ชื่อเรื่อง Library of Souls
จากชุด Miss Peregrine’s Peculiar Children
ผู้แต่ง Ransom Riggs
วรรณกรรมเยาวชน แฟนตาซี
สำนักพิมพ์ Quirk Books
เรื่องย่อ
As the story opens, sixteen-year-old Jacob discovers a powerful new ability, and soon he’s diving through history to rescue his peculiar companions from a heavily guarded fortress. Accompanying Jacob on his journey are Emma Bloom, a girl with fire at her fingertips, and Addison MacHenry, a dog with a nose for sniffing out lost children.
They’ll travel from modern-day London to the labyrinthine alleys of Devil’s Acre, the most wretched slum in all of Victorian England. It’s a place where the fate of peculiar children everywhere will be decided once and for all.
จากชุด Miss Peregrine’s Peculiar Children
ผู้แต่ง Ransom Riggs
วรรณกรรมเยาวชน แฟนตาซี
สำนักพิมพ์ Quirk Books
เรื่องย่อ
As the story opens, sixteen-year-old Jacob discovers a powerful new ability, and soon he’s diving through history to rescue his peculiar companions from a heavily guarded fortress. Accompanying Jacob on his journey are Emma Bloom, a girl with fire at her fingertips, and Addison MacHenry, a dog with a nose for sniffing out lost children.
They’ll travel from modern-day London to the labyrinthine alleys of Devil’s Acre, the most wretched slum in all of Victorian England. It’s a place where the fate of peculiar children everywhere will be decided once and for all.
REVIEW
เจคอบ เอ็มม่าและแอดดิสันคือผู้หลงเหลือจากการจับกุมของเหล่าไวท์ พวกเขาเดินทางผ่านลอนดอนไปยังเดวิลเอเคอร์ ลูปแห่งการลงโทษและเต็มไปด้วยความเสื่อมโทรม หนทางเดียวที่เขาจะช่วยมิสเพเรกรินและเพื่อนๆออกมาได้ก็คือ เจคอบ เอ็มม่าและแอดดิสันต้องบุกทะลวงเข้าไปยังปราการของเหล่าไวท์ที่ต้องโดดเด่นเป็นสง่าอยู่หลังสะพานที่เต็มไปด้วยอันตรายจากฮอลโลว์ซึ่งทำให้ไม่มีใครสามารถข้ามไปอีกฝั่งหนึ่งได้สำเร็จ
spoiler: คลิกเพื่อดู Spoiler
....................................................................
ถือว่าเล่มนี้ปิด Trilogy ได้ค่อนข้างสวยงาม แรนซัม ริกส์เขียนฉากผจญภัยในตอนท้ายได้สนุกตื่นเต้น และทำให้เราวางหนังสือไม่ลงไปหลายชั่วโมง ถึงแม้ว่าเนื้อเรื่องใน Library of Souls จะสามารถจับทางได้ง่าย เพราะริกส์ใช้สูตรสำเร็จที่พบได้ทั่วไปตามภาพยนตร์ฟอร์มยักษ์หรือนิยายแฟนตาซีส่วนใหญ่ ในช่วงเวลาที่ยากลำบาก ตัวเอกจะค้นพบพลังอันแกร่งกล้าในตัวและระเบิดบู้มออกมาเพื่อช่วยเพื่อนๆในทีม ซึ่งเราที่ค่อนข้างจะอิ่มตัวกับมุกแบบนี้ก็เลยคิดไปว่าหนังสือเล่มนี้มันขาดรสชาติเฉพาะตัวไป รวมถึงการขยี้อารมณ์ผ่านทางสถานการณ์ในเรื่องและบทสนทนาของตัวละครที่พบไม่ค่อยมากในเล่มนี้ ทำให้เรารู้สึกว่าเสน่ห์และลายเซ็นเฉพาะตัวของซีรีย์นี้ค่อนข้างเบาบางลงไปนิดหน่อย
รวมไปถึงจุดหักมุมที่เราเดาได้ชัดเจนเลยว่าอะไรเป็นอะไร เพราะเราโดนหลอกมา 2 เล่มติด เล่มนี้เราเลยตั้งหลักและบอกกับตัวเองว่าเราจะไม่โง่ซ้ำกับจุดหักมุมเป็นครั้งที่สามแน่นอน นั่นทำให้เราอ่านด้วยความระแวง จับผิดความปกติของตัวละครตลอดเวลาที่อ่าน เลยเดาได้ง่ายว่าใครเป็นใครและเนื้อเรื่องจะดำเนินไปในทิศทางไหน แต่ถึงแม้จะเดาได้ มันก็ยังมีเรื่องให้ลุ้นอยู่ได้เรื่อยๆจนจบเล่มนั่นแหละ โดยเฉพาะตอนจบ ... ที่เราประทับใจกับตอนจบแบบนี้มาก จังหวะมันลงเป๊ะพอดี ยิ่งใหญ่และลงตัว ทำให้เรารู้สึกว่านี่แหละคือตอนจบที่เราต้องการ
ดีใจที่ได้หยิบวรรณกรรมเยาวชนดาร์คๆนี้ขึ้นมาอ่าน ถ้าไม่มี Goodreads เราก็คงจะไม่รู้จักซีรีย์ชุดนี้และใช้เวลาสามสี่วันจมไปกับอาณาจักรแห่งลูปเวลาของเหล่าเด็กประหลาด ถือว่าเป็นเวลาสามสี่วันที่ดีมากๆ หนังสือชุดนี้ทำให้ใจเรามัวแต่พะวงตลอดเวลาที่ไม่ได้อ่านว่าจะเกิดอะไรขึ้นต่อไปกับเด็กๆพวกนี้นะ พอกับมาอ่านอีกครั้งก็ยิ่งลุ้นหนักกว่าเดิมเรื่อยๆ เพราะมันมีครบทุกรสทั้งสนุก เศร้า ตลก โดยเฉพาะดราม่าบางประเด็นที่มัน realistic ริกส์สื่อสารออกมาและขยี้มันได้ถูกใจเราสุดๆ
ถ้าปีที่แล้ว Daughter of Smoke & Bone และ The Lunar Chronicles คือม้ามืดสำหรับเรา ดังนั้นคงไม่ผิดถ้าเราจะเรียกซีรีย์ Miss Peregrine’s Peculiar Children ว่าเป็นม้ามืดสำหรับปีนี้เช่นเดียวกัน ...
คะแนน 9/10