ผู้เขียน : James Dashner
ผู้แปล : แสงตะวัน
เรื่องย่อ
‘การลุกวาบของดวงอาทิตย์’ ที่มาอย่างไม่มีลางบอกเหตุคร่าชีวิตประชากรโลกไปเกินครึ่ง คลื่นความร้อนแผดเผาผู้คนทั้งเป็น พวกเขาล้วนตกตายชนิดไม่ทันรู้ตัว ทว่านั่นอาจเป็นโชคดีแล้ว ตายๆ ไปเสียให้สิ้นเรื่องสิ้นราวคงดีกว่า...
ตลอดหนึ่งปีนี้ ฝันร้ายในวันนั้นยังคงตามหลอกหลอนมาร์ค เด็กหนุ่มหวังว่าจะลืมมันได้ในสักวันขณะที่ค่อยๆ ชินกับชีวิตใหม่ ขณะที่รู้สึกว่าอะไรๆ กำลังจะดีขึ้น...จนกระทั่งเบิร์กลำโตมาบินอยู่เหนือหมู่บ้าน และนำฝันร้ายระลอกใหม่มาสู่มนุษยชาติอีกหน
มันเริ่มจากการเวียนหัวธรรมดา ก่อนลุกลามไปเป็นการเพ้อพร่ำ เสียสติ โหดเหี้ยมอำมหิต ใคร...ไม่สิ ‘องค์กร’ ใดอยู่เบื้องหลังเรื่องนี้กัน พวกเขาทำไปทำไม นี่คือคำถามที่มาร์คต้องหาคำตอบไปพร้อมกับช่วยเหลือเพื่อนๆ และช่วยตัวเองให้รอดชีวิตอีกครั้งจากความบ้าคลั่งป่าเถื่อนของโลกใบใหม่นี้!
REVIEW
มาร์คและคนอื่นๆหนีรอดจากการลุกวาบของดวงอาทิตย์มาได้ แต่เรื่องเลวร้ายไม่ได้จบลงแค่นั้นเมื่อเบิร์กลำหนึ่งล่อนลงมาและสาดลูกดอกใส่คนในหมู่บ้านจนมีคนเสียชีวิต บางคนก็มีอาการคลุ้มคลั่งอันน่าแปลกประหลาด มาร์คกับอเล็คจึงต้องเดินทางไปยังสำนักงานเบิร์กตามแผนที่ที่เขาค้นพบเพื่อดูว่ามีอะไรรออยู่ที่นั่นกันแน่
การเดินทางของมาร์คไม่ได้เรียบง่ายเมื่อเขามีชีวิตของทริน่าที่เขารักต้องปกป้อง ไหนจะเรื่องที่เพื่อนของเขาล้มตายอย่างเสียสติเพราะไวรัสบ้าๆนั่นอีก ระหว่างการเดินทางมาร์คก็ยังพบพวกคลุ้มคลั่งที่พร้อมจะเข้ามาทำร้ายเขาได้ทุกเมื่อ นั่นทำให้การเดินทางครั้งนี้ไม่ง่ายเสียแล้ว แต่มันก็ทำให้เขาพบกับดีดี้ เด็กหญิงที่มีภูมิคุ้มกันไข้วาบอย่างน่าประหลาด
มาร์คและอเล็คแยกทางกับคนอื่นที่เหลืออย่างช่วยไม่ได้ จนพวกเขารู้ว่าผู้หญิงถูกจับตัวไป มาร์คจึงเดินทางไปยังสำนักงานเบิร์กเพื่อที่จะพบว่าคนที่นั่นเป็นบ้าเพราะไข้วาบกันไปหมดแถมยังส่งตัวพวกผู้หญิงไปที่อื่นอีก อเล็คจึงขโมยยานเบิร์กและขับออกไปตามหาคนอื่นๆที่เหลือไปยังสถานที่ที่เต็มไปด้วยผู้คนที่บ้าคลั่ง เพื่อที่จะพบว่าเขามาช้าเกินไป ทริน่าสูญเสียความทรงจำที่จะจำมาร์คได้ไปแล้ว
มาร์คค้นพบจดหมายของรัฐบาลที่สั่งให้มีการสังหารประชาชนของตัวเรียกที่เรียกว่า The Kill Order เพื่อลดการบริโภคทรัพยากร เนื่องจากจะทำให้ประชาชนกลุ่มที่ถูกเลือกขาดอาหารกันมากขึ้น จึงมีการใช้ไวรัสไข้วาบทำให้ผู้คนส่วนมากล้มตาย เมื่อมาร์ครู้ดังนั้น ... เขาจึงตัดสินใจส่งดีดี้ผ่านระนาบเคลื่อนย้ายไปที่อื่นเพราะเธอคือความหวังเดียวของมนุษยชาติในการผลิตวัคซีนไข้วาบ และมาร์คก็ตัดสินใจทำลายระนาบเคลื่อนย้ายพร้อมกับสละชีวิตของเขาเองเพราะเขาไม่ต้องการให้ผู้คนที่บ้าคลั่งหลุดเข้าไปยังสถานที่ที่ดีดี้กำลังจะไปอีกแล้ว ...
..............................................................
เล่มนี้ไม่ค่อยสนุก เนื้อเรื่องเดาง่าย ตัวละครจืดๆธรรมดาๆ แถมเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นยังแว่บไปแว่บมา ยังไม่ทันให้คนอ่านทำความเข้าใจเลย ก็ตัดไปสู่อีกเหตุการณ์หนึ่งซะแล้ว พูดง่ายว่าอ่านแล้วไม่อิน ! ยังดีที่มีบทแอ็คชั่นมันส์ๆมาช่วยชีวิตเอาไว้ ไม่งั้นเราคงอ่านไม่จบเป็นแน่แท้ ไหนจะการผจญภัยที่ยืดเยื้อเกินความจำเป็น สรุปว่าทั้งเรื่องตัวเอกแค่ตามหาเพื่อนที่หายตัวไปเท่านั้นเอง ไม่มีอะไรให้น่าตื่นเต้นเลยด้วยซ้ำ
ยังดีที่ตอนจบทำให้เราพอชอบได้อยู่บ้าง ทุกสิ่งทีเ่กิดขึ้นมันคือจุดเริ่มต้นของเรื่องราวที่จะเกิดขึ้นใน The Maze Runner ทั้ง 3 เล่ม แต่ถ้าถามว่ามีความเชื่อมโยงอะไรมากกว่านั้นมั้ย เราตอบได้เลยว่า ไม่ ! เพราะเราไม่รู้ว่าดีดี้คนนี้เธอจะโตขึ้นไปและรับบทบาทไหนในการผลิตวัคซีนรักษาไข้วาบ ถ้าเราจำไม่ผิด The Maze Runner ทั้งสามเล่มไม่ได้เอ่ยถึงชื่อนี้เลยด้วยซ้ำมั้ง หวังว่าเล่มต่อๆไปจะเผยบทบาทของเธอให้เราได้เห็นมากขึ้นกว่านี้บ้าง
ถามว่าความรู้สึกหลังจากอ่านเล่มนี้จบมันอยู่ตรงจุดไหนของสามเล่มก่อนหน้านี้ เราขอตอบเลยว่า ... The Kill Order ทำให้เรารู้สึกเหมือนตอนอ่าน The Death Cure เลย เราชอบในแง่บทสรุปของ The Kill Order ที่แม้จะดูห้วนๆเพราะคำอธิบายสั้นๆกระชับๆชองแดชเนอร์ แต่มันก็คือสิ่งที่ได้เกิดขึ้นจริงๆและไม่ได้ยึดมั่นในตอนจบแบบสวยงามเหมือนนิยายเล่มอื่นๆ ขอชื่นชมแดชเนอร์ที่ซื่อสัตย์ต่อคนอ่านได้ขนาดนี้
มีส่วนเนื้อเรื่องของโทมัสมานิดนึง ซึ่งแทบจะไม่ได้เกี่ยวอะไรกับเนื้อหาเลย เราก็สงสัยเหมือนกันว่าจะใส่มาเพื่อ ?
มาร์คและคนอื่นๆหนีรอดจากการลุกวาบของดวงอาทิตย์มาได้ แต่เรื่องเลวร้ายไม่ได้จบลงแค่นั้นเมื่อเบิร์กลำหนึ่งล่อนลงมาและสาดลูกดอกใส่คนในหมู่บ้านจนมีคนเสียชีวิต บางคนก็มีอาการคลุ้มคลั่งอันน่าแปลกประหลาด มาร์คกับอเล็คจึงต้องเดินทางไปยังสำนักงานเบิร์กตามแผนที่ที่เขาค้นพบเพื่อดูว่ามีอะไรรออยู่ที่นั่นกันแน่
การเดินทางของมาร์คไม่ได้เรียบง่ายเมื่อเขามีชีวิตของทริน่าที่เขารักต้องปกป้อง ไหนจะเรื่องที่เพื่อนของเขาล้มตายอย่างเสียสติเพราะไวรัสบ้าๆนั่นอีก ระหว่างการเดินทางมาร์คก็ยังพบพวกคลุ้มคลั่งที่พร้อมจะเข้ามาทำร้ายเขาได้ทุกเมื่อ นั่นทำให้การเดินทางครั้งนี้ไม่ง่ายเสียแล้ว แต่มันก็ทำให้เขาพบกับดีดี้ เด็กหญิงที่มีภูมิคุ้มกันไข้วาบอย่างน่าประหลาด
มาร์คและอเล็คแยกทางกับคนอื่นที่เหลืออย่างช่วยไม่ได้ จนพวกเขารู้ว่าผู้หญิงถูกจับตัวไป มาร์คจึงเดินทางไปยังสำนักงานเบิร์กเพื่อที่จะพบว่าคนที่นั่นเป็นบ้าเพราะไข้วาบกันไปหมดแถมยังส่งตัวพวกผู้หญิงไปที่อื่นอีก อเล็คจึงขโมยยานเบิร์กและขับออกไปตามหาคนอื่นๆที่เหลือไปยังสถานที่ที่เต็มไปด้วยผู้คนที่บ้าคลั่ง เพื่อที่จะพบว่าเขามาช้าเกินไป ทริน่าสูญเสียความทรงจำที่จะจำมาร์คได้ไปแล้ว
มาร์คค้นพบจดหมายของรัฐบาลที่สั่งให้มีการสังหารประชาชนของตัวเรียกที่เรียกว่า The Kill Order เพื่อลดการบริโภคทรัพยากร เนื่องจากจะทำให้ประชาชนกลุ่มที่ถูกเลือกขาดอาหารกันมากขึ้น จึงมีการใช้ไวรัสไข้วาบทำให้ผู้คนส่วนมากล้มตาย เมื่อมาร์ครู้ดังนั้น ... เขาจึงตัดสินใจส่งดีดี้ผ่านระนาบเคลื่อนย้ายไปที่อื่นเพราะเธอคือความหวังเดียวของมนุษยชาติในการผลิตวัคซีนไข้วาบ และมาร์คก็ตัดสินใจทำลายระนาบเคลื่อนย้ายพร้อมกับสละชีวิตของเขาเองเพราะเขาไม่ต้องการให้ผู้คนที่บ้าคลั่งหลุดเข้าไปยังสถานที่ที่ดีดี้กำลังจะไปอีกแล้ว ...
..............................................................
เล่มนี้ไม่ค่อยสนุก เนื้อเรื่องเดาง่าย ตัวละครจืดๆธรรมดาๆ แถมเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นยังแว่บไปแว่บมา ยังไม่ทันให้คนอ่านทำความเข้าใจเลย ก็ตัดไปสู่อีกเหตุการณ์หนึ่งซะแล้ว พูดง่ายว่าอ่านแล้วไม่อิน ! ยังดีที่มีบทแอ็คชั่นมันส์ๆมาช่วยชีวิตเอาไว้ ไม่งั้นเราคงอ่านไม่จบเป็นแน่แท้ ไหนจะการผจญภัยที่ยืดเยื้อเกินความจำเป็น สรุปว่าทั้งเรื่องตัวเอกแค่ตามหาเพื่อนที่หายตัวไปเท่านั้นเอง ไม่มีอะไรให้น่าตื่นเต้นเลยด้วยซ้ำ
ยังดีที่ตอนจบทำให้เราพอชอบได้อยู่บ้าง ทุกสิ่งทีเ่กิดขึ้นมันคือจุดเริ่มต้นของเรื่องราวที่จะเกิดขึ้นใน The Maze Runner ทั้ง 3 เล่ม แต่ถ้าถามว่ามีความเชื่อมโยงอะไรมากกว่านั้นมั้ย เราตอบได้เลยว่า ไม่ ! เพราะเราไม่รู้ว่าดีดี้คนนี้เธอจะโตขึ้นไปและรับบทบาทไหนในการผลิตวัคซีนรักษาไข้วาบ ถ้าเราจำไม่ผิด The Maze Runner ทั้งสามเล่มไม่ได้เอ่ยถึงชื่อนี้เลยด้วยซ้ำมั้ง หวังว่าเล่มต่อๆไปจะเผยบทบาทของเธอให้เราได้เห็นมากขึ้นกว่านี้บ้าง
ถามว่าความรู้สึกหลังจากอ่านเล่มนี้จบมันอยู่ตรงจุดไหนของสามเล่มก่อนหน้านี้ เราขอตอบเลยว่า ... The Kill Order ทำให้เรารู้สึกเหมือนตอนอ่าน The Death Cure เลย เราชอบในแง่บทสรุปของ The Kill Order ที่แม้จะดูห้วนๆเพราะคำอธิบายสั้นๆกระชับๆชองแดชเนอร์ แต่มันก็คือสิ่งที่ได้เกิดขึ้นจริงๆและไม่ได้ยึดมั่นในตอนจบแบบสวยงามเหมือนนิยายเล่มอื่นๆ ขอชื่นชมแดชเนอร์ที่ซื่อสัตย์ต่อคนอ่านได้ขนาดนี้
มีส่วนเนื้อเรื่องของโทมัสมานิดนึง ซึ่งแทบจะไม่ได้เกี่ยวอะไรกับเนื้อหาเลย เราก็สงสัยเหมือนกันว่าจะใส่มาเพื่อ ?
คะแนน 6.5/10
No comments:
Post a Comment