จากเรื่อง Dream Chaser
ผู้แต่ง เชอริลีน แคนยอน
โรมานซ์ เหนือจริง
ผู้แปล จิตอุษา
สำนักพิมพ์ แก้วกานต์
เรื่องย่อ
ไซเฟอร์ ถูกเทพเจ้าประกาศิตให้มีชีวิตอยู่อย่างปราศจากอารมณ์ความรู้สึก แต่เมื่อเขาละเมิดกฎนั้น เขาจึงได้รับโทษทัณฑ์ให้ถูกทรมานอยู่ในตรุนรกทาร์ทารัสชั่วนิรันดร์ ทว่าเขายังได้รับโอกาสสุดท้าย เขาจะได้ใช้ชีวิตเยี่ยงมนุษย์เป็นเวลาหนึ่งเดือน และจะต้องไถ่บาปตัวเองภายในเวลานั้น แต่สิ่งที่เขาคิดจะทำมีเพียงการแก้แค้นหญิงแพศยาที่เป็นสาเหตุให้เขาต้องถูกลงทัณฑ์
ก่อนที่จะต้องกลับสู่ตรุนรกทาร์ทารัสอีกครั้ง
ซิโมน ดูบัวส์เป็นแพทย์ชันสูตรศพที่ไม่ใคร่จะกลัวอะไรง่าย ๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อหล่อนมีพลังพิเศษสามารถมองเห็นภูติผีวิญญาณได้ แต่เมื่อทีมชันสูตรคนหนึ่งพบว่าศพที่กำลังชันสูตรจู่ ๆ ก็ลุกขึ้นเดินออกไปได้หน้าตาเฉย ซิโมนก็ชักสังหรณ์ใจว่าจะมีเหตุการณ์เลวร้ายเกิดขึ้น และเมื่อหล่อนถูกปีศาจคล้องกำไลทองคู่กับชายหนุ่มผู้ลึกลับ รูปหล่อ และแสนอันตราย หล่อนก็รู้ว่าหล่อนเจอดีเข้าแล้ว
บัดนี้ ชะตากรรมของเขาอยู่ในมือหล่อน
ไซเฟอร์ไม่มีเวลาที่จะมาอยู่กับมนุษย์ผู้หญิงและคอยตอบคำถามของหล่อน แต่กำไลคู่นั้นผูกติดชะตากรรมของเขาและหล่อนไว้ด้วยกัน ความพยายามลึกลับที่จะเอาชีวิตของซิโมนบังคับให้ไซเฟอร์ต้องยืนขวางอยู่ระหว่างผู้หญิงที่เริ่มสัมผัสถึงหัวใจของเขากับอันตรายที่คุกคามชีวิตหล่อน... ่
REVIEW
ไซเฟอร์มีเวลาไม่กี่อาทิตย์ในการตามแก้แค้นซาทาร่า หญิงสาวที่ทรยศหักหลังเขาเป็นผลทำให้ไซเฟอร์ถูกลงทัณฑ์มาหลายศตวรรษ จนกระทั่งเขาได้พบกับซิโมน หญิงสาวที่มีพลังวิเศษสามารถมองเห็นวิญญาณที่อยู่รอบๆตัวของเธอได้ ซิโมนสอนให้ไซเฟอร์รู้สึกความรู้สึกต่างๆที่เขาคิดว่าตายดับไปแล้วอีกครั้ง
ซิโมนต้องใช้ชีวิตอยู่กับไซเฟอร์อย่างช่วยไม่ได้เมื่อทั้งสองถูกศัตรูผูกติดให้อยู่ด้วยกัน ตลอดระยะเวลานั้นทั้งคู่ค่อยๆทำความรู้จัก และไซเฟอร์ก็เรียนรู้ที่จะรับรู้สิ่งต่างๆอีกครั้ง เขายอมเสียสละเลือดของเขาเองเพื่อทำให้งานของซิโมนเป็นไปอย่างราบรื่น นั่นทำให้หญิงสาวซาบซึ้งใจอย่างมาก จนกระทั่งไซเฟอร์สามารถเรียนรู้คำว่ารักได้อีกครั้ง
กระนั้นไซเฟอร์ก็ไม่มีทางเอ่ยคำว่ารักออกไปให้ซิโมนได้ยินแน่ๆ เพราะอีกไม่กี่วัน ... เขาก็ต้องกลับไปยังทาร์ทารัสและถูกจองจำเช่นนั้นชั่วนิรันดร์ จะมีประโยชน์อะไรที่จะพูดคำนั้นออกไปในเมื่อทั้งคู่ไม่สามารถอยู่ด้วยกันได้ เมื่อไซเฟอร์ได้เดินทางไปคาโลซิสและยื่นข้อเสนอแก่ซาทาร่าว่าจะไม่มีการแก้แค้นใดๆเกิดขึ้น เขารักซิโมนเกินกว่าจะจมปลักอยู่กับความแค้น ดังนั้นไซเฟอร์จึงยื่นชีวิตตัวเองให้แกซาทาร่าโดยแลกกับซาทาร่าจะต้องไม่มายุ่งกับซิโมนอีก
ซิโมนรู้ทันทีว่าไซเฟอร์ได้ตายจากเธอไปแล้ว และเขาสละชีวิตเพื่อปกป้องหล่อน ดังนั้นซิโมนจึงยื่นข้อเสนอแก่จาเดนเพื่อขอให้นำไซเฟอร์ออกมาจากทาร์ทารัส โดยที่หารู้ไม่ว่าไซเฟอร์ได้พิสูจน์ตัวเองแก่เฮดีสและเขาได้รับอิสระแล้ว ไซเฟอร์มาไม่ทันและพบว่าซิโมนตายแล้ว แต่นั่นคืออุบายที่จาเดนหยิบยื่นให้แก่ทั้งคู่เพื่อให้ซิโมนมีชีวิตที่เป็นนิรันดร์เพื่อครองคู่กับไซเฟอร์ได้ตลอดไป ดังนั้นซิโมนจึงมีชีวิตใหม่อีกครั้งเฉกเช่นผู้เป็นอมตะ
..................................................................
เราพบว่าเมื่อเป็นเรื่องที่เกี่ยวกับพรานล่าฝันแล้ว ทุกอย่างจะห้วนๆและง่ายๆ ไม่ได้สลับซับซ้อนเหมือนชุดพรานราตรี โดยเฉพาะตอนจบเล่มนี้ที่เราคิดว่าตัดได้ห้วนมากๆ ทั้งก่อนหน้านั้นที่ดูเหมือนจะปูทางมาอย่างดี พอใกล้ๆจบก็ค่อยๆดรอปลงซะงั้น อีกอย่างหนึ่งที่เราสังเกตได้คือ ... เราไม่รู้ว่านิสัยไซเฟอร์เปลี่ยนไปตอนไหนจากเข้มๆโหดๆในตอนแรกกลับกลายมาเป็นน่ารักมุ๊งมิ๊งตอนกลางเรื่องซะงั้น นี่เราพลาดอะไรไปหรือเปล่า ? ฮ่าๆๆ
เราอ่านข้ามเล่มนี้ก่อนที่จะเล่มของแอชรอนไปแบบไม่ได้ตั้งใจ ทั้งๆที่เอาหนังสือวางเรียงชุดไว้แล้วแท้ๆ แต่เนื้อเรื่องก็ไม่ได้คาบเกี่ยวกันมาก เพราะ Dream Chaser จะเป็นการต่อยอดเรื่องราวจากเล่ม Devil May Cry โดยกล่าวถึงมีปีศาจกัลลูและดิมมีจากเล่มของซินที่รอดชีวิตมาได้และเล่มนี้ก็มีบทบาทในการเล่าเรื่องอยู่พอสมควร
เราคิดว่าไซเฟอร์เป็นตัวละครที่น่าสนใจตัวหนึ่ง หากการเขียนสามารถส่งเสริมตัวละครได้มากกว่านี้ เรามั่นใจว่าหนังสือเล่มนี้จะทำให้เรารู้สึกเหมือนตอนอ่านเล่มของซาเร็คแน่นอน เพราะปมของพระเอกค่อนข้างจะคล้ายกัน และนิสัยก็เหมือนกันอีกต่างหาก
การแก้ไขปัญหาของตัวละครในเล่มนี้ดูเหมือนจะง่ายเกินไปโดยเฉพาะตอนท้ายๆที่ทุกอย่างเคลียร์ได้ไวเกินจนน่าตกใจ แต่ด้วยความที่เราอ่านเล่มแอชรอนก่อนจะมาอ่านเล่มนี้ ทำให้เรารู้ว่าบางปมที่ยังไม่เคลียร์ในเล่มนี้ พอไปเล่มหน้า พี่แอชแกจัดการให้หมด ฮ่าๆ
สรุปว่าได้อ่านเพลินๆ และเนื้อเรื่องดีขึ้นกว่าพรานล่าฝันสองเล่มก่อนหน้าพอสมควร ...
ไซเฟอร์มีเวลาไม่กี่อาทิตย์ในการตามแก้แค้นซาทาร่า หญิงสาวที่ทรยศหักหลังเขาเป็นผลทำให้ไซเฟอร์ถูกลงทัณฑ์มาหลายศตวรรษ จนกระทั่งเขาได้พบกับซิโมน หญิงสาวที่มีพลังวิเศษสามารถมองเห็นวิญญาณที่อยู่รอบๆตัวของเธอได้ ซิโมนสอนให้ไซเฟอร์รู้สึกความรู้สึกต่างๆที่เขาคิดว่าตายดับไปแล้วอีกครั้ง
ซิโมนต้องใช้ชีวิตอยู่กับไซเฟอร์อย่างช่วยไม่ได้เมื่อทั้งสองถูกศัตรูผูกติดให้อยู่ด้วยกัน ตลอดระยะเวลานั้นทั้งคู่ค่อยๆทำความรู้จัก และไซเฟอร์ก็เรียนรู้ที่จะรับรู้สิ่งต่างๆอีกครั้ง เขายอมเสียสละเลือดของเขาเองเพื่อทำให้งานของซิโมนเป็นไปอย่างราบรื่น นั่นทำให้หญิงสาวซาบซึ้งใจอย่างมาก จนกระทั่งไซเฟอร์สามารถเรียนรู้คำว่ารักได้อีกครั้ง
กระนั้นไซเฟอร์ก็ไม่มีทางเอ่ยคำว่ารักออกไปให้ซิโมนได้ยินแน่ๆ เพราะอีกไม่กี่วัน ... เขาก็ต้องกลับไปยังทาร์ทารัสและถูกจองจำเช่นนั้นชั่วนิรันดร์ จะมีประโยชน์อะไรที่จะพูดคำนั้นออกไปในเมื่อทั้งคู่ไม่สามารถอยู่ด้วยกันได้ เมื่อไซเฟอร์ได้เดินทางไปคาโลซิสและยื่นข้อเสนอแก่ซาทาร่าว่าจะไม่มีการแก้แค้นใดๆเกิดขึ้น เขารักซิโมนเกินกว่าจะจมปลักอยู่กับความแค้น ดังนั้นไซเฟอร์จึงยื่นชีวิตตัวเองให้แกซาทาร่าโดยแลกกับซาทาร่าจะต้องไม่มายุ่งกับซิโมนอีก
ซิโมนรู้ทันทีว่าไซเฟอร์ได้ตายจากเธอไปแล้ว และเขาสละชีวิตเพื่อปกป้องหล่อน ดังนั้นซิโมนจึงยื่นข้อเสนอแก่จาเดนเพื่อขอให้นำไซเฟอร์ออกมาจากทาร์ทารัส โดยที่หารู้ไม่ว่าไซเฟอร์ได้พิสูจน์ตัวเองแก่เฮดีสและเขาได้รับอิสระแล้ว ไซเฟอร์มาไม่ทันและพบว่าซิโมนตายแล้ว แต่นั่นคืออุบายที่จาเดนหยิบยื่นให้แก่ทั้งคู่เพื่อให้ซิโมนมีชีวิตที่เป็นนิรันดร์เพื่อครองคู่กับไซเฟอร์ได้ตลอดไป ดังนั้นซิโมนจึงมีชีวิตใหม่อีกครั้งเฉกเช่นผู้เป็นอมตะ
..................................................................
เราพบว่าเมื่อเป็นเรื่องที่เกี่ยวกับพรานล่าฝันแล้ว ทุกอย่างจะห้วนๆและง่ายๆ ไม่ได้สลับซับซ้อนเหมือนชุดพรานราตรี โดยเฉพาะตอนจบเล่มนี้ที่เราคิดว่าตัดได้ห้วนมากๆ ทั้งก่อนหน้านั้นที่ดูเหมือนจะปูทางมาอย่างดี พอใกล้ๆจบก็ค่อยๆดรอปลงซะงั้น อีกอย่างหนึ่งที่เราสังเกตได้คือ ... เราไม่รู้ว่านิสัยไซเฟอร์เปลี่ยนไปตอนไหนจากเข้มๆโหดๆในตอนแรกกลับกลายมาเป็นน่ารักมุ๊งมิ๊งตอนกลางเรื่องซะงั้น นี่เราพลาดอะไรไปหรือเปล่า ? ฮ่าๆๆ
เราอ่านข้ามเล่มนี้ก่อนที่จะเล่มของแอชรอนไปแบบไม่ได้ตั้งใจ ทั้งๆที่เอาหนังสือวางเรียงชุดไว้แล้วแท้ๆ แต่เนื้อเรื่องก็ไม่ได้คาบเกี่ยวกันมาก เพราะ Dream Chaser จะเป็นการต่อยอดเรื่องราวจากเล่ม Devil May Cry โดยกล่าวถึงมีปีศาจกัลลูและดิมมีจากเล่มของซินที่รอดชีวิตมาได้และเล่มนี้ก็มีบทบาทในการเล่าเรื่องอยู่พอสมควร
เราคิดว่าไซเฟอร์เป็นตัวละครที่น่าสนใจตัวหนึ่ง หากการเขียนสามารถส่งเสริมตัวละครได้มากกว่านี้ เรามั่นใจว่าหนังสือเล่มนี้จะทำให้เรารู้สึกเหมือนตอนอ่านเล่มของซาเร็คแน่นอน เพราะปมของพระเอกค่อนข้างจะคล้ายกัน และนิสัยก็เหมือนกันอีกต่างหาก
การแก้ไขปัญหาของตัวละครในเล่มนี้ดูเหมือนจะง่ายเกินไปโดยเฉพาะตอนท้ายๆที่ทุกอย่างเคลียร์ได้ไวเกินจนน่าตกใจ แต่ด้วยความที่เราอ่านเล่มแอชรอนก่อนจะมาอ่านเล่มนี้ ทำให้เรารู้ว่าบางปมที่ยังไม่เคลียร์ในเล่มนี้ พอไปเล่มหน้า พี่แอชแกจัดการให้หมด ฮ่าๆ
สรุปว่าได้อ่านเพลินๆ และเนื้อเรื่องดีขึ้นกว่าพรานล่าฝันสองเล่มก่อนหน้าพอสมควร ...
คะแนน 7.5/10