จากเรื่อง Branded by Fire
ผู้แต่ง นลินี ซิงห์
โรมานซ์ เหนือจริง
ผู้แปล วาลุกา
สำนักพิมพ์ แก้วกานต์
เรื่องย่อ
เขาคือ 'กำแพง' ที่ไม่เคยหวั่นไหวต่อสิ่งใด แต่เสือดาวสาวผู้แกร่งกล้าไม่แพ้นักรบชายคนไหนกลับทำให้หัวใจเขาสั่นคลอน เขาจะทำเช่นไรเพื่อให้ได้ครอบครองแม่เสือสาวผู้มีหัวใจอิสระอย่างหล่อน
ท่ามกลางสงครามระหว่างเผ่าพันธุ์ที่ทวีความรุนแรงขึ้นทุกขณะ สงครามความรักระหว่างมนุษย์กลายร่างที่แตกต่างกันอย่างสุดขั้วจะลงเอยเช่นไร...
REVIEW
เมอร์ซี่ คือเสือดาวผู้พิทักษ์จากฝูงดาร์คริเวอร์ เธอคิดว่าการที่เธอจะหาผู้ชายสักคนมาเป็นคู่ชีวิต ผู้ชายคนนั้นต้องมีภาวะผู้นำและเข้มแข็งพอๆกับเธอ แต่ก็ไม่ใช่มาบงการชีวิตของเธอจนเธอไม่เป็นตัวของตัวเอง เมื่อเมอร์ซี่ได้เจอกับไรลีย์ นักรบหนุ่มจากฝูงสโนว์แดนเซอร์ เธอก็เกิดปราถนาในตัวชายหนุ่มขึ้นมา สำหรับทั้งคู่นั้น เรื่อวที่เกิดขึ้นมันเป็นแค่เซ็กส์ ไม่ได้มีอะไรมากกว่านั้น เพราะเธอจะให้ใครไม่ได้ว่าเสือดดาวอย่างเธอมีความสัมพันธ์ที่ลึกซึ้งกับหมาป่า
แต่ทุกครั้งที่ไรลีย์ใกล้ชิดกับเมอร์ซี่ย์มากเท่าไร เขาก็เกิดความปราถนาในตัวของเธอมากขึ้นเท่านั้น เมื่อมีงานที่ทั้งคู่รับผิดชอบให้ทำร่วมกัน ก็เป็นไปไม่ได้เลยที่พวกเขาหลบหน้ากันสำเร็จ
ทางด้านสถานการณ์ของสมาพันธ์มนุษย์ก็มีเรื่องยุ่งๆเกิดขึ้นเมื่อ โบเวนได้ลักพาตัวแนชไป ทำให้เหล่ามนุษย์กลายร่างวุ่นวายหาตัวเขากลับคืนมา และได้เบาะแสเมื่อโบเวนสารภาพความจริงว่าเขาไม่เห็นด้วยกับแนวคิดของเหล่ามนุษย์ที่ต้องการจะกุมอำนาจเหนือทั้งสามเผ่าพันธ์
ความสัมพันธ์ระหว่างไรลีย์และเมอร์ซี่คือการที่ไม่มีใครยอมเป็นผู้ตามใคร พวกเขาคือผู้นำทั้งคู่ และนั่นคือสิ่งที่เมอร์ซี่คิดว่าทั้งคู่ไม่มีวันเป็นอะไรมากไปกว่าแค่คู่รักฉาบฉวย แต่เมื่อไรลีย์ตระหนักในท้ายสุดว่าเมอร์ซี่คือผู้หญิงคนนั้น คือคู่ชีวิตของเขา เขาก็ทำทุกวิถีทางเพื่อทำให้เมอร์ซี่คิดว่าระหว่างเขากับเธอสามารถทำให้เป็นไปได้
ทางสหพันธ์มนุษย์ก่อความวุ่นวายขึ้น เป้าหมายแรกคือสังหารสมาชิกสภาระดับสูง แต่โชคช่วยเมื่อเหล่ามนุษย์กลายร่างรู้ทันแผนการณ์และยับยั้งได้ทัน ไม่ใช่เพื่อผลประโยชน์ของฝ่ายไซ แต่เพื่อยับยั้งสงครามระหว่างสามเผ่าพันธุ์ที่จะระอุขึ้นแน่นอนหากปล่อยให้เกิดการล้มตายที่ไม่จำเป็นนี้
ประธานของสหพันธ์ทำการติดตั้งระเบิดไว้ตามสถานที่ต่างๆ ทำให้เมอร์ซี่ได้รับบาดเจ็บสาหัสหลังจากที่เธอยอมระทิ้งฝูงของตัวเองเพื่อที่จะทำให้พันธะคู่ชีวิตของทั้งคู่สมบูรณ์ ไรลีย์แทบจะหัวใจสลายเมื่อเห็นร่างที่บาดเจ็บของเมอร์ซี่ เขาจะไม่ยอมสูญเสียเธอไปเด็ดขาดหลังจากที่เขาเพิ่งรู้ว่าเมอร์ซีย์คือคู่ชีวิตของเขา
ทาเทียน่าอยู่หลังแผนการณ์ทั้งหมดเมื่อหล่อนร่วมมือกับประธานของสหพันธ์มนุษย์เพื่อให้เขาดำเนินแผนในการสร้างความปั่นปวนให้กับมนุษย์กลายร่าง ที่ไปกว่านั้นก็คือสังหารสภาของไซเพื่อที่ทาเทียน่าจะได้กุมอำนาจไว้ในมือของหล่อนแต่เพียงผู้เดียว
สุดท้าย ... ไรลีย์และเมอร์ซี่ก็สามารถครองคู่กับโดยที่ไม่มีฝ่ายไหนต้องแยกจากฝูงของตัวเอง เพราะพันธะคู่ชีวิตที่เกิดขึ้นเชื่อมโยงพวกเขาเข้าด้วยกันโดยที่ทั้งไรลีย์และเมอร์ซี่ก็ยังอยู่ในโครงข่ายจิตของตัวเองเพราะลูคัสและฮอว์คตกลงเป็นพันธมิตรกัน นั่นทำให้ทั้งสองฝูงมีความเชื่อมโยงกันมาตั้งแต่ต้น
..................................................
หลังจากได้อ่านเล่มนี้ ต้องขอยอมรับเลยว่า ... ฝีมือของนลินีพัฒนาไปไกลแล้ว และมันไม่ธรรมดาเลยที่จะเขียนเรื่องให้มีความน่าสนใจมากมายขนาดนี้ ชั้นเชิงในการเล่าเรื่องนั้นเห็นได้ชัดว่าดีขึ้นกว่าเล่มก่อนๆมาก เนื้อเรื่องหลักที่ดำเนินไปอย่างเข้มข้น วางไม่ลง จนทำให้เราแทบจะไม่สนใจบทโรมานซ์เลย ประเด็นทางการเมืองที่ละเอียดอ่อน นลินีก็ถ่ายทอดออกมาได้ดีอย่างไร้ที่ติ
จุดที่เราคิดว่านลินีสามารถทำให้ดีกว่านี้ได้ก็คือ ... ความสัมพันธ์ระหว่างไรลีย์-เมอร์ซี่ที่เราคิดว่ามันดูเอื่อยๆ แทบไม่กระเตื้องไปไหนเลยตั้งแต่ตอนแรก เหมือแต่ละฝ่ายก็ไม่มีใครยอมใคร ทั้งคู่มีความเป็นอัลฟ่าอยู่ในตัวมากพอที่จะเข้ากันไม่ได้ ...
เราขอเปรียบเทียบความสัมพันธ์ระหว่างไรลีย์กับเมอร์ซี่ในเล่มนี้เหมือนเป็นเส้นเชือกที่ถูกขึงจนตึง หากฝ่ายใดฝ่ายนึงยังรั้นต่อไปบนความสัมพันธ์เส้นนี้ เชือกก็ต้องขาดลง ! แต่ใช่แล้ว ... เราจึงคาดหวังว่าทางออกสำหรับทั้งคู่จะเป็นอะไรที่ว๊าวววว และทำให้เราคิดไม่ถึง แต่สุดท้าย ... เมอร์ซี่ที่เป็นผู้หญิงที่ยึดมั่นในความเป็นอัลฟ่าของตัวเองมากๆ ก็เป็นฝ่ายที่ยอมให้ไรลีย์จนได้ ทั้งๆที่ก่อนหน้านี้บุคลิกของเธอดูไม่น่าจะยอมอ่อนถึงขนาดนี้เลยก็ตาม แต่เราเข้าใจว่าเป็นเพราะความรักที่ต่างฝ่ายต่างมีให้กัน ถึงทำให้เมอร์ซี่ยอมอ่อนลงได้ขนาดนี้
เราคิดว่าที่เราจะติดตามหนังสือชุด Psy-Changeling ต่อไป คงไม่ใช่เพราะบทโรมานซ์แล้วล่ะ (แต่ก็สนใจคาเล็บกับฮอว์คอยู่นะ) แต่เป็นเพราะพล็อตเรื่องหลักที่เข้มข้นและเชือดเฉือนอารมณ์มากๆ ทำให้หนังสือชุดนี้มีเสน่ห์และความน่าสนใจจนเลิกอ่านไมได้เลยทีเดียว
ขอให้ 8.5 คะแนนสำหรับเล่มนี้ พล็อตเรื่องให้ 9 นะ แต่ขอหักเรื่องความสัมพันธ์พระนางที่ทำให้เราเบื่อๆในบางตอน ...........
เมอร์ซี่ คือเสือดาวผู้พิทักษ์จากฝูงดาร์คริเวอร์ เธอคิดว่าการที่เธอจะหาผู้ชายสักคนมาเป็นคู่ชีวิต ผู้ชายคนนั้นต้องมีภาวะผู้นำและเข้มแข็งพอๆกับเธอ แต่ก็ไม่ใช่มาบงการชีวิตของเธอจนเธอไม่เป็นตัวของตัวเอง เมื่อเมอร์ซี่ได้เจอกับไรลีย์ นักรบหนุ่มจากฝูงสโนว์แดนเซอร์ เธอก็เกิดปราถนาในตัวชายหนุ่มขึ้นมา สำหรับทั้งคู่นั้น เรื่อวที่เกิดขึ้นมันเป็นแค่เซ็กส์ ไม่ได้มีอะไรมากกว่านั้น เพราะเธอจะให้ใครไม่ได้ว่าเสือดดาวอย่างเธอมีความสัมพันธ์ที่ลึกซึ้งกับหมาป่า
แต่ทุกครั้งที่ไรลีย์ใกล้ชิดกับเมอร์ซี่ย์มากเท่าไร เขาก็เกิดความปราถนาในตัวของเธอมากขึ้นเท่านั้น เมื่อมีงานที่ทั้งคู่รับผิดชอบให้ทำร่วมกัน ก็เป็นไปไม่ได้เลยที่พวกเขาหลบหน้ากันสำเร็จ
ทางด้านสถานการณ์ของสมาพันธ์มนุษย์ก็มีเรื่องยุ่งๆเกิดขึ้นเมื่อ โบเวนได้ลักพาตัวแนชไป ทำให้เหล่ามนุษย์กลายร่างวุ่นวายหาตัวเขากลับคืนมา และได้เบาะแสเมื่อโบเวนสารภาพความจริงว่าเขาไม่เห็นด้วยกับแนวคิดของเหล่ามนุษย์ที่ต้องการจะกุมอำนาจเหนือทั้งสามเผ่าพันธ์
ความสัมพันธ์ระหว่างไรลีย์และเมอร์ซี่คือการที่ไม่มีใครยอมเป็นผู้ตามใคร พวกเขาคือผู้นำทั้งคู่ และนั่นคือสิ่งที่เมอร์ซี่คิดว่าทั้งคู่ไม่มีวันเป็นอะไรมากไปกว่าแค่คู่รักฉาบฉวย แต่เมื่อไรลีย์ตระหนักในท้ายสุดว่าเมอร์ซี่คือผู้หญิงคนนั้น คือคู่ชีวิตของเขา เขาก็ทำทุกวิถีทางเพื่อทำให้เมอร์ซี่คิดว่าระหว่างเขากับเธอสามารถทำให้เป็นไปได้
ทางสหพันธ์มนุษย์ก่อความวุ่นวายขึ้น เป้าหมายแรกคือสังหารสมาชิกสภาระดับสูง แต่โชคช่วยเมื่อเหล่ามนุษย์กลายร่างรู้ทันแผนการณ์และยับยั้งได้ทัน ไม่ใช่เพื่อผลประโยชน์ของฝ่ายไซ แต่เพื่อยับยั้งสงครามระหว่างสามเผ่าพันธุ์ที่จะระอุขึ้นแน่นอนหากปล่อยให้เกิดการล้มตายที่ไม่จำเป็นนี้
ประธานของสหพันธ์ทำการติดตั้งระเบิดไว้ตามสถานที่ต่างๆ ทำให้เมอร์ซี่ได้รับบาดเจ็บสาหัสหลังจากที่เธอยอมระทิ้งฝูงของตัวเองเพื่อที่จะทำให้พันธะคู่ชีวิตของทั้งคู่สมบูรณ์ ไรลีย์แทบจะหัวใจสลายเมื่อเห็นร่างที่บาดเจ็บของเมอร์ซี่ เขาจะไม่ยอมสูญเสียเธอไปเด็ดขาดหลังจากที่เขาเพิ่งรู้ว่าเมอร์ซีย์คือคู่ชีวิตของเขา
ทาเทียน่าอยู่หลังแผนการณ์ทั้งหมดเมื่อหล่อนร่วมมือกับประธานของสหพันธ์มนุษย์เพื่อให้เขาดำเนินแผนในการสร้างความปั่นปวนให้กับมนุษย์กลายร่าง ที่ไปกว่านั้นก็คือสังหารสภาของไซเพื่อที่ทาเทียน่าจะได้กุมอำนาจไว้ในมือของหล่อนแต่เพียงผู้เดียว
สุดท้าย ... ไรลีย์และเมอร์ซี่ก็สามารถครองคู่กับโดยที่ไม่มีฝ่ายไหนต้องแยกจากฝูงของตัวเอง เพราะพันธะคู่ชีวิตที่เกิดขึ้นเชื่อมโยงพวกเขาเข้าด้วยกันโดยที่ทั้งไรลีย์และเมอร์ซี่ก็ยังอยู่ในโครงข่ายจิตของตัวเองเพราะลูคัสและฮอว์คตกลงเป็นพันธมิตรกัน นั่นทำให้ทั้งสองฝูงมีความเชื่อมโยงกันมาตั้งแต่ต้น
..................................................
หลังจากได้อ่านเล่มนี้ ต้องขอยอมรับเลยว่า ... ฝีมือของนลินีพัฒนาไปไกลแล้ว และมันไม่ธรรมดาเลยที่จะเขียนเรื่องให้มีความน่าสนใจมากมายขนาดนี้ ชั้นเชิงในการเล่าเรื่องนั้นเห็นได้ชัดว่าดีขึ้นกว่าเล่มก่อนๆมาก เนื้อเรื่องหลักที่ดำเนินไปอย่างเข้มข้น วางไม่ลง จนทำให้เราแทบจะไม่สนใจบทโรมานซ์เลย ประเด็นทางการเมืองที่ละเอียดอ่อน นลินีก็ถ่ายทอดออกมาได้ดีอย่างไร้ที่ติ
จุดที่เราคิดว่านลินีสามารถทำให้ดีกว่านี้ได้ก็คือ ... ความสัมพันธ์ระหว่างไรลีย์-เมอร์ซี่ที่เราคิดว่ามันดูเอื่อยๆ แทบไม่กระเตื้องไปไหนเลยตั้งแต่ตอนแรก เหมือแต่ละฝ่ายก็ไม่มีใครยอมใคร ทั้งคู่มีความเป็นอัลฟ่าอยู่ในตัวมากพอที่จะเข้ากันไม่ได้ ...
เราขอเปรียบเทียบความสัมพันธ์ระหว่างไรลีย์กับเมอร์ซี่ในเล่มนี้เหมือนเป็นเส้นเชือกที่ถูกขึงจนตึง หากฝ่ายใดฝ่ายนึงยังรั้นต่อไปบนความสัมพันธ์เส้นนี้ เชือกก็ต้องขาดลง ! แต่ใช่แล้ว ... เราจึงคาดหวังว่าทางออกสำหรับทั้งคู่จะเป็นอะไรที่ว๊าวววว และทำให้เราคิดไม่ถึง แต่สุดท้าย ... เมอร์ซี่ที่เป็นผู้หญิงที่ยึดมั่นในความเป็นอัลฟ่าของตัวเองมากๆ ก็เป็นฝ่ายที่ยอมให้ไรลีย์จนได้ ทั้งๆที่ก่อนหน้านี้บุคลิกของเธอดูไม่น่าจะยอมอ่อนถึงขนาดนี้เลยก็ตาม แต่เราเข้าใจว่าเป็นเพราะความรักที่ต่างฝ่ายต่างมีให้กัน ถึงทำให้เมอร์ซี่ยอมอ่อนลงได้ขนาดนี้
เราคิดว่าที่เราจะติดตามหนังสือชุด Psy-Changeling ต่อไป คงไม่ใช่เพราะบทโรมานซ์แล้วล่ะ (แต่ก็สนใจคาเล็บกับฮอว์คอยู่นะ) แต่เป็นเพราะพล็อตเรื่องหลักที่เข้มข้นและเชือดเฉือนอารมณ์มากๆ ทำให้หนังสือชุดนี้มีเสน่ห์และความน่าสนใจจนเลิกอ่านไมได้เลยทีเดียว
ขอให้ 8.5 คะแนนสำหรับเล่มนี้ พล็อตเรื่องให้ 9 นะ แต่ขอหักเรื่องความสัมพันธ์พระนางที่ทำให้เราเบื่อๆในบางตอน ...........
คะแนน 8.5/10
No comments:
Post a Comment