ชื่อเรื่อง The Power of Six
จากชุด Lorien Legacies
ผู้แต่ง Pittacus Lore
สำนักพิมพ์ HarperTee
วรรณกรรมเยาวชน เหนือจริง/ไซไฟ
เรื่องย่อ
I've seen him on the news. Followed the stories about what happened in Ohio. John Smith, out there, on the run. To the world, he's a mystery. But to me . . . he's one of us.
Nine of us came here, but sometimes I wonder if time has changed us—if we all still believe in our mission. How can I know? There are six of us left. We're hiding, blending in, avoiding contact with one another . . . but our Legacies are developing, and soon we'll be equipped to fight. Is John Number Four, and is his appearance the sign I've been waiting for? And what about Number Five and Six? Could one of them be the raven-haired girl with the stormy eyes from my dreams? The girl with powers that are beyond anything I could ever imagine? The girl who may be strong enough to bring the six of us together?
They caught Number One in Malaysia.
Number Two in England.
And Number Three in Kenya.
They tried to catch Number Four in Ohio—and failed.
I am Number Seven. One of six still alive.
REVIEW
จอห์น สมิธกลายเป็นผู้ร้ายหลบหนี ทันทีที่ถูกตำรวจตามล่าตัวหลังก่อเหตุที่ทำลายโรงเรียนเก่าของเขาจนย่อยยับ แต่นั่นยังเทียบไม่ได้เท่าเรื่องที่จอห์นสูญเสียเฮนรี่ แชพานของตนไป จอห์นต้องหลบหนีเอาชีวิตรอดพร้อมกับแซมและหมายเลข 6 จากเมืองหนึ่งสู่เมืองหนึ่ง ความฝันของจอห์นเต็มไปด้วยความสับสนคลุมเครือราวกับเป็นเงื่อนงำของอะไรบางอย่าง ทั้งจอห์นและหมายเลข 6 ต้องหนีไปให้ไกลที่สุดเพื่อจะเอาชีวิตรอดจากการตามล่าของโมกาโดเรียนให้ได้
เมื่อไม่มีที่ไหนปลอดภัย ทั้งสามคนเอาชีวิตรอดจากการโจมตีของเหล่าโมกาโดเรียนได้อย่างหวุดหวิด เบาะแสเดียวที่จอห์นมีคือจดหมายของเฮนรี่ที่บ่งชี้ว่าพ่อของแซมมีบทบาทสำคัญในการมาเยือนของลอเรียน พวกเขาจึงต้องมุ่งหน้ากลับไปยังพาราไดซ์เพื่อตามหาอะไรก็ตามที่พอจะมีส่วนช่วยในศึกครั้งนี้
......................................................
สิ่งเราเป็นกังวลมากที่สุดเมื่ออ่านหนังสือภาคต่อคือ เนื้อเรื่องมักจะแผ่วลง และ The Power of Six ก็เป็นอย่างที่เรากลัวเสียจริงๆ ตั้งแต่ต้นที่เนื้อเรื่องตัดสลับการเล่าเรื่องไปมาระหว่างหมายเลข 4 และหมายเลข 7 ทั้งๆที่ชื่อหนังสือทำให้เราหลงคิดว่าหมายเลข 6 จะโดดเด่น แต่ไม่เลย ! เราคิดว่าในเล่มนี้หมายเลข 6 แทบจะไม่ต่างอะไรกับตัวประกอบ
การเล่าเรื่องค่อนข้างจืดจางถ้าเทียบกับเล่มที่แล้ว มุกตลกและเสน่ห์ของนิยายเล่มนี้แผ่วลงอย่างเห็นได้ชัด บางครั้งบางคราวเราก็ว่าเหตุผลของตัวละครไม่หนักแน่นพอที่จะตัดสินใจทำลงไปเช่นนั้น โดยเฉพาะ Love triangle ระหว่าง จอห์น-ซาร่าห์-หมายเลข 6 ที่เราพูดได้แค่ว่า อืม หาทางออกได้ง่ายดี ตั้งแต่ต้นๆเรื่องที่จอห์นหันเหไปหาหมายเลข 6 ในขณะที่เขาบอกตัวเองว่าเขายังรักซาร่าห์ ซึ่งตอนนั้นเราไม่ได้มองการแก้ไขปัญหาที่จะง่ายดายเสียขนาดนี้ แต่ที่ไหนได้ ... ผู้แต่งกลับหยิบยื่นทางออกมาให้ตัวละครแบบงงๆซะงั้น
แอบคิดว่าถ้าเนื้อเรื่องจะดำเนินไปเรื่อยๆเอื่อยๆแบบนี้ ให้มีเล่มต่ออีกสัก 4-5 ก็คงไม่จบแน่ๆ เพราะเล่มนี้แทบจะไม่ได้เผยความลับอะไรของลอเรียนออกมาเลยด้วยซ้ำ
จอห์น สมิธกลายเป็นผู้ร้ายหลบหนี ทันทีที่ถูกตำรวจตามล่าตัวหลังก่อเหตุที่ทำลายโรงเรียนเก่าของเขาจนย่อยยับ แต่นั่นยังเทียบไม่ได้เท่าเรื่องที่จอห์นสูญเสียเฮนรี่ แชพานของตนไป จอห์นต้องหลบหนีเอาชีวิตรอดพร้อมกับแซมและหมายเลข 6 จากเมืองหนึ่งสู่เมืองหนึ่ง ความฝันของจอห์นเต็มไปด้วยความสับสนคลุมเครือราวกับเป็นเงื่อนงำของอะไรบางอย่าง ทั้งจอห์นและหมายเลข 6 ต้องหนีไปให้ไกลที่สุดเพื่อจะเอาชีวิตรอดจากการตามล่าของโมกาโดเรียนให้ได้
เมื่อไม่มีที่ไหนปลอดภัย ทั้งสามคนเอาชีวิตรอดจากการโจมตีของเหล่าโมกาโดเรียนได้อย่างหวุดหวิด เบาะแสเดียวที่จอห์นมีคือจดหมายของเฮนรี่ที่บ่งชี้ว่าพ่อของแซมมีบทบาทสำคัญในการมาเยือนของลอเรียน พวกเขาจึงต้องมุ่งหน้ากลับไปยังพาราไดซ์เพื่อตามหาอะไรก็ตามที่พอจะมีส่วนช่วยในศึกครั้งนี้
spoiler: คลิกเพื่อดู Spoiler
......................................................
สิ่งเราเป็นกังวลมากที่สุดเมื่ออ่านหนังสือภาคต่อคือ เนื้อเรื่องมักจะแผ่วลง และ The Power of Six ก็เป็นอย่างที่เรากลัวเสียจริงๆ ตั้งแต่ต้นที่เนื้อเรื่องตัดสลับการเล่าเรื่องไปมาระหว่างหมายเลข 4 และหมายเลข 7 ทั้งๆที่ชื่อหนังสือทำให้เราหลงคิดว่าหมายเลข 6 จะโดดเด่น แต่ไม่เลย ! เราคิดว่าในเล่มนี้หมายเลข 6 แทบจะไม่ต่างอะไรกับตัวประกอบ
การเล่าเรื่องค่อนข้างจืดจางถ้าเทียบกับเล่มที่แล้ว มุกตลกและเสน่ห์ของนิยายเล่มนี้แผ่วลงอย่างเห็นได้ชัด บางครั้งบางคราวเราก็ว่าเหตุผลของตัวละครไม่หนักแน่นพอที่จะตัดสินใจทำลงไปเช่นนั้น โดยเฉพาะ Love triangle ระหว่าง จอห์น-ซาร่าห์-หมายเลข 6 ที่เราพูดได้แค่ว่า อืม หาทางออกได้ง่ายดี ตั้งแต่ต้นๆเรื่องที่จอห์นหันเหไปหาหมายเลข 6 ในขณะที่เขาบอกตัวเองว่าเขายังรักซาร่าห์ ซึ่งตอนนั้นเราไม่ได้มองการแก้ไขปัญหาที่จะง่ายดายเสียขนาดนี้ แต่ที่ไหนได้ ... ผู้แต่งกลับหยิบยื่นทางออกมาให้ตัวละครแบบงงๆซะงั้น
แอบคิดว่าถ้าเนื้อเรื่องจะดำเนินไปเรื่อยๆเอื่อยๆแบบนี้ ให้มีเล่มต่ออีกสัก 4-5 ก็คงไม่จบแน่ๆ เพราะเล่มนี้แทบจะไม่ได้เผยความลับอะไรของลอเรียนออกมาเลยด้วยซ้ำ
คะแนน 7.5/10