Oct 29, 2014

จอมเทพแอชรอน - Acheron (Dark-Hunter #8)


ชื่อเรื่อง พรานราตรี ตอน จอมเทพแอชรอน
จากเรื่อง Acheron
ผู้แต่ง เชอริลีน แคนยอน
โรมานซ์ เหนือจริง
ผู้แปล จิตอุษา
สำนักพิมพ์ แก้วกานต์

เรื่องย่อ

ชีวิตที่ต้องสาปของเทพผู้ยิ่งใหญ่...
เมื่อหนึ่งหมื่นหนึ่งพันปีก่อน เทพเจ้าองค์หนึ่งได้ถือกำเนิดขึ้น ทว่าเขาถูกคำสาปให้ต้องใช้ชีวิตเยี่ยงมนุษย์อย่างอัปยศอดสู เมื่อเขาถูกเข่นฆ่าโดยเทพเจ้าองค์หนึ่ง การตายของเขาก็ได้ปลดปล่อยความน่าสะพรึงกลัวที่เกือบจะทำลายโลก และแล้ว...เมื่อเขาถูกนำชีวิตกลับมาอีกครั้ง แอชรอนก็ได้กลายเป็นผู้ปกป้องหนึ่งเดียวของมนุษยชาติ
เป็นเวลาหลายศตวรรษที่เขาต่อสู้เพื่อความอยู่รอดของมนุษย์และซ่อนเร้นอดีตของเขาที่ไม่อยากให้ใครรู้ จนกระทั่งผู้หญิงคนหนึ่งที่ไม่เกรงกลัวเขาบุกรุกเข้ามาในชีวิตของเขา
บัดนี้ ความอยู่รอดของแอชรอนและทุกคนขึ้นอยู่กับหล่อน และบรรดาศัตรูเก่าก็ได้หวนคืนมาเพื่อฆ่าพวกเขาทั้งสอง...

REVIEW


-ภาคอดีต-

แอชรอนถือกำเนิดขึ้นมาด้วยความเกลียดชังจากคนรอบข้าง เขาคือบุตรของอโพลิมีที่ถูกพรากจากครรภ์ของมารดาเพื่อต้องการที่จะรักษาชีวิตของเขาไว้จากการสังหารตามคำทำนายว่าแอชรอนจะนำความพินาศมาสู่พวกเขา ดังนั้นแอชรอนจึงลืมตาดูโลกผ่านทางครรภ์ของมารดาอีกคน เขาเป็นพี่น้องฝาแฝดกับสติกซซ์ และด้วยคำบอกกล่าวว่าแอชรอนเป็นครึ่งเทพเจ้า นั่นทำให้เขาถูกเนรเทศจากครอบครัวไปสู่แอตแลนเตียน ที่นั่นเปลี่ยนให้แอชรอนกลายเป็นทาสและโสเภณีเพื่อแลกกับอาหาร จนกระทั่งริสซ่า พี่สาวของแอชรอนเดินทางไปช่วยเขาออกมาจากที่นั่น

แอชรอนถูกบิดาของเขาจับได้ว่ามาอยู่กับริสซ่า นั่นทำให้เขาถูกจับไปแอตแลนเตียนอีกครั้ง หลังจากอาของแอชรอนเสียชีวิตและเขาถูกปลดปล่อยจากที่นั่น บิดาและพี่น้องของแอชรอนก็เดินทางไปพบเขาเพียงเพื่อที่ว่าพวกเขาจะพบแอชรอนอยู่บนเตียงกับเจ้าชายองค์หนึ่ง นั่นทำให้แอชรอนถูกโยนไปข้างถนนด้วยสภาพเปลือยเปล่า มีเพียงเสื้อคลุมของริสซ่าที่ปกปิดร่างกายของเขาไว้ หลังจากนั้นแอชรอนก็กลายเป็นโสเภณีเพื่อหาเลี้ยงชีพตัวเอง จนกระทั่งแอชรอนถูกบิดาของตนจับมาขังไว้ในคุกพระราชวัง เพราะทนความอับอายขายหน้าเรื่องที่ว่าผู้คนที่ไปใช้บริการแอชรอนชอบคิดว่าเขามีหน้าตาที่เหมือนกับสติกซซ์มากแค่ไหน

ริสซ่าถูกเสนอตัวให้อพอลโล แอชรอนตามพี่สาวของเขาไป เมื่อแอชรอนมาได้พบกับเทพีอาร์ทิมิสที่วิหารของนาง นั่นทำให้แอชรอนได้รู้จักกับความปราถนาจริงๆเป็นครั้งแรก อาร์ทิมิสสัญญาว่าจะเป็นเพื่อนกับแอชรอนและคอยดูแลแอชรอน ก่อนที่อาร์ทิมิสจะขับไล่แอชรอนไปหลังจากที่ทั้งคู่ร่วมรักกันครั้งแรกเพราะอาร์ทิมิสไม่คิดจะยอมจำนนให้ชายหน้าไหนเด็ดขาด แอชรอนเป็นชายเพียงคนเดียวที่ทำให้อาร์ทิมิสยอมจำนนได้

แอชรอนถูกทรมานอย่างไม่มีที่สิ้นสุดทั้งเรื่องที่เขานำของไปสักการะที่วิหารเทพีอาร์ทิมิสหรือเรื่องที่เขาถูกกล่าวหาว่าสมคบคิดจะสังหารบิดาของตัวเองทั้งๆที่ทั้งหมดนั่นเป็นฝีมือของสติกซซ์ แอชรอนจึงตัดสินใจสังหารน้องชายตัวเองเพื่อป้องกันไม่ให้สติกซซ์ก่อให้เกิดความเสียหายมากไปกว่านี้อีก แต่สติกซซ์กลับไม่ตาย แอชรอนตระหนักได้ทันทีว่าคำสาปที่เชื่อมโยงทั้งสองเข้าด้วยกันนั้น มีไว้เพื่อรักษาชีวิตของเขาต่างหาก

อโพลิมีมอบพลังเทพให้แอชรอน แอชรอนจึงคิดว่าเขาสามารถทัดเทียมอาร์ทิมิสและสามารถอยู่กับนางได้ แต่ที่ไหนได้ ... อาร์ทิมิสกลับวางยาแอชรอน ในคืนนั้นริสซ่าและลูกสาวของหล่อนถูกสังหาร สองคนนั้นเป็นเพียงสิ่งเดียวที่แอชรอนยังหลงเหลืออยู่ เมื่ออพอลโลปรากฏตัว แอชรอนคิดจะสังหารอพอลโล แต่นั่นกลับทำให้แอชรอนเป็นฝ่ายถูกฆ่าจนถึงแก่ชีวิตเสียเอง ...

อโพลิมีรู้เรื่องลูกชายของนางถูกสังหาร นางจึงเป็นอิสระเมื่อแอชรอนตายแล้ว อโพลิมีบุกอาละวาดทุกสิ่งทุกอย่างและจมแอตแลนเตียนลงสู่ท้องทะเลด้วยความเสียใจที่สูญเสียลูกชายเพียงคนเดียวไป เป้าหมายสุดท้ายของนางคือโอลิมปัส ทำลายเทพเจ้ากรีกให้สิ้นซาก โชคดีที่อาร์ทิมิสพบหนทางในการยับยั้งอโพลิมี นั่นจึงทำให้นางให้แอชรอนดื่มเลือดของตนและผูกพันธ์ทั้งสองเข้าด้วยกันชั่วนิรันดร์ เมื่อแอชรอนฟื้นคืนชีพอีกครั้ง นั่นเป็นการยับยั้งอโพลิมีให้ถูกขังอยู่ในคาโลซิสและไม่สามารถที่จะออกมาอาละวาดได้อีก

กว่าสองพันปีที่แอชรอนไม่เยี่ยมหน้าไปหาอาร์ทิมิส จนกระทั่งอาร์ทิมิสสร้างดาร์ค-ฮันเตอร์กลุ่มแรกขึ้นมาให้อยู่ในความดูแลของแอชรอน แต่นั่นทำให้คนทั้งสองต้องยุ่งเกี่ยวอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้อีกเลย เพราะหนทางเดียวที่จะปลดปล่อยดวงวิญญาณของดาร์ค-ฮันเตอร์ให้เป็นอิสระ แอชรอนต้องทำการแลกเปลี่ยนกับอาร์ทิมิสเพื่อนำดวงวิญญาณดวงนั้นๆมา ....

-ภาคปัจจุบัน-

ทอรี่มีหลักฐานยืนยันว่าแอตแลนติสมีอยู่จริง ด้วยบันทึกของริสซ่าที่เธอค้นพบทำให้แอชรอนต้องมาข้องแวะกับเธออย่างเสียไม่ได้ เขาจำเป็นต้อวหันเหทอรี่ออกจากหนทางที่จะเธอจะเปิดโปงเรื่องราวทั้งหมดของเขา ก่อนที่ทุกคนจะรู้ว่าแม่แท้ๆของเขาเองคือต้นกำเนิดที่ทำให้อพอลไลท์กลายเป็นดีมอน แล้วไหนจะเรื่องที่แอชรอนเคยเป็นโสเภณีอีกล่ะ

ภัยคุกคามเกิดขึ้นกับคนรอบตัวของทอรี่เมื่อมีคนบางคนกำลังตามหาบางสิ่งบางอย่างที่ทีมสำรวจของเธอเพิ่งค้นพบหมาดๆ แอชรอนแน่ใจว่าเจ้าสิ่งนั้นคือบันทึกของริสซ่าอีกเล่ม แอชรอนต้องพยายามทำทุกวิถีทางเพื่อยับยั้งผลกระทบที่จะตามมา ไม่ว่าสิ่งนั้นจะหมายถึงกาลวิบัติของโลกหรือตัวเขาก็ตาม

แอชรอนไม่กล้าที่จะไว้วางใจใครอีกหลังจากที่อาร์ทิมิสเคยทรยศเขาอย่างแสนสาหัสมาแล้ว แต่ยิ่งเขาได้อยู่ใกล้ทอรี่มากเท่าไร แอชรอนก็ไม่สามารถห้ามความรู้สึกปราถนาของเขาต่อเธอได้มากขึ้นเท่านั้น จนกระทั่งทั้งสองต้องลี้ภัยมาอยู่ที่แซงซัวรีย์ นั่นทำให้แอชรอนเปิดเปลือยความลับทั้งหมดของเขาต่อหน้าทอรี่ แอชรอนหวังว่าเขาจะเห็นแววตารังเกียจจากทอรี่ แต่ไม่เลย ... เธอร้องไห้และเขาและกอดเขาเอาไว้หลังจากรู้ความจริง

อาร์ทิมิสรู้เรื่องทอรี่และแอชรอน นางจึงโบยเขา หลังจากนั้นทอรี่ถูกซาทาร่าลักพาตัวไปเพื่อแลกเปลี่ยนกับบันทึกของริสซ่าที่มีความลับในการสังหารอพอลโลและอาร์ทิมิสอยู่ในนั้น แอชรอนวางแผนโดยการส่งตัวสติกซซ์ไปรับทอรี่ที่คาโซลิสกลับมาและรวบรวมของกองทัพดาร์ค-ฮันเตอร์ทั้งหมดเพื่อต่อการกับเหล่าดีมอนที่กำลังจะบุกมาล้างบางเขา

ฝ่ายแอชรอนเป็นผู้ชนะศึกในครั้งนี้ แต่แอชรอนไม่สามารถอยู่ร่วมกับทอรี่ได้เมื่อเขายังต้องดื่มโลหิตจากอาร์ทิมิสอยู่ แอชรอนซมซานกลับไปหาอาร์ทิมิส นางกักตัวเขาไว้ เมื่ออาร์ทิมิสก็จับทอรี่ไปเป็นเหยื่อให้แอชรอนสูบโลหิตจากเธอจนเสียชีวิต วิญญาณของทอรี่ลอยไปอยู่ในมือของอโพลิมี และนางก็มอบของขวัญแก่ลูกชายของนางโดยการคืนชีวิตให้แก่ทอรี่

ทอรี่ได้รับพลังจากทั้งฝ่ายอโพลิมีและแอชรอน เมื่อหล่อนดื่มโลหิตจากเขา นั่นทำให้แอชรอนสามารถตัดพันธะที่ผูกพันธ์เขากับอาร์ทิมิสมานานหลายศตวรรษได้สำเร็จ แอชรอนกับทอรี่แต่งงานกัน และทอรี่ทำให้แอชรอนรู้สึกว่าเขาเป็นเพียงผู้ชายธรรมดาๆคนหนึ่งเท่านั้น ผู้ซึ่งอดีตไม่มีความสำคัญอีกต่อไปแล้ว ...

.........................................................................

อ่านจบด้วยความรู้สึกที่เต็มตื้น มีอยู่หลายครั้งที่เราร้อง โว้วววว ! ว้าววววว ! ให้กับความวิลิศมาหราของเนื้อเรื่อง อารมณ์ของภาคอดีตและปัจจุบัน ... เรากล้าออกปากเลยว่าต่างกันลิบลับ ซึ่งการอ่านภาคอดีตก็ไม่ได้ทำให้เราเสียน้ำตาเลยด้วยซ้ำ ภาคปัจจุบันนี่แหละที่ทำให้เราร้องไห้ออกมาตอนที่ทอรี่ยอมรับตัวตนของแอชรอนได้ มันเป็นความรู้สึกที่แบบว่า ... นี่แหละ ! มันต้องอย่างนี้ ! (พร้อมกับตบเข่าฉาดสามที) ก่อนหน้านี้เรานึกภาพไม่ออกจริงๆว่าแอชรอนจะคู่กับผู้หญิงคนไหนได้ จะมีจริงๆน่ะหรอที่จะมีผู้หญิงสักคนที่จะไม่ทำให้แอชรอนหวนไปนึกถึงอดีตอันแสนเจ็บปวด และมันก็มีจริงๆด้วยสิ !

สิ่งที่เราค่อนข้างแน่ใจตลอดการอ่านหนังสือทั้งเล่มก็คือ ... อาร์ทิมิสรักแอชรอนก็จริง แต่นางรักตัวเองมากกว่า ! มันคือคำซ้ำๆที่ว่ายเวียนอยู่ในหัวเราตลอดเวลา นั่นทำให้เราไม่รู้สึกสะดุดกับการนำเสนอคาแรคเตอร์ของอาร์ทิมิสเลย ซึ่งเราคิดว่าคงมีหลายคนที่เกลียดคาแรคเตอร์นี้แน่นอน แต่เราไม่ได้มองแบบนั้น เรามองในแง่มุมที่ว่า ... ถ้านิยายเรื่องนี้ขนาดอาร์ทิมิสไป แอชรอนก็คงจะไม่กลายมาเป็นคนแบบที่เขาเป็นทุกวันนี้หรอก จริงมั้ย ?

เรารักทุกบรรทัดที่ได้อ่าน เพราะมันทำให้เราเข้าใจตัวตนของแอชรอนมากยิ่งขึ้น บางย่อหน้าเต็มไปด้วยความเจ็บช้ำของแอชรอนเกินกว่าจะรับไหว แต่เราก็รู้อยู่แก่ใจแล้วว่า ... ทุกอย่างมันต้องจบแบบแฮปปี้แน่นอน แถมตอนจบยังเกินกว่าอะไรที่เราจะคิดเอาไว้เสียอีก ทุกอย่างมันลงตัว มันสวย และเราพอใจกับตอนจบแบบนี้มากๆ

ก่อนหน้านี้เราคาดหวังไว้สูงมากๆจนกลัวว่าพออ่านจริงๆแล้วจะผิดหวัง และหลังอ่านเรากล้าบอกได้เต็มปากเลยว่า ... นิยายเล่มนี้เหนือความคาดหมายของเราจริงๆ ลำพังแค่คาแรคเตอร์ของแอชรอนคนเดียวทำให้เราแจกคะแนนเต็มให้กับนิยายเล่มนี้ได้อย่างสบายๆแล้ว ไม่ต้องพูดถึงเนื้อเรื่องที่พลิกไปพลิกมาอยู่ตลอดเวลาหรอก ทุกอย่างคือส่วนเติมเต็มกันและกันให้หนังสือเล่มนี้ดียิ่งๆขึ้นไปอีก

คะแนน 10/10

No comments:

Post a Comment