จากเรื่อง When Beauty Tamed the Beast
ผู้แต่ง เอลอยซา เจมส์
โรมานซ์ ย้อนยุค
ผู้แปล ปริศนา
สำนักพิมพ์ แก้วกานต์
เรื่องย่อ
มิสลินเนท เบอร์รี ธรินน์คือโฉมงาม...เป็นธรรมดาที่เธอจะหมั้นหมายกับอสูร เพียร์ส เยลเวอร์ตัน เอิร์ลแห่งมาร์แชนท์ อาศัยอยู่ที่ปราสาทในแคว้นเวลส์ เป็นที่ร่ำลือว่าอารมณ์ร้ายกาจของเขาเชือดเฉือนทุกคนที่ขัดใจ แล้วยังลือกันอีกว่าการบาดเจ็บทำให้เขามีภูมิต้านทานต่อเสน่ห์ของหญิงสาวทั่วไป ทว่าลินเนทไม่ใช่หญิงสาวทั่วไป เธอเป็นมากกว่าโฉมงาม สติปัญญาและเสน่ห์ของเธอเคยทำให้เจ้าชายยอมศิโรราบมาก่อน เธอประเมินว่าเอิร์ลหนุ่มจะตกหลุมรักเธอหมดหัวใจ... ภายในสองสัปดาห์ แต่ลินเนทไม่รู้เลยว่าหัวใจของเธอตกอยู่ในอันตรายจากชายหนุ่มที่อาจจะไม่มีวันรักเธอตอบ ถ้าเธอตัดสินใจจะทำตัวร้ายกาจอย่างยิ่ง... เธอจะต้องชดใช้มากเพียงใดเพื่อกำราบหัวใจไม่เชื่องของเขา...
REVIEW
ลินเนทถูกทำให้เสื่อมเสียชื่อเสียงเมื่อเธอโดนข้อกล่าวหาว่ากำลังตั้งท้อง ทั้งๆที่ความจริงเธอแค่กินของแสลงเข้าไปแล้วอาเจียนออกมากลางงานเท่านั้นเอง ชื่อเสียงของเธอถูกทำลาย ลินเนทจึงถูกพ่อของเขามัดมือชกแล้วส่งเธอไปอยู่กับเพียร์ส หมอปากร้ายที่ใครๆต่างก็เรียกเขาว่าอสูร เมื่อลินเนทปะจันหน้ากับเพียร์ส ทั้งคู่ต่างก็รู้ดีว่าจะไม่มีการแต่งงานเกิดขึ้นเด็ดขาด !
เพียร์สรู้ตัวดีว่าเขาไม่สามารถต้านทานโฉมงานอย่างลินเนทได้ แม้ว่าเขาจะผลักไสเธอแค่ไหน แต่เสน่ห์ของเธอก็ทำให้เขายอมจำนน สำหรับครั้งแรกของลินเนท เพียร์สทำให้แน่ใจว่ามันจะค่อยเป็นค่อยไปและถนอมเธอเอาไว้อย่างที่สุด ลินเนทมีส่วนร่วมในการดูแลผู้ป่วยของเพียร์สมากยิ่งขึ้น เรียกได้ว่าเธอแทบจะเปลี่ยนชีวิตของผู้ป่วยบางรายที่ได้แต่นอนสิ้นหวังไปวันๆได้เลยทีเดียว เมื่อเด็กชายคนหนึ่งกลับมาเดินได้อีกครั้งเมื่ออยู่ภายใต้ความดูแลของลินเนท
มีแผลเป็นมากมายกว่าที่จะมองเห็นได้ประทับอยู่ในใจของเพียร์ส ตั้งแต่เรื่องที่พ่อของเขาติดยาและลงมือทำร้ายจนเขาต้องพิการมาจนถึงทุกวันนี้ ดังนั้นเขาจึงไม่สามารถที่จะให้อภัยพ่อของเขาได้ และนั่นทำให้เขาอารมณ์ร้ายปากเสีย ดังนั้นเขาจึงคิดว่าไม่มีผู้หญิงคนไหนที่จะทนแต่งงานกับเขาได้ลง เพราะเขากลัวว่าเขาจะลงเอยแบบพ่อของเขานั่นก็คือลงมือทำร้ายภรรยาของตัวเอง
เกิดโรคระบาดขึ้น นั่นทำให้เพียร์สยุ่งมากขึ้นไม่เว้นแต่ละวัน เขาผลักไล่ไสส่งลินเนทไปด้วยโยนคำร้ายๆใส่เธอว่าเขาไม่ได้รักเธอ และจะไม่มีวันแต่งงานกับเธอเด็ดขาด ลินเนทจึงเดินทางกลับลอนดอน แต่เธอก็ไปได้ไม่ไกลเมื่อพบว่าตนเองติดโรคระบาด ลินเนทนอนซมอยู่ในเล้าไก่ระหว่างทางและทุกอย่างดูเหมือนจะสิ้นหวังไปเสียหมด
เพียร์สตามหาลินเนทจนพบเมื่อรู้ว่าเธอป่วยหนัก เขารักษาเธอ ป้อนยาเธอ อุ้มเธอไปนอนบนฟูกสะอาดๆแม้ว่าเขาจะลงเอยด้วยการต้องคลานบนพื้นในสภาพเปลือยกายก็ตาม เมื่อลินเนทได้สติและอาการดีขึ้น เพียร์สก็ตัดสินใจจะขอเธอแต่งงาน พอลินเนทเห็นสภาพตัวเองแล้ว เธอก็ตัดสินใจว่ากลับลอนดอนเพราะลินเนทไม่ต้องการให้เพียร์สมาขอเธอแต่งงานและต้องทนอยู่กับความเวทนาในสายตาของเขาเด็ดขาด เพียร์สจึงตามง้อลินเนทและอธิบายให้เธอฟังว่ารูปลักษณ์ของเธอไม่ได้มีผลอะไรต่อเขาเลย เพราะเขารักที่ตัวตนของเธอ ลินเนทจึงยอมแต่งงานกับเขาได้ในที่สุด ...
...................................................................................
เล่มนี้ไม่ค่อยดราม่าแบบที่เราคาดเอาไว้สักเท่าไร เราหวังเอาไว้ก่อนที่จะอ่านว่าพระเอกต้องเป็นพวกโขกสับทำร้ายนางเอกสารพัด แต่มันไม่ใช่ ! ไม่ใช่อะไรแบบนั้นเลย คาแรคเตอร์ของเพียร์สดูเป็นผู้ชายธรรมดาๆนี่แหละ ที่มีแผลเป็นทั้งร่างกายและจิตใจจนเขาเลือกแสดงออกในด้านร้ายๆออกมา การกระทำของเขาทุกอย่างมีเหตุมีผล ไม่ได้งี่เง่าจนทำให้เราหงุดหงิดเลยแม้แต่น้อย ตรงกันข้าม ... เรากลับเห็นใจและเอาใจช่วยเขาไปตลอดทั้งเล่ม
การเล่าเรื่องสามารถทำให้อินได้กว่านี้อีกนะ ในความรู้สึกเราเหมือนคาแรคเตอร์ของเพียร์สสามารถไปได้ไกลมากกว่านี้และเน้นความดราม่าให้เนื้อเรื่องมากกว่าที่เป็นอยู่ได้
เรารู้สึกว่าเนื้อเรื่องไปสนุกตอนครึ่งเล่มหลังที่เพียร์สกับลินเนทติดพายุลูกเห็บด้วยกันสองคนนั่นแหละ โดยครึ่งเล่มก่อนหน้านี้ เนื้อเรื่องนิ่งสนิท จนเราต้องใช้ความพยายามในการอ่านมากพอสมควร เราไม่รู้ว่านิยายของเอลอยซาเป็นแบบนี้ทุกเล่มเลยหรือเปล่า แต่เท่าที่อ่านมาแล้วสองเล่ม เรารู้สึกว่าตอนต้นๆถึงกลางเรื่องจะขาดความน่าสนใจไปอย่างมาก ตัวละครออกมากันให้พรึ่บพรั่บแต่ก็ไม่ได้ทำให้เนื้อเรื่องเดินหน้าไปไหนเลยจริงๆ
คาแรคเตอร์ของเพียร์สคงเส้นคงวาตั้งแต่หน้าแรกจนหน้าสุดท้ายเลยว่าได้ เราชอบที่เขาเป็นคนพูดตรงๆ โผงผาง มีความเป็นตัวของตัวเอง และเมื่อมาอยู่ด้วยกันกับลินเนทแล้ว ในความรู้สึกเราเธอคนนี้ก็คือเบลนั่นเอง ด้วยนิสัยใจคอแบบเบลแล้ว ความสัมพันธ์ของทั้งคู่ไม่ได้คงอยู่บนเส้นของความอดทน แต่เรามองว่ามันเป็นส่วนเติมเต็มให้กันและกันมากกว่า นั่นจึงทำให้ความสัมพันธ์ตัวละครเล่มนี้ไม่ใช่อยู่ในขีดจำกัดของความเพ้อฝันจนแตะต้องไม่ได้ แต่เรามองว่าความสัมพันธ์แบบนี้แหละคือสิ่งธรรมดาและมีค่ายิ่งกว่าความรักแบบฟุ้งเฟ้อเสียอีก
ลินเนทถูกทำให้เสื่อมเสียชื่อเสียงเมื่อเธอโดนข้อกล่าวหาว่ากำลังตั้งท้อง ทั้งๆที่ความจริงเธอแค่กินของแสลงเข้าไปแล้วอาเจียนออกมากลางงานเท่านั้นเอง ชื่อเสียงของเธอถูกทำลาย ลินเนทจึงถูกพ่อของเขามัดมือชกแล้วส่งเธอไปอยู่กับเพียร์ส หมอปากร้ายที่ใครๆต่างก็เรียกเขาว่าอสูร เมื่อลินเนทปะจันหน้ากับเพียร์ส ทั้งคู่ต่างก็รู้ดีว่าจะไม่มีการแต่งงานเกิดขึ้นเด็ดขาด !
เพียร์สรู้ตัวดีว่าเขาไม่สามารถต้านทานโฉมงานอย่างลินเนทได้ แม้ว่าเขาจะผลักไสเธอแค่ไหน แต่เสน่ห์ของเธอก็ทำให้เขายอมจำนน สำหรับครั้งแรกของลินเนท เพียร์สทำให้แน่ใจว่ามันจะค่อยเป็นค่อยไปและถนอมเธอเอาไว้อย่างที่สุด ลินเนทมีส่วนร่วมในการดูแลผู้ป่วยของเพียร์สมากยิ่งขึ้น เรียกได้ว่าเธอแทบจะเปลี่ยนชีวิตของผู้ป่วยบางรายที่ได้แต่นอนสิ้นหวังไปวันๆได้เลยทีเดียว เมื่อเด็กชายคนหนึ่งกลับมาเดินได้อีกครั้งเมื่ออยู่ภายใต้ความดูแลของลินเนท
มีแผลเป็นมากมายกว่าที่จะมองเห็นได้ประทับอยู่ในใจของเพียร์ส ตั้งแต่เรื่องที่พ่อของเขาติดยาและลงมือทำร้ายจนเขาต้องพิการมาจนถึงทุกวันนี้ ดังนั้นเขาจึงไม่สามารถที่จะให้อภัยพ่อของเขาได้ และนั่นทำให้เขาอารมณ์ร้ายปากเสีย ดังนั้นเขาจึงคิดว่าไม่มีผู้หญิงคนไหนที่จะทนแต่งงานกับเขาได้ลง เพราะเขากลัวว่าเขาจะลงเอยแบบพ่อของเขานั่นก็คือลงมือทำร้ายภรรยาของตัวเอง
เกิดโรคระบาดขึ้น นั่นทำให้เพียร์สยุ่งมากขึ้นไม่เว้นแต่ละวัน เขาผลักไล่ไสส่งลินเนทไปด้วยโยนคำร้ายๆใส่เธอว่าเขาไม่ได้รักเธอ และจะไม่มีวันแต่งงานกับเธอเด็ดขาด ลินเนทจึงเดินทางกลับลอนดอน แต่เธอก็ไปได้ไม่ไกลเมื่อพบว่าตนเองติดโรคระบาด ลินเนทนอนซมอยู่ในเล้าไก่ระหว่างทางและทุกอย่างดูเหมือนจะสิ้นหวังไปเสียหมด
เพียร์สตามหาลินเนทจนพบเมื่อรู้ว่าเธอป่วยหนัก เขารักษาเธอ ป้อนยาเธอ อุ้มเธอไปนอนบนฟูกสะอาดๆแม้ว่าเขาจะลงเอยด้วยการต้องคลานบนพื้นในสภาพเปลือยกายก็ตาม เมื่อลินเนทได้สติและอาการดีขึ้น เพียร์สก็ตัดสินใจจะขอเธอแต่งงาน พอลินเนทเห็นสภาพตัวเองแล้ว เธอก็ตัดสินใจว่ากลับลอนดอนเพราะลินเนทไม่ต้องการให้เพียร์สมาขอเธอแต่งงานและต้องทนอยู่กับความเวทนาในสายตาของเขาเด็ดขาด เพียร์สจึงตามง้อลินเนทและอธิบายให้เธอฟังว่ารูปลักษณ์ของเธอไม่ได้มีผลอะไรต่อเขาเลย เพราะเขารักที่ตัวตนของเธอ ลินเนทจึงยอมแต่งงานกับเขาได้ในที่สุด ...
...................................................................................
เล่มนี้ไม่ค่อยดราม่าแบบที่เราคาดเอาไว้สักเท่าไร เราหวังเอาไว้ก่อนที่จะอ่านว่าพระเอกต้องเป็นพวกโขกสับทำร้ายนางเอกสารพัด แต่มันไม่ใช่ ! ไม่ใช่อะไรแบบนั้นเลย คาแรคเตอร์ของเพียร์สดูเป็นผู้ชายธรรมดาๆนี่แหละ ที่มีแผลเป็นทั้งร่างกายและจิตใจจนเขาเลือกแสดงออกในด้านร้ายๆออกมา การกระทำของเขาทุกอย่างมีเหตุมีผล ไม่ได้งี่เง่าจนทำให้เราหงุดหงิดเลยแม้แต่น้อย ตรงกันข้าม ... เรากลับเห็นใจและเอาใจช่วยเขาไปตลอดทั้งเล่ม
การเล่าเรื่องสามารถทำให้อินได้กว่านี้อีกนะ ในความรู้สึกเราเหมือนคาแรคเตอร์ของเพียร์สสามารถไปได้ไกลมากกว่านี้และเน้นความดราม่าให้เนื้อเรื่องมากกว่าที่เป็นอยู่ได้
เรารู้สึกว่าเนื้อเรื่องไปสนุกตอนครึ่งเล่มหลังที่เพียร์สกับลินเนทติดพายุลูกเห็บด้วยกันสองคนนั่นแหละ โดยครึ่งเล่มก่อนหน้านี้ เนื้อเรื่องนิ่งสนิท จนเราต้องใช้ความพยายามในการอ่านมากพอสมควร เราไม่รู้ว่านิยายของเอลอยซาเป็นแบบนี้ทุกเล่มเลยหรือเปล่า แต่เท่าที่อ่านมาแล้วสองเล่ม เรารู้สึกว่าตอนต้นๆถึงกลางเรื่องจะขาดความน่าสนใจไปอย่างมาก ตัวละครออกมากันให้พรึ่บพรั่บแต่ก็ไม่ได้ทำให้เนื้อเรื่องเดินหน้าไปไหนเลยจริงๆ
คาแรคเตอร์ของเพียร์สคงเส้นคงวาตั้งแต่หน้าแรกจนหน้าสุดท้ายเลยว่าได้ เราชอบที่เขาเป็นคนพูดตรงๆ โผงผาง มีความเป็นตัวของตัวเอง และเมื่อมาอยู่ด้วยกันกับลินเนทแล้ว ในความรู้สึกเราเธอคนนี้ก็คือเบลนั่นเอง ด้วยนิสัยใจคอแบบเบลแล้ว ความสัมพันธ์ของทั้งคู่ไม่ได้คงอยู่บนเส้นของความอดทน แต่เรามองว่ามันเป็นส่วนเติมเต็มให้กันและกันมากกว่า นั่นจึงทำให้ความสัมพันธ์ตัวละครเล่มนี้ไม่ใช่อยู่ในขีดจำกัดของความเพ้อฝันจนแตะต้องไม่ได้ แต่เรามองว่าความสัมพันธ์แบบนี้แหละคือสิ่งธรรมดาและมีค่ายิ่งกว่าความรักแบบฟุ้งเฟ้อเสียอีก
คะแนน 8/10
No comments:
Post a Comment