Jun 25, 2015

The Throne of Fire (The Kane Chronicles #2)


ชื่อเรื่อง บัลลังก์แห่งไฟ (The Throne of Fire)
จากชุด เดอะเคนโครนิเคิลส์ (The Kane Chronicles)
ผู้แต่ง Rick Riordan
วรรณเยาวชน แฟนตาซี
สำนักพิมพ์ เอ็นเธอร์บุ๊คส์

เรื่องย่อ

สมดุลของโลกกำลังปั่นป่วนเพราะการตื่นของอโพฟิส บัดนี้คุกที่คุมขังมันไว้ในดูอาตอ่อนกำลัง อีกไม่นานพญางูจะแหกคุกออกมาสำเร็จ แล้วโลกก็จะถึงกาลวิบัติ

คาร์เตอร์และเซดี้จึงเร่งฟื้นฟูวิถีโบราณ ผู้ใช้เวทกับเทพจะต้องร่วมมือกันถึงจะกำราบความโกลาหลลงได้ หากนั่นก็ยังไม่เพียงพอ เพราะศัตรูยิ่งใหญ่เกินไป ทั้งสองจึงต้องพึ่งพาสิ่งที่ยิ่งใหญ่เสมอกัน นั่นคือ รา... ผู้เป็นราชาแห่งเทพเทพีทั้งปวง

สุริยเทพอำลาโลกและหลับใหลมานานนับสหัสวรรษ การจะปลุกเขาต้องตามหาคัมภีร์แห่งราทั้งสามส่วนมารวมเป็นหนึ่ง ซึ่งแน่นอนว่าคนตระกูลเคนไม่เคยเจอเรื่องง่าย ไหนจะถูกขัดขวางจากสมุนของอโพฟิส ไหนจะอุปสรรคจากเทพเทพีที่ไม่ต้องการให้ราผู้ชรามาเป็นนายทัพ และไหนจะคนของเคหาสน์แห่งชีวิตที่ยังคงมองพวกเคนเป็นภัยที่ต้องปราบปราม

ในยามที่ความร่วมมือร่วมใจจำเป็นที่สุด แต่ทั้งมนุษย์และเทพกลับแบ่งฝักแบ่งฝ่ายกันเอง ราวกับความโกลาหลได้แทรกซึมเข้าสู่วิญญาณ ไม่เว้นแม้แต่สองพี่น้องสายเลือดเคนซึ่งต่างคนต่างมีความในใจ ทำให้ช่องว่างระหว่างกันขยายตัว...

REVIEW

คาร์เตอร์และเซดี้ได้รับภารกิจให้ตามหาคัมภีร์ทั้งสามส่วนที่จะปลุกเทพราแห่งดวงอาทิตย์ขึ้นมาเพื่อต่อกรกับการผงาดของอโพฟิส พญางูแห่งความโกลาหลที่กำลังจะเกิดขึ้นในไม่ช้า โดยการตามหาคัมภีร์ส่วนแรกนั้นได้มาไม่ง่ายนัก และอีกส่วน...คาร์เตอร์และเซดี้ต้องเดินเข้าไปในรังของศัตรูเพื่อขโมยคัมภีร์ออกมา และต้องต่อสู้กับวลาดิเมียร์ คนของเคหาสน์ที่ทรยศและต้องการที่ปลุกอโพฟิส คาร์เตอร์กับเซดี้ได้พบกับเซตอีกครั้ง เทพเจ้าให้ความช่วยเหลือแก่พวกเขาโดยการบอกที่ซ่อนคัมภีร์ชิ้นสุดท้ายแก่เซดี้เพื่อที่พวกเขาจะปลุกเทพราได้สำเร็จ

รานั้นถูกบังคับให้สละบัลลังก์ให้แก่โอซิสที่ใช่เล่ห์กลหลอกล่อให้ราบอกนามลับให้แก่หล่อน โอซิสนั้นได้มอบบัลลังก์ให้แก่โอซิริส สามีของนางและได้รู้ว่ารัชสมัยของตนนั้นไม่ได้รุ่งเรืองยืนนาน เทพราโกรธเคืองมากที่โดนหลอก เขาหนีไปพักและไม่ปรากฏตัวอีกเลยนับจากนั้น ส่งผลให้ความสมดุลระหว่างมาอัตและความโกลาหลใกล้จะพังทลายลงเต็มที

กลายเป็นว่าการปลุกราขึ้นมากลายเป็นแผนล้างแค้นของวลาดิเมียร์ หนึ่งในสมาชิกเคหาสน์แห่งชีวิตที่ชิงชังพี่น้องตระกูลเคนนักหนา คาร์เตอร์ต้องทนแรงยั่วเย้าของฮอรัสที่ให้ตนขึ้นครองบัลลังก์แห่งไฟด้วยกันกับเขา แต่นั่นเป็นสิ่งที่ถูกต้องแล้วหรือ เมื่อสิทธิ์อันชอบธรรมเป็นของรา แต่เซดี้รวบรวมคัมภีร์มาครบสามส่วนได้สำเร็จ แผนการปลุกเทพราจึงอยู่ไม่ไกลเกินเอื้อมอีกต่อไป ทั้งสองคนต้องรวมทีมกับเบสเพื่อล่องเรือไปยังแม่น้ำในดูอาตโดยผ่านเรือนทั้งสิบสองและรับรามาเพื่อทำให้เขากลายเป็นเทพที่สมบูรณ์อีกครั้ง ระหว่างทางคาร์เตอร์และเซดี้ได้ต่อสู้กับวลาดิเมียร์ และอัคราจารย์เป็นคนโค่นล้มเขาได้สำเร็จ แต่ทุกคนรู้ดีว่า...นี่ไม่ใช่วิถีทางในกำจัดพญางูโดยแท้จริง เพราะอโพฟิสกำลังรอเวลาที่จะฟื้นคืนในไม่ช้า...

.....................................................................

ถ้าเปรียบเทียบเล่มที่แล้วเป็นระเบิดซีโฟร์ เล่มนี้ก็เป็นเพียงประทัดพวงเล็กๆ ส่งเสียงเป๊าะแป๊ะตลอดทั้งเล่ม คือไม่ใช่ว่าเนื้อเรื่องมันไม่ดีนะ แต่เรารู้สึกว่ามันดรอปลงจากเล่มที่แล้วจริงๆ โทนเรื่องที่เริ่มแผ่วลงตั้งแต่บทแรก น้ำหนักและจังหวะในการเล่าเรื่องเริ่มเบาลง(หรืออาจจะเป็นเพราะเราคุ้นเคยกับเนื้อเรื่องมากขึ้นก็เป็นไปได้) มีช่วงเดียวที่เรารู้สึกว่ามันน่าตื่นเต้น แต่ก็ไม่ได้มากเหมือนเล่มที่แล้ว ก็คือตอนที่คาร์เตอร์กับเซดี้ล่องเรือผ่านแม่น้ำในดูอาตตอนท้ายเล่มนั่นแหละ

บอกเลยว่าเซงกับการตัดสินใจของทั้งคาร์เตอร์และเซดี้ในเล่มนี้มากๆ เพราะเห็นหลายคนบ่นกันว่าไม่ชอบคาร์เตอร์บ้างละ ไม่ชอบเซดี้บ้างละ เราก็พยายามจะทำใจเป็นกลาง เพื่อที่จะอ่านหนังสือเล่มนี้ให้สนุกและไม่เสียอรรถรส แต่มีอยู่หลายครั้งหลายหนที่คาร์เตอร์กับเซดี้เลือกทางเลือกที่ทำให้เราถอนหายใจออกมาด้วยความเซง อย่างเช่น...ตอนที่เซดี้จะกลับไปหาเพื่อนสาวของเธอตอนวันเกิด มันดูเอาแต่ใจแบบไร้เหตุผลมากเกินไป ถ้าคิดในแง่ที่ว่าเธอผ่านอะไรมามากมายในเล่มแรก เธอน่าจะโตขึ้นบ้างได้แล้ว น่าจะคิดอะไรได้ดีกว่านี้ด้วย และตอนที่คาร์เตอร์ทิ้งเซดี้ไว้ และไปตามหาเซีย(เด็กสาวที่เขาแอบชอบ) เรานี่ถึงกับอุทานออกมาว่า 'อะไรกันวะ ?' เหตุผลของนายงี่เง่ามากเลยคาร์เตอร์ ไม่มีหลักประกันอะไรที่จะทำให้ตัวเองประสบผลสำเร็จในการที่จะทำสิ่งนั้นลงไปเลยนะ ... แต่ก็ตามประสานิยายของริคแหละ ตัวละครก็ต้อง โป๊ะเช๊ะ ! เจอแรร์ไอเท็ม(แบบบังเอิญ)เพื่อที่จะเอาไปโค่นบอสพอดีเลย

เมื่อเริ่มจับทางเนื้อเรื่องแล้ว ก็ทำให้ตื่นเต้นน้อยลงทุกทีๆ อ่านเล่มนี้แล้วบอกได้เลยว่า...ตอนเริ่มต้นมาแบบแผ่วๆฉันใด ตอนจบก็จากไปแบบแผ่วๆฉันนั้น... แผ่วเสมอต้นเสมอปลายดีจริงๆ 555

คะแนน 7/10

No comments:

Post a Comment