Jun 24, 2015

The Red Pyramid (The Kane Chronicles #1)


ชื่อเรื่อง พีระมิดสีเลือด (The Red Pyramid)
จากชุด เดอะเคนโครนิเคิลส์ (The Kane Chronicles)
ผู้แต่ง Rick Riordan
วรรณเยาวชน แฟนตาซี
สำนักพิมพ์ เอ็นเธอร์บุ๊คส์

เรื่องย่อ

คาร์เตอร์มักสงสัยว่าทำไมเขาถึงมีชีวิตแบบเด็กทั่วไปที่มีทั้งบ้าน ทั้งเพื่อน ทั้งโรงเรียนไม่ได้ เพราะอะไรเขากับพ่อถึงต้องตะลอนไปทั่วโลกแบบนี้ แล้วเหตุใดพ่อถึงทำเหมือนกำลังหลบหนีใครอยู่ตลอดเวลา

ในวันพบปะครอบครัวประจำปี พวกเขามาหาเซดี้ที่อังกฤษเหมือนที่ผ่านมา ทว่ากิจกรรมวันพบญาติในปีนี้ดูจะพิเศษแตกต่างไป เมื่อพ่อของคาร์เตอร์กับเซดี้ตัดสินใจระเบิดหินโรเซตตาที่บริติชมิวเซียมแทนการนั่งกินข้าวพร้อมหน้าพร้อมตากัน และมันไม่ใช่การระเบิดธรรมดา เพราะเมื่อผู้ที่ทำมันคือสายเลือดตระกูลเคน นี่จึงเป็นพิธีกรรมอัญเชิญเทพเจ้า!

เด็กทั้งสองไม่รู้เลยว่าพ่อทำได้อย่างไร และทำไปทำไม รู้เพียงว่ามันต้องไม่อยู่ในแผนแน่ เพราะเทพที่มาคือเทพแห่งความโกลาหลผู้ชั่วร้าย และพ่อของพวกเขาก็ถูกสูบหายลงไปใต้ดิน

แม้ไม่ได้เป็นผู้ก่อเรื่องโดยตรง แต่สองพี่น้องก็ต้องรับผิดชอบเนื่องจากสายเลือดที่ไหลเวียนในร่าง และความลับซึ่งตกทอดกันมาในตระกูล ...เวทมนตร์โบราณ เทพเจ้าเก่าแก่ อสุรกาย หายนะภัยล้างโลก... ทั้งหมดนี้จะอยู่เหนือสามัญสำนึกเกินไปแล้ว!

REVIEW

คาร์เตอร์และเซดี้ต้องทนเห็นพ่อของตัวเองถูกพาตัวไปต่อหน้าต่อหน้า หลังจากที่พ่อของคาร์เตอร์และเซดี้ได้ปลุกพลังและเรียกเทพเจ้าขึ้นมา โดยหนึ่งในนั้นคือเซตผู้ชั่วร้าย คาร์เตอร์และเซดี้ต้องหนีหัวซุกหัวซุนไปยังบ้านของอาตัวเอง หลังจากนั้นสัตว์ประหลาดหน้าตาแปลกๆก็บุกมาถึงบ้านพวกเขา คาร์เตอร์และเซดี้ได้หายตัวเพื่อหลบหนีปีศาจเหล่าได้ และได้ค้นพบว่าตัวเองเป็นทายาทของฟาโรห์ที่สามารถอัญเชิญให้เทพเจ้ามาสถิตในร่างของตัวเองได้ โดยฮอรัสได้สิงในร่างของคาร์เตอร์ และไอซิสในร่างของเซดี้

พวกเขาต้องทำภารกิจต่างๆที่ได้รับมอบหมายจากธอธ หรือแม้กระทั่งอะนูบิสเพื่อเอาขนนกมา คาร์เตอร์และเซดี้เดินทางไปถึงฟินิกซ์เพื่อยับยั้งไม่ให่พีระมิดสีแดงของเซตสร้างเสร็จ ไม่งั้นความโกลาหลจะเกิดขึ้นและทำลายอเมริกาได้เลยทีเดียว คาร์เตอร์ใช้พลังของฮอรัสที่ประสานกับเขาในการต่อสู้กับเซต และเซดี้ก็รู้ถึงเจตจำนงของแม่เธอและมาช่วยคาร์เตอร์ขับไล่เซตกลับดูอาตไป แต่ก่อนที่จะทำสำเร็จ เธอได้เหลือบเห็นอโพฟิสหรือพญางูที่ได้ผงาดกลับมาอีกครั้งแล้ว พวกเขาจึงตัดสินใจที่จะไม่กำจัดเซตแต่ใช้อำนาจในการขานชื่อที่เซดี้มีใช้บังคับให้เขายอมร่วมมือกับตน

...........................................................

เป็นหนังสือที่อ่านแล้วรู้สึกสะพรึงมาก ! สะพรึงในที่นี้มีหลายความหมาย...อย่างแรกก็คือ ครั้งแรกที่เราเริ่มอ่านหนังสือเล่มนี้ไม่กี่หน้า...เรารู้สึกทึ่งมาก ! ทึ่งในการสร้างโลกใบใหม่ของริคที่เอาตำนานของอียิปต์ยัดใส่เข้าไปได้อย่างน่าสนใจ สะพรึงในอีกความหมายคือ...ชื่อเรียก คำเฉพาะ ที่อ่านยากและจำยากมาก บางคำนี่อ่านจบเล่มแล้วยังไม่รู้ว่ามันคืออะไรเลย จำไม่ได้อ่ะ เยอะแยะมากมายไปหมด (แล้วก็ขี้เกียจพลิกกลับไปดูด้วย เหอๆ) สิ่งที่ทำเราสะพรึงอีกอย่างคือเนื้อเรื่องที่พลิกไปพลิกมาตลอด มองในแง่ดีก็คือ...มันทำให้คนอ่านอย่างเรารู้สึกตื่นเต้นตลอดเวลาที่อ่าน แต่ถ้าคิดอีกแง่น่ะหรอ...มันก็ทำให้เรางงมาก(ก.ไก่ล้านตัว)เลยน่ะสิ ถ้าไม่จับสมาธิดีๆแล้วตั้งใจอ่าน คือจะต่อเนื้อเรื่องไม่ติด จำได้เป็นฉากๆแต่มองไม่เห็นภาพรวมทั้งหมดของหนังสือ

อย่างที่เราได้บอกไปว่าช่วงแรกของ The Red Pyramid น่าตื่นเต้นมากๆ แต่พอถึงตรงกลางเรื่องเรากลับรู้สึกเฉยชา ด้วยสไตล์การเขียนของริคที่นิยมผูกเนื้อเรื่องให้เป็นเควสต่อเควส คือให้ตัวละครทำเควสนี้เพื่อเก็บไอเท็มที่ใช้ในเควสต่อไปที่จะนำไปสู่การกำจัดบอสใหญ่ในเนื้อเรื่อง ซึ่งถ้าเป็นเกมส์มันจะสนุกมาก แต่เมื่อมาเป็นนิยาย...เราเลยรู้สึกว่าบางครั้งก็ทำให้โทนนิยายมันดูเรียบมากเกินไป แม้ว่าจะใส่สถานการณ์ที่ทำให้มันต่างกันก็ตาม แต่ความรู้สึกและอารมณ์ที่ถ่ายทอดออกมาจากหน้าหนังสือมันไม่ต่างไปด้วยเลยจริงๆ

แน่นอนว่า...คนอ่านหลายคนต้องอดเปรียบเทียบชุดนี้กับเพอร์ซีย์ไม่ได้ และด้วยความที่เราอ่านเพอร์ซีย์จบมาแล้วสองภาค (ซึ่งรู้สึกเอียนกับภาคสองมาก) เราเลยขอจัดอันดับความชอบตามนี้ Percy Jackson and the Olympians >  The Heroes of Olympus > The Kane Chronicles อนึ่งก็ขึ้นอยู่กับความชอบส่วนบุคคลด้วยทั้งนั้น สาเหตุที่เราไม่ค่อยชอบ The Heroes of Olympus ก็เพราะตัวละครมากเกินไป ซึ่งตอนแรกดูน่าสนใจ แต่เล่มท้ายๆจะรู้สึกว่าการกระจายบทเริ่มสะเปะสะปะ และทำให้ความสำคัญของเนื้อเรื่องแต่ละช่วงถูกลดทอนลงด้วยเหตุการณ์หลายอย่างที่เกิดขึ้นพร้อมๆกัน รวมถึงทำให้โฟกัสของคนอ่านไม่ได้อยู่ที่เรื่องๆเดียว แต่ต้องกระจายความสนใจเพื่อไตร่ตรองถึงเหตุการณ์อื่นๆที่เกิดขึ้นด้วย

สรุปแล้ว ... นี่เป็นหนังสือที่ดูเหมือนจะอ่านง่าย แต่สำหรับเรา...อ่านยากนะ ชื่ออียิปต์อะไรก็จำไม่ค่อยจะได้ พอเล่าถึงเรื่องเทพเจ้าก็เลยมีงงๆเอ๋อๆไปเหมือนกัน

คะแนน 8/10

No comments:

Post a Comment