปหน่อย ย้อนกลับไปอ่านอีกที รู้สึกว่าเราแทบจะเขียนประเด็นทั้งหมดของหนังสือออกมาจนหมดเลยนี่นา 555

คะแนน 4/10


Jun 15, 2014

Kiss of a Demon King (Immortals After Dark #7)


ชื่อเรื่อง : Kiss of a Demon King
ผู้แต่ง : เครสลีย์ โคล
โรมานซ์ : เหนือจริง
สำนักพิมพ์ : Simon & Schuster

เรื่องย่อ

From New York Times bestselling author Kresley Cole comes this spellbinding story of a demon king trapped by an enchantress for her wanton purposes -- and the scorching aftermath that follows when he turns the tables and claims her as his captive.

HIS OBSESSION...
Sabine, Sorceress of Illusions: the evil beauty who surrenders her body, but not her heart.

HER DOWNFALL...
Rydstrom Woede: the ruthless warrior who vows to keep her at all costs.

THEY WERE NEVER SUPPOSED TO WANT EACH OTHER THIS MUCH...
With each smoldering encounter, their shared hunger only increases. If they can defeat the sinister enemy that stands between them, will Sabine make the ultimate sacrifice for her demon? Or will the proud king lay down his crown and arms to save his sorceress?

REVIEW

ไรด์สตรอมค้นพบหนทางที่สามารถฆ่าโอมอร์ท และนำบัลลังก์ของเขากลับคืนมา ถ้าเขาไม่ถูกผู้หญิงที่เกิดมาเพื่อเป็น'ของเขา' จับตัวไปเสียก่อน ...

ซาบินเป็นน้องสาวของโอมอร์ท และได้รับคำสั่งมาว่าให้ไปจับตัวไรด์สตรอมมา หล่อนวางแผนให้เกิดอุบัติเหตุระหว่างทาง และล่อลวงไรด์สตรอมให้มีอะไรกับหล่อน ซาบินต้องการมีลูกกับไรด์สตรอมเพราะคำทำนายที่บุตรของพวกเขาจะได้ปลดปล่อยขุมพลังที่ยิ่งใหญ่ออกมา หล่อนจึงจับไรด์สตรอมมาขังไว้ในคุกใต้ดินในปราสาทของเขาที่ตอนนี้โอมอร์ทปกครองอยู่

ซาบินเป็นแม่มดที่ใช้เวทมนตร์ในการสร้างภาพลวงตา หล่อนสามารถขโมยเวทมนตร์มาจากคนอื่นได้ ดังนั้นซาบินเลยหาทางที่จะใช้เวทมนตร์ที่ลูกชายของหล่อนถูกทำนายว่าจะปลดปล่อยออกมาใช้เป็นเครื่องมือในการต่อกรกับโอมอร์ท ซาบินรังเกียจโอมอร์ท หล่อนอยากจะใช้ชีวิตเป็นของตัวเอง

ไรด์สตรอมไม่อยากจะเชื่อว่าซาบินเป็นผู้หญิงของเขา หลังจากการที่เขาตามหาคู่ชีวิตของเขามาตั้งแต่อายุสิบสาม เขาคิดมาเสมอว่าผู้หญิงของเขาต้องเป็นคนดี เรียบร้อย หัวอ่อน ว่านอนสอนง่าย ซึ่งเป็นอะไรที่ตรงข้ามกับซาบินโดยสิ้นเชิง แต่ทุกครั้งที่หล่อนแตะต้องเนื้อตัวก็ทำให้เขาตื่นตัวทุกครั้ง ซาบินพยายามทุกวิถีทางที่จะทำให้ไรด์สตรอมยอมรับว่าหล่อนนี่แหละคือผู้หญิงที่ถูกลิขิตให้มาคู่กับเขาจริงๆ ซาบินอ่านใจไรด์สตรอมจนเห็นว่าความต้องการทางเพศของไรด์สตรอมคือเขาชอบเป็นฝ่ายที่ควบคุมผู้หญิงของเขา เขาอยากจะมัดหล่อนเอาไว้และร่วมรักกับหล่อนจนหล่อนเอ่ยปากขอร้องเขา

กองทัพของเหล่าแวมไพร์เดอะฮอดจ์และเผ่าพันธุ์อื่นๆบุกทอร์นิน ปราสาทที่โอมอร์ทปกครองอยู่เพื่อแย่งชิงขุมพลังที่สามารถทำให้แวมไพร์สามารถใช้ชีวิตท่ามกลางแสงอาทิตย์ หรือควบคุมไลเคไม่ให้เปลี่ยนร่างในคืนพระจันทร์เต็มดวงได้ จึงเป็นหน้าที่ของซาบินที่ต้องสู้เมื่อเหล่ากองทัพโรมรันมาจนถึงหน้าปราสาท ในขณะที่หล่อนขังไรด์สตรอมเอาไว้ในคุกใต้ดิน ใช้เวลาทุกคืนในการทรมานไรด์สตรอม ปรนเปรอให้เขา แต่ไม่ยอมให้เขาได้ปลดปล่อยความต้องการออกมา

ไรด์สตรอมเป็นห่วงว่าซาบินจะถูกทำร้ายจนได้รับบาดเจ็บ แต่โอมอร์ทกลับคิดจะปล่อยตัวเขาเนื่องจากความยุ่งยากที่เกิดขึ้นถ้าเหล่าเรจดีมอนมาบุกปราสาทเพื่อชิงตัวไรด์สตรอมกลับคืนไป โอมอร์ทคงต้านไว้ไม่อยู่แน่

ไรด์สตรอมยั่วโทสะโอมอร์ทเพราะเขาได้ยินมาว่าโอมอร์ทหลงรักน้องสาวของตัวเอง และนั่นก็เป็นเรื่องจริงเมื่อไรด์สตรอมทำให้โอมอร์ทโมโหเรื่องของซาบินจนโอมอร์ทลงมือทำร้ายเขาจนบาดเจ็บสาหัส

ซาบินใช้ความสามารถของหล่อนเพื่อรักษาแผลของไรด์สตรอมจนหายเป็นปกติ หล่อนทำให้เขาเห็นภาพนิมิตของทั้งคู่ที่ให้กำเนิดบุตรชายขึ้นมา ซาบินจึงขอร้องให้ไรด์สตรอมเอ่ยคำสาบานผูกมัดกับหล่อนเพื่อที่ไรด์สตรอมจะทำให้หล่อนท้อง  แต่ไรด์สตรอมกลับเอ่ยถึงคำสาบานที่จะแก้แค้นหล่อนเป็นภาษาปีศาจที่ซาบินไม่เข้าใจ จนหล่อนคิดว่าไรด์สตรอมเอ่ยคพสาบานผูกมัดออกมาจริงๆ

ไรด์สตรอมครอบครองหลอนด้วยพละกำลังทั้งหมดที่เขามี เขาต้องการตีตราว่าหล่อนเป็นของเขาด้วยการกัดหล่อน แต่ซาบินไม่ยอมเพราะหล่อนไม่ต้องการให้ไรด์สตรอมได้รับพิษที่หล่อนเคยได้รับเมื่อนานมาแล้วเข้าไป (ซาบินต้องพบโอมอร์ทในทุกๆเดือนเพื่อให้เขามอบยาพิษให้หล่อน หล่อนไม่สามารถหย่ามันได้เพราะการเลิกยาหมายถึงความทรมานจนตาย)

ไรด์สตรอมหลั่งน้ำเชื้อครั้งแรกในชีวิตของเขาในตัวซาบิน ผู้หญิงของเขา(ปีศาจจะไม่หลั่งน้ำเชื้อจนกว่าจะพบผ้หญิงของเขา) เขาตระหนักได้ว่าซาบินยังเป็นสาวบริสุทธิ์อยู่ เขาทำให้หล่อนเลือดออก ไรด์สตรอมรู้สึกผิดมหันต์ที่เขาทำแบบนั้นกับหล่อนลงไป

โลแธร์ให้ความช่วยเหลือไรด์สตรอมในการหลบหนีออกไปจากคุกของทอร์นินโดยแลกกับข้อแลกเปลี่ยนหนึ่งข้อ ไรด์สตรอมตกลง โลแธร์จึงพาไรด์สตรอมหลบหนีไปพร้อมๆกับตัวซาบินเองด้วย

สิ่งแรกที่ไรด์สตรอมจะทำกับซาบินเมื่อเขาได้รับอิสระก็คือถลกกระโปรงของหล่อนขึ้นแล้วใช้มือฟาดก้นหล่อน จากนั้นก็จับซาบินมัดข้อมือไว้ตลอดเวลาที่เขาพาหล่อนหนีไปกับเขาเพื่อจำกัดไม่ให้หล่อนใช้พลังสร้างภาพลวงตาได้ เขาให้สัญญาว่าจะแก้แค้นหล่อนเป็นเวลา 3 คืน เขาไม่สามารถทำลายคำสัตย์ที่ให้ไว้ก่อนหน้านี้ได้ แม้ว่าจะอยากก็ตาม ไรด์สตรอมจับซาบินขึงไว้กับต้นไม้พร้อมกับใช้ปากเพื่อให้หล่อนขอร้องให้เขาปลดปล่อยหล่อนครั้งแล้วครั้งเล่า ในขณะที่เขาสำเร็จควาใคร่ให้ซาบินดูต่อหน้า (มีอยู่คืนนึง ไรด์สตรอมทำจนซาบินหมดสติไป)

ไรด์สตรอมและซาบินเดินทางมาถึงที่ลี้ภัยของเหล่าเรจดีมอน ไรด์สตรอมต้องรอจนกว่าเมแลนท์ น้องสาวของซาบินจะเปิดประตูมิติให้เขาเดินทางกลับบ้านที่นิวออร์ลีนส์ ในขณะที่ไรด์สตรอมมาลี้ภัยอยู่กับประชาชนของเขา บาซิลิสก์ก็บุกโจมตีสถานที่ลี้ภัยในขณะที่ไรด์สตรอมออกไปล่าสัตว์กับผู้หญิงคนหนึ่งที่เขาเคยหลับนอนด้วยในอดีตของเขา(ดีมอนใช้เซ็กส์ในการพิสูจน์ว่าใครคือคู่แท้ของตน ดังนั้นไรด์สตรอมต้องนอนกับผู้หญิงทั้งอาณาจักรเลยทีเดียวในการตามหาคู่ของเขาเนื่องจากพ่อและพี่ชายถูกแวมไพร์ฆ่า เขาจึงต้องรับสืบทอดบัลลังก์ต่อไป แต่ไม่ว่าจะตามยังไงก็ไม่เจอ เพราะคู่แท้เพียงคนเดียวของเขาคือซาบิน) ซาบินเลยต้องรับมือกับบาซิลิสก์เพียงลำพัง โชคดีที่หล่อนมีความสามารถในการพูดคุยกับสัตว์ นั่นทำให้ซาบินสามารถเจรจาต่อรองกับบาซิลิสก์ไม่ให้ทำลายสถานที่ลี้ภัยแห่งนี้ได้

ไรด์สตรอมต้องการซาบินมากขึ้นกว่าเดิมเมื่อหล่อนแสดงให้เขาเห็นว่าหล่อนสามารถเป็นราชินีของเขาและสามารถปกครองบ้านเมืองของเขาได้ ทั้งคู่ยอมเดินทางมานิวออร์ลีนส์ บ้านเกิดของเขา ไรด์สตรอมเชื่อว่าเขาสามารถเกลี้ยกล่อมให้ซาบินอยู่กับเขาได้สำเร็จ แต่วินาทีสุดท้ายที่เขาเชื่ออย่างนั้น ... หล่อนก็หนีเขาไป

ซาบินใช้กระแสจิตคุยกับเมแลนท์จึงรู้ว่าน้องสาวของเธอตกอยูในอันตรายจากเหล่า  the Vrekeners (ปีศาจพันธุ์หนึ่งที่มีปีก บินได้ เนื่องจากซาบินได้ฆ่าพ่อของโทรนอส ตอนที่พ่อของเขาฆ่าพ่อแม่ของซาบิน โทรนอสก็เลยโกรธและตามล่าซาบินและเมแลนท์ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา) ซาบินไม่สามารถหนีจากไรด์สตรอมได้เนื่องจากเขาตามหลังหล่อนมาทัน

เมื่อไรด์สตรอมจับตัวซาบินได้อีกครั้ง ... เขาก็จับซาบินล่ามโซ่ไว้กับเตียงของเขาเพราะเขาไม่ยอมให้ซาบินหนีไปจากเขาได้อีกแล้ว แม้ว่าซาบินจะพยายามหาเหตุผลมาโน้มน้าวของเท่าไร เขาก็เชื่อว่าซาบินโกหกเขา จนซาบินใช้กระแสจิตคุยกับเมแลนท์อีกครั้งจึงได้รู้ว่าน้องสาวของเธอปลอดภัยและใช้ประตูมิติหนีกลับไปทอร์นินแล้ว

ซาบินถูกไรด์สตรอมไล่ออกจากบ้านเมื่อเขาไม่สามารถทำให้หล่อนอยู่กับเขาได้ เขาจึงปล่อยหล่อนไป แต่เมื่อซาบินรู้ว่าน้องสาวของตัวเองปลอดภัยแล้ว ไรด์สตรอมก็ใจเย็นลงและออกตามหาซาบินซึ่งกำลังนั่งร้องไห้อยู่ข้างถนน เพราะหล่อนไม่มีที่ไป ไรด์สตรอมจึงพาซาบินกลับบ้านและซาบินมอบเครื่องมือเวทมตร์ให้แก่ไรด์สตรอมเพื่อพิสูจน์ว่าหล่อนจะไม่มีทางโกหกเขาอีก เพราะเมื่อไรที่หล่อนโกหก ... เครื่องมือชั้นนั้นจะตกลงมาแตก

ซาบินมีเวลาอีกแค่ 6 วันก่อนที่หล่อนจะกลับไปรับยาพิษเพื่อต่อชีวิตของหล่อนจากโอมอร์ท หล่อนหลงรักไรด์สตรอม และไรด์สตรอมก็ต้องการจะ make love กับหล่อน และต้องการประทับตราซาบินว่าหล่อนจะต้องเป็นของเขาตลอดไป

เหลือเวลาอีกแค่ 2 วันที่ซาบินจะได้บอกความจริงกับไรด์สตรอมว่าหล่อนต้องกลับไปปหาโอมอร์ทจริงๆ แต่ซาบินยังไม่ทันได้มีโอกาสได้บอก พิษจากการถอนยาที่หล่อนเคยได้รับมาตลอดกลับย้อนมาเล่นงานหล่อน ซาบินขอร้องให้ไรด์สตรอมฆ่าหล่อนเพื่อไม่ได้ไม่ต้องเจ็บปวด แต่เขาก็ไม่ทำ ไรด์สตรอมตัดสินใจเลือกแล้วว่าสิ่งไหนมีค่าสำคัญมากกว่ากันระหว่างอาณาจักรหรือผู้หญิงของเขา ...

ไรด์สตรอมยินดีสละชีวิตของเขาแก่โอมอร์ทเพื่อให้เขาได้ยาถอนพิษมา ทั้งคู่ต่อสู้กันจนไรด์สตรอมใช้ดาบ(เล่มที่เคดไปชิงมาจากกรูทในตอนที่แล้ว)ที่ซาบินแอบพกติดตัวมาตัดหัวโอมอร์ทได้สำเร็จ ไรด์สตรอมสามารถชิงบัลลังก์กลับคืนมาได้และใช้ชีวิตอยู่กับผู้หญิงของเขาในอาณาจักรของเขา

เรื่องนี้ Hot มากกกกก เราชอบเวลาทั้งคู่ตั้งแง่กันอ่ะ น่ารักดี >.< แล้วก็เนื้อเรื่องตอนท้ายๆที่ซาบินโดนพิษเล่นงานแล้วไรด์สตรอมยอมสละอาณาจักรและชีวิตของเขาเพื่อซาบิน เป็นอะไรที่ซึ้งมาก แถมทุกฉากที่มีนิกซ์โผล่มาก็เล่นเราขำก๊ากได้เหมือนกัน

สรุปคือเล่มนี้มีครบทุกรส ตั้งแต่ โรแมนติค กลิ่นอาย BDSM แบบซอฟท์ๆ ตลกโปกฮา ผจญภัยน่าตื่นเต้น อ่านเพลินจนลืมเวลาไปเลยทีเดียว ดูเหมือนว่าเล่มนี้จะได้ RITA  AWARD อีกครั้งหลังจากเล่มของแลคเลนด้วยแหละ ^.^

คะแนน 10/10

Jun 12, 2014

Allegiant - แผนลับดับโลก (Divergent #3)



ชื่อเรื่อง Allegiant

จากชุด Divergent
ผู้เขียน Veronica Roth
ผู้แปล นลิญ
สำนักพิมพ์ Spell

เรื่องย่อ

ในโลกอนาคตที่แบ่งประชากรเป็นเผ่าตามลักษณะที่นิสัยและสิ่งที่ยึดถือ (ความกล้าหาญ, ความไม่เห็นแก่ตัว, ความซื่อสัตย์, ความรักสงบ และปัญญา) เมื่ออายุ 16 ปี เด็กทุกคนต้องทำการทดสอบและเลือกเผ่าที่สอดคล้องกับลักษณะนิสัยของตนเอง ทว่าเบีย "ทริช" กลับมีคุณลักษณะเท่าๆ กันในทั้ง 5 เผ่า ซึ่งผู้ที่มีลักษณะนี้จะถูกเรียกว่า "Divergent" และนับเป็นอันตรายอย่างที่สุด! แล้วคุณจะลืม Hunger Games ไปเลย!!!

REVIEW

... มาถึงบทสรุปของไตรภาค Divergent ที่ทุกคนต่างรอคอย ...

เนื้อเรื่องจะต่อหลังจากเล่มที่แล้ว Insurgent เมื่อวิดีโอสำคัญถูกเปิดเผยว่าเหล่าไดเวอเจนท์จะเป็นตัวที่ฟื้นฟูโลกภายนอกที่ถูกทำลายขึ้นมาใหม่ ในขณะที่ทริซถูกเอเวอลีน แม่ของโทไบอัสจับไปเพราะถือว่าเธอเป็นศัตรูจากการร่วมมือกับพ่อของโทไบอัส (เพราะเล่มที่แล้วทริซเล่มมือกับพ่อของโทไบอัสเพราะเขาบอกเธอว่ามีข้อมูลสำคัญที่พ่อแม่ของทริซยอมเสี่ยงชีวิตเพื่อปกป้องมัน นั่นก็คือวิดีโอของอีดิธ ไพรเออร์ที่ถูกเอามาเปิดเผยท้ายเล่มที่สองนั่นเอง)

หลังจากที่ข้อมูลถูกเปิดเผยต่อหน้าสาธารณชนว่ายังมีโลกแห่งใหม่ที่รอพวกเขาอยู่ด้านนอก ทำให้ก่อเกิดกลุ่มคนที่เรียกตัวเองว่า 'อัลลีเจนท์' ซึ่งก็คือผู้คนที่อยากไปจากเมืองแห่งนี้ที่ซึ่งเอเวอลีนยึดกุมอำนาจและกำจัดการแบ่งเผ่าออกไป แต่เมื่อนั่นไม่ใช่ทางแก้ปัญหาที่แท้จริงเพราะยังเกิดการเข่นฆ่ากันอยู่ กลุ่มอัลลีเจนท์จึงจำเป็นต้องหาทางออกไปให้ได้

ทริซและโทไบอัสถูกดึงเข้าสู่กลุ่มอัลลีเจนท์ในขณะที่เคเล็บถูกตัดสินโทษประหาร แต่โทไบอัสได้ไปช่วยเขาเอาไว้เพราะคำขอของทริซ หลังจากนั้นกลุ่มอัลลีเจนท์โดยมีโจแฮนนาและทอรี่เป็นผู้นำก็เดินทางไปยังรั้วของเผ่าอมิตีเพื่อออกจากเมืองแห่งนี้ นั่นทำให้ทอรี่ถูกฆ่าตายระหว่างการเดินทาง

เมื่อโลกภายนอกกลับไม่ได้เป็นอย่างที่พวกเขาคิดเอาไว้ ทริซและโทไบอัสต้องมารับรู้ความจริงถึงต้นเหตุของสงครามี่มีชนวนมาจากการทดลองด้านการตัดต่อพันธุกรรมของมนุษย์เพื่อกำจัด 'ยีนฆาตกร' ออกไป หลังจากนั้นทุกอย่างก็กลายเป็นความผิดพลาดเมื่อยีนเลวๆที่ถูกกำจัดไปจากมนุษย์ก่อให้เกิดผลร้ายแรงที่ตามมา อย่างเช่น เมื่อกำจัดยีนความโง่เขลาออกไป คนๆนั้นก็จะกลายเป็นคนฉลาดแต่ก็ไร้ซึ่งความเมตตา

และ 'ไดเวอร์เจนท์' คือผลสัมฤทธิ์ของการทดลองที่ทำให้มนุษย์กลับมามียีนบริสุทธิ์อีกครั้ง ส่วนเผ่าต่างๆนั้นล้วนเป็นมนุษย์ที่ความบกพร่องทางพันธุกรรม

ทริซได้รู้เรื่องราวของแม่ตัวเองมากขึ้นเมื่อเธอค้นพบว่าแม่ของเธอมาจากโลกภายนอกและเข้าไปอยู่ในเมืองเพื่อแก้ไขปัญหาการเข่นฆ่าไดเวอร์เจนท์จนให้กำเนิดทริซกับเคเล็บ ในขณะที่ทริซและโทไบอัสเข้ารับการตรวจสอบยีน ผลการตรวจของทริซคือหล่อนเป็นไดเวอร์เจนท์แท้ๆ แต่โทไบอัสกลับไม่ใช่ไดเวอร์เจนท์จริงๆ เขายังมีความบกพร่องทางพันธุกรรมอยู่ และเขามียีนผิดปกติที่ทำให้รู้สึกตัวระหว่างซิมูเลชั่น นั่นจึงทำให้เขาคิดว่าตัวเองเป็นไดเวอร์เจนท์มาโดยตลอด

โทไบอัสได้ถูกนิต้า ผู้ที่เป็นจีดี คือคนที่มีความบกพร่องทางพันธุกรรมชักชวนเข้ากลุ่มต่อต้านกรมพัฒนากิจการด้านพันธุกรรม โดยชี้ให้เห็นว่ามนุษย์ที่มียีนบริสุทธิ์อย่างไดเวอร์เจนท์ก็สามารถก่อให้เกิดสงครามได้พอๆกับคนที่มีความบกพร่องทางพันธุกรรม งั้นการทดลองทั้งหมดจะมีไปเพื่ออะไรถ้าไม่ใช่ทัศนคติผิดๆของคนในกรมที่มีต่อคนที่มีความบกพร่องทางพันธุกรรม

โทไบอัสบอกทริซเรื่องแผนการณ์ของนิต้าและพาทั้งคู่ไปพบกับเธอ นิต้าเผยให้ฟังถึงแผนการของกรมที่เคยมอบเซรุ่มให้เออรูไดต์ใช้ในการบุกโจมตีแอ๊บเนเกชั่น และนิต้ายังมีแผนการณ์ที่จะขโทยเซรุ่มลบความทรงจำของกรมเพื่อไปทำลาย แต่ความจริงหาเป็นเช่นนั้นไม่  เมื่อทริซค้นพบว่าจริงๆแล้วนิต้าต้องการเซรุ่มมรณะของกรมที่มีความสามารถในการสังหารหมู่ผู้คนต่างหาก

โทไอบัสไม่เชื่อคำเตือนของทริซว่านิต้ามีเจตนาแฝง นั่นทำให้ยูไรห์ น้องชายของเพื่อนสนิทขิงอโทไบอัสต้องบาดเจ็บสาหัส โทไบอัสกับทริซทะเลาะกันอย่างแรงเนื่องจากความผิดพลาดในการตัดสินใจขอเขาและการที่ไม่ยอมเชื่อทริซตั้งแต่แรก

ตอนนี้ทริซวางแผนว่าจะเปิดโปงความคิดของกรมว่าพวกเขาเป็นคนทำลายแอ๊บเนเกชั่นโดยใช้สัตยเซรุ่ม แต่เมื่อทริซได้ล่วงรู้แผนการณ์ของเดวิดที่ต้องการจะลบความทรงจำของคนทั้งหมดที่อยู่ในชิคาโก เมืองที่เธอเคยอาศัยอยู่ เนื่องจากเกิดการจราจลขึ้นในเมืองชิคาโกโดยเป็นฝีมือของอัลลีเจนท์ที่บุกปล้นคลังแสงของเอเวอลีนและมีการล้มตายเกิดขึ้น ทริซก็มีเวลาอีกแค่สี่สิบแปดชั่วโมงก่อนที่เดวิดจะลงมือลบความทรงจำของผู้คนทั้งหมด

เคเล็บเสียสละตัวเองเพื่อบุกเข้าไปในห้องที่เก็บเซรุ่มลบความทรงจำเอาไว้ แต่วินาทีสุดท้าย ... ทริซก็ไม่อาจปล่อยให้พี่ชายตัวเองเสียสละเช่นนี้ได้ เธอรักเขา และการเสียสละเพื่อคนที่เรารักถึงจะเป็นการเสียสละที่แท้จริง

โทไบอัสเกลี้ยกล่อมให้เอเวอลีน แม่ของเขายอมสงบศึกกับอัลลีเจนท์ได้ และนั่นคือการยับยั้งสงครามที่กำลังจะเกิดขึ้น เมื่อโทไบอัสกลับมายังกรม เขาถึงได้รู้ว่า ... ทริซตายแล้ว ทริซของเขาตายแล้ว

ทุกคนปลูกฝังให้มนุษย์ที่มียีนบริสุทธิ์ได้รู้ว่าผู้คนที่มีความบกพร่องทางพันธุกรรมก็ไม่ได้แตกต่างอะไรจากพวกเขาเลย ทุกคนล้วนแต่สามารถทำเรื่องผิดพลาดขึ้นมาได้ ไม่สำคัญว่ายีนของพวกเขาจะมีลักษณะเป็นอย่างไรก็ตาม ...

เรื่องราวก็จบลงโดยที่ Veronica ทิ้ง impact ให้แก่คนอ่าน และเป็นตอนจบของนิยายที่ทั้งเศร้าและหน่วง แต่สำหรับเรา เราคิดว่าตอนจบแบบนี้มันดู real ที่สุด เพราะนิยายเรื่องนี้ไม่ใช่เทพนิยายที่ท้ายสุดแล้วพระนางก็จะลงเอยด้วยกันอย่างมีความสุข แต่นี่คือชีวิต ชีวิตที่เมื่อคนที่เรารักต่างล้มตายลง คนที่เหลือก็ต้องก้าวเดินต่อไป ...

สำหรับเล่มนี้ ... เราว่าความสนุกดรอปลงจาก Insurgent นะ ทำให้ระดับของความตื่นเต้นอยู่ในระดับเดียวกับ Divergent และตอนต้นๆเรื่อง ... Veronica ปูเนื้อเรื่องไว้น่าสนใจมากๆ แต่พอมาถึงกลางๆเรื่อง เนื้อเรื่องกลับเอื่อยเฉื่อย ขาดความน่าตื่นเต้น ความสนใจในการอ่านเลยลดลง เมื่อมาถึงตอนสุดท้ายซึ่งเป็นไคลแม็กซ์ของหนังสือเล่มนี้ เราคิดว่าเรื่องทุกอย่างมันคลี่คลายง่ายเกินไป อย่างเช่น ...เอเวอลีนสามารถละทิ้งอำนาจของเธอเพียงแค่โทไบอัสอยากให้เธอกลับมาเป็นแม่ที่ดูแลเขาอีกครั้ง(เราว่ามันยังไม่หนักแน่นพอ ถึงแม้ว่าจะเป็นสิ่งที่ถูกก็ตามที่เอเวอลีนจะทำแบบนี้ เพราะเธอเป็นแม่ แต่อย่างน้อยก็ต้องเกิดความขัดแย้งขึ้นในจิตใจบ้างแหละ ว่าในเมื่อเราทำถึงขนาดนี้ จะไม่เสียดายเหรอถ้าจะละทิ้งทุกสิ่งไปง่ายๆขนาดนั้น)

เราว่าเป็นตอนจบของซีรีย์ที่รู้สึกเรื่อยๆ ไม่ได้รู้สึกว๊าวววววอะไรมากมาย ถือว่าอ่านจบก็ อืม ! จบแล้วสินะ อารมณ์เดียวกับตอนอ่าน Mockingjay จบเลย

คะแนน 8/10

Jun 10, 2014

Dark Desires After Dusk (Immortals After Dark #6)



ชื่อเรื่อง Dark Desires After Dusk
ผู้แต่ง เครสลีย์ โคล
โรมานซ์ เหนือจริง
สำนักพิมพ์ Simon & Schuster

เรื่องย่อ

RITA Award-winning author Kresley Cole continues her bestselling Immortals After Dark series with this electrifying tale of a ruthless demon mercenary and the lovely young halfling who enchants him.
A seductive beauty he can never have, yet can't resist...
Cadeon Woede will stop at nothing to atone for the one wrong that will haunt him forever. But once he secures the key to his redemption, the halfling Holly Ashwin, Cade finds that the woman he thought he could use for his own ends and then forget haunts him as much as his past.

A tormented warrior she should fear, but can't deny...
Raised as a human, Holly never knew that some frightening legends are real until she encounters a brutal demon who inexplicably guards her like a treasure. Thrust into a sensual new world of myth and power, with him as her protector, she begins to crave the demon's wicked touch.

Surrender to dark desires...
Yet just when he earns Holly's trust, will Cade be forced to betray the only woman who can sate his wildest needs -- and claim his heart?

REVIEW

... จะทำอย่างไร ? ถ้าผู้หญิงที่ชะตาลิขิตมาให้ คือเครื่องมือเพียงชิ้นเดียวที่สามารถแก้ไขความผิดพลาดและนำบัลลังก์กลับคืนมาสู่พี่ชายของเขา ...

เคดิออน โรธ หรือน้องชายแท้ๆของไรด์สตอร์มที่ต้องการทวงบัลลังก์กษัตริย์ที่ถูกชิงไปคืน บัดนี้เขาได้รับโอกาสอีกครั้งในการพิชิตโอมอร์ท ผู้เป็นอมตะอีกครั้ง เขาต้องตามหา the Vessel ซึ่งได้รับคำบอกใบ้มาว่าเป็นหญิงสาวเผ่าวัลคีรีคนหนึ่ง ประจวบเหมาะกับที่ฮอลลี่ แอชวิน หญิงสาวที่ถูกลิขิตให้มาคู่กับเคด เขาเฝ้าคอยติดตาม ปกป้องหล่อนมาร่วมปี และรู้ว่าหล่อนเป็นผู้หญิงที่ถูกส่งให้มาคู่กับเขา แต่บัดนี้หล่อนกลับถูกลักพาตัวไป เคดไม่คิดว่าหล่อนจะเป็น the Vessel คนนั้นเพราะฮอลลี่ไม่ใช่วัลคีรี แม้ว่ารูปร่างหน้าตาของหล่อนจะคล้ายก็ตาม

Jun 9, 2014

ไฟเสน่หา - Tempted

ชื่อเรื่อง ไฟเสน่หา
จากเรื่อง Tempted
ผู้แต่ง เวอร์จิเนีย เฮนรี่
โรมานซ์ ย้อนยุค
ผู้แปล สีตา
สำนักพิมพ์ แก้วกานต์

เรื่องย่อ

ผู้ชายทุกคนปรารถนาสาวงามที่ถูกเรียกว่าแม่ไฟพะเนียงทีน่า ชื่อนี้ได้มาจากเรือนผมสีเปลวเพลิงและอารมณ์ร้อนแรงดุเดือด ที่ไหลแล่นอยู่ในสายเลือดของเลดี้วาเลนติน่า เคเนดี้ ทีน่า ถูกบังคับให้แต่งงานกับนักรบดุร้ายของเผ่าที่เป็นศัตรู หล่อนลั่นวาจาว่าจะใช้ความงามอันร้อนแรง เป็นเครื่องช่วยให้มีอำนาจเหนือลอร์ดแรมเซย์ ดักลาสผู้ดุร้ายให้จงได้
แรมสาบานว่าจะทำลายทิฐิแข็งกร้าว และทำให้วาเลนติน่าผู้แสนพยศกลายเป็นภรรยาที่ดีให้ได้ แต่สาวน้อยที่เขาตั้งใจจะปราบให้เชื่องกลับกลายเป็นผู้หญิงที่สอนเขาให้รู้ว่า การถูกยั่วเย้าอย่างร้อนแรงบ้าคลั่งนั้นเป็นฉันใด...

REVIEW

วาเลนทีน่า เคนเนดี้ สาวผมแดงที่ถูกผู้ชายหลายคนหมายปอง แต่หล่อนปฏิเสธทุกคำขอแต่งงาน ทีน่ารักการใช้ชีวิตอย่างท้าทาย หล่อนเดินทางไปยังคาราวานของเหล่ายิปซี ในขณะที่เหล่าพี่ชายของหล่อนบุกปล้นแกะ วัวของแคลนดักลาสอย่างสนุกสนาน และนั่นทำให้เดวี่ น้องชายของทีน่าถูกพวกดักลาสจับตัวไป

แรมเซย์ ดักลาส ลอร์ดหนุ่มผิวคล้ำ มีนิสัยแข็งกร้าว เขาชอบเที่ยวผู้หญิง แต่เมื่อเขาได้เห็นทีน่าแล้ว เขาก็ปราถนาในตัวหล่อน และโชคก็เหมือนจะเข้าข้างเขา เมื่อทีน่ามาตามหาตัวน้องชายขงหล่อนที่ถูกดักลาสจับตัวไป ทำให้หล่อนได้พบกับแรมผู้กร้าวกระด้าง ทีน่าแกล้งทำเป็นหญิงผู้เสียความทรงจำเพื่อทำให้แผนการณ์ของหล่อนที่จะพาเดวี่กลับมาง่ายยิ่งขึ้น

ทีน่าพาเดวี่กลับบ้านได้สำเร็จ แต่เมื่อแรมเซย์รู้ เขาก็โกรธหัวฟัดหัวเหวี่ยงที่โดนผู้หญิงอย่างหลอนหลอกเอาได้ แรมจึงจัดการปล้นสัตว์ตามแคลนต่างๆ แล้วเอาไปไว้อีกแคลนหนึ่งเพื่อให้ผู้คนเข้าใจผิดว่า แต่ละแคลนนั้นทรยศหักหลังกัน

เอิร์ลแห่งแต่ละแคลนเห็นสัตว์มี่ถูกขโมยไปของตนมาอยู่ที่ดูนของเคนเนดี้ พวกเขาโกรธมาก แต่ทีน่าก็สามารถหาทางออกได้แล้วบอกพวกนั้นไปว่า ทั้งหมดนี้เป็นฝีมือของเหล่าดักลาส นั่นทำให้ทั้งหมดเปลี่ยนเป้าหมายไปยังดักลาสแทน

ผู้นำของแคลนทั้งหลายได้เข้าเฝ้าพระราชา รวมถึงวาเลนทีน่าด้วย เมื่อความขัดแย้งทั้งหลายถูกทูลให้พระราชารับทราบ พระองค์ก็เล็งเห็นวิธีการแก้ไขปัญหานั่นก็คือต้องจับลูกสาวทั้งสองทั้งสาวของแคลนเคนเนดี้แต่งงานกับสองแคลนที่เหลือเพื่อเป็นการผูกสัมพันธ์และยุติความขัดแย้ง

แต่แรมเซย์คือชายหนุ่มที่รักอิสระ ไม่ต้องการแต่งงานแม้ว่าจะเลยวัยสามสิบไปแล้ว เขาก็ไม่ต้องการที่จะเอาตัวเองไปผูกมัดกับผู้หญิงสักคนเลยแม้แต่น้อย แต่ในเมื่อเขากลับถูกบังคับให้แต่งงานกับทีน่าจริงๆ แรมกลับเสนอว่าให้ผูกข้อมือกันก่อน ตามธรรมเนียมที่ว่าหากอยู่ร่วมกันไปสักปีหนึ่งแล้ว ทั้งคู่ถึงมีสิทธิ์เลือกว่าจะแต่งงานหรือแยกทางกัน

แรมเซย์ต้องการผู้หญิงผมสีแดงอย่างไฟพะเนียงทีน่าจนบ้าคลั่งตั้งแต่ครั้งแรกที่พบเห็น เขาคิดว่าหล่อนอุ้มท้องของชายอื่นอยู่จึงรีบวิ่งแจ้นมาขอเขาแต่งงาน และเขาก็เรียกสินทรัพย์กับร็อบ เคนเนดี้ บิดาของทีน่าไปไม่ใช่น้อยๆ หากหล่อนก็ช่างยั่วยวนแรมเสียเหลือเกิน จนเขาทนไม่ได้จึงตามไป 'ข่มขืน' ทีน่าถึงห้อง

ทีน่าตกใจมากกับการเสียพรหมจรรย์ครั้งแรกของตัวเอง ความรุนแรงป่าเถื่อนของแรมทำให้หล่อนอยากจะกลับดูน ออกไปจากปราสาทแห่งนี้ แต่เมื่อแรมรู้ว่าทีน่าเป็นสาวพรหมจรรย์ ไม่มีประสบการณ์อย่างว่ามาก่อน เขาก็ยอมอ่อนให้หล่อนและขอโอกาสอีกครั้ง ...

ทีน่าให้โอกาสกับแรม คราวนี้เขาทะนุถถนอมหล่อน แม้ว่าเขาต้องออกไปทำงานและกลับมาหาหล่อนในตอนกลางคืน แต่แรมก็ยังปรนเปรอให้หล่อนไม่ขาด จนกระทั่งเขารู้ว่าตัวเองรักทีน่าเข้าให้แล้ว และมีแผนขอหล่อนแต่งงาน ทีน่ากลับปฎิเสธเขา หล่อนไม่อยากพ่ายแพ้ต่อเขา ทีแรกแรมโมโหหล่อนเมื่อทีน่าหนีไปจากเขาแล้วไปพบกับฮีธ ยิปซีหนุ่มซึ่งเขามารู้ภายหลังว่าเป็นพี่ชายนอกสมรสพ่อเดียวกันกับทีน่า

แรมพาทีน่ากลับมาหาเขาอีกครั้ง คราวนี้เขาถึงกับยอมซื้อข้าวของให้หล่อนเพื่อให้ทีน่าพึงพอใจ ในขณะที่มีข่าวลือว่าลอร์ดเวนเจนส์ ชายหนุ่มปริศนาที่บุกเที่ยวปล้นชายแดนอังกฤษ แต่ทีน่ารู้ในทันทีว่าลอร์ดเวนเจนส์ที่ว่าคือแรมเซย์ ดักลาสของหล่อนนั่นเอง

ทีน่าคิดว่าตัวเองท้อง แต่หล่อนก็ยังปฏิเสธที่จะเป็นภรรยาของแรม แถมยังขู่แรมอีกว่าหล่อนจะดื่มยาทำลายลูกของเขาที่อยู่ในท้องของหล่อน แรมโมโหมาก ในเมื่อเขาทำให้หล่อนถึงขนาดนี้แล้ว ทำไมทีน่าจึงไม่ยอมรับเขา ในขณะที่ทีน่ากลับใช้เรื่องนี้ย้อนกลับมาแก้แค้นแรมเซย์

ทีน่าโดนวางยาพิษจนเธอเสียลูกในท้องไป แต่นั่นไม่ใช่ฝีมือของแรมแน่นอน มีใครต้องการทำร้ายหล่อน แรมดูแลทีน่าด้วยความห่วงใยจนหล่อนหายดี แม้ว่าหล่อนจะแท้งลูก เขาก็ไม่คิดจะทิ้งหล่อนไปแต่อย่างใด แต่เรื่องร้ายๆยังไม่จบแค่นั้น ... เมื่อเดวี่ น้องชายทีน่าที่รู้ความลับว่าลอดร์ดเวนเจมส์คือแรมเซย์ ตอนทีน่าเผลอหลุดปากไปครั้งก่อน นั่นทำให้แรมถูกจับตัว เขาโกรธทีน่าที่หล่อนกล้าหักหลังเขา

ทีน่าบุกไปช่วยแรมถึงอังกฤษ หล่อนใช้เล่ห์อุบายเพื่อนหลอกเฮนรี่ ที่กำลังปกครองอังกฤษอยู่นั้น จนแรมเป็นอิสระ แรมนับถือทีน่าที่หล่อนตามมาช่วยเขา และคลายความระแวงในตัวหล่อนได้สำเร็จ หลังจากนั้นแรมก็พาหล่อนกลับมาที่สกอตแลนด์ ทั้งคู่พัฒนาความสัมพันธ์และทีน่าก็รู้ตัวว่าหล่อนรักแรม และแรมก็รักหล่อนเช่นเดียวกัน ในขณะที่สงครามระหว่างสกอตและอังกฤษกำลังรุกคืบเข้ามา แรมก็ขอทีน่าแต่งงานก่อนที่เขาจะออกไปสู่สนามรบ

แรมได้รับบาดเจ็บกลางสนามรบ แต่ทีน่าไม่เชื่อข่าวที่ถูกส่งมาว่าแรมตายแล้ว หล่อนไปตามหาแรมถึงสนามรบและพบกับแรมในสภาพบาดเจ็บสาหัส ทีน่ารักษาแรมจนหายดี และทั้งคู่ก็ใช้ชีวิตอยู่ที่สกอตอย่างมีความสุข โดยที่กษัตริย์เฮนรี่ไม่สามารถปกครองสกอตได้เพราะน้องสาวของหล่อนที่แต่งงานกับกษัตรย์สกอตที่เพิ่งเสียชีวิตไปขวางทางเขาเอาไว้ และลูกของมาร์กาเร็ต ภริยาของกษัตริย์สกอตก็ขึ้นปกครองเป็นคนต่อไป ...

เล่มนี้เนื้อเรื่องความสัมพันธ์ระหว่างตัวละครไม่ค่อยมีอะไรมาก ประมาณว่าทีน่าถูกบังคับให้แต่งงานกับแรมเซย์ หล่อนต้องการควบคุมเขาโดยใช้กลอุบายทุกอย่างเพราะแรมไม่ใช่ผู้ชายที่จะหยุดอยู่กับผู้หญิงสักคนง่ายๆ แต่เมื่อแรมได้อยู่กับทีน่าและใช้เวลาร่วมกันแล้ว เขาก็หลงรักหล่อน แต่ทีน่ายังทิฐิและใช้ทุกวิถีทางเพื่อแก้แค้นเขา (บางครั้งเราก็ว่าดูงี่เง่ามากๆเลยนะ หัวเสียอย่างไม่มีเหตุผลซะงั้นอ่ะ หล่อนจะฟูมฟายทุกครั้งที่แรมขอหล่อนแต่งงาน -*-)

เหมือนเนื้อเรื่องจะเน้นหนักไปทางสงครามแย่งชิงอำนาจระหว่างประเทศมากกว่า รวมๆกันแล้วตัวละครหลักมีอยู่ไม่กี่ตัว ในขณะที่ตัวเบี้ยในสงครามมีมากมายมหาศาลอ่านแล้วจำชื่อแทบไม่หมด -*-

เหมือนนิยายเล่มนี้จะเขียนไว้ตั้งแต่ปี 1992 สำนวนอาจจะดูโบราณๆไปหน่อย แต่เราว่ามันเข้ากับบรรยากาศย้อนยุคมากๆเลยนะ ผู้คนสมัยก่อนชอบใช้คำว่า อ้ายนั่น อ้ายนี่ ! ตอนแรกอ่านก็ขัดๆนะ แต่พออ่านไปได้สักพักก็เริ่มชิน เนื้อเรื่องไหลรื่น ไม่ได้ไคลแมกซ์มากมายอะไร แต่ความฮ็อตก็ยังอยู่ในระดับทำลายล้างสูงอยู่ดี รู้สึกว่านิยายของ Virginia จะคงความฮ็อตทุกเรื่องเลยนะ ><

คะแนน 8.5/10

Jun 7, 2014

เสน่หาราตรี - Kiss Of The Night (Dark-Hunter #4)


ชื่อเรื่อง พรานราตรี
ตอน เสน่หาราตรี
จากเรื่อง KING OF THE NIGHT
ผู้แต่ง เชอริลีน แคนยอน
โรมานซ์ เหนือจริง
ผู้แปล จิตอุษา
สำนักพิมพ์ แก้วกานต์

เรื่องย่อ

เมื่อวูล์ฟ ทริกกาสัน นักรบไวกิ้งผู้เป็นอมตะได้ไปช่วยผู้หญิงคนหนึ่งที่ตกอยู่ในความยุ่งยาก สิ่งที่เขารู้ต่อมาก็คือ ประตูนรกเปิดออก และพวกดีมอนซึ่งเป็นแวมไพร์ก็ก้าวออกมา เพื่อลบล้างคำสาปที่ขับไล่พวกเขาสู่ความมืดมิดตลอดไป ปัญหาของเรื่องนี้คือพวกเขาต้องฆ่าแคสซานดรา ปีเตอร์สเพื่อยุติคำสาป และถ้าหล่อนตาย ดวงอาทิตย์และโลกพร้อมด้วยผู้อยู่อาศัยก็จะต้องดับสูญไปด้วย
โชคชะตานำเขาและหล่อนมาพบกัน เป็นหน้าที่ของวูล์ฟที่จะต้องปกป้องบุตรสาวของคนในเผ่าที่เขาตามล่ามาหลายศตวรรษ ทั้งคู่ต่างไม่กล้าไว้ใจกัน แต่ด้วยความกล้าหาญและพลัง หล่อนจึงเป็นผู้หญิงเพียงคนเดียวที่สัมผัสหัวใจที่เขาคิดว่าตายดับไปหลายศตวรรษแล้ว
หนทางเดียวที่ดาร์ค-ฮันเตอร์จะได้ดวงวิญญาณคืนก็คือผ่านทางความรักของผู้หญิง แต่จะเกิดอะไรขึ้นเมื่อผู้หญิงคนนั้นไม่ใช่มนุษย์ธรรมดา

REVIEW

วูล์ฟ ทริกกาสันเป็นดาร์คฮันเตอร์ที่ถูกสาปให้ไม่มีใครจำเขาได้ยกเว้นคนที่มีสายเลือดเดียวกับเขา ซึ่งก็เหลืออยู่คนเดียวนั่นก็คริส สไควร์หนุ่มที่อยู่กับวูล์ฟตั้งแต่เจ้าตัวยังเพิ่งเกิด แต่นั่นก็ทำให้วูล์ฟเป็นกังวลถ้าหากคริสไม่มีทายาทสืบสกุลต่อไป เกรงว่าวูล์ฟจะต้องอยู่คนเดียวโดยที่ไม่มีใครจำเขาได้ไปตลอดชีวิตอันเป็นนิรันดร์ของเขา

จนเมื่อวูล์ฟได้พบกับแคสซานดรา หล่อนคือความปราถนาที่เขาหลงลืมไปนานแล้วหลายศตวรรษ ทั้งสองได้ใช้เวลาอยู่ร่วมกันในความฝัน แม้ว่าคาสซานดราจะประหวั่นกับเวลาที่เหลือน้อยลงทุกทีของเธอเมื่อเธอเป็นลูกครึ่งอพอลไลท์ที่จะตายในวันเกิดครบรอบยี่สิบเจ็ดปีของเธอ

สไตรเกอร์คือลูกชายของราชินีแห่งเทพแอตแลนเตียนที่ถูกจองจำไว้นานแสนนาน หรืออีกชื่อหนึ่งของนางคือเดอะเดสทรอยเออร์ หนทางเดียวที่จะทำลายคำสาปของเหล่าอพอลไลท์ก็คือต้องสังหารแคสซานดราซึ่งเป็นทายาทที่เหลือเพียงคนเดียวของเทพอพอลโลทิ้งเสีย

ด้วยคำสั่งของแอชรอน ทำให้วูล์ฟต้องมาอยู่เคียงข้างพร้อมกับปกป้องแคสซานดรา หากหล่อนตาย ดวงอาทิตย์และโลกทั้งใบจะต้องดับสูญ ดังนั้นเขาจึงต้องปกป้องหล่อนเอาไว้อย่างสุดความสามารถ

เมื่อแคท ผู้พิทักษ์ส่วนตัวของแคสซานดรามาแจ้งข่าวว่าหล่อนอุ้มท้องลูกของวูล์ฟอยู่ นั่นทำให้แคสซานดราห่วงชะตากรรมของลูกเธอว่าพวกเขาจะตายในวันเกิดครบรอบยี่สิบเจ็ดปีหรือไม่ แต่นั่นยังไม่น่าห่วงเท่าข่าวสารล่วงเลยไปถึงหูสไตรเกอร์ซึ่งได้รับบัญชามาจากเดอะเดสทรอยเออร์ว่าให้มาฆ่าลูกที่กำลังจะถือกำเนิดจากแคสซานดรา เพราะเขาจะปล่อยให้คำสาปของเหล่าอพอลไลท์ดำเนินต่อไปอีกไม่ได้แล้ว

ยูเรียน บุตรชายของสไตรเกอร์ มาช่วยวูล์ฟและแคสซานดราได้ทันเวลาเมื่อกองทัพดีมอนบุกเข้าโจมตี ยูเรียนเป็นสามีของพี่สาวแคสซานดรา ที่หล่อนเคยคิดว่าตายไปแล้ว แต่แท้จริงหาได้เป็นเช่นนั้นไม่

วูล์ฟและแคสซานดรามาหลบภัยอยู่ที่ชุมชนของเหล่าอพอลไลท์จนกระทั่งวูล์ฟขอแคสซานดราแต่งงานและลูกชายของทั้งคู่ลืมตามาดูโลก แต่สไตรเกอร์กลับข่มขู่เอาตัวอีริก ลูกชายของทั้งคู่โดยการชีวิตพ่อของแคสซานดรามาอ้าง

ทันทีที่วูล์ฟตามไปกำจัดสไตรเกอร์ เขาก็รู้ได้ทันทีว่าทั้งหมดนี้เป็นแผนการณ์เบี่ยงเบนความสนในเพื่อที่ว่าสไตรเกอร์จะได้ทำพรรคพวกของตนเองบุกเข้าไปโจมตีแคสซานดราที่ชุมชนอพอลไลท์ แต่เมื่อได้รับความช่วยเหลือจากแอชรอน ไคเรียน จูเลียน ทาลอน และซาเร็ค ทำให้พวกเขาสามารถปกป้องแคสซานดราและลูกน้อยของหล่อนเอาไว้ได้ ในขณะที่สไตรเกอร์โดนมารดาเรียกตัวถอยกลับไปตั้งหลักใหม่

แอชรอนบางวิธีการทำลายคำสาปอพอลโลของแคสซานดรา โดยทั้งวูล์ฟและแคสซานดราต้องดื่มเลือดของกันและกัน แต่เมื่อทั้งคู่ได้ดื่มเลือดแล้ว แคสซานดรากลับตาย แอชรอนจึงย้อนมาชุบชีวิตให้หล่อน เขาท้าทายเทพแห่งโชคชะตา แต่ถึงกระนั้น ... แคสซานดราก็กลับมามีชีวิตอีกครั้งและหล่อนก็ไม่ต้องตายในวันเกิดครบรอบยี่สิบเจ็ดปีของหล่อนแล้ว

สำหรับเล่มนี้ ... ซับซ้อนกว่าเล่มก่อนๆเพราะมีตำนานของเทพเจ้าแอตแลนเตียนเข้ามาเอี่ยวด้วย ยิ่งทำให้ฐานข้อมูลของนิยายชุดนี้แน่นปึ้กเข้าไปใหญ่ แอบสงสัยว่าถ้าไม่ได้อ่านห้าเล่มรวดแบบนี้ เราจะยังเนื้อหาเล่มก่อนๆแล้วเอามาประติดประต่อกันได้มั้ย เพราะหนังสือแต่ละเล่มของเชอริลีน รายละเอียดจะเยอะแล้วก็มีตัวละครใหม่ๆเข้ามาเพียบ

สำหรับความสัมพันธ์ของวูล์ฟและแคสซานดรา เริ่มต้นอย่างธรรมดาๆมาก แต่เมื่อทั้งคู่มีเซ็กส์กันโดยเป็นแผนการณ์ของเทพีอาร์ทิมิสที่ทำให้แคสซานดรามีทายาทสืบสกุลเพื่อที่เมื่อหล่อนตาย โลกจะไม่ได้ถึงกาลปวสานไปกับเทพอพอลโลด้วย

ความสัมพันธ์ของทั้งคู่ค่อยๆงอกเงยมาจนเป็นความรักในท้ายที่สุด ซึ่งเราว่ามันก้าวกระโดดมากเพราะทั้งสองคนยังไม่ทันรู้จักกันดีถึงขนาดนั้นเลย แต่ถ้าเทียบจากหนังสือ ... เอาเป็นว่าทั้งคู่ก็ใช้เวลาทำความรู้จักกันมากพอแล้วนะ เพราะ Timeline ของเรื่องนี้ไหลไปเร็วมาก(เทียบเท่ากับ timeline ของหนังสือ 2 เล่มก่อนหน้ารวมกันเลยทีเดียว) สองสัปดาห์ผ่านไป ... สามสัปดาห์ผ่านไป ขนาดที่ว่าเรื่องของวูล์ฟเกิดขึ้นพร้อมๆกับเรื่องของทาเลียนในเล่มดั่งดวงตะวัน แต่กลับลงเอยหลังจากซาเร็คในเล่มที่แล้วเลยอ่ะ คิดดูสิว่าใช้เวลานานขนาดไหน แต่เนื้อหาของหนังสือกลับเท่าเล่มก่อนๆ ดังนั้นย่อมมีการ skip เวลาบางช่วงอย่างแน่นอน ถ้าต้องการกระชับเนื้อหาไม่ให้มากจนเกินไป

ถ้า skip ช่วงเวลาเหล่านั้น และเขียนถึงเรื่องราวของวูล์ฟและแคสซานดราในขณะที่ทั้งสองค่อยๆผูกสัมพันธ์ เราว่ามันน่าจะลึกซึ้งกว่านี้สำหรับเนื้อเรื่องตอนท้ายๆที่แคสซานดราจะต้องตาย เพราะเรายังแอบงงๆอยู่ว่า ทำไมทั้งคู่รักกันเร็วเกิ๊น ?

คะแนน 8.5/10

Jun 4, 2014

ระบำมาร - Dance With The Devil (Dark-Hunter #3)


ชื่อเรื่อง พรานราตรี
ตอน ระบำมาร
จากเรื่อง DANCE WITH THE DEVIL
ผู้แต่ง เชอริลีน แคนยอน
โรมานซ์ เหนือจริง
ผู้แปล จิตอุษา
สำนักพิมพ์ แก้วกานต์

เรื่องย่อ

จากการเป็นทาสที่ถูกทารุณโหดร้ายและไม่เป็นที่ต้องการในอดีตชาติ ทำให้ซาเร็ค พรานราตรีหนุ่มเป็นคนกร้าวกระด้าง ไร้ความรัก และไม่ไว้ใจใคร แต่ในราตรีที่แอสทริดเปิดประตูรับเขา จากความหนาวเย็นเข้าสู่ความอบอุ่นภายในบ้านของนาง

ความอ่อนโยนเมตตาของหญิงสาวทำให้ความเป็นสัตว์ร้ายในตัวเขาอ่อนลง ทำให้เขาอยากเป็นมนุษย์ขึ้นมาอีกครั้ง ต้องการความรัก และอยากได้ความรัก แต่อดีตทาสซึ่งถูกเทพีแห่งกรีกผู้เป็นเจ้าของคอยบัญชาชีวิตจะมีวันฝันว่า จะได้รับสัมผัส และความรักจากสาวน้อยผู้งดงามดุจดวงดาวหรือไม่...

REVIEW

เล่มนี้เป็นเล่มที่สนุกมาก ตั้งแต่เราติดตามหนังสือชุดนี้มา เนื้อเรื่องเป็นแนว 'ดอกฟ้ากับหมาวัด' เลยแหละ เพราะนางเอกเป็นเทพ และพระเอกเป็นทาส !

ซาเร็ค ถูกตัดสินโทษโดยเทพีอาร์ทิมิสให้ถึงตายเมื่อเขาทรยศต่อหน้าที่และกฎระเบียบของดาร์ค-ฮันเตอร์โดยการไปร่วมมือกับฝ่ายศัตรูในเล่มที่แล้ว แต่แอชรอนกลับขอโอกาสและความยุติธรรมให้ซาเร็คโดยการส่งตัวแอสทริดเป็นคนพิพากษาเขาว่าเขาสมควรตายหรือมีชีวิตอยู่ต่อ

ซาเร็คเป็นคนกร้าวกระด้างต่อทุกสิ่งอย่างเนื่องจากอดีตอันโหดร้ายทารุณของเขา เขาเคยเป็นทาส ต่ำต้อย และไม่เป็นที่ต้องการ เขาถูกโบยตีโดยฝีมือพี่น้องของเขาจนเลือดอาบครั้งแล้วครั้งเล่า จนเมื่อเขากลายมาเป็นดาร์ค-ฮันเตอร์ ซาเร็คไม่เคยสนใจต่อสิ่งใดอีกเลย แต่เมื่อเขาเจอกับแอสทริด ความรู้สึกแปลกๆบางอย่างก็เกิดขึ้นกับเขา หล่อนมาเพื่อตัดสินเขาและรับรู้ถึงอดีตอันแสนโหดร้ายร่วมกับเขาไปด้วย

แอสทริดได้รับความช่วยเหลือให้สามารถเดินทางเข้าไปเป็นส่วนหนึ่งในฝันของซาเร็คได้ ที่นั่นหล่อนเห็นอดีตอันแสนเจ็บปวดของเขาทั้งหมด หล่อนอยากปลอบประโลมเขา และเมื่อแอสทริดได้เห็นด้านที่อ่อนโยนและต้องการหล่อนอย่างสุดหัวใจของซาเร็คแล้ว หล่อนก็ร่วมรักกับเขา และนั่นก็คือครั้งแรกที่ซาเร็คได้ร่วมรักกับผู้หญิงสักคนอย่างแท้จริงเป็นครั้งแรกเหมือนกัน

ธานาทอสถูกเทพอาร์ทิมิสส่งมาเพื่อกำจัดซาเร็คในตอนแรก แต่เมื่อแอชรอนยื่นข้อเสนอกับอาร์ทิมิสว่าให้แอสทริดลงมาตัดสินซาเร็ค อาร์ทิมิสจึงพยายามเรียกตัวทานาทอสกลับ แต่โชคร้ายที่หล่อนไม่สามารถคุมธานาทอสได้อีกแล้ว เมื่อธานานอสไปเข้าร่วมกับพวกกลุ่มดีมอน

เจสส์คือเพื่อนสนิทเพียงคนเดียวของซาเร็ค และเขารู้จักซาเร็คมากพอที่จะช่วยให้ซาเร็คได้รับบาดเจ็บและพบกับแอสทริดในค่ำคืนที่ซาเร็คถูกตามล่า

แอสทริดไม่สามารถตัดสินซาเร็คได้ในเมื่อหล่อนเกิดรักชายหนุ่มขึ้นมา ในขณะที่ซาเร็คก็เปิดใจยอมให้แอสทริดเจาะปราการหัวใจอันแน่นหนาของเขา จนซาเร็คสามารถสัมผัสความรู้สึกที่เขาไม่เคยได้รับมาก่อนเป็นครั้งแรกในชีวิตของเขา และเขายอมเปิดใจให้หล่อนรู้ถึงสาเหตุการตายของเขา ยอมปกป้องหล่อยด้วยชีวิตของเขาเมื่อธานาทอสตามล่าทั้งคู่และหมายปองชีวิตหล่อน

เมื่อซาเร็คกำราบทานานอสลงได้ และได้รู้ความจริงว่าเขาไม่ได้เป็นคนเผาและสังหารคนในหมู่บ้านแห่งนั้น ทั้งหมดเกิดจากฝีมือของธานาทอสคนที่แล้ว และซาเร็คได้พลั้งมือฆ่าเมียของธานานอสคนปัจจุบันเพื่อให้ได้เข้าถึงตัวธานาทอสคนที่แล้ว แต่แอชรอนกลับยับยั้งซาเร็คเอาไว้และกำจัดธานาทอส หลังจากนั้นแอชรอนจะปิดกั้นความทรงจำจากซาเร็คเพื่อไม่ให้เขารู้อะไรเกินความจำเป็นถึงพลังและความสามารถของแอชรอน

เมื่อแอสทริดตัดสินได้ว่าซาเร็คบริสุทธิ์ ก็ถึงเวลาที่ซาเร็คต้องปล่อยหล่อนไป แม้ว่าใจเขาจะรวดร้าวมากเพียงใดก็ตาม เขาอยากให้หล่อนอยู่กับเขา เขาไม่อยากปล่อยหล่อนไป แต่เขาจะทำยังไงได้ละ...ดวงดาวไม่สมควรจะต้องร่วงลงสู่พื้นพสุธาเพื่ออยู่กับเขาเสียหน่อย ซาเร็คจึงปล่อยหล่อนไป

แอชรอนพาซาเร็คกลับไปหาแอสทริดอีกครั้งเมื่อเขาคิดได้ว่าทุกคนยังต้องการความรักเสมอ และซาเร็คสมควรจะได้รับโอกาสนั้นเหมือนกันหลังจากที่เขาได้ช่วยเหลือปีศาจน้อยที่ได้รับบาดเจ็บของแอชรอนเอาไว้ ซาเร็คจึงไปหาแอสทริดและบอกว่าเขารักหล่อน ต้องการจะอยู่กับหล่อน ทั้งคู่จึงลงเอยด้วยกันด้วยความเป็นอมตะของทั้งสองฝ่าย และซาเร็คก็เป็นอิสระจากเทพีอาร์ทิมิสเพราะนางไม่ได้เอาวิญญาณของเขาไปตั้งแต่ทีแรกแล้ว

... ... ... เล่มนี้ซึ้งมากๆๆๆๆๆเลย ทำเราร้องไห้ไปสองสามรอบได้ ไม่ใช่เพราะความรันทดหดหู่หรืออะไรด้วยนะ  แต่เป็นเพราะความรู้สึกของซาเร็คที่ทำให้เราได้รู้ว่า คนหยาบกระด้างอย่างเขา เมื่อได้ลองรักใครแล้ว ความรักนั้นย่อมบริสุทธิ์สวยงามเกินกว่าที่ใครๆจะนึกถึง

ยิ่งตอนที่หลังจากแอสทริดจากซาเร็คไปแล้ว และเขากอดเสื้อโค้ตที่เคยปูให้แอสทริดนอนและยังมีกลิ่นของหล่อนติดอยู่แล้วซาเร็คก็ร้องไห้ เรานี่ร้องตามเลยนะ ! ปกติเราไม่ใช่คนจะร้องไห้ให้กับนิยายเรื่องไหนง่ายๆนะเนี่ย แล้วก็มีหลายประโยคที่ได้อ่านแล้วประทับใจมากๆอย่างเช่น ...

" ... ฉันไม่ได้เป็นอะไรมากไปกว่าไอ้คนห่วยๆที่มีโอกาสได้เอื้อมแตะดวงดาว " - ซาเร็ค
" ทุกคนสมควรที่จะได้รับความรัก " - แอชรอน

ประทับใจมาก อ่านจบแล้วยังประทับใจอยู่เลย นี่คงเป็นหนังสือเล่มแรกของชุดนี้ที่เราคิดว่าสนุกสุดๆและสมควรได้รับคะแนนเต็มสิบเป็นเล่มแรกของชุด เพราะเนื้อเรื่องสนุกกว่าเล่มก่อนๆหน้าเสียอีก อารมณ์ความรู้สึกของตัวละครที่อ่านแล้วอินมาก อินทุกบรรทัด ชอบซาเร็คจากที่เป็นคนกร้าวกระด้างกลายมาเป็นคนเชื่องๆได้

คะแนน 10/10

Jun 3, 2014

ดั่งดวงตะวัน - Night Embrace (Dark-Hunter #2)


ชื่อเรื่อง พรานราตรี
ตอน ดั่งดวงตะวัน
จากเรื่อง NIGHT EMBRACE
ผู้แต่ง เชอริลีน แคนยอน
โรมานซ์ เหนือจริง
ผู้แปล จิตอุษา
สำนักพิมพ์ แก้วกานต์

เรื่องย่อ

พรานราตรีคือบรรดานักรบโบราณที่ได้รับการปลดปล่อยมาสู่โลกสมัยใหม่ เพื่อปกป้องมนุษย์จากปิศาจชั่วร้าย
ทาลอนเป็นหนึ่งในพรานราตรี ขณะที่เข้าช่วยปกป้องสาวสวยนางหนึ่งจากฝูงปิศาจ เขาก็ถูกรถขบวนแห่มาร์ดีกราส์คันหนึ่งแล่นชน แต่ซันไชน์ รันนิ่งวูลฟ์ผู้ร่าเริงแจ่มใสและงดงามดุจดวงตะวันช่วยชีวิตเขาไว้ หล่อนเป็นสตรีที่เหมาะกับพรานราตรีเช่นเขา เพราะไม่ต้องการอะไรที่เลยพ้นคืนนี้ไป ไม่ว่าจะความผูกพันหรือพันธะอันยาวนาน
แต่ทุกครั้งที่ทาลอนมองหล่อน ความใฝ่ฝันที่ฝังไว้เมื่อหลายร้อยปีก่อนก็ผุดพลุ่งขึ้นมาใหม่ แต่สำหรับเขาแล้ว การรักหล่อนนั้นหมายถึงการตายของหล่อน เขาถูกสาปไม่ให้พบความสงบหรือความสุข ศัตรูของเขารอคอยอยู่ในความมืดเพื่อทำลายเขาและสตรีที่เขารัก...

REVIEW

ทาลอนสูญเสียคนที่เขารักไปจนหมด รวมถึงภรรยาอันเป็นที่รักของเขา อันเนื่องมาจากคำสาปแช่งที่เขาได้รับมา ทำให้คนรอบข้างเขาต่างล้มตายไปทีละคน เมื่อเขากลายมาเป็นดาร์ค-ฮันเตอร์ ทาลอนก็เลือกที่จะขจัดอารมณ์ความรู้สึกทั้งหลายจนหมด แต่เมื่อเขาได้ะบกับซันไชน์ หล่อนเป็นศิลปิน เป็นผู้หญิงที่เขาไม่เคยได้สัมผัสมาก่อนตลอดหลายศตวรรษที่ผ่านมานี้ ซันไชน์ทำให้เขาเกิดความรู้สึกที่เขาหลงลืมไปนานมากแล้วขึ้นมาใหม่

ซันไชน์ฝันเห็นว่าหล่อนเคยเป็นนีเนีย ภรรยาสุดที่รักของทาลอนเมื่อชาติภพที่แล้ว ทั้งคู่เป็นรักแรกของกันและกัน ต่อมา ... ทาลอนสูญเสียนีเนียและลูกชายไปในการคลอดของภรรยา แต่ถึงกระนั้น ... แม้ว่านีเนียจะตายไปแล้ว และทาลอนก็ปราถนาในตัวของซันไชน์พอๆกับนีเนียของเขา แต่เขาก็จะไม่ยอมให้ตัวเองถลำลึกลงไปในความรู้สึกนั้นเด็ดขาด ดาร์ค-ฮันเตอร์คือหน้าที่ทั้งหมดของเขา ดังนั้นเขาจึงจะมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งกับหล่อนไม่ได้

เมื่อแคมูลัส เทพเจ้าที่เคยสาปส่งทาลอนกลับมาป่วนในชีวิตของเขาอีกครั้ง คราวนี้แคมูลัสมีแผนที่จะพรากซันไชน์ไปจากเขา ทาลอนจะไม่ยอมให้เป็นอย่างนั้นอีกแน่ๆ เขาจะไม่มีทางสูญเสียหล่อนไปอีกครั้งเป็นอันขาด

ทางด้านแอชรอน หัวหน้าของเหล่าดาร์ค-ฮันเตอร์ที่มีอายุยืนยาวมามากกว่าหนึ่งหมื่นปี เขาต้องรับมือกับความยุ่งยากที่เกิดขึ้น ทั้งเรื่องของซาเร็คที่ดูเหมือนจะตกเป็นผู้ต้องสงสัยสังหารมนุษย์ตามท้องถนน และพี่น้องของเขาที่มีหน้าตาเหมือนกับแอชรอนราวกับแกะที่กลับมาเพื่อท้าทายเขา ไหนจะเรื่องของสองพี่น้องเวนกับแฟ็งอีกที่มีบทบาทสำคัญ ทั้งคู่เป็นเวอร์-ฮันเตอร์ที่สามารถกลายร่างเป็นหมาป่าได้

ทาลอนต้องปล่อยซันไชน์ไป เพราะการรักหล่อนหมายถึงความตายของหล่อน ทาลอนขอร้องให้คิวปิดยิงศรตะกั่วในซันไชน์เพื่อที่หล่อนจะได้เกลียดเขาไปตลอดกาล แต่ศรกลับไม่มีผลใดๆต่อหล่อนเพราะเขาและซันไชน์เป็นคู่วิญญาณของกันและกัน ไม่ว่าอีกกี่ชาติภพ ทั้งคู่ก็จะกลับมาคู่กันอยู่ดี

ซันไซน์เผชิญหน้ากับแคมูลัสอีกครั้ง คราวนี้เขาเสนอวิญญาณของหล่อนกับการถอนคำสาปให้ทาลอน

ทาลอนมาช่วยชีวิตซันไชน์ไว้เมื่อสายเกินไป หล่อนถูกแคมูลัสทำร้ายจนสาหัสถึงแก่ชีวิต ทาลอนจึงรักษาหล่อนและรับเอาบาดแผลทั้งหมดมาไว้เสียเอง แม้ว่านั่นจะหมายถึงความตายของเขาก็ตาม

แอชรอนขอให้อาร์ทิมิสคืนวิญญาณให้แก่ทาลอนโดยแลกเปลี่ยนกับตัวเขา เมื่อทาลอนได้วิญญาณของตนคืนมาอีกครั้ง พี่น้องฝาแฝดของแอชรอนที่มีเป้าหมายทำลายโลกใบนี้โดยการปลดปล่อยเดอะเดสทรอยเออร์ออกมาก็ถูกอาร์ทิมิสส่งไปยังตรุทาร์ทารัส และทาลอนกับซันไชน์ก็ได้ใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันบนความเป็นอมตะชั่วนิรันดร์

.... .... อืม เราว่าเล่มนี้จบง่ายไปหน่อย(อีกแล้ว) หลังจากที่ทาลอนกับซันไชน์เผชิญอะไรต่อมิอะไรด้วยกันมา สุดท้ายก็กลับได้รับความช่วยเหลือจากเทพเจ้าในการแก้ไขปัญหาทั้งสิ้น ทาลอนแทบไม่ต้องต่อสู้อะไรเลยกับการจัดการศัตรูของเขา

แล้วไหนจะเรื่องนีเนีย ที่ดูเหมือนจะกลับชาติมาเกิดเป็นซันไชน์ แต่ความจริงแล้วไม่ใช่คนๆเดียวกัน มันทำให้คนอ่านรู้สึกสับสนว่าที่แท้จริงแล้วทาลอนรักผู้หญิงคนเดียวเท่านั้น(ทั้งภพก่อนหน้าและภพนี้) หรือรักผู้หญิงสองคนที่มีจิตวิญญาณเป็นดวงเดียวกัน เราว่าประเด็นมันไม่ค่อยเคลียร์นะ บางแง่มุมผู้เขียนก็ดูเหมือนจะจงใจให้ความรักของทาลอนที่มีให้นีเนียคือความรักที่มีให้กับซันไชน์เหมือนกัน บางครั้งก็ดูเหมือนทาลอนรักซันไชน์มากกว่า เพราะนีเนียของเขาตายไปแล้ว โดยตอนจบซันไชน์ยังสงสัยในเรื่องนั้นเลยว่าทาลอนอาจจะยังรักนีเนียอยู่ (ซึ่งจริงๆก็คือตัวซันไชน์นี่แหละ) เหมือนประเด็นนี้จะไม่ค่อยชัดเจนเลยอ่ะในความรู้สึกเรา

เล่มที่แล้วสนุกกว่าเล่มนี้นะ ทางด้านความเข้มข้นของอารมณ์ความรู้สึก หรือการดำเนินเรื่อง เล่มนี้มีตัวละครเพิ่มขึ้นเยอะไปหน่อยจนทำให้เนื้อเรื่องดูกร่อยๆไปบ้างเป็นบางตอน แต่ความสนุกก็ยังอยู่ในระดับเกรด B อยู่นะ

คะแนน 8.5/10 

Jun 1, 2014

ทาสเสน่หา - Night Pleasures (Dark-Hunter #1)


ชื่อเรื่อง พรานราตรี
ตอน ทาสเสน่หา
จากเรื่อง Night Plesures
ผู้แต่ง เชอริลีน แคนยอน
โรมานซ์ เหนือจริง
ผู้แปล จิตอุษา
สำนักพิมพ์ แก้วกานต์

เรื่องย่อ

อแมนด้า เดเวอโรซ์ เติบโตมาในครอบครัวที่เชื่อเรื่องเหนือธรรมชาติ หล่อนมีน้องสาวฝาแฝดเป็นนักล่าผีดูดเลือด ความประหลาดของครอบครัวทำให้อแมนด้าต้องเลิกรากับคนรัก คืนหนึ่งหล่อนเข้าไปในบ้านน้องสาวและถูกตีศีรษะจนสลบ เมื่อฟื้นขึ้นมาก็พบว่าถูกล่ามข้อมือติดกับชายหนุ่มแปลกหน้าผมสีทองอร่ามและมีเขี้ยวขาววาววับ
ไคเรียนแห่งเทรซเป็นพรานราตรีซึ่งมีภารกิจในการตามล่าสังหารปิศาจร้ายกลายพันธุ์ที่สูบเลือดและวิญญาณมนุษย์เลี้ยงชีพ เมื่ออแมนด้าต้องมาอยู่ภายใต้การคุ้มกันของเขา สองหนุ่มสาวต่างต้องติดใจกันและกัน แต่ทั้งสองไม่มีทางร่วมชีวิตกันได้เพราะอแมนด้าเป็นมนุษย์ ส่วนไคเรียนมีชีวิตที่เป็นอมตะและไร้วิญญาณ และอยู่ได้แต่ในยามราตรีเท่านั้น สองหนุ่มสาวจะฟันฝ่าอุปสรรคเพื่อให้มีชีวิตร่วมกันและปราบปิศาจร้ายได้ด้วยวิธีไหน...

REVIEW

ไคเรียนแห่งเทรซเป็นชายหนุ่มที่ถูกภรรยาของเขาทรยศจนทำให้เขาต้องกลายมาเป็นดาร์ค-ฮันเตอร์ ไคเรียนไม่สามารถไว้ใจใครได้อีกต่อไป เขาปิดกั้นหัวใจของตัวเองเพราะเขาเชื่อว่าไม่มีใครสามารถที่จะเราเขาจริงๆได้ จนกระทั่งเขาได้พบกับอแมนด้า หล่อนจุดเพลิงปราถนาในตัวของเขาขึ้นมาอีกครั้ง ไคเรียนต้องปกป้องเธอจากเดซิเดอริอัส แวมไพร์ชั่วร้านที่ดูดวิญญาณของมนุษย์เพื่อให้ตนเองสามารถดำรงอยู่ต่อไปได้

ชีวิตของอแมนด้าเปลี่ยนหน้ามือเป็นหลังมือเมื่อไคเรียนเข้ามาในชีวิตของหล่อน เขาคือชายหนุ่มที่น่าหลงใหล เร่าร้อน และหล่อนปราถนาในตัวของเขา ครั้งแรกหล่อนถูกล็อคกุญแจมือไว้กับไคเรียนทำให้ทั้งคู่ต้องระเห็ดเอาชีวิตรอดไปขอความช่วยเหลือจากจูเลียนในท้ายที่สุดก่อนที่ไคเรียนจะเริ่มเผยความลับของเขาและสิ่งที่เขาเป็นให้หล่อนได้รับรู้

ในโลกที่อแมนด้าไม่อยากจะเชื่อว่ามีอยู่จริงนั้น มีเหล่าพรานที่คอยปกป้องเหล่ามนุษย์อยู่นั่นก็คือ ดาร์ค-ฮันเตอร์ เวอร์-ฮันเตอร์ และดรีม-ฮันเตอร์ ทั้งสามกลุ่มนี้มีพลังความสามารถที่แตกต่างกันออกไปและรับใช้เทพทพอาร์ทิมิส ในขณะที่อพอลไลท์คือบุตรแห่งเอพอลโลที่ทรยศหักหลังบิดาผู้ให้กำเนิดของเขาจนต้องคำสาปให้มีอายุยืนยาวแค่ยี่สิบเจ็ดปี หนทางเดียวที่พวกเขาจะสามารถต่อชีวิตตัวเองได้ก็คือการกลายเป็นดีมอนและสูบวิญญาณของมนุษย์เข้าไปเพื่อดำรงชีวิต

บ้านของอแมนด้าถูกเผานั่นทำให้หล่อนต้องมาอาศัยอยู่กัลไคเรียน คืนนั้นหล่อนฝันเห็นอดีตของไคเรียน รู้ว่าเขาถูกธีโอนี ภรรยาของเขาทรยศได้อย่างไร ธีโอนีไม่เคยรักไคเรียนเลย และทรยศเขาไปเข้าร่วมกับฝ่ายศัตรูเพื่อความอยู่รอดของตัวเอง ไคเรียนจึงต้องตายและกลายเป็นดาร์ค-ฮันเตอร์ในเวลาต่อมา

อแมนด้าสงสารไคเรียนที่เขาต้องเผชิญกับเรื่องนี้ตามลำพังมาตลอดสองพันปี หล่อนอยากปลอบโยนเขา นั่นทำให้อแมนด้าตัดสินใจไปหาไคเรียนที่ห้อง และเป็นครั้งแรกที่เขายอมปล่อยให้ตัวเองมีเซ็กส์กับผู้หญิงสักคนในช่วงเวลาหลายปี

หลังจากทั้งคู่สุขสมแล้ว พลังของไคเรียนก็หายไปอย่างน่าประหลาด และเขาได้รับคำตอบว่าพลังดาร์ค-ฮันเตอร์ของเขาไหลออกไปจากร่างกายและมีโอกาสที่ไคเรียนสามารถกลับมาเป็นมนุษย์ธรรมดาและมีจิตวิญญาณ บวกกับคำพยากรณ์ที่เขาได้รับมานั้นว่าดาร์ค-ฮันเตอร์ที่มีจิตวิญญาณจะสามารถฆ่าเดซิเดอริอัสได้

อแมนด้าพยายามทุกวิถีทางเพื่อรักษารอยแผลจากอดีตของไคเรียนให้ได้ ในขณะเดียวกันเดซิเดอริอัสได้เล่นงามไคเรียนจนเกือบตายถ้าไม่ได้อแมนด้ามาช่วยเอาไว้ เขาคงตายไปแล้ว ...

แอชรอนนับวิญญาณของไคเรียนมามอบให้อแมนด้าพร้อมกับบอกถึงวิธีที่หล่อนจะต้องทำเพื่อคืนวิญญาณให้แก่ไคเรียน ถึงแม้ว่าจะเป็นหนทางที่อันตรายเพียงไหนก็ตาม เมื่อเดซฺเดอริอัสจับตัวอแมนด้าไปและครอบงำหล่อนให้กลับมาจับตัวไคเรียนไปให้เขา ไคเรียนคิดว่านี่เป็นครั้งที่สองที่คนที่เขารักทรยศเขา แต่ความจริงแล้วกลับหาเป็นเช่นนั้นไม่ !

หลังจากที่ไคเรียนสุขสมในตัวของอแมนด้าและพลังดาร์ค-ฮันเตอร์อ่อนกำลังลง เดซิเดอริอัสก็สังหารเขา หลังจากนั้นอแมนด้าจึงทำตามแผนการณ์ของหล่อนโดยนำเหรียญที่แอชรอนมอบให้ประทับลงบนรอยสักรูปคันธนูของไคเรียนเพื่อคืนวิญญาณให้แก่เขา

ไคเรียนฟื้นคืนชีพขึ้นมาอีกครั้ง คราวนี้เขาได้รับวิญญาณกลับคืนมาแล้วและสามารถสังหารเดซิเดอริอัสได้ในท้ายที่สุด ไคเรียนและอแมนด้าจึงลงเอยและแต่งงานกัน

เล่มนี้ข้อมูลแน่นจริงๆ ตำนานเทพเจ้าจัดเต็มมาก ถ้าไม่ตั้งใจอ่านดีๆนี่หลุดแล้วจะไม่เข้าใจเนื้อหาหลักของเรื่องได้เลยทีเดียว ทางด้านเสน่ห์ของเนื้อเรื่องเล่มนี้ก็คือ ... โทนเรื่องไม่ได้หดหู่รันทดมากมายเหมือนเล่มที่แล้ว (ทาสหัวใจ) แต่แฝงไปด้วยแววขบขันของไคเรียนที่ปล่อยมุกตลกร้ายของเขาออกมาเป็นระยะๆ ความแนวคิดของอแมนด้าที่สามารถทำให้คนอ่านอย่างเราอดเผลอยิ้มไปกับเธอไม่ได้

มีตัวละครใหม่เพิ่มเข้ามาเยอะแยะเลยทั้งฝั่งดาร์ค-ฮันเตอร์ที่หน่มๆแต่ละคนก็ดิบเถื่อนได้ใจ รวมถึงลูกกระจ๊อกของไคเรียน นิค โกเธียร์ที่ดูเหมือนจะมี spin-off แยกออกมาเป็นหนังสือของตัวเองด้วยแหละ ไหนจะแอชรอนที่เป็นดาร์ค-ฮันเตอร์คนแรกอีก ก็น่าสนใจไม่เบา

ครึ่งหลังเนื้อเรื่องเข้มข้นมาก ทั้งด้านอารมณ์ของตัวละครและฉากบู๊ที่ลุ้นระทึก ทำให้เรารู้สึกว่าเล่มนี้สนุกกว่าเล่มที่แล้วเสียอีก แต่เราว่าตอนจบยังเป็นอีหรอบเดิมอยู่ดีตามสไตล์เชอร์ริลีนที่ชอบปูเนื้อเรื่องและปมตัวละครมาแสนจะรันทดหดหู่ยากเย็นแสนเข็ญ แต่ตอนจบก็เป็นอะไรที่จบง่ายๆซะงั้น ไม่เข้าใจว่าถ้าจะจบง่ายๆแบบนี้แล้วทั้งเรื่องจะพยายามให้มันซับซ้อนมากมายไปทำไม 555 หัก 1 คะแนนตรงจุดนี้ ... 

คะแนน 9/10

ทาสหัวใจ - Fantasy Lover (Dark-Hunter companion novel)


ชื่อเรื่อง พรานราตรี
ตอน ทาสหัวใจ 
จากเรื่อง Fantasy Lover 
ผู้แต่ง เชอริลีน แคนยอน 
โรมานซ์ ปัจจุบัน-เหนือจริง 
ผู้แปล จิตอุษา 
สำนักพิมพ์ แก้วกานต์

เรื่องย่อ

จงเรียกขานเขาสามครั้ง เขาจะมาหาเจ้า ปรนเปรอรักให้แก่เจ้า
จูเลียนแห่งมาเซดอน
เขาเป็นนักรบกร้าวแกร่งไร้ผู้เทียมทาน เป็นที่ครั่นคร้ามของมนุษย์ทุกผู้ทุกนาม และเป็นที่คลั่งไคล้ปรารถนาของอิสตรีทุกนางที่พบเห็นเขา
ทว่า ด้วยความริษยาของเทพเจ้า เขาจึงถูกลงทัณฑ์ให้ติดอยู่ในหนังสือชั่วนิรันดร์ และจะถูกเรียกใช้ตัวโดยหญิงสาวที่เอ่ยนามเขาสามครั้งในคืนพระจันทร์เต็มดวง
เมื่อเขาถูกเรียกตัวโดยเกรซ อเล็กซานเดอร์ เขาก็พบว่าหล่อนเป็นผู้หญิงคนแรกที่เห็นเขาเป็นผู้ชายที่ทุกข์ทรมาน หล่อนมุ่งมั่นจะช่วยเขาให้หลุดพ้นจากคำสาป และหล่อนก็ได้สอนให้เขาได้รู้จักความรักอีกครั้ง
แต่เขามิได้เกิดมาเพื่อรู้จักความรัก เขาถูกสาปให้อยู่โดดเดี่ยวไปตลอดกาล หากทว่าเมื่อเขาพบหล่อน จิตใจที่บาดเจ็บของเขาก็ได้รับการเยียวยา เขาตกเป็นทาสหัวใจของหล่อน แต่ความรักนี้จะทำลายคำสาปเมื่อสองพันปีก่อนให้หมดไปได้หรือไม่....

REVIEW

เล่มนี้เหมือนจะยังไม่มีเรื่องของดาร์คฮันเตอร์เข้ามาเกี่ยวข้องนะ แล้วก็ Goodreads จะนับเล่ม 'ทาสเสน่หา (Night Pleasures)' ซึ่งก็คือเล่มต่อไปเป็นเล่มที่ 1

จูเลียนแห่งมาเซดอน คือทาสสวาทหนุ่มที่ถูกขังไว้ในหนังสือมากกว่าพันปี เขาถูกเรียกออกมาเพื่อปรนเปรอสวาทให้กับสตรีนางใดที่เรียกเขาออกมา จนกระทั่งจูเลียนได้พบเจอกับเกรซ หญิงสาวที่มีปมฝังใจเกี่ยวกับการผูกสัมพันธ์กับชายใดก็ตาม หล่อยเคยถูกแฟนเก่าของหล่อนทำร้ายมาก่อน เมื่อเกรซได้รู้จักกับจูเลียน หล่อนก็อยากจกช่วยเหลือเขาให้พ้นจากความทุกข์ทรมานที่ต้องถูกกักขังนี้ แม้ว่ามันจะเป็นไปได้ยากก็ตาม

จูเลียนพบกับคิวปิด พี่น้องของเขาตอนที่เกรซพาเขาออกสู่สาธารณะ นั่นทำให้เขารู้วิธีถอนคำสาปที่ตามหลอกหลอนเขามาโดยตลอด จูเลียนต้องตามผู้หญิงแห่งอเล็กซานเดอร์และต้องไม่มีอะไรกับนางจนกระทั่งวันสุดท้ายเพื่อถอนคำสาปที่ไพรอาปุส พี่ชายคนโตของเป็นคนสาปเพราะจูเลียนไปล่วงเกินสาวพรหมจารีย์ที่อยู่ภายใต้ความดูแลของไพรอาปุสเนื่องจากไพรอาปุสฆ่าภรรยาของเขา

ความจริงแล้วพีเนโลพี ซึ่งก็คือภรรยาของจูเลียน เป็นคนรักของเอียสัน พี่น้องในกองทัพของจูเลียนที่เขาออกตัวปกป้องมาโดยตลอด แต่ด้วยความคิดของจูเลียนที่ไม่มีใครรักเขาหรือเห็นฆ่าในตัวของเขาเลย กอปรกับคำพูดและการกระทำของเอียสันที่ทำให้จูเลียนเสียใจและริษยาจนต้องไปขอความช่วยเหลือจากอีรอสให้แผลงศรและทำให้พีเนโลพีรักเขาจนทั้งคู่มาลูกด้วยกัน

เมื่อเรื่องไปถึงหูไพรอาปุสซึ่งเกลียดหน้าจูเลียนเป็นทุนเดิม ไพรอาปุสจึงทำให้เอียสันและพีเนโลพีจำได้ว่าทั้งคู่เคยรักกันมากเพียงใดและจูเลียนเป็นคนทำลายความรักองพวกเขา จูเลียนพลั้งมือฆ่าเอียสัน เขาเสียใจมาก พีเนโลพีสติแตกฆ่าลูกน้อยของหล่อนและจูเลียนในที่สุด ... ซึ่งเป็นที่มาของความทรงจำของจูเลียนที่ตามหลอกหลอนเขามาโดยตลอด

จูเลียนไม่สามารถใช้ชีวิตอยู่ในยุคปัจจุบันกับเกรซได้ ที่ที่เขาสมควรจะอยู่ไม่ใช่ศตวรรษที่ยี่สิบเอ็ดนี่ เมื่อเขาได้รับโอกาสให้สามารถกลับไปอยู่ในช่วงเวลาของเขา ก็เป็นเรื่องยากสำหรับเกรศและจูเลียน เกรซรักจูเลียนเพราะเขาปกป้องหล่อนยามที่หล่อนอ่อนแอ เขาเป็นคนที่เข้าใจและดูแลหล่อนตลอดระยะเวลาสั้นๆทีทั้งคู่อยู่ด้วยกัน ส่วนจูเลียนก็ไม่อยากจะเชื่อว่าจะมีใครมารักเขา โดยเฉพาะเกรซ ทุกอย่างเป็นเพราะคำสาป ไม่งั้นเกรซก็ไม่มีทางมาสนใจเขาหรอก

จนถึงครบกำนหดหนึ่งเดือน จูเลียนทนทรมานกับการที่เขากันตัวห่างออกจากเกรซ วินาทีสุดท้ายที่เขาคิดจะมีอะไรกับหล่อนเพื่อถอนคำสาป จูเลียนทำแบบนั้นไม่ได้ เขาไม่อยากทำร้ายเกรซโดยใข้เรือนร่างของหล่อนเพื่อผลประโยชน์ของเขาแบบที่แฟนเก่าของหล่อนเคยทำมาแล้ว

ด้วยความช่วยเหลือจะอโฟรไดท์ นางได้มอบโอกาสให้กับจูเลียนอีกครั้ง คราวนี้เขาได้รับอิสระจากการสอนคำสาปและได้อยู่กับผู้หญิงที่เขารัก แต่ไพรอาปุสกราดเกรี้ยวที่จูเลียนหลุดพ้นจากคำสาป เขาจับตัวเกรซไปแต่ก็พ่ายแพ้แก่จูเลียนในท้ายสุดจนเขาต้องไปอยู่ในหนังสือแล้วกลายเป็นทาสสวาทเสียเอง

หลังจากจูเลียนและเกรซตัดสินใจใช้ชีวิตร่วมกันในยุคปัจจุบัน ทั้งคู่ก็มีลูกและอยู่ด้วยกันอย่างมีความสุข ...

เราว่าเล่มนี้ยังไม่ถึงขั้นที่จะทำให้เราชอบถึงขนาดอยากกลับไปอ่านใหม่ แต่ก็อ่านจบภายในวันเดียวเลยนะ เราไม่ค่อยชอบปมของจูเลียนด้วยเหตุผลส่วนตัวล้วนๆเลย - -' แต่เราก็ชอบโทนเรื่องที่เอาตำนานเทพเจ้ากรีกโรมันมาผสมผสานทำให้เกิดเรื่องราวที่แปลกใหม่มากขึ้นสำหรับหนังสือเล่มนี้

่ส่วนตัวเรายังไม่ค่อยอินกับเรื่องของทั้งคู่เท่าไร ทำให้เราไม่ค่อยซึ้งตรงท้ายๆที่ทั้งคู่ต้องแยกจากกัน ถ้าเนื้อเรื่องวางปมได้ดีกว่านี้ เราอาจจะซึ้งกับเรื่องของทั้งคู่มากกว่านี้ก็ได้นะที่จริง เราว่าหนังสือเล่มนี้ก็เป็นโรมานซ์เหนือธรรมชาติอีกเรื่องที่ไม่ได้โรแมนติกจ๋า หรือบู๊ล้างผลาญอะไร แต่ก็อ่านได้เรื่อยๆ ไม่ได้ฮ็อตหรือวาบหวามมากมายเหมือนกับเรื่องอื่นๆ เพราะก่อนหน้านี้เราว่าเรื่องนี้ต้องฮ็อตแน่ๆเพราะพระเอกเปนทาสสวาท แต่ที่ไหนได้ ... กว่าทั้งคู่จะลงเอยด้วยกันก็ปาไปเกือบจบเล่มแล้ว T.T

คะแนน 8/10