Jul 28, 2014

บาปที่แสนหวาน - Sweet as Sin


ชื่อเรื่อง บาปที่แสนหวาน
จากเรื่อง Sweet As Sin
ผู้แต่ง อิเนซ เคลลีย์
โรมานซ์ ร่วมสมัย
ผู้แปล ปริศนา
สำนักพิมพ์ แก้วกานต์

เรื่องย่อ

ในฐานะนักเขียนวรรณกรรมเยาวชนที่ติดอันดับขายดี จอห์น เมอร์ฟี่ เขียนสุดยอดแห่งจินตนาการ เรื่องราวที่ความดีมักเอาชนะความเลวเสมอ แต่ตัวเขาเองกลับถูกทรมานจากฝันร้าย อดีตของจอห์นแสดงให้เขาเห็นความเลวร้ายที่สุดในตัวมนุษย์...และในตัวเขาเอง เมื่อจอห์นย้ายไปอยู่ข้างบ้านลิฟวี่ผู้เซ็กซี่และเต็มไปด้วยชีวิตชีวา จอห์นก็ถูกผลักดันให้สำรวจทุกความโค้งเว้าในเรือนร่างน่าปรารถนาของเธอ
เชฟขนมอบอย่างลิฟวี่รู้ดีว่าการยอมจำนนให้กับความเย้ายวนใจของจอห์น เมอร์ฟี่จะไม่นำไปสู่สิ่งใดที่ยั่งยืน แต่เธอสมควรได้รับความสัมพันธ์รักเร่าร้อนช่วงซัมเมอร์ จอห์นได้ค้นพบว่าเธอหวานพอๆกับขนมที่เธออบ ในขณะที่ลิฟวี่ก็ค่อยๆถอดความลับของเขา แต่จะเกิดอะไรขึ้นเมื่อเธอค้นพบความลับทั้งหมด...

REVIEW

จอห์น เมอร์ฟี่ ถูกดึงดูดเข้าหา ลิฟวี่ ทันทีที่เขาเห็นเธอ ความดึงดูดใจของเขานำทางไปสู่ความสัมพันธ์แบบไม่มีการผูกมัดใดๆ แต่ลิฟวี่รู้ดีว่าในตัวของจอห์นมีทั้งด้านที่อ่อนโยน ยอมผ่อนปรนและด้านที่ลึกลับซับซ้อน ยิ่งไปกว่านั้น ... เมื่อลิฟวี่พยายามขุดค้นประวัติความเป็นมาของจอห์นมากขึ้นเรื่อยๆ เธอก็รู้ว่าชายหนุ่มปิดบังความลับบางอย่างเอาไว้ แต่ความเร่าร้อนที่เกิดขึ้นระหว่างทั้งคู่ก็ทำให้จิตใจของลิฟวี่เตลิดไปได้เสียทุกครั้งเมื่อจอห์นสัมผัสเธอ

จอห์นเกิดความรู้สึกแบบที่เขาไม่เคยรู้สึกมาก่อนกับผู้หญิงคนไหน จนเมื่อมาเจอลิฟวี่ เขาเล่าความลับของเขาให้เธอฟังบางส่วน ลิฟวี่ไม่คิดจะไปจากเขาด้วยซ้ำทั้งๆที่เธอรู้ความลับดำมืดของเขาแล้ว แต่สิ่งที่เธอรู้ก็ยังไม่ใช่ทั้งหมดของตัวเขาอยู่ดี

เมื่อรู้ตัวอีกที ... ลิฟวี่ก็ตกหลุมรักจอห์นเข้าให้แล้ว เธอรักนิสัยของจอห์นที่เขาถ่ายทอดมันผ่านงานเขียน ลิฟวี่รู้ได้ทันทีว่าตัวละครที่เขาสร้างขึ้นมาจากตัวของเขาเอง แต่ถึงยังไงก็ตาม ... แม้ว่าจอห์นจะมีความรู้สึกพิเศษให้ลิฟวี่ เขาก็รู้ดีว่า ... เขาจะรักใครไม่ได้ ความสัมพันธ์กับเขาและลิฟวี่เป็นสิ่งไม่ยั่งยืนและเขาก็ไม่เคยคาดหวังว่าตอนจบจะลงท้ายด้วยชุดแต่งงานสีขาว ลิฟวี่คู่ควรกับผู้ชายคนอื่นที่ดีกว่าจอห์น

เมื่อถึงเวลาที่จอห์นจำเป็นที่จะต้องเลือกหนทางในชีวิตของเขา เขาก็กระโจนเข้าใส่ลิฟวี่ เพราะเธอทำให้เขารู้สึกอย่างที่ไม่เคยรู้สึกกับใครมาก่อน ลิฟวี่คือผู้หญิงที่จอห์นอยากจะใช้ชีวิตด้วย เขาวางแผนซื้อแหวนให้เธอ แต่ยังไม่มีโอกาสที่จะมอบมันเธอสักที

ลิฟวี่ขุดประวัติของจอห์นจนเธอพบว่าเขาถูกพ่อเลี้ยงทำร้ายจนสาหัส และการที่เขาตัดสินใจฆ่าพ่อเลี้ยงของตนเองเพียงเพื่อต้องการปกป้องน้องสาวของเขา นั่นทำให้จอห์นต้องเข้าสถานพินิจและเรื่องราวในอดีตก็ตามหลอกหลอนเขามากระทั่งปัจจุบัน แม้กระทั่งในความฝัน ลิฟวี่รู้ดีว่าจอห์นฝันร้ายเกี่ยวกับเรื่องพวกนี้บ่อยครั้งแค่ไหน

เมื่อจอห์นมีเซ็กส์กับลิฟวี่โดยที่ไม่ได้ใช้เครื่องป้องกัน เขาก็รู้ตัวว่าเขาทนรับสิ่งนี้ไม่ได้ จอห์นไม่อยากมีลูกเพราะกลัวว่าเขาจะเป็นเหมือนพ่อเลี้ยงของตัวเองที่ลงมือทุบตีทำร้ายลูกในไส้ จอห์นผลักไสลิฟวี่ออกไปทุกวิถีทาง ทำร้ายเธอด้วยคำพูดร้ายๆ แต่ลิฟวี่ยืนหยัดอยู่กับเขาเพราะเธอรักเขาและเธอจะไม่ปล่อยเขาไปง่ายๆ

จอห์นบอกกับลิฟวี่มาว่าเมื่อคืนที่เขาออกไปข้างนอกเขาไปนอนกับผู้หญิงคนอื่นมา ลิฟวี่ถูกทำร้ายด้วยคำพูดนั้นอย่างจัง เพราะตลอดช่วงวัยเด็ก ... ลิฟวี่ต้องทนเห็นพ่อนอกใจแม่ของเธอมาตลอดโดยที่แม่ไม่ยอมทำอะไร นั่นทำให้ลิฟวี่ทนรับพฤติกรรมการนอกใจของผู้ชายไม่ได้ ไม่เว้นแม้กระทั่งจอห์น

ก่อนที่ลิฟวี่จะจากจอห์นไป เขาทำร้ายเธอด้วยคำพูดสุดท้ายว่า ... ถ้าหากลิฟวี่อุ้มท้องลูกของเขาอยู่ เขาอยากให้เธอกำจัดมันออกซะ ! ลิฟวี่เสียใจมาก เธอร้องไห้จนไม่เป็นอันทำอะไร แต่โชคก็ยังไม่เข้าข้างเธอ ไม่จอห์นมาหาลิฟวี่ที่ร้านขนมและเห็นอัลบัมรูปวาดของเขาที่เขาเคยโยนใส่ถังขยะไปแล้ว แต่ลิฟวี่กลับหยิบมันมาใช้เป็นไอเดียสำหรบไลน์สินค้าใหม่ของเธอ

จอห์นคิดว่าลิฟวี่ทำร้ายเขา โดยการทำตัวละครปีศาจจากนิยายของเขามาใช้แบบนี้ เขาขู่ว่าจะเอาเรื่องเธอ และให้ลิฟวี่เตรียมหาทนายเอาไว้ได้เลย !

ลิฟวี่ดื่มจนเมาและเธอไปหาจอห์นที่บ้านหลังจากที่เขาเดินทางไปนิวยอร์คเพื่อรับการบำบัด จอห์นสารภาพความจริงและขอโทษลิฟวี่ พร้อมทั้งบอกว่าเขารักเธอมากแค่ไหน สิ่งที่ทำลงไปทั้งหมดเพราะจอห์นเป็นโรคทางจิตเวชหลังจากผ่านเรื่องราวอันเลวร้ายมา แต่ตอนนี้เขาตัดสินใจเข้ารับการบำบัดแล้ว นั่นทำให้ลิฟวี่ยอมรับได้และตกลงแต่งงานกับจอห์นในที่สุด ...

...................................................

ไม่ค่อยชอบคาแรคเตอร์พระเอกเท่าไร ดูเยอะๆไปสำหรับเรา เข้าใจว่าพระเอกมีปัญทางจิตแต่ก็นะ หลังๆการแสดงออกของจอห์นนี่ไม่ค่อยน่ารักเลย เอ็ดตะโรโวยวายอย่างเดียว ถึงขั้นจะฟ้องร้องลิฟวี่และก็ทำทุกวิถีทางเพื่อกำจัดเธอออกไปจากชีวิตเขา

เนื้อเรื่องตอนแรกก็ดูเอื่อยๆ แต่เราชอบบรรยากาศท้องเรื่องที่เรื่อยๆสบายๆ กรุ่นกลิ่นเบเกอรี่หอมๆ เลิฟซีนไม่ค่อยเท่าไรนะสำหรับเล่มนี้เพราะโฟกัสไปที่เรื่องราวของจอห์น-ลิฟวี่เสียมากกว่า มีเรื่องนิยายที่จอห์นแต่งแทรกมาเรื่อยๆ แต่บางอารมณ์ก็ไม่ค่อยอยากอ่านไงก็เลยพาลหงุดหงิดเอาซะเปล่าๆ

ตอนที่จอห์นกับลิฟวี่มีปากเสียงในตอนท้ายนี่ทำเอาเราถึงกับเพลียเลยจริงๆ เบื่อความไร้สาระของจอห์นแม้แต่กับเรื่องเล็กๆน้อย หนำซ้ำเราถึงกับอึ้งตรงที่จอห์นด่าลิฟวี่นี่แหละ คือเราโอเคกับพระเอกที่ขึ้นเสียงด่าว่านางเอกนะ แต่ถ้ามาด่าเสียๆหายๆแบบนังแพศยาสารเลวนี้เนี่ย ก็ไม่ไหวเหมือนกัน อย่างว่าละนะ ... จอห์นป่วย -*-

สรุปนิยายเล่มนี้ไม่ใช่ทางของเราจริงๆ แต่คนอื่นที่ชอบดราม่า และก็พระเอกมีหลายบุคลิกก็คงจะชอบกันเนอะ

คะแนน 5/10

Jul 22, 2014

เงาร้ายมลายสิ้น - As Shadows Fade (The Gardella Vampire Chronicles #5)



ชื่อเรื่อง ตำนานนักล่าแวมไพร์การ์เดลลา ตอน เงาร้ายมลายสิ้น
จากเรื่อง As Shadows Fade
ผู้แต่ง คอลลีน กลีสัน
โรมานซ์ เหนือจริง
ผู้แปล เฟิร์น
สำนักพิมพ์ แก้วกานต์

เรื่องย่อ

ตระกูลการ์เดลลาเป็นนักล่าแวมไพร์ที่สืบเชื้อสายต่อกันมายาวนาน วิกตอเรียเป็นทายาทสายตรงคนสุดท้าย เธอรู้ว่าเธอจำเป็นต้องมีทายาทเพื่อให้มีผู้ปกป้องคุ้มครองมนุษยชาติจากพวกผีดิบต่อไป เซบาสติยง วิโอเฌต์เป็นนักรบมากฝีมือและนักรักที่เก่งกาจ เขาพร้อมจะเคียงข้างเธอและทำให้ตระกูลการ์เดลลามีผู้สืบทอด แต่คนที่อยู่ในใจของวิกตอเรียคือแมกซ์ เปซาโร อดีตวีเนเตอร์ที่ลิลลิธ ราชินีแวมไพร์คลั่งไคล้ใหลหลง
อสูรที่เป็นศัตรูกับมนุษย์และผีดิบพบหนทางขึ้นมายังโลก แวมไพร์และนักล่าจำเป็นต้องร่วมมือกันต่อสู้ เหล่าวีเนเตอร์ต้องใช้ของสำคัญบางอย่างที่เป็นของแวมไพร์เพื่อปราบอสูร และลิลลิธต้องการแมกซ์เป็นสิ่งตอบแทน วิกตอเรียจะต้องเลือกอีกครั้งระหว่างหน้าที่กับความรัก...

REVIEW 

วิกตอเรียยังใช้ชีวิตต่อไปในฐานะวีเนเตอร์ แต่เธอก็ไม่อาจปฏิเสธได้ว่าเธอต้องการแมกซ์เช่นกัน ในขณะที่เวย์เรน ที่ปรึกษาของเธอถูกจับตัวไปโดยฝีมือของอสูรที่ชั่วร้าย ทำให้วิกตอเรีย เซบาสติยงและแมกซ์กับเอาชีวิตไม่รอดในภารกิจครั้งนี้

หนทางเดียวที่วิกตอเรียจะอยู่กับแมกซ์ได้ก็คือ เธอต้องกำจัดลิลลิธทิ้งซะ แต่นั่นก็ไม่ใช่เรื่องง่ายเพราะแมกซ์ไม่ยอมให้เธอทำแบบนั้น แต่เขาก็ยังจะหนีวิกตอเรียไปอยู่ดี เพราะแมกซ์ปกป้องเธอไม่ได้ เขาไม่ใช่วีเนเตอร์แบบที่เคยเป็นด้วยซ้ำ แต่เมื่อแมกซ์ได้รับโอกาสในการกลับไปเป็นวีเนเตอร์อีกครั้ง เขาต้องสังหารแวมไพร์สักตนเพื่อเป็นบททดสอบ นั่นจึงทำให้เขาสามารถอยู่กับวิกตอเรียได้

เวย์เรนบอกวิกตอเรียว่ามีอสูรที่เป็นเทวดาตกสวรรค์หลุดออกมายังโลกมนุษย์โดยผ่านทางประตูมิดิเวิร์ส และหนทางเดียวที่จะสามารถปิดประตูได้ก็คือใช้แหวนแห่งจูไบทั้งห้าวงของลิลลิธเพื่อเป็นใช้ในการตามหาลูกแก้วแทชด์ที่อยู่ในสระน้ำใกล้ที่หลบซ่อนของลิลลิธ

เมื่อเหล่าวีเนเตอร์ได้แหวนมาสามวงและแมกซ์ผ่านการทดสอบแล้ว เขาก็เดินทางไปพบลิลลิธโดยทิ้งวิกตอเรียไว้เบื้องหลัง แมกซ์เสนอตัวเขาเองแลกกับแหวนสองวงเพื่อให้เซบาสติยงใส่แล้วนำลูกแก้วออกมาจากสระน้ำ

วิกตอเรียต้องเลือกระหว่างหน้าที่การเป็นวีเนเตอร์หรือจะไปช่วยแมกซ์ ลิลลิธจะเปลี่ยนเขาเป็นแวมไพร์ในที่สุด ขณะที่วิกตอเรียกำลังลังเลว่าเธอจะไปช่วยแมกซ์ดีหรือไม่ เซบาสติยงกลับอาสาตัวเองเพื่อแลกเปลี่ยนกับแมกซ์ ลิลลิธยอมตกลงในท้ายที่สุดและปล่อยแมกซ์ออกมา

วิกตอเรียปิดผนึกมิดิเวิร์สสำเร็จและมุ่งหน้าเพื่อไปสังหารลิลลิธและช่วยเซบาสติยงออกมา เธอรู้วิธีที่จะสามารถสังหารลิลลิธได้ในที่สุด เมื่อวิกตอเรียบุกเข้าไปถึงห้องที่ลิลลิธอาศัยอยู่ เธอก็พบว่าเซบาสติยงได้ถูกเปลี่ยนเป็นแวมไพร์เรียบร้อยแล้ว ...

เซบาสติยงก้มหน้ารับชะตากรรมของตัวเองเมื่อเขากลายเป็นแวมไพร์ ทั้งหมดนี้เขาทำเพื่อผู้หญิงสองคนที่เขารักนั่นก็คือน้องสาวของแมกซ์  --จูเลีย คนรักคนแรกของเซบาสติยงที่ถูกเปลี่ยนเป็นแวมไพร์ นั่นทำให้เซบาสติยงต้องลงมือฆ่าเธอ-- ให้วิญญาณของเธอหลุดพ้นจากนรก และวิกตอเรีย เพื่อให้เธอกับแมกซ์ได้อยู่ร่วมกันในท้ายที่สุด (พระเอกมากกกกก พี่เซบาสติยง !!!)


[จบบริบูรณ์]

....................................

นี่เป็นการตัดสินใจที่ยาก(มาก) ว่าจะซื้อหนังสือเล่มนี้ซึ่งเป็นเล่มสุดท้ายของชุดมาอ่านดีหรือไม่ ? ... หลังจากที่เราเข็ดขยาดกับ 2 เล่มที่แล้วที่เนื้อเรื่องดิ่งลงเหวมาก สุดท้ายก็ตัดสินใจซื้อเล่มนี้มาจนได้ เพราะคิดว่า ... เอาวะ ! ไหนๆก็เล่มสุดท้ายของชุดแล้ว อ่านเล่มนี้จบจะได้ไม่ค้างคาใจไม่ต้องอยากรู้อะไรอีก

คาแรคเตอร์ตัวละครของเรื่องนี้ราบเรียบมากๆ อย่างที่เราบ่นๆไปในสองสามเล่มก่อนหน้านี้ว่าผู้แต่งพยายามจะทำให้เราอินไปกับรักสามเศร้าของเราสามคน เพราะนางเอกที่ไม่รู้จะเลือกใครดี (เรียกว่าลังเลจนวินาทีสุดท้ายเลยแม่คู๊ณณณณณณ)

แต่นั่นยังไม่ใช่จุดด้อยทั้งหมดของนิยายชุดนี้ ... ด้วยคาแรคเตอร์ของตัวละครที่ไม่ว่าจะเป็นใครก็ตาม ช่างราบเรียบและไร้มิติทางอารมณ์มากๆ อาจจะเป็นเพราะผู้แต่งไม่ได้พยายามเจาะประวัติความเป็นมาของตัวละครให้ลึกไปกว่านี้จนทำให้เรารู้จักอุปนิสัยใจคอของตัวละครตัวนั้นๆ เพราะเท่าที่เปิดเผยในเรื่อง มันไม่ได้มีส่วนบอกอุปนิสัยใจคอของตัวละครแม้แต่น้อย แต่เป็นในแง่สร้าง Conflict ระหว่างตัวละครสองตัวขึ้นมาเสียมากกว่า

ทางด้านเนื้อเรื่องหลักที่ยืดเยื้อ แต่เราขอยอมรับว่าเล่มนี้ Peak ขึ้นกว่าสองสามเล่มก่อนมากๆ (คิดว่าน่าจะสนุกพอๆกับเล่มหนึ่งด้วยซ้ำ) ทำให้เราอดคิดไม่ได้ว่าถ้าผู้แต่งไม่พิรี้พิไรบรรยายรายละเอียดสถานที่ซ้ำไปซ้ำมามากนัก หรือตัดรายละเอียดปีกย่อยที่ไม่สำคัญออกไป เราเชื่อว่านิยายชุดนี้จะเหลือแค่ 3 เล่มแน่นอน

จุดไคลแมกซ์ท้ายเรื่อง ... ที่ลิลลิธตายง่ายมากๆโดยไม่มี impact อะไรเลย สิ่งที่เราคาดหวัง(อย่างยิ่ง)กับบทสรุปของลิลลิธคือความดุเดือดของฉากต่อสู้ แต่ความจริงแล้ว ... การสังหารลิลลิธของวิกตอเรียในความคิดของเรา แทบจะไม่ได้แตกต่างจากการที่สังหารแวมไพร์ธรรมดาเลยแม้แต่น้อย อาจจะเป็นเพราะวิกตอเรียรู้วิธีที่จะฆ่าลิลลิธด้วย แต่เราก็คิดว่า ... มันไม่น่าจะง่ายถึงขนาดนี้นี่นา แค่บุกเข้ามา ... เอาลิ่มแทงฉัวะ เป็นอันสิ้นเรื่อง !

อีกอย่างหนึ่งที่ทำให้เราตัดสินใจได้ว่าเราไม่(ค่อย)ชอบนิยายชุดนี้มากนัก ก็คือ ....... การเล่าเรื่องที่ขาดเสน่ห์อย่างสิ้นเชิง .......... นี่แหละ ที่ทำให้เรารู้สึกว่านิยายชุดนี้ไม่ได้มีจุดเด่นให้ปากต่อปาก เพราะเราไม่รู้จะจับประเด็นไหนมา Present ให้คนอื่นรู้จักและอยากอ่านนิยายชุดนี้ จะให้บอกว่านิยายชุดนี้เป็นเรื่องราวของแวมไพร์ฮันเตอร์หรอ (ซึ่งก็มีกันเกร่อหลายเรื่องในท้องตลาด) หรือจะให้บอกว่านิยายชุดนี้นางเอกเลือกผู้ชายไม่ได้สักที เลยเกิดรักสามเศร้าขึ้น (นั่นก็ไม่ใช่จุดที่นำมา Present เท่าไร เพราะสาระบบความคิดของนางเอกเรื่องนี้ช่างน่ารำคาญเป็นพักๆ)

ดังนั้นเราจึงขอแนะนำว่า หากใครที่ผ่านสมรภูมินิยายแนวแวมไพร์มาอย่างโชกโชนแล้ว นิยายเล่มนี้อาจไม่ได้ตอบโจทย์ของท่านมากเท่าไรนัก ด้วยพลอตเรื่องที่ซ้ำๆซากๆ กับโลกทั้งใบที่หมุนรอบตัวนางเอกมากเกิน อาจทำให้หลายคนวางหนังสือเล่มนี้ตั้งแต่เล่มที่หนึ่งไปได้ครึ่งเล่มด้วยซ้ำ (ยิ่งไม่ต้องพูดถึงว่าจะอ่านถึงเล่มที่ห้าหรือไม่)

คะแนน 7.5/10

Jul 18, 2014

สะพานรักข้ามกาล - Into The Dreaming (Highlander #8)


ชื่อเรื่อง
สะพานรักข้ามกาล
จากเรื่อง Into The Dreaming
ผู้แต่ง คาเรน มารี โมนนิ่ง
โรมานซ์ เหนือจริง/ย้อนยุค
สำนักพิมพ์ แพรว

เรื่องย่อ


คุณจะทำอย่างไรให้ชายที่คุณเคยพบแต่เพียงในฝัน มาหลงรักคุณภายในหนึ่งเดือน

คุณเชื่อเรื่องเนื้อคู่ไหม เชื่อหรือไม่ว่าเนื้อคู่เป็นสิ่งที่กำหนดไว้ตั้งแต่ก่อนที่คุณจะเกิดเสียอีก 'เจน ซิลลี' เชื่อเรื่องนั้น เชื่อตั้งแต่วันแรกที่พบ 'เอเดน แมคคินนอน' ในความฝัน หากแต่ในความเป็นจริงนั้น เอเดนกลับจำเจนไม่ได้เลย มันก็คงจะไม่ยากเย็นเท่าไร หากเจนมีเวลาค่อยๆ ตะล่อมให้เขาชอบเธอทีละน้อย แต่เสียงกระซิบจากความมืดได้บอกเธอว่า หากไม่สามารถทำให้เขาหลงรักเธอได้ภายในหนึ่งเดือน ทั้งสองจะหมดโอกาสได้ครองคู่กันโดยสิ้นเชิง แล้วเธอจะทำอย่างไรให้เขาหันมามองเธอเหมือนในฝัน

REVIEW


... เล่มนี้เป็นเรื่องสั้นจำนวน 125 หน้า ...

เจน ซิลลีคือนักเขียนที่มีความฝัน ตลอดอายุของเธอ เธอฝันเห็นชายหนุ่มคนหนึ่ง ในฝันของเธอนั้น ... เขาช่างเร่าร้อนและคือทุกสิ่งทุกอย่างที่เธอต้องการ จนเมื่อเจนได้เดินทางย้อนเวลา นั่นทำให้เธอได้พบกับเอเดน ภาพลักษณ์ของเขาเย็นชา ต่างกับความฝันอันแสนเร่าร้อนของเธอ

เอเดน แมคคินนอน คือมนุษย์ที่ถูกกักขังหน่วงเหนี่ยวโดยฝีมือราชาอันซิลี ตลอดเวลาห้าศตวรรษนั้น เอเดนถูกฝึกให้มาเป็นเพชฌฆาต เย็นชา ไร้หัวใจ เมื่อเขาได้เป็นอิสระภายใต้ระยะเวลาหนึ่งเดือน หนทางเดียวที่จะทำให้เขาหลุดพ้นจากการจองจำชั่วนิรันดร์ ก็คือ ... รักแท้เพียงหนึ่งเดียวของเขา\

เมื่อเอเดนปฏิเสธทุกอย่างที่เจนมอบให้ แต่ถึงกระนั้น ... เจนก็ไม่เคยยอมแพ้ เธอค่อยๆเจาะป้อมปราการน้ำแข็งที่ห่อหุ้มจิตใจของเขาจนมันค่อยๆละลายในที่สุด

....................................

มันสั้น มันสั้นมากๆ สั้นจนเขียนรีวิวได้แค่ 3 ย่อหน้าเอง T.T

ด้วยความที่มันสั้นนี่แหละที่ทำให้เรารู้สึกเสียดายพลอตของนิยายเล่มนี้มาก ทั้งๆที่สามารถเติมรายละเอียดลงไปได้เยอะ ทั้งประวัติความเป็นมาของเอเดน หรือกระทั่งเวลาที่ทั้งคู่ใช้ด้วยกัน คือบรรยากาศมันอบอุ่นมากๆเลยนะ เวลาเจนสอนให้เอเดนรู้จักความเป็นมนุษย์อีกครั้ง เราชอบตอนที่เอเดนลงมือทานอาหารที่เจนทำครั้งแรกหลังจากที่เขากินขนมปังแข็งๆมาโดยตลอด หรือตอนที่เอเดนไม่รู้ว่าจะร่วมรักกับเจนอย่างไรดี มันดูบริสุทธิ์มากๆเลยนะในความคิดเรา

เราอยากให้เรื่องนี้เป็นเรื่องยาว ด้วยอารมณ์ที่สามารถดื่มด่ำมากกว่านี้ ตอนอ่านเล่มนี้รู้สึกเหมือนโดนตัดตอนหลายครั้งหลายคนเหลือเกิน จนบางครั้งก็ถึงกับงงว่า อ้าว ! ไหงเป็นงั้นอ่ะ

แถมตอนจบก็ยังจบง่ายเกิน เหมือนหักดิบนิยายไปเลยอ่ะ จู่ๆก็แว๊บ เนื้อเรื่องมาลงอีหรอบนี้แล้วก็จบเฉยเลย เสียดายมากๆ

ถ้านับว่าเล่มนี้คือเล่มต่อจาก Spell of the Highlander จริงๆ เราถือว่าเฟลมากเลยนะ เพราะเล่มของคิออนนี่ทิ้งปมไว้น่าสนใจมาก (เรื่องที่ว่าราชินีแห่งเฟย์รวบรวมหมากเอาไว้สำหรับสงครามที่กำลังจะเกิดขึ้น) เหมือนเนื้อเรื่องยังไม่ต่อได้อีกยาว แต่ Into the Dreaming ดันมากลายเป็นเล่มจบของหนังสือชุดนี้ซะงั้น ทิ้งปมให้คางคาเฉยเลย หรือว่าต้องไปอ่านต่อในชุด Fever แน่ๆเลย

ทั้งบรรยากาศและท้องเรื่องทำให้เราชอบมากๆ คาเรนน่าจะเขียนเรื่องนี้เป็นเรื่องยาวเนอะ คงสนุกมากกว่านี้แน่ๆ เพราะเราชอบพลอตโทนนี้พอๆกับ Kiss of the Highlander เลยแหละ

คะแนน 7.5/10

Jul 15, 2014

Pleasure of a Dark Prince (Immortals After Dark #9)


ชื่อเรื่อง Pleasure of a Dark Prince
ผู้แต่ง เครสลีย์ โคล
โรมานซ์ เหนือจริง
สำนักพิมพ์ Simon & Schuster

เรื่องย่อ

Kresley Cole enraptures again with this seductive tale of a fierce werewolf prince who will stop at nothing to protect the lovely archer he covets from afar.

A Dangerous Beauty
Lucia the Huntress: as mysterious as she is exquisite, she harbors secrets that threaten to destroy her—and those she loves.

An Uncontrolled Need
Garreth MacRieve, Prince of the Lykae: the brutal Highland warrior who burns to finally claim this maddeningly sensual creature as his own.

That lead to a pleasure so wicked...
From the shadows, Garreth has long watched over Lucia. Now, the only way to keep the proud huntress safe from harm is to convince her to accept him as her guardian. To do this, Garreth will ruthlessly exploit Lucia's greatest weakness—her wanton desire for him.

REVIEW

ไม่คิดว่าจะเจอหนังสือที่เราคิดว่าชอบมากๆๆๆอีกเล่มในชีวิต แล้วหนังสือเล่มนี้ก็อยู่ในชุด IAD (นับว่าเป็นชุดที่ทำให้หลงใหลปลาบปลื้มพอๆกับ BDB เลย)  ซึ่งมีเล่มที่เราชอบมากๆอยู่ 3 เล่ม นั่นก็คือ A Hunger Like No Other , No Rest for the Wicked , Dark Needs at Night's Edge

เล่มนี้เป็นอีกเล่มที่น่าสนใจ ซึ่งประเด็นของคู่นี้(การ์เร็ธ-ลูเซีย)จะมีตั้งแต่ในเล่มแรก (เล่มของเอ็มม่า-แลคเลน) แต่สำหรับ Pleasure of a Dark Prince จะเจาะลึกมากขึ้นว่าทำไมลูเซียถึงได้รับพรนักแม่นธนู แล้วทำไมเธอถึงยิงพลาดไม่ได้ ?

ลูเซีย เดอะฮันเตรส คือนักแม่นธนู เธอไม่เคยยิงพลาด นั่นก็เป็นเพราะเธอได้รับความสามารถนั้นมาจากสคาธิ เมื่อเธอได้รับบาดเจ็บอย่างแสนสาหัสมาจาก Cruach ศัตรูที่ทำรายเธอ ซึ่งเธอต้องสาบานตนว่าเธอจะรักษาความบริสุทธิ์ผุดผ่องเอาไว้ ไม่งั้นเธอจะสูญเสียความสามารถนี้ไปแล้วจะโดนศัตรูตัวฉกาจที่เคยทำร้ายเธอมาแล้วฆ่าตายอย่างง่ายดาย

แล้วเรื่องวุ่นวายก็เกิดขึ้น ... เมื่อในขณะที่ลูเซียตามล่า Kobolds ซึ่งทำให้เธอได้พบกับการ์เร็ธโดยบังเอิญ สภาพที่ได้พบกันครั้งแรกของทั้งคู่นั้น คือลูเซียเห็นการ์เร็ธอยู่ในสนามแข่งรักบี้กับเหล่าดีมอน ท่อนบนเปล่าเปลือย เนื้อตัวเปื้อนโคลน ชุ่มเหงื่อ (ทำให้เรานึกถึงพวกนักกีฬารักบี้เลยอ่ะ แล้วคิดดูนะ ! การบรรยายของเครสลีย์ เธอบรรยาได้ฮ็อตมาก จนทำให้เราเทใจให้การ์เร็ธด้วยประโยคเพียงแค่สองสามบรรทัด) เมื่อครั้งแรกที่การ์เร็ธสบตากับลูเซีย เขาก็รู้ได้ทันทีว่าผู้หญิงคนนี้คือคู่ครองของเขาที่เขารอมานานแสนนาน เขาจะประทับตราและพาเธอขึ้นเตียงของเขาให้ได้ภายในคืนนี้

การ์เร็ธตามลูเซียไปอย่างไม่ลดละ เขาต้องการเธออย่างถึงที่สุด เพราะการ์เร็ธคิดว่านี่คือสิ่งที่โชคชะตาประทานมาให้ หลังจากที่แลคเลน พี่ชายของเขาหายสาบสูญไป ลูเซียคือของขวัญของเขา แต่เมื่อการ์เร็ธยั่วยวนจนทำให้ลูเซียยอมจำนนได้แล้ว ลูเซียกลับปฎิเสธเขาในวินาทีสุดท้าย เมื่อเธอตระหนักได้ว่า ทันทีที่เธอมีเซ็กส์กับหมาป่ารายนี้ เธอจะสูญเสียพลังนักแม่นธนูของเธอไปตลอดกาล

การ์เร็ธนัดลูเซียให้มาเจอเขาในอีกหนึ่งอาทิตย์ เมื่อลูเซียไม่ยอมมาตามนัด เขาจึงตามหาตัวเธอ ในขณะที่วัลฮอลล์ ที่อยู่อาศัยของวัลคีรีถูกไอโวและโลแธร์บุก แอนนิก้าได้รับบาดเจ็บสาหัส ลูเซียยิงธนูใส่ dempire (ลูกครึ่งแวมไพร์+ดีมอน) แต่เธอพลาด นั่นทำให้ลูเซียเจ็บปวดย่างแสนสาหัส การ์เร็ธได้ยินเสียงลูเซีย เขาปล่อยให้สัตว์ที่อยู่ข้างในตัวเขาหลุดออกจากรงแล้วสังหารแวมไพร์ที่บุกวัลฮอลล์อย่างเดือดดาล เมื่อลูเซียได้เห็นตัวตนจริงๆของการ์เร็ธ เธอก็กลัวมาก เพราะมันทำให้เธอนึกถึงความทรงจำอันเลวร้ายที่ Cruach ศัตรูคนหนึ่งของเธอเคยจับตัวเธอไป

การ์เร็ธปกป้องลูเซียอยู่ห่างๆโดยไม่ยอมโผล่หน้ามาหาเธออีกเพราะเขากลัวว่าจะทำให้เธอหวาดกลัว แต่เมื่อแอนนิก้ารู้ข่าวว่าแลคเลนจับตัวเอ็มม่าไปขังเอาไว้ เธอก็ใช้ลูเซียเป็นเครื่องมือ โดยให้ลูเซียแกล้งยิงพลาดเพื่อที่จะได้จับตัวการ์เร็ธมาขังเอาไว้เป็นข้อต่อรองกับแลคเลนให้ปล่อยตัวเอ็มม่าออกมา

แลคเลนมาตามหาตัวเอ็มม่าถึงวัลฮอลล์หลังจากที่เอ็มม่าได้สังหารดิมิททรูแล้ว เมื่อแลคเลนให้เอ็มม่าดื่มเลือดและแต่งงานกับเธอ ลูเซียก็ไปเอาวิดีโอของเอ็มม่าเพื่อพิสูจน์ว่าเอ็มม่าสังหารดิมิทรูจริงๆ และนั่นทำให้ลูเซียรู้ว่า ... เธอคือคู่ครองของเขา ลูเซียจึงเตลิดหนีไปไม่ให้การ์เร็ธตามหาเธอเจอได้อีก

1 ปีผ่านไป ...

ลูเซียได้เบาะแสอาวุธที่สามารถสังหาร Cruach ศัตรูที่ตามล่าเธออยู่ได้ ( Cruach จะตื่นขึ้นมาในระยะเวลา 500 ปี ทำให้ลูเซียกับเรจินวางแผนที่จะกำจัดเขามาโดยตลอด แต่มีเพียงอาวุธเพียงชิ้นเดียวที่สามารถสังหารศัตรูรายนี้ได้ นั่นก็คือ dieumort)

ลูเซียเดินทางไปอเมซอนเพื่อขึ้นเรือโดยสารโกโรโกโสลำหนึ่ง และนั่นทำให้เธอได้พบกับการ์เร็ธอีกครั้ง คราวนี้เขาเกาะติดเธอหนึบ ! และไม่คิดจะปล่อยลูเซียไปง่ายๆอีกครั้ง แต่ลูเซียจะมีเซ็กส์กับการ์เร็ธไม่ได้ เธอจึงอธิบายเรื่องราวของเธอให้เขาฟังว่าทันทีที่เธอมีเซ็กส์กับผู้ชายคนใด อำนาจและพลังของเธอจะสูญหายไป และเธอจะอ่อนแอลง

หลังจากหนึ่งปีที่การ์เร็ธตามหาลูเซียจนพบ เขาใช้กำไลข้อมือเพื่อบังคับไม่ให้ตัวเองกลายร่างในคืนพระจันทร์เต็มดวงมาโดยตลอด แต่ผู้หญิงของเขา กลับปฏิเสธที่จะให้เขาประทับตราเธอ การ์เร็ธจึงต้องหาวิธียั่วยวนลูเซียให้เธอยอมเอาชนะคำสาบานและยอมจำนนต่อเขาให้ได้

(ฉากตอนที่ผจญภัยในลุ่มน้ำอเมซอนนี่สนุกมาก มีทั้งจระเข้ งูอนาคอนดา ไหนจะลูกเรือเพี้ยนๆที่ทำเราฮาก๊ากไปหลายครั้งเลย)

ลูเซียตามหาสถานที่ที่ซ่อนอาวุธที่สามารถพิชิตศัตรูของเธอได้ในที่สุด แต่โชคร้าย ... เมื่อคืนนั้นเป็นคืนพระจันทร์เต็มดวง และลูเซียยอมจำนนต่อการ์เร็ธในที่สุด เขาประทับตราเธอ ลูเซียตื่นขึ้นมาพร้อมกับตระหนักความจริงว่าเธอได้มีเซ็กส์กับการ์เร็ธไปเรียบร้อยแล้ว และเธอจะสูญเสียพลังของเธอไปตลอดกาล แต่ความจริงหาได้เป็นเช่นนั้นไม่ เมื่อความสามารถยิงธนูของลูเซียเกิดจากฝีมือที่เธอเคี่ยวกรำมาล้วนๆ ไม่ใช่พรวิเศษที่เธอได้รับมาแต่อย่างใด

ลูเซียได้อาวุธที่จะนำไปสู่การสังหาร Cruach เมื่อลูเซียเดินทางไปยังสถานที่ซ่อนศัตรูของเธอซึ่งเคยเป็นอดีตสามีของเธอ (ตอนนั้นลูเซียอายุแค่สิบหกแล้วโดนปีศาจตนนี้ล่อลวงให้แต่งงานด้วย เธอโดนจับขัง และหนีออกมาได้โดยเฉียดตายอย่างหวุดหวิด) ลูเซียสังหารศัตรูของเธอในท้ายที่สุด การ์เร็ธกลับตามเธอมา ทั้งๆที่ลูเซียทิ้งเขาเอาไว้ก่อนหน้านี้ การ์เร็ธโดน Cruach ครอบงำให้สังหารลูเซีย แต่จริงๆแล้วเขาไม่ได้ทำร้ายลูเซียเลย แต่ Cruach กลับปูกฝังความทรงจำใส่หัวการ์เร็ธว่าเขาฆ่าคู่ครองของเขา

การ์เร็ธคิดว่าเขาเป็นคนฆ่าลูเซีย เขาปล่อยให้สัตว์ร้ายในตัวครอบงำจนเกินเยียวยา แลคเลนและโบเวนพาเขากลับแคลนเพื่อไปขังไว้ที่คุกใต้ดิน แต่ลูเซียกลับไม่ยอมแพ้ง่ายๆ เธอไปหาการ์เร็ธและบอกเขาว่าเขาไม่ได้ฆ่าเธอ เธอยังมีชีวิตอยู่ นั่นถึงทำให้การ์เร็ธหลุดจากการครอบงำและกลับมาหาลูเซียในท้ายที่สุด ...

........................................................

เล่มนี้ประเด็นเยอะแยะมากมายก่ายกอง ไหนจะเรื่องที่โลแธร์ เรจิน แคโรว โดนลักพาตัวไปในตอนท้ายเรื่องอีก ยิ่งอ่านยิ่งติดหนึบอ่ะ ชอบมากๆ เครสลีย์พัฒนาฝีมือการเขียนขึ้นเยอะเลย ปมดราม่าซับซ้อนขึ้นกว่าเล่มแรกๆมาก ทั้งๆที่ตัวละครมีบุคลิกคล้ายๆกัน แต่เธอก็สามารถทำให้เนื้อเรื่องและอารมณ์ออกมาแตกต่างกันได้

ไม่รู้จะพูดว่ายังไงล่ะ ! เอาเป็นว่าชอบเล่มนี้มากๆ อารมณ์ตอนอ่านเหมือนได้ย้อนกลับไปอ่านเล่มแรกๆของ IAD เลย คือประทับใจและรู้สึกอิ่ม เล่มนี้มันครบทุกอารมณ์จริงๆ ทั้งโรแมนติค ดราม่า ผจญภัย ตลก สนุกมากกกกก จนอ่านจบภายในวันเดียวเลย

คะแนน 10/10

Jul 14, 2014

นักล่าอาญาสวรรค์ - Angels' Blood (Guild Hunter #1)


ชื่อเรื่อง เทพบุตรแดนสวรรค์ ตอน นักล่าอาญาสวรรค์
จากเรื่อง Angels Blood
ผู้แต่ง นลินี ซิงห์
โรมานซ์ เหนือจริง
ผู้แปล ศตคุณ
สำนักพิมพ์ แก้วกานต์

เรื่องย่อ

เอเลน่า นักล่าแวมไพร์สาวสวย รู้ดีว่าตนเองเป็นมือดีที่สุด แต่เธอก็ไม่แน่ใจว่าเธอจะดีพอสำหรับงานนี้หรือไม่ ในเมื่อผู้ว่าจ้างของเธอคือ ราฟาเอล อัครเทวดาผู้งดงามล้ำเลิศ...และอันตรายอย่างยิ่งยวด เขาจะไม่ยอมรับความล้มเหลว แม้ว่าจะเป็นงานที่เป็นไปไม่ได้ที่สุด และเธอไม่มีโอกาสแก้ตัว เพราะงานนี้เหยื่อของเธอไม่ใช่กระจอก ๆ อย่างที่แล้ว ๆ มา
งานโหดหินนี้นำเอเลน่าเข้าสู่การโรมรันที่แทบเอาชีวิตไม่รอด ทว่าแม้เธอจะเอาตัวรอดจากการต่อสู้มาได้ แต่สัมผัสที่แรงร้อนและยั่วยวนใจของราฟาเอล อาจเป็นสิ่งที่ทำลายเธอเสียเอง เพราะเมื่อเป็นเกมที่อัครเทวดาลงเล่นด้วยแล้ว มนุษย์ปุถุชนเช่นเธอ...มีหรือที่จะต่อกรได้...

REVIEW

เรื่องนี้จับประเด็นมาเขียนรีวิวได้ยากมากๆ อาจเพราะมันยังไม่ค่อยมีประเด็นมากมายอะไรในเล่มนี้ด้วย เนื่องจากเนื้อเรื่องมันดำเนินไปอย่างเรื่อยๆ สบายๆเสียมากกว่า ...

(อัครเทวดาทุกคนมีอายุเก่าแก่โบราณไล่เลี่ยกันไป ซึ่งพลังอำนาจของพวกเขาจะเพิ่มขึ้นตามอายุ แต่นั่นก็เหมือนดาบสองคม ถ้าพวกเขาควบคุมอำนาจเหล่านั้นไม่ได้ และปล่อยให้มันเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ อัครเทวดาผู้นั้นจะกลายเป็น 'บลัดบอร์น' เขาจะควบคุมพลังของตนเองไม่ได้และลงมือสังหารทั้งมนุษย์และแวมไพร์ที่อยู่รอบข้าง)

เอเลน่าได้รับคำสั่งจากราฟาเอลให้ไปตามจับตัวอูรัม อัครเทวดาคนหนึ่งที่มีพลังมหาศาลเกินกว่าแวมไพร์ปกติที่เอเลน่าเคยเผชิญ ราฟาเอลก็เหมือนกัน ... เขาคืออัครเทวดาสุดแสนอันตรายที่สามารถฆ่าเอเลน่าให้ตายได้ง่ายยิ่งกว่าพลิกฝ่ามือ หากเธอเดินเกมนี้ผิดพลาดแม้เพียงนิดเดียว

เอเลน่าท้าทายราฟาเอลเมื่อรู้ว่าจุดมุ่งหมายของเขาคือการลากเธอขึ้นเตียงและก็จะทิ้งเธอเหมือนเธอเป็นของเล่น ดังนั้นเอเลน่าจะไม่มีทางยอมจำนนอย่างง่ายๆเด็ดขาด เธอท้าทายราฟาเอลจนอัครเทวดาโมโห จากนั้นก็ตามล่าตัวเอเลน่า ทั้งสองปะทะกัน  เอเลน่ายิงปีกราฟาเอลจนเขาได้รับบาดเจ็บ

ในขณะที่เอเลน่าต้องตามเบาะแสการฆาตกรรมหญิงสาวที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ศพของพวกเธอถูกทิ้งไว้เกลื่อนกลาดและอยู่ในสภาพที่ไม่น่าดูเอาเสียเลย เอเลน่าต้องตามกลิ่นของอูรัมให้ได้ เพราะเขาคืออัครเทวดาที่เสียสติและสังหารมนุษย์อย่างโหดร้ายบ้าคลั่ง

เอเลน่าต้านทานเสน่ห์เย้ายวนของราฟาเอลไม่ไหว ทั้งคู่มีสัมพันธ์ลึกซึ้งกัน และสิ่งหนึ่งที่ราฟาเอลรับรู้ได้ก็คือ ... การที่เขาอยู่กับเอเลน่า ทำให้เขามีความ 'เป็นมนุษย์' มากขึ้น และนั่นช่วยให้เขาไม่ต้องกลายไปเป็นปีศาจที่จะสังหารเหยื่ออย่างบ้าคลั่งเหมือนอูรัม

เอเลน่าตามหาตัวอูรัมเจอในที่สุด เขาแข็งแกร่งมากจนราฟาเอลเกือบจะเอาชนะไม่ได้ แต่ด้วยแรงกายแรงใจของราฟาเอล ทำให้เขาชนะการต่อสู้กับอูรัมในที่สุด แต่นั่นก็ต้องแลกมาด้วยอาการบาดเจ็บสาหัส ไม่ใช่เพียงแต่ตัวเขา แต่ทั้งเอเลน่าด้วย เธอบาดเจ็บสาหัสและเข้าสู่ภาวะโคม่าเป็นระยะหนึ่งปี

หลังจากที่เอเลน่าฟื้นขึ้นมาด้วยรูปลักษณ์ใหม่ เธอก็พบว่าตัวเองกลายเป็นเทวดาปีกสีดำไปแล้ว นั่นก็เป็นเพราะแอมโบรเซีย ซึ่งราฟาเอลอธิบายให้เธอฟังว่า เมื่ออัครเทวดาคนใดได้พบกับรักแทก เขาผู้นั้นจะมีพลังอำนาจที่สามารถเปลี่ยนใครสักคนให้กลายเป็นเทวดาได้ ....

.........................................

ไม่รู้สิ ! หลังจากอ่านหนังสือเล่มนี้จบ เรารู้สึกว่านลินีพยายาม 'กั๊ก' ข้อมูลเอาไว้สุดฤทธิ์ นั่นจึงส่งผลให้เนื้อเรื่องบางช่วงยืดยาวโดยไม่จำเป็น โดยเฉพาะในช่วงแรกๆที่นลินีพยายามปูความสัมพันธ์ของตัวละครเอาไว้จนแน่น เมื่อเนื้อเรื่องหลักดำเนินมาจนถึงจุดไคลแมกซ์ ความสัมพันธ์โรแมนติคระหว่างเอเลน่ากับราฟาเอลก็ดูจืด อาจจะเป็นเพราะสไตล์การเขียนของนลินีด้วยที่ทำให้งานออกมาในรูปแบบด้วย เหมือนต้องการให้ผู้อ่านโฟกัสไปที่จุดใดจุดหนึ่ง (ซึ่งตรงนี้แล้วแต่คนชอบ ^^)

อีกประเด็นหนึ่งที่น่าสนใจเกี่ยวกับหนังสือเรื่องนี้ก็คือ ... ระดับชั้นการปกครองของอัครเทวดาที่มีการก่อตั้งผู้ปกครองขึ้นมาในแต่ละพื้นที่ รวมทั้งเหล่าเซเว่นที่ดูเหมือนจะเป็นองครักษ์ให้กับราฟาเอล (คุ้นๆมั้ย เฮ้ย !!! นี่มันถอดมาจากหนังสือชุด Psy-Changeling ชัดๆเลยนี่หว่า) แถมเนื้อเรื่องยังมีประเด็นที่อัครเทวดาที่ปกครองพื้นที่ต่างๆเริ่มแย่งชิงอำนาจในการปกครองในตอนท้ายๆของเรื่อง รวมถึงอัครเทวดาลี่จวนที่ดูเหมือนจะมีปัญหาซึ่งเราว่าน่าจะหยิบยกขึ้นมาเล่าในเล่มที่ 2 แน่นอน !!!

อ่านหนังสือของนลินีติดๆกับมาหลายเล่ม เลยทำให้เราเริ่มชักจะรู้สึกว่า พระ-นางนิสัยเหมือนๆกันซะหมดจนเริ่มแยกไม่ได้ว่าใครเป็นใคร -*- สงสัยต้องห่างกันสักพักแล้วละ กลัวอ่านรวดเดียวแล้วจะกลายเป็นไม่สนุกจนเสียของไป

ลังเลว่าจะให้ 7.5 หรือ 8 คะแนนดี คือหนังสือชุดนี้มันโดดเด่นไม่เหมือนใคร ใช่ ! เรายอมรับ แต่มันยังไม่ถึงขั้นที่ Fantastic ! ขนาดอยากหยิบมาอ่านซ้ำเมื่อมีเวลา เรามีความรู้สึกว่า Guild Hunter คือหนังสือแนว Fallen Angel ในภาค Adult Fiction ที่ใส่ความรุนแรงและฉากรักเข้าไปในเนื้อเรื่องเท่านั้นแหละ

เพราะถ้าถอดคาแรคเตอร์ราฟาเอลออก ถอดความโดดเด่นของเอเลน่าและกิลด์ฮันเตอร์ออก หนังสือเล่มนี้ก็คือหนังสือนิยาย Young Adult ธรรมด๊า ธรรมดานี่เอง ซึ่งถ้าจะทำให้เราชอบหนังสือมากขึ้นกว่านี้ เราคิดว่านลินีน่าจะใส่ประวัติเหล่าอัครเทวดาเข้าไปด้วย ว่ามีความเป็นมาอย่างไร ปมหลังแต่ละคนเป็นยังไง เราว่ามันจะทำให้อารมณ์ตัวละครเข้มข้นมากกว่านี้แน่นอน ! (แต่ละเรื่องนี่ประวัติความเป็นมาของเอเลน่ากับราฟาเอลมาแบบวับๆแวบๆ ปะติดปะต่ออะไรไม่ค่อยจะได้ ซึ่งเราก็เชื่ออีกเหมือนกันว่านลินีกั๊กไว้สำหรับเล่มต่อๆไปแน่นอน)

คะแนน 8/10

Jul 13, 2014

เพลิงรักหัวใจพยศ - Branded by Fire (Psy-Changeling #6)


ชื่อเรื่อง พลังแห่งรัก ตอน เพลิงรักหัวใจพยศ
จากเรื่อง Branded by Fire
ผู้แต่ง นลินี ซิงห์
โรมานซ์ เหนือจริง
ผู้แปล วาลุกา
สำนักพิมพ์ แก้วกานต์

เรื่องย่อ

เขาเป็นหมาป่า ส่วนหล่อนเป็นเสือดาว เมื่อทั้งสองฝูงเป็นพันธมิตรกัน ในฐานะผู้พิทักษ์ฝูง หล่อนจะต้องร่วมงานกับนักรบหนุ่มจากฝูงหมาป่า ปัญหาคือ เพลิงปรารถนาซึ่งไม่อาจต้านทานได้ลุกโชนขึ้น
เขาคือ 'กำแพง' ที่ไม่เคยหวั่นไหวต่อสิ่งใด แต่เสือดาวสาวผู้แกร่งกล้าไม่แพ้นักรบชายคนไหนกลับทำให้หัวใจเขาสั่นคลอน เขาจะทำเช่นไรเพื่อให้ได้ครอบครองแม่เสือสาวผู้มีหัวใจอิสระอย่างหล่อน
ท่ามกลางสงครามระหว่างเผ่าพันธุ์ที่ทวีความรุนแรงขึ้นทุกขณะ สงครามความรักระหว่างมนุษย์กลายร่างที่แตกต่างกันอย่างสุดขั้วจะลงเอยเช่นไร...

REVIEW

เมอร์ซี่ คือเสือดาวผู้พิทักษ์จากฝูงดาร์คริเวอร์ เธอคิดว่าการที่เธอจะหาผู้ชายสักคนมาเป็นคู่ชีวิต ผู้ชายคนนั้นต้องมีภาวะผู้นำและเข้มแข็งพอๆกับเธอ แต่ก็ไม่ใช่มาบงการชีวิตของเธอจนเธอไม่เป็นตัวของตัวเอง เมื่อเมอร์ซี่ได้เจอกับไรลีย์ นักรบหนุ่มจากฝูงสโนว์แดนเซอร์ เธอก็เกิดปราถนาในตัวชายหนุ่มขึ้นมา สำหรับทั้งคู่นั้น เรื่อวที่เกิดขึ้นมันเป็นแค่เซ็กส์ ไม่ได้มีอะไรมากกว่านั้น เพราะเธอจะให้ใครไม่ได้ว่าเสือดดาวอย่างเธอมีความสัมพันธ์ที่ลึกซึ้งกับหมาป่า

แต่ทุกครั้งที่ไรลีย์ใกล้ชิดกับเมอร์ซี่ย์มากเท่าไร เขาก็เกิดความปราถนาในตัวของเธอมากขึ้นเท่านั้น เมื่อมีงานที่ทั้งคู่รับผิดชอบให้ทำร่วมกัน ก็เป็นไปไม่ได้เลยที่พวกเขาหลบหน้ากันสำเร็จ

ทางด้านสถานการณ์ของสมาพันธ์มนุษย์ก็มีเรื่องยุ่งๆเกิดขึ้นเมื่อ โบเวนได้ลักพาตัวแนชไป ทำให้เหล่ามนุษย์กลายร่างวุ่นวายหาตัวเขากลับคืนมา และได้เบาะแสเมื่อโบเวนสารภาพความจริงว่าเขาไม่เห็นด้วยกับแนวคิดของเหล่ามนุษย์ที่ต้องการจะกุมอำนาจเหนือทั้งสามเผ่าพันธ์

ความสัมพันธ์ระหว่างไรลีย์และเมอร์ซี่คือการที่ไม่มีใครยอมเป็นผู้ตามใคร พวกเขาคือผู้นำทั้งคู่ และนั่นคือสิ่งที่เมอร์ซี่คิดว่าทั้งคู่ไม่มีวันเป็นอะไรมากไปกว่าแค่คู่รักฉาบฉวย แต่เมื่อไรลีย์ตระหนักในท้ายสุดว่าเมอร์ซี่คือผู้หญิงคนนั้น คือคู่ชีวิตของเขา เขาก็ทำทุกวิถีทางเพื่อทำให้เมอร์ซี่คิดว่าระหว่างเขากับเธอสามารถทำให้เป็นไปได้

ทางสหพันธ์มนุษย์ก่อความวุ่นวายขึ้น เป้าหมายแรกคือสังหารสมาชิกสภาระดับสูง แต่โชคช่วยเมื่อเหล่ามนุษย์กลายร่างรู้ทันแผนการณ์และยับยั้งได้ทัน ไม่ใช่เพื่อผลประโยชน์ของฝ่ายไซ แต่เพื่อยับยั้งสงครามระหว่างสามเผ่าพันธุ์ที่จะระอุขึ้นแน่นอนหากปล่อยให้เกิดการล้มตายที่ไม่จำเป็นนี้

ประธานของสหพันธ์ทำการติดตั้งระเบิดไว้ตามสถานที่ต่างๆ ทำให้เมอร์ซี่ได้รับบาดเจ็บสาหัสหลังจากที่เธอยอมระทิ้งฝูงของตัวเองเพื่อที่จะทำให้พันธะคู่ชีวิตของทั้งคู่สมบูรณ์ ไรลีย์แทบจะหัวใจสลายเมื่อเห็นร่างที่บาดเจ็บของเมอร์ซี่ เขาจะไม่ยอมสูญเสียเธอไปเด็ดขาดหลังจากที่เขาเพิ่งรู้ว่าเมอร์ซีย์คือคู่ชีวิตของเขา

ทาเทียน่าอยู่หลังแผนการณ์ทั้งหมดเมื่อหล่อนร่วมมือกับประธานของสหพันธ์มนุษย์เพื่อให้เขาดำเนินแผนในการสร้างความปั่นปวนให้กับมนุษย์กลายร่าง ที่ไปกว่านั้นก็คือสังหารสภาของไซเพื่อที่ทาเทียน่าจะได้กุมอำนาจไว้ในมือของหล่อนแต่เพียงผู้เดียว

สุดท้าย ... ไรลีย์และเมอร์ซี่ก็สามารถครองคู่กับโดยที่ไม่มีฝ่ายไหนต้องแยกจากฝูงของตัวเอง เพราะพันธะคู่ชีวิตที่เกิดขึ้นเชื่อมโยงพวกเขาเข้าด้วยกันโดยที่ทั้งไรลีย์และเมอร์ซี่ก็ยังอยู่ในโครงข่ายจิตของตัวเองเพราะลูคัสและฮอว์คตกลงเป็นพันธมิตรกัน นั่นทำให้ทั้งสองฝูงมีความเชื่อมโยงกันมาตั้งแต่ต้น

..................................................

หลังจากได้อ่านเล่มนี้ ต้องขอยอมรับเลยว่า ... ฝีมือของนลินีพัฒนาไปไกลแล้ว และมันไม่ธรรมดาเลยที่จะเขียนเรื่องให้มีความน่าสนใจมากมายขนาดนี้ ชั้นเชิงในการเล่าเรื่องนั้นเห็นได้ชัดว่าดีขึ้นกว่าเล่มก่อนๆมาก เนื้อเรื่องหลักที่ดำเนินไปอย่างเข้มข้น วางไม่ลง จนทำให้เราแทบจะไม่สนใจบทโรมานซ์เลย ประเด็นทางการเมืองที่ละเอียดอ่อน นลินีก็ถ่ายทอดออกมาได้ดีอย่างไร้ที่ติ

จุดที่เราคิดว่านลินีสามารถทำให้ดีกว่านี้ได้ก็คือ ... ความสัมพันธ์ระหว่างไรลีย์-เมอร์ซี่ที่เราคิดว่ามันดูเอื่อยๆ แทบไม่กระเตื้องไปไหนเลยตั้งแต่ตอนแรก เหมือแต่ละฝ่ายก็ไม่มีใครยอมใคร ทั้งคู่มีความเป็นอัลฟ่าอยู่ในตัวมากพอที่จะเข้ากันไม่ได้ ...

เราขอเปรียบเทียบความสัมพันธ์ระหว่างไรลีย์กับเมอร์ซี่ในเล่มนี้เหมือนเป็นเส้นเชือกที่ถูกขึงจนตึง หากฝ่ายใดฝ่ายนึงยังรั้นต่อไปบนความสัมพันธ์เส้นนี้ เชือกก็ต้องขาดลง ! แต่ใช่แล้ว ... เราจึงคาดหวังว่าทางออกสำหรับทั้งคู่จะเป็นอะไรที่ว๊าวววว และทำให้เราคิดไม่ถึง แต่สุดท้าย ... เมอร์ซี่ที่เป็นผู้หญิงที่ยึดมั่นในความเป็นอัลฟ่าของตัวเองมากๆ ก็เป็นฝ่ายที่ยอมให้ไรลีย์จนได้ ทั้งๆที่ก่อนหน้านี้บุคลิกของเธอดูไม่น่าจะยอมอ่อนถึงขนาดนี้เลยก็ตาม แต่เราเข้าใจว่าเป็นเพราะความรักที่ต่างฝ่ายต่างมีให้กัน ถึงทำให้เมอร์ซี่ยอมอ่อนลงได้ขนาดนี้

เราคิดว่าที่เราจะติดตามหนังสือชุด Psy-Changeling ต่อไป คงไม่ใช่เพราะบทโรมานซ์แล้วล่ะ (แต่ก็สนใจคาเล็บกับฮอว์คอยู่นะ) แต่เป็นเพราะพล็อตเรื่องหลักที่เข้มข้นและเชือดเฉือนอารมณ์มากๆ ทำให้หนังสือชุดนี้มีเสน่ห์และความน่าสนใจจนเลิกอ่านไมได้เลยทีเดียว

ขอให้ 8.5 คะแนนสำหรับเล่มนี้ พล็อตเรื่องให้ 9 นะ แต่ขอหักเรื่องความสัมพันธ์พระนางที่ทำให้เราเบื่อๆในบางตอน ...........

คะแนน 8.5/10

Jul 12, 2014

จังหวะแห่งหัวใจ - Beat of Temptation (Psy-Changeling #0.5,3.5)


ชื่อเรื่อง พลังแห่งรัก ตอน จังหวะแห่งหัวใจ
จากเรื่อง Beat of Temptation
ผู้แต่ง นลินี ซิงห์
โรมานซ์ เหนือจริง
ผู้แปล วาลุกา
สำนักพิมพ์ แก้วกานต์


เรื่องย่อ

จังหวะแห่งหัวใจ (Beat of Temptation)

แทมมี่รู้ตัวมานานแล้วว่าเนทคือคู่ชีวิตของหล่อน บัดนี้ เมื่อหล่อนกลับจากโรงเรียนแพทย์ในนิวยอร์ก หล่อนก็พร้อมแล้วที่จะครองคู่กับเขา ทว่าเนทกลับไม่พร้อม เขาอยากให้หล่อนมีเวลาตัดสินใจว่าต้องการครองคู่กับเขาไปชั่วชีวิตจริง ๆ หล่อนพยายามทุกวิถีทางเพื่อทำให้เขาเชื่อว่าหล่อนไม่มีวันเปลี่ยนใจ ทั้งไล่ตาม ทำเมินเฉย และยั่วให้หึง เนทก็ยังดื้อดึงปฏิเสธทั้ง ๆ ที่เจ้าเสือดาวในตัวเขาร่ำร้องปรารถนาหล่อน แล้วมนตร์ขลังของคริสต์มาสจะนำพาความรักของทั้งคู่ไปสู่ความสุขสมหวังได้อย่างไร...

ปาฏิหาริย์แห่งรัก (Stroke of Enticement)

ครูโรงเรียนอนุบาลผู้จืดชืดอย่างแอนนี่ไม่เคยคิดฝันเลยว่า ตัวเองจะเป็นที่สนใจของนักรบหนุ่มผู้เปี่ยมเสน่ห์จากฝูงเสือดาวดาร์คริเวอร์ การเกี้ยวพาของเขาคงเป็นแค่การหาเรื่องสนุกฆ่าเวลาเล่น แซคพาหล่อนก้าวเข้าสู่โลกอันน่าทึ่งของฝูงเสือดาว ทำให้หล่อนรู้สึกเหมือนตัวเองเป็นสาวเซ็กซี่ที่น่าปรารถนา ทว่าแอนนี่แน่ใจว่ามันจะต้องจบลงในสักวันหนึ่ง และหล่อนจะไปจากเขาก่อนจะถึงวันนั้น ปาฏิหาริย์แห่งคริสต์มาสจะร่ายเวทมนตร์ให้หล่อนเชื่อในรักแท้หรือไม่...

REVIEW

จังหวะแห่งหัวใจ (Beat of Temptation)

เรื่องนี้น่ารักดี เป็นเรื่องของแทมซินกับเนท ทั้งคู่รู้ตัว่าเป็นคู่ชีวิตกันตั้งแต่แทมซินอายุสิบห้า แล้วเนทก็ต้องรอเวลาให้แทมซินโตและให้เธอได้ใช้ชีวิตอย่างอิสระก่อนที่จะมาลงเอยกับเขา เขาไม่อยากให้แทมซินเป็นแบบแม่ของเขาที่แต่งงานกับพ่อไปสักพักก็ไปกันไม่รอด เพราะแม่ของเขาโหยหาอิสระ

แทมซินรู้ตัวว่าเธอพร้อมสำหรับเนทแล้ว แต่เนทก็ยังผลักไสเธอไปทุกวิถีทาง นั่นทำให้แทมซินต้องทำทุกวิธีเพื่อให้เนทชอบครองคู่กับเธอให้ได้ ... สุดท้ายเมื่อความพยายามไร้ผล แทมซินเลยตัดสินใจออกจากฝูง พอเนทรู้เรื่อง เขาก็ไล่ตามเธอจนพบ และทั้งสองก็ได้ปรับความเข้าใจกันในที่สุด

... เราชอบเรื่องนี้มาก อาจเป็นเพราะว่ามันเป็น Short Story ด้วยแหละ เลยเนื้อหาไม่ค่อยหนัก อ่านสบายๆ ทั้งเนทและแทมซินน่ารักมากกกกกกกกกก ตอนที่ทั้งคู่ปรับความเข้าใจกันก็ทำเราเผลออมยิ้มตามไปด้วยเลยทีเดียว

คะแนน 9.5/10

ปาฏิหาริย์แห่งรัก (Stroke of Enticement)

แซค นักรบแห่งฝูงเสือดาวดาร์คริเวอร์ได้พบกับแอนนี่ คุณครูแสนสวย แว่บแรกที่เขาเห็นเธอ เขาก็รู้ได้ทันทีว่าเสือดาวในตัวเขาปราถนาเธอมากแค่ไหน แอนนี่คือคู่ชีวิตของเขา ดังนั้นแซคจะไม่มีทางปล่อยเธอไปอย่างง่ายๆแน่นอน

แอนนี่ไม่คิดว่าหนุ่มหล่ออย่างแซคนั้นจะหันมาสนใจเธอ และยิ่งไม่หวังเลยว่าทั้งคู่จะมีความสัมพันธ์กันในระยะยาว เหมือนอย่างพ่อแม่ของเธอที่ความรักค่อยๆจางหายไปตามเวลา ทิ้งให้แม่ของเธอเจ็บปวดอย่างโดดเดี่ยว แอนนี่กลัวว่าเธอจะเป็นเช่นนั้นเหมือนหากเธอยอมมอบความไว้วางใจให้กับแซค

แซคครอบครองแอนนี่ แต่กระนั้นพิธีการครองคู่ก็ยังไม่เสร็จสิ้น เขารู้ว่ามีบางอย่างที่ทำให้แอนนี่ยังไม่ยอมมอบใจให้เขาทั้งหมด แซคจึงสารภาพกับแอนนี่ว่าเขารักเธอ และจะไม่มีวันทิ้งเธอไปอย่างแน่นอน ทั้งสองเป็นคู่ชีวิตกัน ดังนั้นพวกเขาจะผูกพันธ์กันด้วยความรักไปตลอดกาล นั่นจึงทำให้แอนนี่ยอมมอบความไว้วางใจให้แซคในท้ายที่สุด

... เรื่องนี้กุ๊กกิ๊กน่ารัก เนื้อหาเบาๆ แต่เราชอบคาแรคเตอร์ของแซคมานะที่รุกแอนนี่เร็วมาก เขามั่นใจในตัวเขาและแอนนี่ว่าทั้งคู่จะสร้างความสัมพันธ์และอยู่ด้วยกันได้ ดังนั้นแซคจึงต้องทำให้แอนนี่เชื่อมั่นใจตัวของเขาเหมือนกัน แล้วเราก็ชอบตอนที่แซคไปหาแม่ของแอนนี่ที่บ้านแล้วแม่ของแอนนี่พยายามจะข่มเขา แต่แซคก็ไม่ยอมแพ้ด้วยนะ เขาทำทุกอย่างจนชนะใจแม่ของแอนนี่ได้

คะแนน 8/10

Jul 11, 2014

พยัคฆ์หัวใจผยอง - Hostage to Pleasure (Psy-Changeling #5)


ชื่อเรื่อง พลังแห่งรัก ตอน พยัคฆ์หัวใจผยอง
จากเรื่อง Hostage to Pleasure
ผู้แต่ง นลินี ซิงห์
โรมานซ์ เหนือจริง
ผู้แปล วาลุกา
สำนักพิมพ์ แก้วกานต์


เรื่องย่อ

เขาคือผู้พิทักษ์หนุ่มแห่งฝูงเสือดาวดาร์คริเวอร์ ผู้มีความแค้นฝังลึกต่อเผ่าพันธุ์ไซ เพราะน้องสาวของเขาต้องจบชีวิตลงด้วยน้ำมือฆาตกรชาวไซ โดยที่เขาไม่อาจปกป้องได้...
เธอเป็นชาวไซที่สมบูรณ์แบบ ทั้งเย็นชา ไร้หัวใจ และเหี้ยมโหด มิหนำซ้ำยังเป็นกลจักรสำคัญในแผนการชั่วร้ายของสภา...
โชคชะตาชักนำให้เธอมาอยู่ในความคุ้มครองของเขา แม้เธอจะเป็นคนในเผ่าพันธุ์ที่เขาชิงชัง แต่ด้วยหน้าที่ เขาจึงต้องปกป้องเธอ กระนั้น เจ้าเสือดาวที่ถูกกักขังอยู่ในตัวเขากลับปรารถนาไซสาวผู้นี้ ร่ำร้องที่จะค้นหาความลับซึ่งซุกซ่อนอยู่มากมายในตัวเธอ รวมถึงสิ่งที่ลึกลับที่สุด...นั่นคือหัวใจของเธอ...

REVIEW

... นี่เป็นหนังสือเล่มแรกในชุด Psy-Changeling ของนลินีที่ทำให้เราได้เห็นพัฒนาการทักษะการเขียนของเธอแบบก้าวกระโดด ...

ดอเรียน มนุษย์กลายร่างเสือดายที่ไม่สามารถเปลี่ยนร่างได้ ได้ช่วยชีวิตคีแนน ลูกชายของอาชายาตามที่เขาได้สัญญาเอาไว้ หลังจากนั้น ... อาชายาก็หลบหนีออกจากห้องทดลองสู่ความเป็นอิสระภายใต้การคุ้มกันของดอเรียน ตั้งแต่ครั้งแรกที่ดอเรียนเห็นอาชายา เขาก็เกิดความปราถนาในตัวเธอ แม้ว่าดอเรียนจะยังชิงชังรังเกียจพวกไซที่ได้ฆ่าน้องสาวของเขาก็ตาม

อาชายาตัดสินใจเปิดข้อมูลของโครงการอิมแพลนท์โปรโตคอลไอที่จะส่งผลให้ไซทุกคนถูกเชื่อมโยงเข้ากันด้วยเครือข่ายแบบรังผึ้ง โดยมีคนที่กุมอำนาจสูงสุดควบคุมความคิดของคนที่อยู่ต่ำกว่าทั้งหมด หลังจากที่อาชายาเปิดเผยข้อมูลนี้ออกไปแล้วก็ส่งผลให้เกิดกระแสความเสียหายไปทั่วจนสภาสูงสุดของไซต้องออกคำสั่งให้จับตัวอาชายากลับมาหรือไม่ก็ฆ่าเธอทิ้งซะ

ดอเรียนมองเห็นความเป็นห่วงคีแนนอยู่ในตัวของอาชายา แต่เธอกลับปฏิเสธ เพราะนั่นจะทำให้ลูกชายของเธอไม่ปลอดภัย ถ้าอมารา น้องสาวฝาแฝดของเธอรู้ว่าอาชายาอยู่ที่ไหนผ่านทางเกราะป้องกันจิตใจที่พังทลายลงของเธอ

อมารามีความบกพร่องทางจิตที่ส่งผลให้เธอจับอาชายาไปไว้ในหลุมที่ขุดเอาไว้เพื่อศึกษาการวางเงื่อนไขทางจิตของเธอ นั่นส่งผลให้อาชายาเป็นโรคกลัวที่แคบมาตลอด และถึงแม้ว่าอมาราจะเสียสติแค่ไหน แต่เธอก็ไม่เคยฆ่าคน เธอไม่ได้ชั่วร้าย แต่ก็ไม่ใช่คนดีเช่นเดียวกัน

อาชายาไม่มีทางปลอดภัยได้เลย อมาราจะรู้ตำแหน่งที่เธออยู่ทันทีที่เธอลดระดับของเกราะป้องกันทางจิตลง แต่มันไม่ได้เป็นแบบนี้เมื่ออาชายาอยู่กับดอเรียน เขาปลุกอารมณ์ความรู้สึกของอามายาขึ้นมาอีกครั้ง

ดอเรียนรับอาชายาเป็นคู่ชีวิตของเขา เขาต้องการที่จะปกป้องอาชายาด้วยชีวิตของเขาเช่นเดียวกัน แต่เมื่ออมาราหนีหลุดจากเงื้อมมือของหมิง เลอบงเพื่อมาทำหาตัวอาชายา อมาราจะไม่ยอมเสียอาชายาให้กับใครไหนเด็ดขาด อาชายาเป็นของเธอ ดังนั้นไม่ว่าใครก็ทำที่ทำให้พันธะทางจิตระหว่างอาชายากับอมาราอ่อนแอลง เธอจะฆ่ามันผู้นั้นให้ได้

ดอเรียนกับอาชายาจับอมาราไว้ได้ แต่แม้กระทั่งซาช่าก็ไม่สามารถที่จะรักษาความบกพร่องทางจิตของอมาราได้ และการฆ่าก็ไม่ใช่ทางออกสำหรับปัญหานี้ เพราะมันจะทำร้ายอาชายาจนถึงแก่น ประจวบเหมาะกับที่อาชายาต้องเปิดเผยข้อมูลการทดลองที่เธอมีไว้ในกำมือผ่านทางสื่ออีกครั้ง แต่นั่นคือโชคร้ายของอาชายาเมื่อมือปืนถูกส่งมาเพื่อปลิดชีวิตหล่อน ดอเรียนเอาตัวขวางอาชายาทำไว้ นั่นทำให้เขาบาดเจ็บสาหัส อาชายาต้องตัดสินใจเลือกว่าเธอจะยื้อชีวิตของดอเรียนเอาไว้โดยการตัดจิตตัวเองออกมาจากไซเน็ตหรือไม่

ทันทีที่อาชายาตัดจิตตัวเองออกจากไซเน็ต พันธะคู่ชีวิตของดอเรียนและอาชายาก็เชื่อมโยงกัน อาชายายื้อชีวิตของดอเรียนเอาไว้จนเธอก็เกือบจะเอาชีวิตไม่รอดเหมือนกัน เมื่อทั้งคู่ได้รับการรักษาจนหายดีแล้ว ภัยคุกคามก็ยังไม่จบเมื่อกองกำลังจะฝ่ายมนุษย์ถูกส่งมาตามล่าเพื่อชิงตัวอาชายาไปเนื่องจากข้อมูลการทดลองที่เธอมีอยู่ในกำมือ ดอเรียนปกป้องอาชายาอย่างสุดชีวิตโดยได้รับความช่วยเหลือจากทั้งฝั่งดาร์คริเวอร์และสโนว์แดนเซอร์

อาชายาทำการทดลองที่แก้ไขความบกพร่องของดอเรียนที่ไม่สามารถกลายร่างได้อันเกิดจาดดีเอ็นเอได้สำเร็จ ดอเรียนจึงกลายร่างเป็นเสือดาวได้ในที่สุด

... ... หนังสือเล่มนี้มีพล็อตเรื่องที่เฉียบคมและฝีมือการเขียนของนลินี ซิงห์ที่พัฒนาอย่างก้าวกระโดด เนื้อเรื่องหลักน่าสนใจและมีการหักมุมให้คนอ่านได้ลุ้นตามอย่างต่อเนื่องจนทำให้เรารู้สึกว่าบทในส่วนของโรมานซ์ไม่ได้มีความจำเป็นเลย ลำพังแค่เฉพาะเนื้อเรื่องหลักก็ทำให้เราสนใจหนังสือเล่มนี้ได้ไม่น้อยเลยทีเดียว

อีกประการหนึ่งที่ทำให้เราชอบหนังสือเล่มนี้ (ทั้งที่ก่อนหน้าเราไม่ค่อยสนใจความสัมพันธ์ระหว่างดอเรียนกับอาชายาเลยด้วยซ้ำ) ก็คือบุคลิกของดอเรียนที่ดูมีมิติ มีความลึกทางด้านอารมณ์ความรู้สึกของตัวละครจนทำให้ผู้อ่านสามารถสัมผัสและรู้สึกร่วมไปกับดอเรียนได้ เขามีความบกพร่องก็จริง แต่เขาก็เรียนรู้ที่จะยอมรับมันได้ในที่สุด

อย่างที่เราบอกว่านลินีมีความสามารถที่ทำให้หนังสือเล่มหนึ่งที่เราแทบจะไม่มีความสนใจที่จะอ่านเลย(เพราะไม่โดนเรื่องคู่พระนาง) มีความน่าสนใจขึ้นมาได้ จนทำให้เราอ่านจบภายในวันเดียว นับว่าเป็นความสามารถที่นักเขียนน้อยคนนักจะมี ด้วยพล็อตเรื่องที่*ชัดเจน*และน่าติดตาม ไม่เบี่ยงออกนอกประเด็น กับเรื่องราวที่ร้อยเรียงอยู่บนเหตุและผล วิทยาศาสตร์ จิตวิทยา นั่นทำให้หนังสือเล่มนี้มีความลงตัวอย่างมากเลยทีเดียว

เราคิดว่าหนังสือชุด Psy-Changeling คือโลกแฟนตาซีโลกใหม่ที่ไม่ได้เหนือธรรมชาติจนเราจับต้องไม่ได้ แนวคิด ปรัชญา แม้กระทั่งอารมณ์ความรู้สึกของตัวละคร เราเชื่อจริงๆว่าสิ่งเหล่านี้มันเกิดขึ้นเป็นประจำอยู่ทุกวันในชีวิตประจำวันของเราอย่างคาดไม่ถึง นั่นคือเสน่ห์ที่สามารถทำให้นักอ่านหลายคนเพลิดเพลินไปกับเนื้อเรื่องและอุปสรรคที่ตัวละครต้องผจญอย่างไม่ต้องสงสัยเลย ^^

คะแนน 9/10

Jul 10, 2014

Deep Kiss Of Winter (Immortals After Dark #8)


ชื่อเรื่อง Deep Kiss Of Winter
ผู้แต่ง เครสลีย์ โคล
โรมานซ์ เหนือจริง
สำนักพิมพ์ Simon & Schuster

เรื่องย่อ

Kresley Cole - Untouchable (Immortals After Dark #8)

#1 NEW YORK TIMES BESTSELLING AUTHOR KRESLEY COLE delivers a breathtaking tale of a brutal vampire soldier about to know love for the first time... and a Valkyrie aching for his touch.

Murdoch Wroth will stop at nothing to claim Daniela - the delicate Valkyrie who makes his heart beat for the first time in three hundred years. Yet the exquisite Danii is part ice fey, and her freezing skin can't be touched by anyone but her own kind without inflicting pain beyond measure. Can they conquer an agony of frustration and slake the overwhelming desire burning between them?

REVIEW

เนื้อเรื่องของ Deep Kiss Of Winter จะย้อนกลับไปในช่วงเวลาที่นิโคไล รอธตามล่าตัวมิสต์เดอะโคเวตที่ทำการบลัดและทิ้งเขาไปเป็นเวลา 5 ปี

เมอร์ด็อช รอธ ช่วยนิโคไลตามหามิสต์จนพบ ระหว่างนั้น เขาได้ช่วยชีวิตของดาเนียลล่า วัลคีรีลูกครึ่งเฟย์น้ำแข็ง หล่อนไม่สามารถทนรับสัมผัสจากใครได้ เพราะมันจะเผาไหม้หล่อน แต่เมื่อดาเนียลถูกเหล่า the Icere ซึ่งก็คือนักฆ่าที่ถูกส่งมาตามล่าตัวเธอทำร้ายจนได่รับบาดเจ็บ เมอร์ด็อชก็เกิดความรู้สึกปกป้องหวงแหนในตัวของดาเนียลขึ้นมา หล่อนเป็นของเขา เขาต้องปกป้องหล่อนให้ได้ ! และดาเนียลล่าได้บลัดเขา ทำให้หัวใจเขาเต้นขึ้นมาอีกครั้ง

เมอร์ด็อชพาดาเนียลล่ากลับที่พักและรักษาบาดแผลของหล่อน แม้ว่าเมอร์ด็อชต้องการที่จะปลดปล่อยความต้องการกับดาเนียลล่ามากขนาดไหน แต่เขาก็แตะต้องหล่อนไม่ได้ เพราะสัมผัสของเขาจะเผาไหม้ผิวกายของหล่อน นั่นทำให้เขารู้สึกหงุดหงิดโชคชะตาว่าทำไมถึงทำให้ดาเนียลล่ามาเป็นเจ้าสาวของเขาด้วย ไม่มีโอกาสไหนเลยที่สัมผัสของเขาจะไม่ทำให้หล่อนเจ็บปวด ไหนจะเรื่องที่เขากระหายเลือดของดาเนียลล่าอีกล่ะ นั่นทำให้เมอร์ด็อชต้องปล่อยดาเนียลล่าไปก่อนที่เขาจะพลั้งมือทำร้ายหล่อน แม้ว่านั่นจะทำให้ดาเนียลล่าเข้าใจผิดว่าเมอร์ด็อชใช้ประโยชน์จากหล่อนแค่เพื่อทำการบลัด และเขาจะไปนอนกับใครก็ได้ตามที่ต้องการ

คริสตอฟเรียกนิโคไลมาพบเมื่อรู้ว่าเขาดื่มเลือดจากมิสต์ แต่ไม่ได้ลงโทษเขา ทั้งยังมอบหมายให้เมอร์ด็อชตามหาไอโว(แวมไพร์ที่จับตัวมิสต์ไปขังไว้ทีแรกก่อนที่นิโคไลจะไปช่วย) นั่นจึงทำให้เมอร์ด็อชได้พบกับดาเนียลล่าอีกครั้ง

ดาเนียลล่ายอมให้โอกาสกับเมอร์ด็อช เมื่อเมอร์ด็อชรู้ว่าดาเนียลล่ากับจะออกจากโคเวนที่นิวออร์ลีนส์ เขาก็พาหล่อนมาอาศัยอยู่ที่ไซบีเรีย ซึ่งปกคลุมไปด้วยหิมะ ดาเนียลล่าโหยหาสภาพอากาศที่เย็นยะเยือก จนหล่อนเปลือยกายท่ามกลางหิมะ เมอร์ด็อชเกิดความปราถนาในตัวของหล่อน แม้ว่าเขาจะแตะต้องดาเนียลล่าไม่ได้ แต่เขาก็ใช้แท่งน้ำแข็งที่หักออกมาทำให้หล่อนสุขสม (ตอนนี้เราอ่านแล้วหน้าแดงมาก คิดได้ยังไง ? ใช้แท่งน้ำแข็งเป็น Sex Toy 555)

แต่ทั้งคู่ก็ต้องมีเรื่องให้ผิดใจกันอีกครั้ง เมื่อดาเนียลล่าไม่คิดจะรั้งให้เมอร์ด็อชอยู่ด้วยหลังจากที่พวกเขาเสร็จกิจกรรมกันแล้ว เมื่อเมอร์ด็อชต้องออกไปตามหาไอโวเป็นเวลาหลายวันตามคำสั่งที่ได้รับมอบหมายมาโดยที่ไม่ได้แตะต้องดาเนียลล่า นั่นทำให้เมอร์ด็อชคิดว่าระหว่างเขากับดาเนียลล่าเป็นไปไม่ได้เลย แค่จะสัมผัสตัวของหล่อนก็เป็นไปไม่ได้แล้ว

ด้วยนิสัยเสือผู้หญิง เมอร์ด็อชจูบกับผู้หญิงชาวมนุษย์สามคนในคืนเดียว แต่นั่นทำให้คงค้นพบว่าเขาไม่ได้ต้องการใครอื่นอีกแล้ว นอกจากดาเนียลล่าคนเดียวเท่านั้น เมื่อเขากลับมายังไซบีเรียพร้อมช่อดอกไม้ ดาเนียลล่าได้กลิ่นผู้หญิงอื่นบนตัวเมอร์ด็อช หล่อนโกรธเขามากและจะย้ายออกไปอยู่ที่อื่นในไม่ช้า

เมอร์ด็อชตามหาไอโวจนเจอที่ถูก dempire (ลูกผสมปีศาจกับแวมไพร์) ทำร้ายจนได้รับบาดเจ็บสาหัส ก่อนที่เขาจะหมดสติไป ใบหน้าเดียวที่เขาอยากเห็นก็ยังคงเป็นดาเนียลล่า ทำให้เขารู้ถึงความต้องการที่แท้จริงของตัวเอง เมื่อเมอร์ด็อชได้สติและพบกับนิโคไลซึ่งมาสาธยายถึงความขับข้องใจเมื่อเขาได้ดื่มเลือดของมิสต์และได้เห็นความทรงจำต่างๆของเธอเวลาเธออยู่กับผู้ชายแปลกหน้าคนอื่น เมอร์ด็อชบอกนิโคไลว่า 'เขาต้องยอมรับในตัวเธอ ยอมรับในสิ่งที่เธอเป็นให้ได้' และนั่นก็เป็นการบอกตัวของเมอร์ด็อชเองเช่นเดียวกัน

เมอร์ด็อชย้อนกลับมาหาดาเนียลล่าหลังจากที่เขาหายดีแล้วพร้อมกับคำขอโทษ เขาไม่ได้ต้องการอะไรมากไปกว่าการที่ดาเนียลล่าจะให้โอกาสเขาอีกครั้ง (โอ๊ยยย ! ไม่ไหวจะเพลียตรงนี้นี่แหละ) เพราะเมอร์ด็อชเป็นหนุ่มสาเพลคาสโนว่าที่กลัวการผูกมัดอยู่กับผู้หญิงสักคน นั่นทำให้ดาเนียลล่าหาว่าเขาเป็นคนขี้ขลาดตาขาว

ดาเนียลล่าทำอะไรไม่ได้เลยขณะที่เวลาผ่านไปวันแล้ววันเล่า มิสต์แต่งงานกับนิโคไล เซบาสเตียนได้เจอกับคาเดริน และตอนนี้สามพี่น้องรอธก็ตามหาคอนราดซึ่งกลายเป็น fallen vampire เพราะเขาฆ่าเหยื่อมากมาย นิโคไลจึงจับคอนราดไปขังไว้ที่คฤหาสน์แห่งหนึ่งตามที่นิกซ์ได้แนะนำมา

เมอร์ด็อชยอมรับว่าบางครั้งเขาก็ไม่อยากจะกลับไปที่บ้านเล็กๆที่ดาเนียลล่าพักอยู่ มันทั้งหนาวเหน็บ ไม่มีความอบอุ่นจากเตาไฟ ทั้งยังไม่ได้กอดดาเนียลล่าไว้ขณะที่เขาหลับได้อีก ทางฝ่ายดาเนียลล่าก็จนปัญญาที่จะแก้ไขปัญหานี้เช่นเดียวกัน แต่ทุกครั้งที่เมอร์ด็อชกลับไปหาดาเนียลล่า เขาจะมีของขวัญติดมือกับไปทุกครั้ง แต่ครั้งหลังสุด เมื่อเมอร์ด็อชกลับมาจากสถานที่ที่กักตัวคอนราดเอาไว้ ของขวัญของสำหรับดาเนียลล่าก็หายไป (เป็นหวีที่เนโอมีขโมยไปตอนเล่ม Dark Needs at Night's Edge)

ดาเนียลล่าค้นพบวิธีที่จะทำให้หล่อนอยู่กับเมอร์ด็อชได้ แต่นั่นก็ต้องรอเวทมนตร์ของมาริเก้ตต้าไปอีกห้าสิบปี จึงเท่ากับว่าพวกเขาทั้งคู่ต้องยอมให้แม่มดใช้เวทมนตร์เสกให้พวกเขาหลับไหล แต่เมอร์ด็อชมองเห็นว่ามันเป็นความคิดที่ไร้สาระ เขาจะไม่เสียเวลาห้าสิบปีเปล่าๆปลี้ๆไปกับเรื่องนี้แน่ๆ

ทั้งคู่ทะเลาะกันจนดาเนียลล่าเตลิดออกมานอกบ้านพักและได้เจอกับจาเดียน องครักษ์ที่เสนอบัลลังก์ Icere ให้กับดาเนียลล่าซึ่งเป็นทายาทโดยชอบธรรม หลังจากที่เขาโค่นราชาคนล่าสุดที่เป็นคนฆ่าแม่ของดาเนียลล่าเพื่อแย่งชิงมงกุฏ จาเดียนพิสูจน์ว่าเขาเป็นเผ่าพันธุ์เดียวกับดาเนียลล่าดังนั้นทั้งคู่จึงสามารถสัมผัสกันได้ ดาเนียลล่าจูบกับจาเดียนเพราะหล่อนอยากรู้ว่ารสจูบจะเป็นอย่างไร แต่ตลอดช่วงเวลานั้น ... หล่อนคิดถึงคนเพียงคนเดียว นั่นก็คือเมอร์ด็อช

เมอร์ด็อชได้สติว่าเขาพูดจารุนแรงเกินไปและเพิ่งรู้ตัวว่าเขารักดาเนียลล่ามากแค่ไหน เขากลับมาขอโทษหล่อน แต่ก็กลับเห็นดาเนียลล่ายืนจูบกับผู้ชายอื่น เมอร์ด็อชต้องการทำให้หล่อนเป็นของเขาคนเดียว เขาจึงกัดหล่อน ทำให้หล่อนเจ็บปวดจากการเผาไหม้บนลำคอจากคมเขี้ยวของเขาเอง

ดาเนียลล่าไม่คิดจะหันกลับมามองเมอร์ด็อชด้วยซ้ำเมื่อหล่อนตัดสินกลับอาณาจักร Icere กับจาเดียน เมอร์ด็อชคิดจะตามหล่อนไป แต่กลับถูกคริสตอฟจับตัวไปเสียก่อนเมื่อเขารู้ว่าสามพี่น้องตระกูลรอธซ่อนตัวคอนราดเอาไว้

คอนราดมาช่วยนิโคไล เซบาสเตียนและเมอร์ด็อชออกไปจากสถานที่คุมขังเพื่อให้พวกเขาช่วยตามหาเนโอมีที่ฟื้นคืนชีพที่ติดอยู่ในสุสานที่ไหนสักแห่ง เมอร์ด็อชไม่มีเวลาพอที่จะช่วยคอนราด เขาตามหาตัวดาเนียลล่าจนพบเราบอกหล่อนว่าเขารักหล่อนมาเพียงไป และเมอร์ด็อชก็ยังค้นพบหนทางที่จะทำให้เขาสามารถสัมผัสหล่อนได้นั่นก็คือ ... การดื่มเลือดของหล่อน ดาเนียลล่าไว้ใจเมอร์ด็อชพร้อมกับให้โอกาสเขาอีกครั้ง

ทั้งคู่ทิ้งอาณาจักรให้จาเดียนดูแล ดาเนียลล่าจึงกลับมาอาศัยอยู่กับเมอร์ด็อชท่ามกลางครอบครัวรอธที่เต็มไปด้วยเสียงหัวเราะและความสุข ...

....................................

จะพูดว่ายังไงดีล่ะ ? Deep Kiss Of Winter ไม่ใช้เรื่องสั้น แต่ก็ไม่ใช่เรื่องยาว มันก้ำกึ่งระหว่างสองอย่างนั้น แต่ในความรู้สึกเรา ทางด้านอารมณ์ตัวละครเราว่ายังเทียบกับเล่มก่อนๆไม่ได้เลย ( เราชอบเล่มของคอนราดมากที่สุด รองลงมาก็เซบาสเตียน ) พระเอกไม่ได้มีความเป็นอัลฟ่ามากเลยก็จริง แถมเมอร์ด็อชยังดูเป็นผู้ชายที่น่ารังเกียจ เห็นแก่ตัว เสือผู้หญิง เสียจนทำให้นักอ่านเพลียจิตตั้งแต่แรกพร้อมกับคิดว่า ... ทั้งคู่จะลงเอยยังได้ยังไงเนี่ย ? เพราะเครสลีย์สร้างเรื่องราวให้พระนางแตะต้องตัวกันไม่ได้ตั้งแต่แรก และเมอร์ด็อชก็เจ้าชู้ เสเพลมากพอที่จะไม่หยุดอยู่แค่ผู้หญิงที่ถูกลิขิตมาให้เป็นเจ้าสาวของเขา

ที่ยิ่งไปกว่านั้น ... ตลอดทั้งเรื่อง เราจะได้เห็นนิสัยของเมอร์ด็อชที่ค่อยๆพัฒนาไปเรื่อยๆเมื่อเขาได้รู้จักกับดาเนียลล่า แต่สุดท้าย ... ตอนที่เมอร์ด็อชหมอบราบคาบแก้วเมื่อตัวเองรู้ตัวว่าเขารักดาเนียลล่า เราคิดว่าตรงนี้มันง่ายไปหน่อย ตามสไตล์ของเครสลีย์ เราจึงคาดหวังว่าเธอจะสร้าง impact ให้ตัวละครมากกว่านี้เสียอีก แต่ก็นะ ... ถ้าไม่มีนิยายของเจ๊ Gena แทรกมา Kresley คงได้ปล่อยพลังมากกว่านี้แน่นอน (แอบเสียดาย T.T) เนื้อเรื่องเราว่าก็ดูเอ๋อๆ ตัวร้ายก็ตายง่ายเกิน แถมตัวละครที่โผล่ก็บางตัวก็ไม่ได้มีเล่ห์เหลี่ยมบทบาทอะไรมากมายเลยด้วยซ้ำ

แต่สิ่งหนึ่งที่ยังคงมาตรฐานเดิมไม่เปลี่ยนก็คือเลิฟซีนที่ร้อนลุกไหม้มากๆ แม้ว่าอากาศในเรื่องจะหนาวเยือกแข็งขนาดไหน เครสลีย์ก็ไม่หวั่น เธอเขียนบทรักออกมาได้อย่างเป็นธรรมชาติและร้อนฉ่า ทำให้ด้านเนื้อเรื่องหลักที่ดูด้อยๆไปมีจุดสนใจขึ้นมาทันที 555

คะแนน 8/10

Jul 9, 2014

ดยุคเหล็กหัวใจทระนง - The Iron Duke (Iron Seas #1)

ชื่อเรื่อง ดยุคเหล็กหัวใจทระนง
จากเรื่อง The Iron Duke
ผู้แต่ง เมลจีน บรู๊ค
โรมานซ์ เหนือจริง
ผู้แปล ปริศนา
สำนักพิมพ์ เกรซ

เรื่องย่อ

หลังจากที่ดยุคเหล็กปลดปล่อยอังกฤษจากการควบคุมของฮอร์ด เขาได้กลายมาเป็นวีรบุรุษของประเทศในชั่วพริบตา ถึงตอนนี้รีส ทราเฮิร์นได้สร้างอาณาจักรการค้าขึ้นมาบนอำนาจ...และความหวาดกลัว...ต่อชื่อของเขา และเมื่อมีศพตกจากเรือบินลงมาบนบันไดหน้าคฤหาสน์ของรีส นั่นเป็นการนำสารวัตรนักสืบมินา เวนท์เวิร์ธเข้ามาในโลกที่แสนอันตรายของดยุคเหล็ก และเขาตั้งใจจะทำให้เธอเป็นการครอบครองครั้งใหม่ของเขา
ทว่ามินาไม่อาจรับความสนใจจากเขาได้ เมื่อสายเลือดฮอร์ดไหลเวียนอยู่ในเลือดของเธอ และแม้นาโนเทคโนโลยีจะเสริมสมรรถภาพให้ร่างกาย แต่เธอยังต้องใช้ชีวิตในสังคมลอนดอนอย่างยากแค้น การเป็นคู่รักของรีสจะทำลายทั้งอาชีพและครอบครัวของเธอ ทว่าการสืบสวนขัดขวางเธอจากการหลีกเลี่ยงดยุคเหล็ก... และการรุกไล่อย่างไม่ปรานีของรีสทำให้เป็นเรื่องยากเหลือเกินที่จะต้านทานเขา
แต่เมื่อมินาระบุตัวตนของเหยื่อได้ เธอก็สะดุดเข้ากับการสมคบคิดที่คุกคามทุกชีวิตในประเทศอังกฤษ เพื่อรักษาชีวิตของทุกคนเอาไว้ มินากับรีสจึงต้องข้ามฝ่าดินแดนรกร้างที่มีซอมบี้พลุกพล่านและน่านน้ำอันเต็มไปด้วยภยันตราย... และมินาได้ค้นพบว่าอันตรายไม่เพียงแต่คุกคามคนในประเทศเท่านั้น แต่เธอยังถูกเย้ายวนใจให้ยอมสละทุกอย่างให้แก่ดยุคเหล็กอีกด้วย

REVIEW

หลังจากการปฏิวัติอังกฤษโดยดยุคเหล็ก นั่นคือชื่อที่เขาได้รับการขนานนาม ... รีส ทราเฮิร์น คือผู้ชายที่มีอิทธิพลมากที่สุดของลอนดอน เมื่อมีศพตกลงมาที่หน้าบ้านของเขา จึงเป็นหน้าที่ของมินา เวนท์เวิร์ธสารวัตรสาวสวยให้เข้ามาตรวจสอบหาสาเหตุ ทันทีที่ทราเฮิร์นเห็นมินา เขาก็เกิดความสนใจในตัวของหญิงสาวขึ้นมา แม้ว่าเขาจะไม่มีทักษะการเชื่อมความสัมพันธ์ที่ดีสักเท่าไรก็ตาม ด้วยคำพูดขวานผ่าซากของเขาทำให้การพูดครั้งแรกของเขากับมินาเป็นไปได้อย่างไม่สวยนัก

ทันทีที่ทราเฮิร์นรู้ว่าศพรายนั้นคือหลานของแบ็กซ์เตอร์ ซึ่งเป็นกัปตันเรือเทอร์เรอร์ เทรเฮิร์นก็ยิ่งแน่ใจเข้าไปใหญ่เลยว่า เรือเทอร์เรอร์นั้นถูกขโมยไป โชคร้ายกว่านั้นเมื่อน้องชายของมินาเป็นลูกเรืออยู่บนเรือลำนั้นด้วย นั่นทำให้มินาต้องเดินทางไปหาแบ็กซ์เตอร์กับทราเฮิร์นอย่างช่วยไม่ได้

เมื่อมินาและทราเฮิร์นได้พบกับแบ็กซ์เตอร์ พวกเขาทั้งคู่ก็ได้เบาะแสของเรือเทอร์เรอร์ที่ถูกขโมยไป แต่เหตุการณ์เลวร้ายก็เกิดขึ้นเมื่อแบ็กซ์เตอร์ถูกบาวเดอร์และหนึ่งฆาตกรรม ยังไม่ทันทีที่เทรเฮิร์นจะเข้าถึงตัวคนร้ายเมื่อเขาไล่ตามไป คนร้ายก็ชิงฆ่าตัวตายเสียก่อน นั่นทำให้เขาไม่มีทางได้ข้อมูลอะไรจากปากคนร้ายเลย

มินากับทราเฮิร์นเดินทางไปหาเดอะเดม นั่นทำให้พวกเขารู้ว่าเธอเป็นคนจัดการให้โยนศพของเฮย์นส หลานชายของแบ็กซ์เตอร์ลงบนคฤหาสน์ของดยุคเหล็กนั่นเอง แต่เบาะแสของอาวุธที่สามารถฆ่าเหล่าบักเกอร์และเรื่องที่ว่าเรือเทอร์เรอร์ของทราเฮิร์นถูกมือดีขโมยไป นั่นจึงไม่ทำให้เรื่องเหล่านี้จบลงง่ายๆ

ทราเฮิร์นต้องการครอบครองมินาและสิ่งที่เขาอยากได้ เขาต้องได้ ทราเฮิร์นยื่นข้อเสนอให้มินาว่าจะให้เธอโดยสารไปกับเขาเพื่อตามหาแอนดรูว์ที่หายสาบสูญไปกับเรือเทอร์เรอร์ มินาไม่มีทางเลือก ไหนจะข่าวฉาวของเธอที่โด่งดังไปทั่วเมืองภายในค่ำคืนเดียวอีกละว่าเธอไปยุ่งเกี่ยวกับดยุคเหล็ก เมื่อขึ้นมาบนเรือแล้วทราเฮิร์นและมินาดื่มไวน์จนเมามายทั้งคู่ ทราเฮิร์นมอบความสุขให้มินาด้วยปากของเขา และทันทีที่มินาตั้งสติได้ เธอก็รู้ว่าเธอหวาดกลัวสิ่งเหล่านี้มากแค่ไหน เช่นเดียวกับทราเฮิร์นที่เห็นแววหวาดกลัวในดวงตาของมินา เขาก็รู้ตัวแล้วว่าเขาเพิ่งทำอะไรกับมินาลงไป มินายังทนรับความรู้สึกบ้าคลั่งจากการพบความสุขสมไม่ได้ ดังนั้นจึงเป็นหน้าที่ของทราเฮิร์นที่จะทำให้มินาชินกับความรู้สึกนี้ให้ได้

ทราเฮิร์นตามหาตัวโกลแบร์จนพบ เขารับสารภาพมาว่าอาวุธที่ใช้ทำลายล้างผู้คนจำนวนมากถูกส่งขึ้นเรือไปยังอังกฤษ ในขณะที่เรือเทอร์เรอร์ถูกฮันต์ขโมยไปโดยมีแอนดรูว์ น้องชายของมินาอยู่บนนั้น ทราเฮิร์นขอให้มินาเชื่อใจเขา คือ เขาจะตามหาเรือเทอร์เรอร์ให้พบแล้วยึดคืนมาก่อนจะย้อนกลับไปอังกฤษเพื่อป้องกันไม่ให้แบล็คการ์ดใช้อาวุธคร่าคน

ทราเฮิร์นชิงเรือเทอร์เรอร์กลับคืนมาได้ และนอกจากนั้นมินายังเสี่ยงชีวิตของเธอในการต่อสู้กับดราเคน ปลาหมึกยักษ์ที่กำลังจะมาโจมตีเรือของทราเฮิร์น ทำให้เขาเป็นห่วงเธอแทบแย่ว่าเธอจะเอาชีวิตไม่รอด นอกจากนี้มินายังเข้าใจว่าหลังจากที่พวกตนกลับไปลอนดอนแล้ว ทราเฮิร์นจะปล่อยเธอไป ซึ่งตรงข้ามการตัดสินใจของดราเฮิร์นที่เขาต้องการจะเก็บเธอไว้กับเขาตลอดไปอย่างสิ้นเชิง

... ... The Iron Duke คือผลงานพารานอร์มอลที่ค่อนข้างแปลกใหม่ เนื่องด้วยเนื้อเรื่องทั้งหมดดำเนินไปในธีม Steampunk ที่ค่อนข้างจะตื่นตาตื่นใจอยู่พอสมควร แต่น่าเสียดายที่เมลจีนยัดรายละเอียดมากเกินไปจนทำให้การอ่านนิยายเล่มนี้ครั้งแรกเต็มไปด้วยความสับสนมึนงงและเก็บประเด็นได้ไม่ครบ บางครั้งการจำชื่อตัวละครไม่ได้ทำให้เราไม่เข้าใจว่าตัวละครนี้มีบทบาทสำคัญอย่างไรต่อเนื้อเรื่องหรือจะขับเคลื่อนเรื่องราวทั้งหมดไปในทิศทางไหน

เราบอกได้เลยว่าการอ่านนิยายเล่มนี้จนจบนั้น เป็นอะไรที่ทำให้เราปวดหัวมากมาย รายละเอียดของเนื้อเรื่องที่เมลจีนยัดใส่หัวผู้อ่านแบบไม่ได้เกรงใจกันบ้างเล้ยยยย แล้วไหนจะการปูเนื้อเรื่องที่กินเนื้อหาไปจนเกือบครึ่งเล่มอีก พล็อตที่แน่นเอี๊ยดจนกลบความเป็นโรมานซ์เกือบหมด

... ... เราไม่ได้บอกว่านิยายเล่มนี้ไม่สนุกหรือห่วยแตกอะไรหรอกนะ แต่เราคิดว่า ... นิยายเล่มนี้ยังไม่สามารถดึงความประทับใจออกมาจากตัวเราได้หลังอ่านจบ นั่นทำให้เราได้ข้อสรุปอีกว่า ถึง The Iron Duke ถึงจะมีดุดเด่นตระการตาที่ทำให้นักอ่านโรมานซ์หลายคนตื่นตาตื่นใจกับนิยายแนวใหม่ที่ไม่ค่อยได้เห็นกัน แต่ด้วยความที่เราอ่านนิยายมาหลายแนว จึงอดไม่ได้ที่จะนำนิยายเล่มนี้ไปเปรียบเทียบกับนิยายแนว Thriller/Adventure เล่มอื่นที่สนุกมากกว่าโดยไม่จำเป็นต้องยัดข้อมูลหรือปรับพล็อตจนแน่นเอี๊ยดเหมือนกับนิยายเล่มนี้เลยแม้แต่น้อย

ด้วยคำโปรยและรีวิวจากหลายบล็อคที่บอกว่านิยายเล่มนี้ตื่นตาตื่นใจเหมือนนั่งรถไฟเหาะทางอารมณ์ทำให้การอ่านครึ่งเล่มแรกของเราเต็มไปด้วยความคาดหวังว่าจะได้เจอกับความพีคของเนื้อเรื่อง แต่พออ่านไปได้ 3/4 เราแทบจะยกมือเกาหัวแล้วถามว่า "มันตื่นตาตื่นใจตรงไหนเนี่ย?"

มันเหมือนการผจญภัยหนึ่งนำไปสู่อีกการผจญภัยที่ลึกลงไปเรื่อยๆ แต่ความสนุกมันหายไปหมด เพราะอะไรรู้มั้ย ? ทุกอย่างมันง่ายเกินไป เหมือนกับเมลจีนวางคาแรคเตอร์มาให้ทราเฮิร์นคือพระเอกระดับเทพที่สามารถแก้ไขปัญหาได้ทุกรูปแบบ ไม่มีความผิดพลาดอะไรเลย การต่อสู้ของเขาในหนังสือเล่มนี้ไม่เคยทำให้เราเห็นในมุมมองที่เขาหกล้ม ซานซม คลุกคลาน เพราะผู้แต่งนำเสนอรูปแบบเฉพาะในด้านที่เขาคือฮีโร่ที่มีความเก่งกาจ

คะแนน 7/10

Jul 7, 2014

มายาราตรี - Night Play (Were-Hunter #1)



ชื่อเรื่อง พรานราตรี ตอน มายาราตรี
จากเรื่อง NIGHT PLAY
ผู้แต่ง เชอริลีน แคนยอน
โรมานซ์ เหนือจริง
ผู้แปล จิตอุษา
สำนักพิมพ์ แก้วกานต์

เรื่องย่อ

ไบรด์ แมคเทียร์นีย์มีอคติต่อพวกผู้ชาย พวกเขาไร้ค่า เห็นแก่ตัว และไม่ได้รักหล่อนในแบบที่หล่อนเป็น ถึงแม้จะภูมิใจว่าหล่อนอยู่ได้ด้วยตัวเองไม่จำเป็นต้องพึ่งพาชายใด แต่ลึกลงไปในใจแล้วหล่อนยังปรารถนาอัศวินในชุดเสื้อเกราะวาววับ แต่หล่อนไม่เคยคาดคิดว่าอัศวินในชุดเสื้อเกราะวาววับของหล่อนจะมีขนที่เป็นประกาย
เวน แคตตาลาคิสเป็นผู้ที่อันตรายและทุกข์ทรมาน เป็นสุนัขป่าที่เป็นเวอร์-ฮันเตอร์ ศัตรูของเขาอยากให้เขาตาย แต่โชคชะตากำหนดให้ไบรด์เป็นของเขา บัดนี้เขามีเวลาสามสัปดาห์ที่จะทำให้ไบรด์เชื่อว่าสิ่งเหนือธรรมชาตินั้นเป็นเรื่องจริง ไม่เช่นนั้นเขาจะต้องอยู่อย่างไร้คู่ไปตลอดชีวิต
แต่สุนัขป่าจะทำให้มนุษย์ไว้ใจเขาด้วยชีวิตของหล่อนได้อย่างไร ในเมื่อศัตรูกำลังตามล่าชีวิตของเขา ในโลกของเวอร์-ฮันเตอร์นั้นคือโลกของการแก่งแย่งและการเข่นฆ่าทำลาย ผู้ที่เหนือผู้อื่นเท่านั้นจึงจะชนะ...

REVIEW

ไบรด์คือหญิงสาวโชคร้ายที่เพิ่งโดนแฟนของหล่อนบอกเลิกมาหมาดๆ ทันทีที่เวน หมาป่าหนุ่มแห่งฝูงคาตากาเรียเดินเข้าไปในร้านของหล่อน ไบรด์ก็เกิดความปราถนาในตัวของชายหนุ่มแปลกหน้าขึ้นมา ในขณะที่เวนก็ปราถนาอยากจะครอบครองไบรด์เหมือนกัน เพราะเขาเคยเห็นไบรด์มาก่อนหน้านี้แล้วตอนที่เขาไปหาซันไชด์ แต่เขาก็รู้ว่าเรื่องของเขามันเป็นไปไม่ได้ มนุษย์ไม่มีทางคู่กับสุนัขป่าอย่างเขาหรอก

เมื่อมีรอยประทับเกิดขึ้นบนตัวของเวนและไบรด์ นั่นยิ่งทำให้เวนแน่ใจเข้าไปใหญ่ว่าไบรด์คือเนื้อคู่ของเขา ซึ่งเขามีเวลาเพียงสามสัปดาห์เพื่อครองคู่กับเธอ แต่ถ้าเขาทำไม่สำเร็จ เวนก็จะไม่สามารถมีเซ็กส์กับผู้หญิงคนไหนไปตลอดช่วงเวลาที่ไบรด์ยังมีชีวิตอยู่

เวนกลับมาไบรด์ในรูปลักษณ์ของสุนัขป่า หญิงสาวรับพาเขาเข้าบ้านและดูแลเขา เวนไม่รู้จะทำยังไงดี ไบรด์ไม่มีทางเชื่อแน่นอนว่าเขาคือเวอร์-ฮันเตอร์ลูกครึ่งระหว่างอาร์คาเดียนและคาตากาเรีย และไหนจะเรื่องที่ฝูงของเขาตามล่าตัวของเขาอีก เวนจะไม่มีทางเอาชีวิตไบรด์เข้าไปเสี่ยงเด็ดขาด เวนตัดสินใจได้แล้วว่าเขาจะดูแลหญิงสาวแค่สามอาทิตย์ จากนั้นเขาก็จะปล่อยเธอให้มีชีวิตอยู่แบบมนุษย์ต่อไป แม้ว่านั่นจะหมายถึงหายนะของเขาก็ตาม

แต่เมื่อเวนคิดได้ว่า ทั้งชีวิตเขาต่อสู้กับอะไรมากมาย แต่เขากลับไม่ยอมต่อสู้เพื่อให้ได้ไบรด์มาครอบครองอย่างนั้นหรือ ? ชายหนุ่มจึงย้อนกลับไปหาไบรด์และเริ่มต้นความสัมพันธ์ง่ายๆกับเธอด้วยการพาไบรด์ไปออกเดท แต่เวนไม่เคยมีประสบการณ์ด้านนี้มาก่อน เขาจึงต้องขอความช่วยเหลือกับอแมนด้าและเกรซในการให้คำแนะนำ

เวนใช้ชีวิตอยู่กับไบรด์ เขาหลงใหลในตัวหญิงสาว แต่เมื่อไบรด์รู้ว่าเขาไม่ใช่มนุษย์ หล่อนก็ไล่เขาไปแต่ ไบรด์ถูกแม่แท้ๆของเวนจับตัวไปเพื่อคุ้มครองให้ปลอดภัยตลอดสามอาทิตย์นั้น แต่ฝูงของหล่อนไม่เห็นด้วย ไบรด์จึงถูกพาตัวไปลงทัณฑ์โดยให้ผู้ชายทั้งเผ่าข่มขืน แต่โชคดีที่เวนมาช่วยไบรด์เอาไว้ได้ทันเสียก่อน

แอชรอนให้คำแนะนำแก่เวนว่าเขาควรจะพาไบรด์และฟิวรี่ น้องชายหมาดๆของเวนไปอยู่กับวาเลอเรียสเพื่อคุ้มครองให้หล่อนปลอดภัย ไบรด์ยอมให้โอกาสกับเวน ให้ทั้งคู่ได้เรียนรู้กันและกันอีกครั้งก่อนที่หล่อนจะตัดสินใจว่าหล่อนจะใช้ชีวิตที่เหลือครองคู่อยู่กับชายหนุ่มอย่างเวนหรือไม่

ไบรด์ได้พาเวนเข้าสู่ชีวิตของหล่อน พาไปหาครอบครัวหล่อน นั่นเป็นช่วงเวลาที่ทำให้ไบรด์คิดได้ว่าเวนสำคัญต่อชีวิตของหล่อน และหล่อนรักเขามากแค่ไหน เมื่อมองดูชีวิตคู่ของพี่สาวของหล่อน ไบรด์เห็นแค่ความหนักแน่นมั่นคงในตัวของเวน เขารักและยอมรับหล่อนในแบบที่หล่อนเป็นโดยที่หล่อนไม่ต้องเปลี่ยนแปลงตัวเองเลยแม้แต่น้อย

... ... ด้วยพล็อตเรื่องที่มี 'ความเป็นสูตรสำเร็จ' มากจนเกินไป อย่าง ... หมาป่าหลงรักมนุษย์ จนต้องหาทางทำให้หญิงสาวเชื่อและยอมรับในตัวเขา แต่ก็มีอุปสรรครุมเร้า บลาๆๆๆ แต่สุดท้ายเขาก็ต้องต่อสู้เพื่อที่จะชนะใจหญิงสาวได้ในที่สุด... ทำให้ใจเราคาดหวังตลอดช่วงเวลาการอ่านว่าต้องมีอะไรที่ 'แตกต่าง' ไปจากพล็อตนี้บ้างละน่า !! แต่สุดท้ายก็ไม่มี !! แม้ว่าเนื้อเรื่องจะไหลลื่นไปในทิศทางที่เราชอบ แต่มันกลับไม่มีอุปสรรคหินๆที่จะมาพิสูจน์ความรักของทั้งคู่ว่าพวกเขาต่างยึดมั่นในกันและกันมากเพียงใด มีแค่อุปสรรคเล็กๆและง่ายเกินไปที่เข้ามาเพิ่มสีสันให้กับเนื้อเรื่องและทำให้ทิศทางของตัวละครเป็นไปในทิศทางที่ควรจะเป็นเท่านั้น

เราไม่ได้พูดว่าเราไม่ชอบนิยายชุดพรานราตรีเล่มนี้ ด้วยเนื้อเรื่องที่แสนจะเรียบง่ายและมีเกลื่อนกลาดตามท้องตลาด แต่บางครั้งเราก็ชอบความ 'เรียบง่าย' นี่แหละ เชอร์ริลีนเหมือนต้องการจะคั่นเรื่องหนักๆในชุดพรานราตรีหลังจากที่เขียนออกมาได้ 5 เล่ม ด้วยหนังสือมายาราตรีเล่มนี้ที่พลอตเบา ไม่หนักสมอง บทรักร้อนแรงถูกใจใครหลายคน

แต่ด้วยความง่ายของเนื้อคงเรื่อง แม้ว่าเราจะพอรู้อยู่แล้วว่าเรื่องจะดำเนินไปในทิศทางไหน ถึงอย่างไรก็ตาม คนอ่านก็คาดหวังความโลดโผนอันเป็นจุดเด่นของนิยายชุดพรานราตรีซึ่งเล่มนี้ขาดหายไปโดยสิ้นเชิง แต่ก็นะ เล่มนี้เป็นเล่มของ Were-Hunter ซึ่งคล้ายๆกับ spin-off จากมาจากชุด Dark-Hunter อีกที ดังนั้นเราจะไปตัดสินโดยยึดแกนหลักของ Dark-Hunter ไม่ได้ ก็เลยขออนุญาตให้ 9.5 คะแนนโดยที่ปิดหูปิดตาคิดเสียว่า หนังสือเล่มนี้คือเนื้อเรื่องที่ถูก...แยก...ออกมาจากโลกของ Dark-Huner อีกทีหนึ่ง

เมื่อคิดได้แบบนั้นแล้ว 'มายาราตรี' คือหนังสือโลกสวยเบาสมองอีกเล่มที่จะทำให้คุณเพลิดเพลินไปในโลกของเวอร์-ฮันเตอร์ได้ไม่น้อยเลยทีเดียว

คะแนน 9.5/10

Jul 6, 2014

พยัคฆ์เจ้าหัวใจ - Mine to Possess (Psy-Changeling #4)


ชื่อเรื่อง พลังแห่งรัก ตอน พยัคฆ์เจ้าหัวใจ
จากเรื่อง Mine to Possess
ผู้แต่ง นลินี ซิงห์
โรมานซ์ เหนือจริง
ผู้แปล วาลุกา
สำนักพิมพ์ แก้วกานต์

เรื่องย่อ

เธอคือเพื่อนคนเดียวในวัยเด็กของเขา คือแสงสว่างที่เขาสูญเสียไปตลอดกาล เพราะเขาล้มเหลวในการปกป้องเธอ...
เขาคืออดีตที่เธอวิ่งหนีมาทั้งชีวิต แต่เมื่อเด็กข้างถนนที่เธอรักและปกป้องสุดหัวใจ ถูกลักพาตัวไปโดยฆาตกรใจโหด เขาเป็นคนเดียวที่จะช่วยเธอได้...
เมื่อสตรีผู้เป็นเจ้าของหัวใจของเขากลับมาจากความตาย สัญชาตญาณเสือดาวในตัวเขาบอกว่าจะไม่ยอมปล่อยเธอไปอีกเป็นอันขาด ในขณะที่ทั้งสองต้องรีบหาตัวเด็กให้เจอก่อนฆาตกรลงมือ อดีตอันเจ็บปวดจะทำให้ทั้งสองกลับมาผูกพันกันอีกครั้ง
หรือต้องสูญเสียกันและกันไปตลอดกาล...

REVIEW

... เหตุผลที่เราซื้อหนังสือชุด Psy-Changeling ของนลินีมาอ่าน บอกได้เลยเป็นเพราะว่าเราอ่านเรื่องย่อของเล่มนี้ (Mine to Possess) แล้วซื้อรู้สึกชอบ ประทับใจมากๆ ก็เลยเหมาชุดนี้มายกเซ็ต ..

เคลย์คือเสือดาวหนุ่มที่สูญเสียหญิงสาวที่เป็นเพื่อนสนิทเพียงคนเดียวในวัยเด็กไป ทัลลี่คือเพื่อนเพียงคนเดียวที่เคลย์มี แต่ทันทีที่เขาออกมาจากสถานพินิจหลังจากที่เขาฆ่าพ่อเลี้ยงของทัลลี่เนื่องจากเธอถูกพ่อเลี้ยงทำร้าย เขาก็ได้รับแจ้งข่าวว่า ... ทัลลี่ของเขาเสียชีวิตแล้ว

ยี่สิบปีผ่านไป ... ทัลลี่ปรากฏตัวอีกครั้งต่อหน้าเคลย์ นั่นทำให้เขาโกรธมาก โกรธเธออย่างถึงที่สุดที่เธอโกหกเขามาโดยตลอด แต่ทัลลี่กลับมีเรื่องขอร้องให้เคลย์ช่วย เมื่อเด็กที่อยู่ภายใต้การดูแลของมูลนิธิที่เธอทำงานอยู่ถูกลักพาตัวไป เด็กหลายคนก่อนหน้านี้ถูกฆาตกรรมและถูกขโมยอวัยวะ เหยื่อรายล่าสุด จอนควิล ที่เพิ่งถูกลักพาตัวไปหมาดๆ คือคนที่ทัลลี่จะต้องช่วยเอาไว้และจะไม่ปล่อยให้เกิดอะไรขึ้นกับเขาเด็ดขาด และเคลย์คือคนที่สามารถจะช่วยเธอได้

ถึงแม้ว่าจะเคลย์จะยังโกรธถึงเรื่องที่ทัลลี่เคยทิ้งเขาไปและจากนั้นเธอก็นอนกับผู้ชายไม่เลือกหน้าเพราะปัญหาทางสุขภาพจิตของเธอที่เคยถูกพ่อเลี้ยงทำร้ายทารุณมาก่อน แต่เขาก็ไม่คิดจะปล่อยเธอไปเป็นครั้งที่สองเด็ดขาด เมื่อเคลย์ได้รับรู้ถึงความเจ็บป่วยของทัลลี่ โรคร้ายที่กำลังทำลายชีวิตเธออย่างช้าๆ เขาก็ยอมอ่อนลง รับฟังถึงสาเหตุของทัลลี่มากขึ้น

ทัลลี่ไม่แน่ใจในตัวเองว่าทำไมเธอถึงรู้สึกรักเคลย์และอยากปกป้องเขาขึ้นมาได้ ทั้งๆที่ก่อนหน้าเธอหวาดกลัวเขาแทบตาย แต่ทัลลี่ก็ได้รู้ใจของตัวเองในที่สุดว่า ... สาเหตุที่เธอทิ้งเคลย์มาตอนที่เคลย์ฆ่าพ่อเลี้ยงของเธอและถูกจับเข้าสถานพินิจ ไม่ใช่เพราะว่าเธอกลัวเคลย์ แต่ทัลลี่กลัวว่าถ้าเคลย์รู้เรื่องทั้งหมด เขาจะเกลียดเธอ เพราะความรักที่เขามีให้เธอนั้นคือสิ่งที่มีค่าเพียงสิ่งเดียวที่เหลืออยู่ในชีวิตของทัลลี่ และเธอจะไม่ยอมเสี่ยงที่จะเสียมันไปเด็ดขาด

เดฟ คือคนในมูลนิธิที่ร่วมมือกับทัลลี่เพื่อช่วยเหลือเด็กที่ถูกลักพาตัวไป เขาได้ส่งต่อข้อมูลใก้แก่ทัลลี่ในการตามหาเด็กที่ถูกลักพาตัวให้พบก่อนที่จะกลายเป็นศพ เบาะแสที่ทัลลี่ได้รับนำพาเธอไปยังห้องแลบที่จอนถูกจับไปขังเอาไว้ และทัลลี่ก็สามารถช่วยจอนออกมาได้สำเร็จ จากการช่วยเหลือของอาชายา สาวชาวไซที่ลูกชายของเธอถูกจับไปเป็นตัวประกัน ทำให้เธอต้องร่วมมือในการทดลองในโปรเจ็คโปโตรคอลไอที่จะนำไปสู่การล้างสมองและควบคุมชาวไซอย่างสมบูรณ์

เคลย์ตามล่าฆาตกรที่เล็งเป้ามายังทัลลี่หลังจากที่จอนหลบหนีออกไปได้ เขาจัดการฆาตกรชาวไซคนนั้นได้สำเร็จ เคลย์ยังรู้ด้วยว่าเขาได้ครองคู่กับทัลลี่อย่างสมบูรณ์แล้ว แม้ว่าโรคร้ายจะคุมคามชีวิตเธอ เขาก็ต้องช่วยให้ได้ แต่ถ้าทัลลี่ตาย เขาก็จะตายตามเธอไป ...

เคลย์ตระหนักได้ในท้ายที่สุดว่าอาการป่วยของทัลลี่ไม่ใช่ความผิดปกติทางกายภาพหรือการเสื่อมถอยของสมองอย่างที่เธอเข้าใจว่ามันมีผลร้ายแรงแต่อย่างใด มันเกิดจากการที่ทัลลี่เป็นผู้ถูกลืมที่มีสายเลือดของไซอยู่ในตัวอย่างเจือจาง ทำให้เธอต้องการการสะท้อนพลังในปริมาณที่น้อยกว่าไซสายเลือดบริสุทธิ์ แต่เมื่อทัลลี่ผูกพันธ์เป็นคู่ชีวิตกับลูคัสแล้ว เธอก็เชื่อมต่อกับเครือข่ายแห่งดวงดาวโดยตรง ทำให้เธอได้รับการสะท้อนพลังและมีชีวิตอยู่กับเคลย์อย่างที่เขาต้องการมาโดยตลอดในที่สุด

... ... เล่มนี้เราว่าความสัมพันธ์ทางด้านตัวละครและเนื้อเรื่องหลักลงตัวมาก ไม่หนักไปทางด้านใดด้านหนึ่งจนกลบความเด่นของอีกด้านไป ความสัมพันธ์ของเคลย์กับทัลลี่ เราขอบอกเลยว่าเป็นอะไรทีเ่ราประทับใจมากๆ เพราะทั้งคู่ผูกพันธ์กับมาตั้งแต่เด็ก และก็มีเหตุทำให้ต้องแยกจากกัน แต่ขอตินิด ! ตรงความคิดของทัลลี่นี่แหละ ที่ดูเหมือนจะ 'คิดมาก' เกินไปสำหรับนางเอกที่เป็นมนุษย์คนแรกในซีรีย์ชุดนี้ (ไม่รู้ว่าเราชินกับนางเอกพระเอกที่เป็นไซด้วยหรือเปล่า เลยรู้สึกว่านางเอกที่เป็นมนุษย์นี่ดู 'เยอะ' เกินไป)

เราชอบนิสัยของเคลย์ด้วยความที่ชอบคาแรคเตอร์ของพระเอกนิยายโรมานซ์ที่รักแรงโกรธแรงหึงแรงแบบนี้แล้วด้วย มันทำให้นิยายเล่มนี้ดูมีเสน่ห์เพิ่มขึ้นในสายตาของเรา บวกกับโลกที่นลินีสร้างขึ้นมาที่แตกแขนงไปในทิศทางใหม่ในเล่มนี้ ทำให้เรารู้สึกได้ว่าทุกอย่างมันดูพัฒนาและไม่ได้ย่ำอยู่กับจุดเดิมจนคนอ่านเบื่อไปเสียก่อน

[[สงสัยว่าเป็นเพราะสำนวนการแปลของคุณ 'วาลุกา' หรือว่าต้นฉบับใช้การเล่าเรื่องแบบนี้อยู่แล้วด้วย เพราะเราคิดว่าบทรักมันดูซอฟท์มากเลยนะ ตั้งแต่เล่มแรกละ ทั้งๆที่เราคาดหวังว่านิยายโรมานซ์ที่อิงตัวละครหมาป่าอะไรเทือกนี้ บทรักจะดุเดือดเผ็ดมันส์กว่านี้หน่อย เอิ๊กๆ]]

อยากให้ 10 ใจจะขาดนะเล่มนี้ ! อยากให้มากๆตั้งแต่ตอนที่ยังไม่เริ่มอ่านด้วยซ้ำเพราะชอบพลอตแบบนี้มาก แต่คือ ... นลินีน่าจะสร้างนางเอกที่หนักแน่นกว่านี้หน่อย เข้าใจว่าผ่านเรื่องเลวร้ายมาและมีบาดแผลทางจิตใจ แต่นั่นก็ยี่สิบปีแล้วนะ เธอกลับยึดติดและหวาดกลัวมากเกินไปเหมือนกับเรื่องทั้งหมดเกิดขึ้นเมื่อวานแน่ะ นั่นจึงทำให้ความสัมพันธ์ของทัลลี่กับเคลย์ดูประดักประเดิดไปในบางช่วงสำหรับเรา เหมือนจู่ๆเคลย์ก็ดูเหมือนจะหายโกรธและอภัยทัลลี่แล้ว แต่พอมาอีกบท ... อ้าว ! ทั้งคู่มาทะเลาะกันถึงเรื่องอดีตอีกแล้ว คล้ายๆว่าความสัมพันธ์ทั้งคู่มันสวิงจนเราปรับอารมณ์ไม่ทัน จึงอินอย่างไม่ค่อยต่อเนื่อง ฮ่าๆ

คะแนน 9.5/10

Jul 5, 2014

นักรบทระนง - Caressed By Ice (Psy-Changeling #3)


ชื่อเรื่อง พลังแห่งรัก ตอน นักรบทระนง
จากเรื่อง Caressed By Ice
ผู้แต่ง นลินี ซิงห์
โรมานซ์ เหนือจริง
ผู้แปล วาลุกา
สำนักพิมพ์ แก้วกานต์

เรื่องย่อ

เธอคือหมาป่าสาวเคราะห์ร้ายผู้เคยถูกฆาตกรใจโหดจับตัวไปทดลอง บัดนี้ เธอกำลังถูกฆาตกรอีกรายหมายจะเอาชีวิต ความหวังเดียวของเธอก็คือหนุ่มชาวไซผู้หล่อเหลาทว่าเย็นชาราวกับน้ำแข็งขั้วโลก...
เขาคือไซที่มีพลังจิตสูงยิ่ง...แต่พลังของเขามีไว้เพื่อฆ่า การกำจัดอารมณ์คือสิ่งที่ช่วยเขาไว้ไม่ให้เป็นบ้าและฆ่าคนรอบข้างอย่างเสียสติ แต่เมื่อเขาได้ใกล้ชิดเบรนน่า เธอก็ละลายน้ำแข็งในหัวใจเขา... และปลดปล่อยอารมณ์ที่อันตรายของเขาออกมามากขึ้นทุกที
เมื่อฆาตกรรุกไล่เบรนน่า จัดด์ก็ตั้งใจมั่นว่าจะปกป้องเธอ แต่สิ่งที่เขาให้เธอไม่ได้ก็คือความรัก เพราะมันเป็นสิ่งต้องห้ามที่จะทำลายพวกเขาทั้งคู่...

REVIEW

จัดด์ ลอเรน คือไซสายเลือดนักฆ่าที่จำเป็นต้องควบคุมความรู้สึกเอาไว้ เพื่อที่เขาจะได้ไม่ปลดปล่อยพลังที่จะผลาญชีวิตของผู้คนออกมาจนทำร้ายคนรอบข้าง แต่เมื่อเบรนน่า หญิงสาวที่ถูกจับตัวไปทดลองจนเกือบเอาชีวิตไม่รอด สิ่งที่ยังหลงเหลืออยู่ในจิตของเธอก็คือฝันร้ายที่ตามหลอกหลอน เลือด และการฆาตกรรมที่ยังตามติดเธอไปทุกหนแห่ง

เบรนน่าหลงใหลที่ตัวของจัดด์ แต่เธอเชื่อว่าการละลายน้ำแข็งของจัดด์ต้องใช้ไฟ และนั่นไม่ใช่เรื่องง่าย เมื่อหนุ่มชาวไซเลือกที่จะปิดกั้นอารมณ์ความรู้สึกของตัวเองอย่างสิ้นเชิง เบรนน่าปราถนาในตัวชายหนุ่ม ดังนั้นเธอต้องทุ่มความพยายามทั้งหมดที่มีสำหรับเรื่องนี้

จัดด์ใช้พลังจิตของตัวเองช่วยเบรนน่าเมื่อทั้งคู่ถูกไฮยีน่าลอบกัดจนตัวของจัดด์เข้าสู่อาการโคม่าเป็นเวลาหนึ่งวัน เบรนน่าคิดว่าจัดด์ทิ้งเธอ เธอจึงประชดด้วยการไปนอนกับผู้ชายคนอื่น แต่เธอก็ทำไม่ได้ เบรนน่าเกิดคลุ้มคลั่งขึ้นมาอีกในช่วงเวลานั้น จนพี่ชายและคนรอบข้างเป็นห่วงเธอ

มีการรอบทำร้ายทั้งในฝูงสโนว์แดนเซอร์และดาร์คริเวอร์ด้วยฝีมือของไซ พวกเขาต้องการป้ายสีให้แต่ละฝ่ายว่าเป็นความผิดของฝ่ายตรงข้าม ซึ่งก่อให้เกิดสงครามระหว่างฝูงตามมา แต่โชคดีที่จ่าฝูงของทั้งสองฝูงรู้ทันเสียก่อนและพยายามจัดการกับปัญหาที่เกิดขึ้น

จัดด์ก้าวล้ำข้อจำกัดทางอารมณ์ของเขาไปเพราะเขาไม่สามารถต้านทานเบรนน่าได้ แม้ว่าจะรู้อยู่แก่ใจว่าเมื่อใดที่เขาเตลิดพ้นการควบคุม เขาก็จะไม่สามารถบังคับพลังเอาไว้อีกต่อไป และนั่นอาจจะหมายถึงการที่เขาพลั้งมือฆ่าเบรนน่าก็ได้

พวกสภาไซอยู่เบื้องหลังของการสังหารมนุษย์กลายร่างในครั้งนี้ เหล่าสโนว์แดนเซอร์สืบได้จากไฮยีน่าตนหนึ่งที่พวกเขาจับตัวเอาไว้และรีดข้อมูลมาได้สำเร็จ ว่าดันแคนคนหนึ่งเป็นผู้ที่สั่งพวกเขาให้วางระเบิดกะท่อมที่จัดด์และเบรนน่าเคยไปพักอยู่ชั่วคราว

จัดด์ใช้พลังในการรักษาแอนดรูว์ พี่ชายของเบรนน่าที่ถูกลอบทำร้ายจนหมด นั่นทำให้เขาไม่มีพลังที่จะใช้เล่นงานตัวเองตามเงื่อนไขเกราะป้องกันของเขา จัดด์ร่วมรักเป็นครั้งแรกกับเบรนน่า และนั่นทำให้เขาไม่อยากจะปล่อยเธอไป จนยอมที่จะลองเสี่ยงกำจัดการป้องกันทางอารมณ์ของตัวเองดู แม้ว่านั่นจะหมายถึงอันตายต่อชีวิตของเขาก็ตาม

เบรนน่าจัดการกับฆาตกรที่หมายปองชีวิตเธอได้สำเร็จ และเธอได้รู้ว่า ... ผู้คนในฝูงของเธอก็สามารถทรยศหักหลังเธอได้เหมือนกันโดยการขายตัวเธอไปไซใช้ทดลองจนเธอเสียหายยับเยิน

หลังจากที่จัดด์ปลดเกราะป้องกันทางจิตใจไปได้โดยให้เหลือในส่วนที่ควบคุมพลังของเขาเอาไว้เพื่อไม่ให้พลังของเขาล้นออกมาจนทำร้ายผู้อื่นได้แล้ว พันธะคู่ชีวิตของเขาและเบรนน่าก็เกิดขึ้น และนั่นหมายถึงว่าทั้งจัดด์และเบรนน่าคือคู่ชีวิตกันอย่างแท้จริง

... ... เล่มนี้หนากว่าสองเล่มที่ผ่านมา อาจจะเป็นเพราะนลินียัดเนื้อเรื่องหลักเข้าไปเพิ่มในส่วนของเกมการเมืองและสงครามชิงไหวชิงพริบระหว่างไซและมนุษย์กลายร่าง จนเราคิดว่าเนื้อหาตรงนี้กลบความเป็นโรมานซ์ไปจนหมดเกลี้ยง

เพราะน่าเสียดายที่ 'เนื้อเรื่องหลัก' มันหนักเกินไปจนทำให้เราไม่อินกับความสัมพันธ์ของจัดด์และเบรนน่าเลย คล้ายๆกับอารมณ์ที่อ่านให้จบๆไปอีกเล่มเพื่อที่จะอ่านเล่มต่อไปรู้เรื่อง ทั้งๆที่เล่มนี้ได้รับรางวัล AAR 2007-2008 มาด้วยนะ แต่เราไม่ได้รู้สึกชอบหรือประทับใจอะไรเลยด้วยซ้ำ T^T แถมอ่านแล้วยังมึนๆรู้สึกหนักสมองด้วย แต่คนที่ชอบแนวชิงไหวชิงพริบโดยที่มีกลิ่นโรมานซ์อยู่นิดๆก็คงจะชอบเรื่องนี้ แต่สำหรับเราที่ชอบนิยายที่มีความเป็นโรมานซ์โดดเด่นมากกว่าเนื้อเรื่องในด้านอื่นๆ กลับรู้สึกไม่ค่อยโดนกับเรื่องนี้เอาเสียเลย เฮ้อออ !!

ให้ 8 คะแนน เพราะคิดว่าพล็อตหลักยังทำให้เรารู้สึกชอบได้อยู่ ถ้าเล่มนี้ไม่ใช่นิยายโรมานซ์ เราคงให้คะแนนมากกว่านี้เพราะแนวทางในการเล่าเรื่องมันหนักไปทางเกมการเมืองซะมากกว่า และเราคิดว่าจะติดตามหนังสือชุดนี้ต่อไปอีกสักพัก ดูว่าจะมีประเด็นที่น่าสนใจกว่านี้เข้าร่วมมาด้วยหรือไม่

คะแนน 8/10

Jul 4, 2014

นิมิตมรณะ - Visions of Heat (Psy-Changeling #2)


ชื่อเรื่อง พลังแห่งรัก ตอน นิมิตมรณะ
จากเรื่อง Visions of Heat
ผู้แต่ง นลินี ซิงห์
โรมานซ์ เหนือจริง
ผู้แปล วาลุกา
สำนักพิมพ์ แก้วกานต์


เรื่องย่อ

เธอคือหญิงสาวชาวไซผู้มีพลังจิตหยั่งรู้อนาคตที่กำลังถูกคุกคามด้วยนิมิตมืดชั่วร้าย เธอจะต้องหยุดมันให้ได้...ก่อนที่เธอจะกลายเป็นบ้า!
เขาคือ มนุษย์กลายร่างเสือจากัวร์ผู้ดุดันอันตราย เมื่อแม่สาวผมแดงชาวไซบุกเข้ามาในอาณาเขตของเขาเพื่อขอความช่วยเหลือ เขาจึงต้องจับตาดูเธออย่างใกล้ชิด...เพราะพวกไซเป็นเผ่าพันธุ์ที่ไว้ใจไม่ได้!
แต่ยิ่งได้ใกล้เธอ...เขาก็ยิ่งรู้สึกถึงความโดดเดี่ยวสิ้นหวังของเธอ เขาต้องสอนให้เธอมีพลังเข้มแข็งเพื่อต่อสู้กับภัยคุกคาม แล้วพลังอันใดเล่าจะแข็งแกร่งไปกว่า...พลังแห่งรัก!

REVIEW

เฟธ หญิงสาวชาวเอฟ-ไซที่มีพลังหยั่งรู้อนาคต เธอหลบหนีออกมาจากบ้านที่ไม่ต่างอะไรจากสถานที่จองจำของเธอ เพราะเธอรู้ว่าตัวเองกำลังเข้าใกล้ความวิกลจริตมากเข้าไปทุกที เฟธได้พบกับวอห์น มนุษย์กลายร่างซึ่งเป็นเสือจากัวร์ ผู้พิทักษ์ของฝูงดาร์คริเวอร์ ทีแรกวอห์นคิดว่าเฟธเล่นตลกกับความคิดของเขา เพราะเขาหลงใหลในตัวของเธอตั้งแต่ครั้งที่พบกัน แต่เมื่อเวลาผ่านไปเขาก็เริ่มแน่ใจว่าเฟธคือคู่ชีวิตของเขา

เฟธต้องต่อสู้กับนิมิตที่มาพร้อมกับความดำมืด เลือดที่หลั่งรินจากน้ำมือของฆาตกร เธอต่อสู้เพื่อไม่ให้ตนเองเสียสติไปเสียก่อน ไหนจะเรื่องที่เธอไม่สามารถทนรับสัมผัสจากมนุษย์คนไหนได้อีก ยิ่งวอห์นสัมผัสเธอมากเท่าไร เธอก็ยิ่งต่อต้านได้ยากขึ้นเท่านั้น

เฟธต้องใช้กำลังใจในการต่อสู้เพื่อรักษาเกราะป้องกันของตนเองไม่ให้พังทลายลงไปอย่างมาก เพราะเงื่อนไขทางอารมณ์ของเธอที่ไม่ยอมให้เธอทนรับสัมผัสจากใครคนไหน โดยเฉพาะจากวอห์น แต่นิมิตก็ยังรุกล้ำเข้ามาในจิตใจของเธอ นิมิตที่บ่งบอกถึงการลงมือขั้นต่อไปของฆาตกรที่จะเกิดขึ้นในอีกไม่ช้า

เฟธตัดสินใจตัดขาดจากไซเน็ตในที่สุด และมาใช้ชีวิตอยู่กับวอห์น หญิงสาวผมแดงคนนี้คือคู่ชีวิตที่เขารักและหวงแหนมากกว่าใครๆจนปล่อยให้เธอตกอยู่ในอันตายไม่ได้ เมื่อเฟธเห็นนิมิตของฆาตกรอีกครั้ง เธอก็ต้องลงมือทำอะไรสักอย่าง โดยได้อาศัยความร่วมมือจากจัดด์ ไซอีกคนที่หลบหนีออกมาอยู่กับฝูงหมาป่าสโนว์แดนเซอร์ จนในที่สุดเธอก็สามารถจับตัวฆาตกรได้สำเร็จ

สภาไม่ยอมปล่อยเฟธไปง่ายๆแน่เมื่อเธอคือสมบัตืที่มีค่ามากมายมหาศาลในการใช้ทำนายอนาคตเพื่อผลประโยชน์ทางธุรกิจขององค์กรต่างๆ เงินที่สภาได้รับก็มาจากภาษีขององค์กรเหล่านั้น แต่เฟธก็ได้รับรู้ว่าวอห์นจะไม่ยอมปล่อยให้เธอถูกจับตัวกลับไปเด็ดขาด และจะทุ่มกำลังทั้งหมดที่มีเพื่อปกป้องเธอจนถึงที่สุด ในขณะที่สภาก็ยอมล่าถอยเพราะองค์กรธุรกิจต่างๆได้ทำข้อตกลงใหม่กับเฟธว่าเธอจะต้องทำนายอนาคตให้พวกเขาในขณะที่เธออยู่กับฝูงดาร์คริเวอร์ แลกกับการปกป้องคุ้มครองเธอจากสภา

เฟธได้ใช้ความสามารถของตัวเองในการทำนายอนาคตถึงภัยภิบัติหรือเรื่องร้ายๆที่กำลังจะเกิดขึ้น เธอได้พิสูจน์ตัวเองแล้วว่าเธอเป็นส่วนหนึ่งของฝูง ...

อ่านเรื่องนี้ด้วยความมึน มึนในรายละเอียดของเนื้อหา ที่สลับซับซ้อนกว่าเล่มที่แล้วมาก เรียกได้ว่าปมในเล่มที่แล้วกลายเป็นของเด็กๆไปเลยถ้าเทียบกับเล่มนี้  เพราะเนื้อเรื่องหลักของนิมิตมรณะจะโฟกัสไปที่ดุลอำนาจของไซมากกว่าจะโฟกัสไปที่เผ่าพันธุ์ของมนุษย์กลายร่างเหมือนในเล่มที่แล้ว

ส่วนหนึ่งที่เราคิดว่าเล่มนี้ยังไม่มีความพีคเหมือนเล่มที่แล้วก็คือ ... ความสัมพันธ์ของตัวละครที่เราว่านลินีน่าจะลงลึกมากกว่านี้แทนที่จะไปเพิ่มประเด็นทางด้านความสามารถและข้อบกพร่องของเอฟ-ไซอย่างน้ำไหลไฟดับ ยิ่งตอนแรกๆเราก็แอบรำคาญนะที่พอนางเอกโดนพระเอกแตะติดแตะหน่อยแล้วถึงกับเป็นลม เข้าใจว่าเป็นเพราะเงื่อนไขทางอารมณ์ แต่ก็รำคาญอยู่ไม่น้อยเหมือนกัน

ส่วนเรื่องปมของฆาตกรเราว่ามันเบาเกินไป ดูลอยๆยังไงชอบกล แม้ว่าจะมีเหตุผลมาสนับสนุนในตอนท้ายว่าฆาตกรเกิดจากข้อบกพร่อมของการกำจัดอารมณ์ความรู้สึกก็ตามเถอะ เราคิดว่าน่าจะใส่ identity ให้ลึกกว่านี้ คนอ่านจะได้อินมากขึ้นกว่าเดิม

เล่มนี้ความสนุกดรอปลงกว่าเล่มที่แล้ว แต่เห็นมีหลายเสียงบอกว่าเล่มต่อไปสนุกมาก เราก็ไม่รอช้า อ่านเล่มนี้ก็จบก็รีบหยิบเล่มต่อไปมาอ่านทันทีจ้า 555

คะแนน 8.5/10

Jul 2, 2014

หัวใจอำพราง - Slave to Sensation (Psy-Changeling #1)


ชื่อเรื่อง พลังแห่งรัก ตอน หัวใจอำพราง
จากเรื่อง Slave to Sensation
ผู้แต่ง นลินี ซิงห์
โรมานซ์ เหนือจริง
ผู้แปล วาลุกา
สำนักพิมพ์ แก้วกานต์

เรื่องย่อ

เธอคือ หญิงสาวชาวไซผู้มีพลังจิตน่าพิศวง ทว่ามีความลับยิ่งยวดที่ต้องแอบซ่อนเอาไว้ เพราะหากมีใครรู้...เธอจะถูกจับไปล้างสมอง!
เขาคือ จ่าฝูงของมนุษย์กลายร่าง ที่ต้องสืบหาฆาตกรต่อเนื่องชาวไซ ที่พร่าผลาญชีวิตพวกพ้องของเขา เขาใช้การทำธุรกิจบังหน้าเพื่อเข้าใกล้เธอ...เพื่อล้วงความลับจากเธอ...
เธอคือ ศัตรู...ทว่าเสือดำภายในตัวเขากลับแยกเขี้ยวคำราม ร่ำร้องอยากได้เธอมาครอบครอง!

REVIEW

... นี่เป็นนิยาย Paranormal Romance ที่พอเราเริ่มอ่านไปได้ไม่เท่าไร เราก็รู้สึกว่า เราต้องหลงรักเรื่องนี้แน่ๆ ด้วยความแปลกใหม่ที่ไม่เหมือนใคร พลอตเรื่องที่ไม่ย่ำอยู่จุดเดิม ซึ่งฉีกกรอบแนวแฟนตาซีหมาป่า แวมไพร์ไปมาก...

ลูคัส คือจ่าฝูงของดาร์คริเวอร์ เขาเป็นมนุษย์ที่สามารถกลายร่างได้ เมื่อเขาได้พบกับซาช่า สาวไซซึ่งมีความลับซ่อนเอาไว้ภายใต้หน้ากากอันเย็นชาไร้ความรู้สึกซึ่งเป็นเอกลักษณ์ของชาวไซ ใครเล่าจะรู้ว่าซาช่าต้องปิดบังอารมณ์ความรู้สึกของตนซึ่งเป็นสิ่งต้องห้ามสำหรับชาวไซมาตลอดโดยไม่ให้ใครรู้ ลูคัสหวังใช้ผลประโยชน์จากไซเน็ต ซึ่งสามารถทำให้เขาตามหาตัวฆาตกรที่เข่นฆ่าผู้คนในฝูงของเขา ทางเดียวก็คือ ... เขาต้องเจาะป้อมปราการของแม่สาวไซผู้นี้เข้าไปให้ได้ เพื่อให้เธอคายความลับของชาวไซออกมา

ซาช่าค้นพบความลับมากมายที่สามารถนำไปบอกให้สภาของชาวไซรับรู้ได้ แต่เธอก็ไม่ทำ ! นั่นทำให้เสือดำที่อยู่ในของลูคัสร่ำร้องอยากได้ซาช่ามากขึ้น เพราะเธอไม่ทรยศเขา แต่นั่นก็ไม่ได้หมายความว่าเขาจะยอมเอาชีวิตของคนในฝูงมาเสี่ยงกับการเผยความลับทั้งหมดให้เธอรู้

ฆาตกรที่สังหารมนุษย์กลายร่างไปแล้วเจ็ดรายจับเหยื่อรายล่าสุดไปใหม่ ซึ่งเป็นหนึ่งในสมาชิกของสโนว์แดนเซอร์ ฝูงหมาป่าที่เป็นพันธมิตรกับเหล่าดาร์คริเวอร์ ซาช่าและลูคัสมีเวลาเพียงแค่เจ็ดวันในการตามหาตัวฆาตกรให้พบ ก่อนที่สโนว์แดนเซอร์จะเปิดฉากต่อกรกับเหล่าไซในที่สุด

ซาช่ามีอารมณ์ความรู้สึกมาขึ้นยามที่เธออยู่ใกล้ลูคัส ส่วนลูคัสเองก็เริ่มจะแน่ใจแล้วว่าซาช่าคือคู่ชีวิตของเขา ทุกครั้งที่เธอเอาตัวของเธอเองเข้าไปเสี่ยงอันตราย ลูคัสมักจะทนเห็นซาช่าเจ็บปวดไม่ได้ เขาอยากดูแลเธอตลอดเวลา แต่นั่นเป็นไปไม่ได้ เพราะซาช่าเป็นไซ ส่วนเขาเป็นมนุษย์กลายร่าง

ซาช่าตัดสินใจเข้าไปในไซเน็ต โครงข่ายข้อมูลของชาวไซเพื่อสืบหาตัวฆาตกร เมื่อเธอได้เบาะแสว่าสภาของชาวไซปกปิดเรื่องนี้เอาไว้ ซาช่าก็ยิ่งแน่ใจว่าฆาตกรต่อเนื่องต้องเป็นหนึ่งในพวกพ้องชาวไซของเธอแน่ๆ ซาช่าตัดสินใจเอาตัวของเธอเองเป็นเหยื่อล่อฆาตกรเพื่อป้องกันสงครามที่จะเกิดขึ้นอย่างแน่นอนหากฆาตกรฆ่าเหยื่อสาวชาวสโนว์แดนเซอร์ที่ถูกจับเอาไว้

ลูคัสประทับตราว่าซาช่าเป็นของเขา แต่ซาช่าจะให้สิ่งเหล่านี้เกิดขึ้นไม่ได้ เพราะเธอรู้ตัวว่าเกราะป้องกันทางจิตใจของเธอกำลังแตกสลาย และนั่นหมายถึงว่าเธอจะถูกประหารชีวิตทันทีที่เหล่าสภารู้เรื่องนี้ ซาช่าจะไม่ยอมให้ลูคัสต้องอยู่ตัวคนเดียวไปตลอดชีวิตของเขาเด็ดขาดหลังจากที่เธอได้ตายไปแล้ว

วินาทีที่ซาช่ายินดีที่จะสละชีวิตตนเองอย่างสมศักดิ์ศรี ลูคัสก็ไม่ยอมปล่อยให้เธอได้ทำอย่างนั้น เธอเป็นของเขา และเขาจะไม่ปล่อยให้เธอต้องตายเด็ดขาด เมื่อพวกเขาไม่เหลือเวลาอีกแล้ว ... ซาช่าก็ตัดสินใจเข้าไปในไซเน็ต และตามหาตัวฆาตกรพบในที่สุด เมื่อซาช่าตัดจิตตัวเองออกจากไซเน็ต เธอเข้าสู่ภาวะโคม่า เพราะซาช่าไม่ยอมให้ลูคัสเชื่อมจิตกับเธอ เพราะเธอจะดึงพลังจากเขาและทำให้เขาตายไปกับเธอ

ลูคัสแทบหัวใจแหลกสลายเมื่อเห็นซาช่ากำลังจะตายไปต่อหน้าต่อตาเขา เขาบังคับให้ซาช่าเชื่อมจิตกับเขาในที่สุด ทั้งคู่คงเหลือเวลาอีกไม่มากเมื่อพวกเขาตัดสินใจแบบนั้น แต่เปล่าเลย ... พลังจิตของลูคัสได้เชื่อมต่อกับสมาชิกในฝูงของเขา ทำให้มีแหล่งพลังงานมากมายที่จะหล่อเลี้ยงจิตของซาช่าให้มีชีวิตอยู่ต่อไป ...

อ่านจบแล้ว !! บอกตรงๆว่าชอบไอเดียของเรื่องนี้นะ ความแปลกใหม่ของนิยาย Paranormal Romance ที่ตั้งอยู่ระหว่างความเรียลและความแฟนตาซี แม้ว่าการเล่าเรื่องในตอนแรกจะอืดๆเอื่อยๆไปบ้าง แต่ครึ่งหลังของหนังสือ ... เราขอบอกว่าเข้มข้นจนวางไม่ลงเลยทีเดียวแหละ

ความพีคของหนังสือเล่มนี้คือคาแรคเตอร์ของ 'ลูคัส' ที่เมื่อเขาได้พบผู้หญิงของเขาแล้ว เขาก็ยอมทำทุกอย่าง แม้กระทั่งหันหลังให้คนทั้งโลกก็ตาม บางตอนนี่ทำให้เราซึ้งน้ำตาคลอเลยจริงๆนะกับความรักของลูคัสที่มีให้กับซาช่า

ใจเราอยากให้คะแนนเล่มนี้เต็ม 10 นะ แต่ก็ต้องขอหัก 0.5 ตรงที่ว่าเนื้อเรื่องตอนต้นดูเอื่อยๆ  (ขอกั๊กไว้หน่อย เพราะคิดว่าน่าจะมีเล่มอื่นๆที่ทำให้เราปล่อยคะแนนเต็ม 10 ให้แน่ๆ)  นี่ถ้าใครไม่ชอบแนว Paranormal อยู่แล้ว เราว่าคงมีเลิกอ่านกันบ้างแหละ แม้ว่าเนื้อเรื่องส่วนหลังๆจะซึ้งกินใจขนาดไหนก็ตามเหอะ เพราะถ้าจะทำความเข้าใจในรายละเอียดในโลกส่วนของไซนั้น เราว่าต้องใช้จินตนาการสูงมากๆเลยทีเดียว เพราะมันไม่ใช่อะไรที่เราคุ้นเคยอยู่แล้ว มันคือโลกที่นลินีสร้างขึ้นมาใหม่ โลกที่มีความเป็นนามธรรมมากกว่านิยายแนวนี้เรื่องอื่นๆ

คะแนน 9.5/10