จากเรื่อง Dark Side of the Moon
ผู้แต่ง เชอริลีน แคนยอน
โรมานซ์ ปัจจุบัน - เหนือจริง
ผู้แปล จิตอุษา
เรื่องย่อ
ชีวิตของราวินพังยับเยินตั้งแต่เมื่อสี่ร้อยปีที่แล้ว เมื่อเขาไว้ใจเผยตัวตนที่แท้จริงกับมนุษย์ผิดคน เขาต้องสูญเสียทุกอย่างในชีวิต บัดนี้เมื่อต้องมาปกป้องผู้คนในซีแอทเทิล เขาก็ถูกบังคับให้เผชิญหน้ากับฝันร้ายอีกครั้ง และการไว้ใจบอกความลับนั้นแก่สตรีอีกนางหนึ่งจะทำลายชีวิตของเขาหรือไม่...
REVIEW
ซูซานไปเจอแมวตัวหนึ่งและรับมันมาที่บ้านของเธอ หลังจากนั้นชีวิตเธอก็พลิกตลบ เมื่อแมวตัวนั้นกลายร่างเป็นราวิน ชายหนุ่มที่หล่อล่ำเปลือยเปล่าอยู่ในบ้านต่อหน้าต่อหน้าเธอในตอนนี้ จากนั้นตำรวจที่ร่วมมือกับดีมอนก็สาดกระสุนใส่บ้านของซูซานเพื่อจะเอาแมวตัวนั้นกลับไป ซูซานคิดว่าเธอพี้ยาจนสติแตก เมื่อความจริงตีแผ่ตรงหน้าเธอว่ายังมีอีกโลกหนึ่งที่เธอไม่รู้จักซ่อนอยู่ ซูซานต้องเข้าร่วมเป็นส่วนหนึ่งในโลกของดาร์ค-ฮันเตอร์อย่างช่วยไม่ได้ และเธอก็ถูกลากเข้าไปในความชุลมุนของการปะทะกันระหว่างดีมอนและดาร์ค-ฮันเตอร์ ซูซานต้องขุดทุกความสามารถที่ตนมีเพื่อเอาชีวิตรอดไปให้ได้
สไตรเกอร์วางแผนชั่วร้ายครั้งใหม่เพื่อที่จะกำจัดเหล่าดาร์ค-ฮันเตอร์ให้ได้มากที่สุด ครั้งนี้เขาถึงกับยืมมือของมนุษย์และกำจัดดาร์ค-ฮันเตอร์ไปได้หลายคน ทั้งซูซานและราวินจึงต้องร่วมมือกันเพื่อหาให้รู้ถึงแผนการณ์ของเหล่าดีมอน ในขณะที่หนุ่มสาวเคยสูญเสียความไว้วางใจให้ใครสักคนไปในอดีต ทั้งราวินที่เคยถูกหญิงสาวที่เขารักทรยศหักหลัง นำมาซึ่งความพินาศของคนในครอบครัว และซูซานที่โดนอดีตทำร้ายจนเธอไม่กล้าที่จะเชื่อใจใครได้อีก
นิค โกเชร์ถูกส่งตัวมาอยู่กับราวินเพื่อให้เขาได้ฝึกใช้พลังของดาร์ค-ฮันเตอร์ ความโกรธแค้นที่เด็กหนุ่มมีต่อแอชรอนนั้นมากเหลือคณา เมื่อนิคเป็นคนเดียวที่รู้ถึงสิ่งที่แอชรอนเป็นอยู่ แต่ไม่มีดาร์ค-ฮันเตอร์คนไหนเชื่อเขา จนกระทั่งราวินและซูซานช่วยกันตามหาตัวต้นตอมนุษย์ที่อยู่เบื้องหลังเหตุการณ์ทั้งหมดได้สำเร็จ แต่นั่นยังไม่ใช่เรื่องวุ่นวายเพียงอย่างเดียวสำหรับทั้งคู่ เมื่อสัญลักษณ์ของเนื้อคู่ปรากฏบนฝ่ามือของราวินและซูซาน คราวนี้ราวินจะไม่ให้ทั้งคู่ต้องตัดสินใจผิดพลาดอีกเด็ดขาด เขาจึงไม่ร้อนรนที่จะให้ซูซานเป็นคนที่ค่อยๆตัดสินใจสำหรับเรื่องนี้
ราวินและซูซานบุกจัดการตัวตำราจที่เป็นต้นตอของเรื่องทั้งหมดได้สำเร็จ ทั้งคู่ได้ครองคู่กันในท้ายที่สุด และนิคได้เข้าร่วมกับสไตรเกอร์และรับพลังของเขามาเพื่อที่จะสังหารแอชรอนให้ได้
..................................................................................
อ่านไปได้ครึ่งเล่ม ... ความสัมพันธ์ของราวิน-ซูซานนี่ยังไม่ได้กระดิกไปไหน
แล้วลองนึกดู ? ว่าจะเกิดอะไรขึ้นเมื่อเหลือพื้นที่อีกแค่ครึ่งเล่มในการจบทั้งเนื้อเรื่องหลักและความสัมพันธ์ของตัวละคร
... มันจึงเกิดความยุ่งเหยิง ทั้งยุ่งและชุลมุนมากๆจนเราคิดว่าถ้าเชอร์ริลีนจะเอารายละเอียดที่กระหน่ำเข้ามาในตอนท้ายไปใส่เอาไว้ในตอนแรก น่าจะทำให้อ่านแล้วรู้สึกสบายมากกว่านี้
การเขียนเนื้อเรื่องให้ออกมาน่าสนใจสำหรับหนังสือเล่มนี้แผ่วลงกว่าเล่มก่อนๆหน้า เนื้อเรื่องไม่ค่อยมีอะไรโดดเด่นเสียเท่าไร นอกจากพ้อยท์สำคัญเกี่ยวกับนิค โกเชร์ ตอนบทส่งท้ายที่ทำลายความฝันเด็กๆมาก 555
ปกติเราจะเชียร์เล่มของเวอร์-ฮันเตอร์เป็นพิเศษนะ แต่สำหรับเล่มนี้เราไม่เชียร์เลย ถ้าอ่านข้ามได้นี่คงข้ามไปแล้ว ไม่ใช่ว่ามันไม่ดีหรืออะไร แต่อารมณ์ตอนอ่านมันนิ่งมาก ไม่มีอะไรให้ลุ้นเลย ตอนท้ายๆก็รวบรัดมาก สไตรเกอร์ก็ถอยง่ายๆแล้วบอกว่า ฝากเอาไว้ก่อน เฮ้ย ! เอาจริงดิ จบง่ายๆแบบนี้เลยหรอ !?
เกือบสอบตกแล้วนะเล่มนี้ ยังดีที่มีมุขตลกของซูซานมาให้เราขำเป็นพักๆ เวลาต่อปากต่อคำกับราวินนี่เป็นส่วนเพิ่มสีสันให้กับเนื้อเรื่องเลยทีเดียว ...
ซูซานไปเจอแมวตัวหนึ่งและรับมันมาที่บ้านของเธอ หลังจากนั้นชีวิตเธอก็พลิกตลบ เมื่อแมวตัวนั้นกลายร่างเป็นราวิน ชายหนุ่มที่หล่อล่ำเปลือยเปล่าอยู่ในบ้านต่อหน้าต่อหน้าเธอในตอนนี้ จากนั้นตำรวจที่ร่วมมือกับดีมอนก็สาดกระสุนใส่บ้านของซูซานเพื่อจะเอาแมวตัวนั้นกลับไป ซูซานคิดว่าเธอพี้ยาจนสติแตก เมื่อความจริงตีแผ่ตรงหน้าเธอว่ายังมีอีกโลกหนึ่งที่เธอไม่รู้จักซ่อนอยู่ ซูซานต้องเข้าร่วมเป็นส่วนหนึ่งในโลกของดาร์ค-ฮันเตอร์อย่างช่วยไม่ได้ และเธอก็ถูกลากเข้าไปในความชุลมุนของการปะทะกันระหว่างดีมอนและดาร์ค-ฮันเตอร์ ซูซานต้องขุดทุกความสามารถที่ตนมีเพื่อเอาชีวิตรอดไปให้ได้
สไตรเกอร์วางแผนชั่วร้ายครั้งใหม่เพื่อที่จะกำจัดเหล่าดาร์ค-ฮันเตอร์ให้ได้มากที่สุด ครั้งนี้เขาถึงกับยืมมือของมนุษย์และกำจัดดาร์ค-ฮันเตอร์ไปได้หลายคน ทั้งซูซานและราวินจึงต้องร่วมมือกันเพื่อหาให้รู้ถึงแผนการณ์ของเหล่าดีมอน ในขณะที่หนุ่มสาวเคยสูญเสียความไว้วางใจให้ใครสักคนไปในอดีต ทั้งราวินที่เคยถูกหญิงสาวที่เขารักทรยศหักหลัง นำมาซึ่งความพินาศของคนในครอบครัว และซูซานที่โดนอดีตทำร้ายจนเธอไม่กล้าที่จะเชื่อใจใครได้อีก
นิค โกเชร์ถูกส่งตัวมาอยู่กับราวินเพื่อให้เขาได้ฝึกใช้พลังของดาร์ค-ฮันเตอร์ ความโกรธแค้นที่เด็กหนุ่มมีต่อแอชรอนนั้นมากเหลือคณา เมื่อนิคเป็นคนเดียวที่รู้ถึงสิ่งที่แอชรอนเป็นอยู่ แต่ไม่มีดาร์ค-ฮันเตอร์คนไหนเชื่อเขา จนกระทั่งราวินและซูซานช่วยกันตามหาตัวต้นตอมนุษย์ที่อยู่เบื้องหลังเหตุการณ์ทั้งหมดได้สำเร็จ แต่นั่นยังไม่ใช่เรื่องวุ่นวายเพียงอย่างเดียวสำหรับทั้งคู่ เมื่อสัญลักษณ์ของเนื้อคู่ปรากฏบนฝ่ามือของราวินและซูซาน คราวนี้ราวินจะไม่ให้ทั้งคู่ต้องตัดสินใจผิดพลาดอีกเด็ดขาด เขาจึงไม่ร้อนรนที่จะให้ซูซานเป็นคนที่ค่อยๆตัดสินใจสำหรับเรื่องนี้
ราวินและซูซานบุกจัดการตัวตำราจที่เป็นต้นตอของเรื่องทั้งหมดได้สำเร็จ ทั้งคู่ได้ครองคู่กันในท้ายที่สุด และนิคได้เข้าร่วมกับสไตรเกอร์และรับพลังของเขามาเพื่อที่จะสังหารแอชรอนให้ได้
..................................................................................
อ่านไปได้ครึ่งเล่ม ... ความสัมพันธ์ของราวิน-ซูซานนี่ยังไม่ได้กระดิกไปไหน
แล้วลองนึกดู ? ว่าจะเกิดอะไรขึ้นเมื่อเหลือพื้นที่อีกแค่ครึ่งเล่มในการจบทั้งเนื้อเรื่องหลักและความสัมพันธ์ของตัวละคร
... มันจึงเกิดความยุ่งเหยิง ทั้งยุ่งและชุลมุนมากๆจนเราคิดว่าถ้าเชอร์ริลีนจะเอารายละเอียดที่กระหน่ำเข้ามาในตอนท้ายไปใส่เอาไว้ในตอนแรก น่าจะทำให้อ่านแล้วรู้สึกสบายมากกว่านี้
การเขียนเนื้อเรื่องให้ออกมาน่าสนใจสำหรับหนังสือเล่มนี้แผ่วลงกว่าเล่มก่อนๆหน้า เนื้อเรื่องไม่ค่อยมีอะไรโดดเด่นเสียเท่าไร นอกจากพ้อยท์สำคัญเกี่ยวกับนิค โกเชร์ ตอนบทส่งท้ายที่ทำลายความฝันเด็กๆมาก 555
ปกติเราจะเชียร์เล่มของเวอร์-ฮันเตอร์เป็นพิเศษนะ แต่สำหรับเล่มนี้เราไม่เชียร์เลย ถ้าอ่านข้ามได้นี่คงข้ามไปแล้ว ไม่ใช่ว่ามันไม่ดีหรืออะไร แต่อารมณ์ตอนอ่านมันนิ่งมาก ไม่มีอะไรให้ลุ้นเลย ตอนท้ายๆก็รวบรัดมาก สไตรเกอร์ก็ถอยง่ายๆแล้วบอกว่า ฝากเอาไว้ก่อน เฮ้ย ! เอาจริงดิ จบง่ายๆแบบนี้เลยหรอ !?
เกือบสอบตกแล้วนะเล่มนี้ ยังดีที่มีมุขตลกของซูซานมาให้เราขำเป็นพักๆ เวลาต่อปากต่อคำกับราวินนี่เป็นส่วนเพิ่มสีสันให้กับเนื้อเรื่องเลยทีเดียว ...
คะแนน 7/10
No comments:
Post a Comment