Jul 7, 2015

Harry Potter and the Half-Blood Prince (Harry Potter #6)



ชื่อเรื่อง Harry Potter and the Half-Blood Prince
จากชุด Harry Potter
ผู้แต่ง J.K. Rowling
วรรณกรรมเยาวชน แฟนตาซี
สำนักพิมพ์ Scholastic

เรื่องย่อ


The war against Voldemort is not going well; even Muggle governments are noticing. Ron scans the obituary pages of the Daily Prophet, looking for familiar names. Dumbledore is absent from Hogwarts for long stretches of time, and the Order of the Phoenix has already suffered losses.
And yet…

As in all wars, life goes on. Sixth-year students learn to Apparate — and lose a few eyebrows in the process. The Weasley twins expand their business. Teenagers flirt and fight and fall in love. Classes are never straightforward, though Harry receives some extraordinary help from the mysterious Half-Blood Prince.

So it’s the home front that takes center stage in the multilayered sixth installment of the story of Harry Potter. Here at Hogwarts, Harry will search for the full and complex story of the boy who became Lord Voldemort — and thereby find what may be his only vulnerability.

REVIEW

การเรียนในชั้นปีที่หกของแฮร์รี่เต็มไปด้วยเรื่องราวมากมาย ตั้งแต่เรื่องที่แฮร์รี่ถูกเรียกว่าผู้ถูกเลือก และข่าวการกลับมาของโวลเดอมอร์ที่ทำให้เกิดความหวาดผวาไปทั่วทุกหนแห่ง ศาสตราจารย์สลักฮอร์นเป็นผู้สอนวิชาปรุงยาในฮอกวอตส์ปีนี้ ส่วนสเนปเป็นผู้สอนวิชาป้องกันตัวจากศาสตร์มืดแทนอัมบริดจ์ที่ออกไปเมื่อปีที่แล้ว ทั้งแฮร์รี่ยังต้องไปพบกับดัมเบิลดอร์ตามเวลานัดเพื่อเรียนรู้จากความทรงจำที่ถูกถ่ายทอดผ่านอ่างเพนซิฟ

ความทรงจำที่ดัมเบิลดอร์แสดงให้แฮร์รี่ดูคือจุดเริ่มต้นของทอม ริดเดิ้ล กระทั่งเขากลายมาเป็นโวลเดอมอร์ในปัจจุบัน นอกจากนั้นแล้ว...แฮร์รี่ยังกุมความลับเกี่ยวกับหนังสือของเจ้าชายเลือดผสมที่เขาค้นพบโดยบังเอิญ รวมถึงคาถาและทริคการปรุงยาต่างๆมากมายในนั้น สิ่งที่คาใจแฮร์รี่อยู่ตลอดเวลาก็คือพฤติกรรมลับๆล่อๆการมัลฟอยและการสุมหัวกับสเนปที่แฮร์รี่คิดว่าทั้งคู่ต้องกำลังวางแผนอะไรบางอย่างอยู่แน่ๆ แต่ไม่มีใครเชื่อเขาเพราะสเนปคือคนที่ดัมเบิลดอร์ไว้ใจ

การตามหาความทรงจำที่ขาดหายไปของซลักฮอร์นทำให้แฮร์รี่ต้องใช้เล่ห์กลเพื่อนำความทรงจำที่แท้จริงของศาสตราจารย์กลับมาให้ได้ และเขาได้มาแล้ว...มันคือการปลดล็อคจิ๊กซอว์ส่วนสุดท้ายที่ชี้ไปยังส่วนที่สำคัญที่สุดของเรื่องนี้ เมื่อโวลเดอมอร์อาศัยความรู้ที่เขาได้จากซลักฮอร์นในการสร้างฮอว์ครักซ์ขึ้นมา เขาไม่ได้แค่ตัดแบ่งวิญญาณของเขาออกเป็นสองส่วน แต่โวลเดอมอร์ฉีกกระชากวิญญาณของเขาออกเป็นทั้งหมดเจ็ดส่วนด้วยกัน และแต่ละครั้งต้องแลกมาด้วยการสังเวยชีวิตของเหยื่อ

และนั่นคือภารกิจใหม่ของแฮร์รี่และดัมเบิลดอร์ในการตามหาฮอว์ครักซ์ทั้งหกชิ้นให้พบ เมื่อชิ้นที่เจ็ดคือตัวของโวลเดอมอร์เองที่ต้องถูกกำจัดเป็นลำดับสุดท้าย ซึ่งก่อนหน้านั้นฮอว์ครักซ์ทั้งสองชิ้นก็ถูกทำลายไปแล้ว ก็คือ...สมุดบันทึกของริดเดิ้ลและแหวนประจำตระกูล ดัมเบิลดอร์พาแฮร์รี่ไปยังถ้ำที่ซ่อนฮอว์ครักซ์ชิ้นที่สามอยู่ ที่นั่นดัมเบิลดอร์ต้องดื่มยาพิษเพื่อนำล็อกเก็ตออกมา เมื่อแฮร์รี่พาดัมเบิลดอร์กลับมายังฮอกวอตส์ ตรามารถูกเสกขึ้นบนท้องฟ้า ดัมเบิลดอร์และแฮร์รี่ติดอยู่บนหอคอยที่ผู้เสพความตายกำลังบุกทะลวงขึ้นมา และนั่นคือหนทางที่นำไปสู่การตายของดัมเบิลดอร์ด้วยน้ำมือของเจ้าชายเลือดผสม ซึ่งก็คือสเนปนั่นเอง

หลังจากพิธีฝังศพดัมเบิลดอร์ แฮร์รี่ตัดสินใจที่จะทำเป้าหมายของเขาให้สำเร็จ เขาจะตามหาฮอว์ครักซ์ทั้งสี่ชิ้นให้พบ เพราะล็อกเก็ตที่เขาไปเอามาปรากฏว่าเป็นของปลอม และแฮร์รี่ก็พบว่าเพื่อนสนิททั้งสองคนของเขา รอนและเฮอร์ไมโอนี่ ยินดีที่จะร่วมเดินไปพบถนนสายนี้กับเขาไม่ว่าจะมีอะไรรออยู่เบื้องหน้าก็ตาม...

..............................................

จำได้ว่าอ่านแล้วเล่มนี้ตอนป.6 แล้วไม่กล้าหยิบมาอ่านอีกเลย เพราะเป็นเล่มที่อ่านถึงตอนจบแล้วรู้สึกเศร้า รู้สึกว่ามันเป็นการสูญเสียที่เปล่าประโยชน์ ทั้งนั้นเรายังไม่เข้าใจแรงจูงใจของตัวละครอย่างโวลเดอมอร์ อะไรทำให้เขาต้องทำถึงขนาดนั้น ความเชื่อมโยงในอดีตอันแสนซับซ้อนของเขามันจำเป็นด้วยหรือที่เจเคจะต้องเล่าออกมาหมดในเล่มนี้ ตอนนั้น(ด้วยความที่ยังเด็ก)เลยไม่เข้าใจอะไรพวกนี้ เพราะอยากจะอ่านแต่ฉากต่อสู้ การเสกคาถาใส่กัน ซึ่งในเล่มนี้มันโดนความดาร์คกลบไปจนเกลี้ยงเลยจริงๆ

และความดาร์คในเล่มนี้นี่แหละที่พอโตขึ้นแล้วเรากลายเป็นชอบมากๆ พอเราโต มุมมองในการมองโลกก็เริ่มแตกต่างออกไป เราเข้าใจโวลเดอมอร์ เห็นเหตุจูงใจและความชิงชังต่อตระกูลที่ทำให้เขากลายเป็นเลือดผสม ปมด้อยที่คาใจเขามาโดยตลอด การถูกแม่ทิ้งไว้ในบ้านเด็กกำพร้า มันมากพอที่จะทำให้เด็กคนนึงเกิดความสงสัยที่ไม่ได้รับคำตอบและตัดสินใจที่จะแสวงหาคำตอบนั้นด้วยตัวเอง ความทะเยอทะยานที่มากเกินพอดีนำไปสู่เส้นทางที่ผิดพลาด และทำให้เกิดปฏิกิริยาลูกโซ่ที่ส่งผลมาถึงแฮร์รี่ ... พอเราอ่านมาถึงจุดนี้และดึงประเด็นนี้ออกมานั่งมอง มันทำให้เรานับถือเจเคจริงๆที่เธอวางปมเหล่านี้มาอย่างแยบยลตั้งแต่เล่มแรกๆ และมันเป็นการวางพลอตเรื่องที่เรารู้สึกว่าเรียบรื่น ไม่รู้สึกเหมือนเพิ่งแต่งขึ้นมาสดๆร้อนๆเพื่อกลบช่องโหว่ที่เกิดขึ้นระหว่างการดำเนินเรื่อง

ไม่รู้จะเขียนอะไรนอกจาก...การใช้เวลาไปกับแฮร์รี่มันเป็นช่วงที่เราคิดว่าคุ้มค่ามากที่สุดแล้ว และคิดว่าเมื่อเราอ่านเล่มหน้า(ซึ่งเป็นเล่มจบ)จบแล้ว เราคงจะต้องหยิบเล่มแรกขึ้นมาอ่านใหม่ซ้ำแล้วซ้ำอีกเรื่อยๆ...

...แอบคิดว่าตอนเล่ม 5 ต้องมีคนบ่นให้เจเคฟังแน่ๆว่าเธอดำเนินเรื่องช้าไปหน่อย พอมาถึงเล่มนี้เราก็รู้สึกว่าจังหวะในการเล่าเรื่องเริ่มกลับมาเป็นเหมือนเดิม ไม่เอื่อยเหมือนเล่มที่แล้ว...

คะแนน 9.5/10