ผู้แต่ง Cassandra Clare
วรรณกรรมเยาวชน เหนือจริง
สำนักพิมพ์ Margaret K. McElderry Books
เรื่องย่อ
In a time when Shadowhunters are barely winning the fight against the forces of darkness, one battle will change the course of history forever. Welcome to the Infernal Devices trilogy, a stunning and dangerous prequel to the New York Times bestselling Mortal Instruments series.
The year is 1878. Tessa Gray descends into London’s dark supernatural underworld in search of her missing brother. She soon discovers that her only allies are the demon-slaying Shadowhunters—including Will and Jem, the mysterious boys she is attracted to. Soon they find themselves up against the Pandemonium Club, a secret organization of vampires, demons, warlocks, and humans. Equipped with a magical army of unstoppable clockwork creatures, the Club is out to rule the British Empire, and only Tessa and her allies can stop them....
REVIEW
เทสซ่าเดินทางมายังลอนดอน เมืองแห่งม่านหมอก ... เธอได้พบกับพี่น้องสองสาว มิสซิสดาร์คและมิสซิสแบล็คที่จับตัวเธอไปและบังคับให้เทสซ่าใช้พลังที่เธอไม่รู้ว่ามีอยู่ในตัวเธอแปลงร่างเป็นคนอื่น ไม่นานที่เธอถูกจับขังเอาไว้ เทสซ่าก็ได้รับความช่วยเหลือจากวิลเลียม ชาโดว์ฮันเตอร์ที่ตามสืบเบาะแสการฆาตกรรมของเด็กสาวที่เขาค้นพบ นั่นทำให้เทสซ่าถูกลากเข้าสู่โลกของชาโดว์ฮันเตอร์โดยที่เธอไม่ทันตั้งตัว เมื่อเทสซ่ารู้แล้วว่าพี่ชายของเธอหายตัวไป เธอจึงต้องอาศัยอยู่ที่สถาบัน และที่นั่นเธอก็ได้รู้จักกับเจม...เพื่อนชาโดว์ฮันเตอร์ของวิล
เทสซ่าปลอมตัวเป็นคามิลล์ไปงานเลี้ยงของแวมไพร์เพื่อตามหาร่องรอยของหุ่นจักรกลร่วมกับวิล โดยเธอไม่นึกไม่ฝันมาก่อนเลยว่าการไปงานเลี้ยงนั้นจะทำให้เธอได้พบกับนาธาเนียล พี่ชายที่หายตัวไปของเธอ หลังจากเหล่าชาโดว์ฮันเตอร์ต่อสู้และกำราบแวมไพร์ที่ฝ่าฝืนกฎลงได้สำเร็จ ยกเว้นผู้นำที่หนีรอดไปได้อย่างหวุดหวิด เทสซ่าจึงพาพี่ชายของเธอมารักษาตัวที่สถาบัน
ทั้งหมดเป็นแผนการณ์ของมอร์ทเมนที่ทำให้ทุกคนเข้าใจผิดไปหมดว่าผู้ทีบงการอยู่เบื้องหลังคือหัวหน้าแวมไพร์ แต่แท้จริงแล้วนั่นเป็นการเปิดโอกาสให้มอร์ทเมนนำกองทัพหุ่นจักรกลบุกเข้าสถาบันโดยที่มีนาธาเนียลพี่ชายของเทสซ่าคอยหนุนหลังอยู่ เมื่อเทสซ่าถูกต้อนจนจนมุม มอร์ทเมนจึงขอให้เธอทำอะไรบางอย่างเพื่อเขา แต่เทสซ่าไม่ยอมทำและใช้ตัวของเธอเองมาขู่เขา โชคดีที่มอร์ทเมนไม่ทำร้ายเทสซ่าและหลบหนีไปได้หลังจากที่วิลย้อนกลับมาที่สถาบันและเห็นสภาพเสียหายที่เกิดขึ้นตอนเขาและเจมออกไปจัดการเรื่องข้างนอก นั่นชักนำให้เกิดการสูญเสียของชีวิตตนในสถาบันมากมาย จึงเป็นหน้าที่ของชาโดว์ฮันเตอร์ที่เหลือที่ต้องจัดการเก็บกวาดเรื่องที่เกิดขึ้นทั้งหมด
.............................................................
นี่เป็นการอ่านซ้ำครั้งที่ 2 ของเราสำหรับหนังสือเล่มนี้ เมื่อปีที่แล้วเรามีโอกาสได้อ่านฉบับแปลไทย ในชื่อเรื่อง 'นางฟ้าไขลาน' บอกตามตรงว่านั่นไม่ใช่การอ่านที่น่าประทับใจเท่าไรนักสำหรับเรา ด้วยสำนวนการแปลที่ประดักประเดิดและไม่ไหลลื่น ทำให้อรรถรสที่น่าจะได้รับจากหนังสือเล่มนี้ค่อนข้างจะหายไปมากโขอยู่เลยทีเดียว
แต่ตลกดี...หลังอ่านจบเรากลับให้คะแนนหนังสือเล่มนี้เฉียดๆกับของเดิม ทั้งๆที่ตอนยังไม่ถึงครึ่งเล่ม เราคิดว่าหนังสือเล่มนี้ต้องได้ 4 ดาวแน่ๆ แต่พออ่านจบ ... เราลดเหลือแค่ 3 ดาวพอ จุดที่เราเห็นได้ชัดเจนเลยก็ว่าได้ คือคาแรคเตอร์ของนางเอกที่ชักจะน่ารำคาญมากขึ้นหลังจากที่เธอจูบกับวิลและได้พี่ชายกลับคืนมา เราคิดว่าเธอกลายเป็นคนที่ไร้หัวคิดและดูบุ่มบ่ามไร้ความรอบคอบมากขึ้น ซึ่งนั่นไม่ใช่พัฒนาการที่ดีของตัวละครในหนังสือนิยายแน่ๆ
อีกจุดนึงก็คือ...เนื้อเรื่องเอื่อยเฉื่อยมาก มีการหักมุมก็จริง มีฉากแอคชั่นก็จริง แต่แปลกที่นั่นไม่ได้ทำให้เราตื่นเต้นหรือสนใจมากขึ้นเลยด้วยซ้ำ ตรงกันข้าม...เรากลับเบื่อ และกลายเป็นว่าอ่านข้ามๆด้วยความเซงเพื่อจะได้ว่าอ่านให้มันจบๆไป ปัญหามันอยู่ตรงนี้...คือการที่เรากลับมาอ่านหนังสือสักเล่มซ้ำ บางครั้งอาจจะทำให้เราเห็นจุดบกพร่องของหนังสือมากขึ้นกว่าเดิม ครั้งแรกที่เราอ่านภาษาไทย...เราเห็นจุดด้อยด้านการแปลเลยไม่ได้โฟกัสไปที่เนื้อเรื่องเท่าไรหนัก พออ่านซ้ำครั้งที่สองซึ่งเป็นภาษาอังกฤษ...คราวนี้เราไม่มีปัญหากับภาษาที่ใช้แล้ว นั่นทำให้เรามาโฟกัสที่เนื้อเรื่องหลักแทน ตรงนี้แหละ ที่ทำให้เราเกิดอาการจับผิดเนื้อเรื่องมากขึ้นจนไม่เอ็นจอยไปกับมันมากเท่าที่ควรจะเป็น
บรรยากาศของหนังสือชุดนี้จะค่อนข้างเต็มไปด้วยมนต์ขลังของลอนดอนและกลิ่นอายยุควิคตอเรียนผสมกับสตรีมพังค์ อย่างเช่น เครื่องยนต์กลไกและความคลาสสิคของการแต่งกายของคนในยุคนั้น สำหรับใครที่ชอบแนวนี้ไม่ควรพลาด พลอตเรื่องค่อนข้างเบาสมอง มีรักสามเศร้าระหว่างพระเอกทั้งสองและนางเอก แต่คนที่อ่านเล่มแรกแล้วก็คงจะจับทางได้แหละว่าใครเป็นพระเอกแหละเนอะ 555+
แต่เรายังยืนยันคำเดิมนะว่า...ต้นฉบับดีกว่าฉบับแปลไทยจริงๆ
... รีวิวฉบับแปลไทย ...
เทสซ่าปลอมตัวเป็นคามิลล์ไปงานเลี้ยงของแวมไพร์เพื่อตามหาร่องรอยของหุ่นจักรกลร่วมกับวิล โดยเธอไม่นึกไม่ฝันมาก่อนเลยว่าการไปงานเลี้ยงนั้นจะทำให้เธอได้พบกับนาธาเนียล พี่ชายที่หายตัวไปของเธอ หลังจากเหล่าชาโดว์ฮันเตอร์ต่อสู้และกำราบแวมไพร์ที่ฝ่าฝืนกฎลงได้สำเร็จ ยกเว้นผู้นำที่หนีรอดไปได้อย่างหวุดหวิด เทสซ่าจึงพาพี่ชายของเธอมารักษาตัวที่สถาบัน
ทั้งหมดเป็นแผนการณ์ของมอร์ทเมนที่ทำให้ทุกคนเข้าใจผิดไปหมดว่าผู้ทีบงการอยู่เบื้องหลังคือหัวหน้าแวมไพร์ แต่แท้จริงแล้วนั่นเป็นการเปิดโอกาสให้มอร์ทเมนนำกองทัพหุ่นจักรกลบุกเข้าสถาบันโดยที่มีนาธาเนียลพี่ชายของเทสซ่าคอยหนุนหลังอยู่ เมื่อเทสซ่าถูกต้อนจนจนมุม มอร์ทเมนจึงขอให้เธอทำอะไรบางอย่างเพื่อเขา แต่เทสซ่าไม่ยอมทำและใช้ตัวของเธอเองมาขู่เขา โชคดีที่มอร์ทเมนไม่ทำร้ายเทสซ่าและหลบหนีไปได้หลังจากที่วิลย้อนกลับมาที่สถาบันและเห็นสภาพเสียหายที่เกิดขึ้นตอนเขาและเจมออกไปจัดการเรื่องข้างนอก นั่นชักนำให้เกิดการสูญเสียของชีวิตตนในสถาบันมากมาย จึงเป็นหน้าที่ของชาโดว์ฮันเตอร์ที่เหลือที่ต้องจัดการเก็บกวาดเรื่องที่เกิดขึ้นทั้งหมด
.............................................................
นี่เป็นการอ่านซ้ำครั้งที่ 2 ของเราสำหรับหนังสือเล่มนี้ เมื่อปีที่แล้วเรามีโอกาสได้อ่านฉบับแปลไทย ในชื่อเรื่อง 'นางฟ้าไขลาน' บอกตามตรงว่านั่นไม่ใช่การอ่านที่น่าประทับใจเท่าไรนักสำหรับเรา ด้วยสำนวนการแปลที่ประดักประเดิดและไม่ไหลลื่น ทำให้อรรถรสที่น่าจะได้รับจากหนังสือเล่มนี้ค่อนข้างจะหายไปมากโขอยู่เลยทีเดียว
แต่ตลกดี...หลังอ่านจบเรากลับให้คะแนนหนังสือเล่มนี้เฉียดๆกับของเดิม ทั้งๆที่ตอนยังไม่ถึงครึ่งเล่ม เราคิดว่าหนังสือเล่มนี้ต้องได้ 4 ดาวแน่ๆ แต่พออ่านจบ ... เราลดเหลือแค่ 3 ดาวพอ จุดที่เราเห็นได้ชัดเจนเลยก็ว่าได้ คือคาแรคเตอร์ของนางเอกที่ชักจะน่ารำคาญมากขึ้นหลังจากที่เธอจูบกับวิลและได้พี่ชายกลับคืนมา เราคิดว่าเธอกลายเป็นคนที่ไร้หัวคิดและดูบุ่มบ่ามไร้ความรอบคอบมากขึ้น ซึ่งนั่นไม่ใช่พัฒนาการที่ดีของตัวละครในหนังสือนิยายแน่ๆ
อีกจุดนึงก็คือ...เนื้อเรื่องเอื่อยเฉื่อยมาก มีการหักมุมก็จริง มีฉากแอคชั่นก็จริง แต่แปลกที่นั่นไม่ได้ทำให้เราตื่นเต้นหรือสนใจมากขึ้นเลยด้วยซ้ำ ตรงกันข้าม...เรากลับเบื่อ และกลายเป็นว่าอ่านข้ามๆด้วยความเซงเพื่อจะได้ว่าอ่านให้มันจบๆไป ปัญหามันอยู่ตรงนี้...คือการที่เรากลับมาอ่านหนังสือสักเล่มซ้ำ บางครั้งอาจจะทำให้เราเห็นจุดบกพร่องของหนังสือมากขึ้นกว่าเดิม ครั้งแรกที่เราอ่านภาษาไทย...เราเห็นจุดด้อยด้านการแปลเลยไม่ได้โฟกัสไปที่เนื้อเรื่องเท่าไรหนัก พออ่านซ้ำครั้งที่สองซึ่งเป็นภาษาอังกฤษ...คราวนี้เราไม่มีปัญหากับภาษาที่ใช้แล้ว นั่นทำให้เรามาโฟกัสที่เนื้อเรื่องหลักแทน ตรงนี้แหละ ที่ทำให้เราเกิดอาการจับผิดเนื้อเรื่องมากขึ้นจนไม่เอ็นจอยไปกับมันมากเท่าที่ควรจะเป็น
บรรยากาศของหนังสือชุดนี้จะค่อนข้างเต็มไปด้วยมนต์ขลังของลอนดอนและกลิ่นอายยุควิคตอเรียนผสมกับสตรีมพังค์ อย่างเช่น เครื่องยนต์กลไกและความคลาสสิคของการแต่งกายของคนในยุคนั้น สำหรับใครที่ชอบแนวนี้ไม่ควรพลาด พลอตเรื่องค่อนข้างเบาสมอง มีรักสามเศร้าระหว่างพระเอกทั้งสองและนางเอก แต่คนที่อ่านเล่มแรกแล้วก็คงจะจับทางได้แหละว่าใครเป็นพระเอกแหละเนอะ 555+
แต่เรายังยืนยันคำเดิมนะว่า...ต้นฉบับดีกว่าฉบับแปลไทยจริงๆ
... รีวิวฉบับแปลไทย ...
คะแนน 7/10
No comments:
Post a Comment