ชื่อเรื่อง Leo's Chance
ชุด A Sign of Love
ผู้แต่ง Mia Sheridan
โรมานซ์ ร่วมสมัย
เรื่องย่อ
Does everyone deserve a second chance? Even someone who lies and deceives to get it?
Do we all have a second chance coming? Even if we play a part in our own destruction?
How hard would you fight to have a second chance at love? A second chance at life? Another chance to tell your own story?
Every love story has two sides. Evie told hers. This time it's Leo's chance.
REVIEW
ขอแปะรีวิวจากเล่มที่แล้วเลยละกัน Leo (A Sign of Love) เพราะประเด็นส่วนมากจะเหมือนกันหมด มีเพียงรายละเอียดเล็กๆที่แตกต่างกันเมื่อเล่มนี้เล่าผ่านมุมมองของ Leo
ขณะลีโอนอนบาดเจ็บอยู่ในโรงพยาบาลและเขาสัญญาว่าเขาจะพยายามรักษาตัวเองให้หายเพื่อที่จะต่อสู้กับสิ่งที่เขาไม่กล้าเผชิญหน้ามาโดยตลอด นั่นก็คือหญิงสาวเพียงคนเดียวที่เขารัก ... อีวี่ ลีโอจึงตัดสินใจกับมาหาอีวี่ พร้อมกับใช้ชื่อเจค อีวี่ไม่รู้ว่าเจคเป็นลีโอ จนกระทั่งทั้งคู่มีความสัมพันธ์ที่ลึกซึ้งกันมากขึ้นเรื่อยๆ นั่นทำให้ความจริงของเจคเปิดเผยออกมา
ลีโอพยายามที่จะเอาชนะความกลัวเกี่ยวกับการกระทำอันเลวร้ายของแม่เลี้ยงที่ทำลายจิตใจของเขาและทำให้เขาทรยศต่ออีวี่ครั้งแล้วครั้งเล่า มีเพียงลอเรน แม่เลี้ยงของเขาที่กลับมาหลอกหลอนลีโออยู่เรื่อยๆ จนสุดท้ายแล้วจิตแพทย์ที่ลีโอไปเข้ารับการรักษาก็ยื่นมือมาช่วยเขาโดยการเปิดโปงความผิดของลอเรนที่ไปกระทำแบบนี้กับเด็กที่ไม่บรรลุนิติภาวะคนอื่นๆ
ลีโอจึงกลับมาหาอีวี่และต่อสู้เพื่อเธอ แม้ว่าผลลัพธ์สุดท้ายจะเป็นยังไงก็ตาม เมื่อลีโอรู้ว่าแม่เลี้ยงของเขาป่วยแค่ไหน และเขาไม่ใช่คนที่ทำให้แม่เลี้ยงของเขาเป็นแบบนี้มาตั้งแต่ทีแรก ความรู้สึกผิดก็เบาบางลง ท้ายสุดแล้ว ... อีวี่ก็เลือกลีโอ
.......................................................................................
ไม่ได้ต้องพูดอะไรมากอีกแล้ว เรื่องนี้เป็น POV ของลีโอล้วนๆ ถึงแม้ว่าเนื้อเรื่องจะดำเนินไปเหมือนกัน แต่บางครั้งเมื่อมองจาก POV ของลีโอโดยไร้คนตัดสินการกระทำใดๆของเขา มันทำให้เรารู้สึกว่าทุกอย่างดูชัดและเป็นธรรมชาติมากขึ้น เพราะจากเล่มที่แล้ว ... เราตัดสินลีโอจากมุมมองของอีวี่เพียงคนเดียว
เอาจริงๆ เราก็มองลีโอในแง่ที่ดีขึ้นนะ เราเข้าใจตัวตนของเขาตั้งแต่ครั้งแรก ว่าทำไมเขาถึงโทษตัวเองมากขนาดนี้ และอุปสรรคที่เขาต้องก้าวผ่านคือความกลัวของเขาเอง เหมือนตอนที่ลีโอเปรียบว่าตัวเองเป็นสิงโตที่พยายามจะกระโดดลอดห่วงไฟ เปลวไฟคือความกลัวที่เขาต้องข้ามไปให้ได้ และอีวี่เป็นคนถือห่วง แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ขึ้นอยู่กับตัวเขาว่าท้ายที่สุดแล้ว ... เขาจะกล้ากระโดดข้ามห่วงนั้นไปหรือไม่
รู้สึกว่าเล่มนี้ลงลึกกว่าเล่มของ Leo และเรารู้สึกว่าสารที่ผู้แต่งพยายามจะสื่อออกมามัน pure และ clear กว่าในเล่มที่แล้วเยอะเลย ทำให้เรามองลีโอในแง่ที่ดีขึ้นกว่าเดิมอีก สรุปว่าชอบเล่มนี้กว่าเล่มที่แล้ว ลีโอก็มีมุมมองน่ารักๆเยอะมาก
ขอแปะรีวิวจากเล่มที่แล้วเลยละกัน Leo (A Sign of Love) เพราะประเด็นส่วนมากจะเหมือนกันหมด มีเพียงรายละเอียดเล็กๆที่แตกต่างกันเมื่อเล่มนี้เล่าผ่านมุมมองของ Leo
ขณะลีโอนอนบาดเจ็บอยู่ในโรงพยาบาลและเขาสัญญาว่าเขาจะพยายามรักษาตัวเองให้หายเพื่อที่จะต่อสู้กับสิ่งที่เขาไม่กล้าเผชิญหน้ามาโดยตลอด นั่นก็คือหญิงสาวเพียงคนเดียวที่เขารัก ... อีวี่ ลีโอจึงตัดสินใจกับมาหาอีวี่ พร้อมกับใช้ชื่อเจค อีวี่ไม่รู้ว่าเจคเป็นลีโอ จนกระทั่งทั้งคู่มีความสัมพันธ์ที่ลึกซึ้งกันมากขึ้นเรื่อยๆ นั่นทำให้ความจริงของเจคเปิดเผยออกมา
ลีโอพยายามที่จะเอาชนะความกลัวเกี่ยวกับการกระทำอันเลวร้ายของแม่เลี้ยงที่ทำลายจิตใจของเขาและทำให้เขาทรยศต่ออีวี่ครั้งแล้วครั้งเล่า มีเพียงลอเรน แม่เลี้ยงของเขาที่กลับมาหลอกหลอนลีโออยู่เรื่อยๆ จนสุดท้ายแล้วจิตแพทย์ที่ลีโอไปเข้ารับการรักษาก็ยื่นมือมาช่วยเขาโดยการเปิดโปงความผิดของลอเรนที่ไปกระทำแบบนี้กับเด็กที่ไม่บรรลุนิติภาวะคนอื่นๆ
ลีโอจึงกลับมาหาอีวี่และต่อสู้เพื่อเธอ แม้ว่าผลลัพธ์สุดท้ายจะเป็นยังไงก็ตาม เมื่อลีโอรู้ว่าแม่เลี้ยงของเขาป่วยแค่ไหน และเขาไม่ใช่คนที่ทำให้แม่เลี้ยงของเขาเป็นแบบนี้มาตั้งแต่ทีแรก ความรู้สึกผิดก็เบาบางลง ท้ายสุดแล้ว ... อีวี่ก็เลือกลีโอ
.......................................................................................
ไม่ได้ต้องพูดอะไรมากอีกแล้ว เรื่องนี้เป็น POV ของลีโอล้วนๆ ถึงแม้ว่าเนื้อเรื่องจะดำเนินไปเหมือนกัน แต่บางครั้งเมื่อมองจาก POV ของลีโอโดยไร้คนตัดสินการกระทำใดๆของเขา มันทำให้เรารู้สึกว่าทุกอย่างดูชัดและเป็นธรรมชาติมากขึ้น เพราะจากเล่มที่แล้ว ... เราตัดสินลีโอจากมุมมองของอีวี่เพียงคนเดียว
เอาจริงๆ เราก็มองลีโอในแง่ที่ดีขึ้นนะ เราเข้าใจตัวตนของเขาตั้งแต่ครั้งแรก ว่าทำไมเขาถึงโทษตัวเองมากขนาดนี้ และอุปสรรคที่เขาต้องก้าวผ่านคือความกลัวของเขาเอง เหมือนตอนที่ลีโอเปรียบว่าตัวเองเป็นสิงโตที่พยายามจะกระโดดลอดห่วงไฟ เปลวไฟคือความกลัวที่เขาต้องข้ามไปให้ได้ และอีวี่เป็นคนถือห่วง แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ขึ้นอยู่กับตัวเขาว่าท้ายที่สุดแล้ว ... เขาจะกล้ากระโดดข้ามห่วงนั้นไปหรือไม่
รู้สึกว่าเล่มนี้ลงลึกกว่าเล่มของ Leo และเรารู้สึกว่าสารที่ผู้แต่งพยายามจะสื่อออกมามัน pure และ clear กว่าในเล่มที่แล้วเยอะเลย ทำให้เรามองลีโอในแง่ที่ดีขึ้นกว่าเดิมอีก สรุปว่าชอบเล่มนี้กว่าเล่มที่แล้ว ลีโอก็มีมุมมองน่ารักๆเยอะมาก
คะแนน 8.5/10
No comments:
Post a Comment