Sep 20, 2014

คิรากับช่างย้อมสี - Gathering Blue (The Giver #2)


ชื่อเรื่อง คิรากับช่างย้อมสี
จากเรื่อง Gathering Blue
ผู้แต่ง โลอิส เลาว์รี
ผู้แปล ธิดารัตน์ เจริญชัยชนะ
สำนักพิมพ์ แพรวเยาวชน

เรื่องย่อ

หากคำจำกัดความชุมชนของ "โจนาสกับผู้ให้" เล่มแรกของชุด "The Giver" คือสมบูรณ์แบบ ชุมชนใน "คิรากับช่างย้อมสี" เล่มสองนี้ก็อยู่คนละขั้วกับนิยามนั้น

ณ สังคมที่ความโหดร้ายเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตประจำวัน บาดแผลและความบอบช้ำเป็นเหมือนอวัยวะหนึ่งของร่างกาย ผู้คนต้องอยู่กับสิ่งเหล่านี้ให้ได้ เพราะไม่มีใครสามารถหลบเลี่ยงความโหดร้ายของชีวิต แม้แต่คนที่ถูกโอบอุ้มและได้รับการปกป้องเป็นอย่างดีมาตลอดก็ตาม แม่ของ 'คิรา' บอกลูกสาวผู้เกิดมาพร้อมความไม่สมประกอบไว้ว่า "จงภูมิใจในความเจ็บปวดของตน...ลูกเข้มแข็งกว่าคนที่ไร้ความเจ็บปวดนัก" ซึ่งนี่อาจเป็นคาถาในการใช้ชีวิตที่ดีที่สุดคาถาหนึ่ง

REVIEW

หลังจากที่คิราสูญเสียแม่ของเธอไป ความโชคร้ายก็ไม่ค่อยผ่อนปรนให้กับชีวิตของเด็กสาว คิราถูกนำขึ้นไปพิพากษาด้วยข้อหาที่เธอพิการมาตั้งแต่กำเนิด ในสังคมแห่งความเสื่อมทรามแห่งนี้ที่คิราอาศัยอยู่ ไม่เคยแม้แต่จะต้อนรับผู้พิการอย่างเธอ แต่แม่ของคิราก็ปกป้องจนถึงลมหายใจสุดท้ายของหล่อน เมื่อหล่อนสิ้นลม คิราจึงตกอยู่ในเงื้อมืออันโหดร้ายของชุมชนอันเสื่อมทรามแห่งนี้

คิราถูกตัดสินให้พ้นข้อกล่าวหาและได้รับมอบหมายหน้าที่ใหม่ โดยใช้ความสามารถในการย้อมสีและปักผ้าเพื่อประดับตกแต่งเสื้อคลุมของผู้ขับร้องที่กำลังจะใช้ในพิธีตอนฤดูใบไม้ร่วงที่กำลังจะมาถึง แต่เด็กสาวก็เป็นกังวลว่าฝีมือการย้อมสีที่ได้เรียนรู้มาจากแม่อาจจะไม่เพียงพอที่จะทำงานนี้จนลุล่วง คิราจึงถูกส่งไปเรียนกับช่างย้อมสีนามว่า แอนนาเบลลา

คิราเป็นเพื่อนสนิทกับแมตต์ และทอมัส ช่างแกะสลักที่ถูกพาตัวมาอาศัยอยู่ในที่แห่งเดียวกับคิราเพื่อทำหน้าที่สลักไม้เท่าซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของผู้ขับร้อง ไม่นานคิราก็ได้ค้นพบว่ายังมีโจ เด็กผู้มีความสามารถด้านการ้องเพลงอีกคนถูกนำตัวมาที่นี่

แมตต์หายตัวไป คิราออกไปตามตัวเขาจึงพบว่าเด็กชายเดินทางไปที่ไกลแสนไกลเพื่อตามหาสีฟ้ามาให้เธอ จนกระทั่งแมตต์กลับมาพร้อมกับสีฟ้าดังที่เขาเคยอ้าง นอกจากนี้เขายังมาพร้อมกับของขวัญชิ้นใหญ่ซึ่งก็คือพ่อของคิราที่เธอคิดว่าเขาได้ตายไปแล้ว แต่เขากลับรอดชีวิตมาได้จากการทำร้ายที่เธอเชื่อมาตลอดว่าเป็นฝีมือของสัตว์ร้าย ซึ่งความจริงกลับเป็นฝีมือของเจมิสัน ผู้ซึ่งช่วยชีวิตคิราในวันตัดสินคดีนั่นเอง

คิราเข้าใจในตอนนั้นทันทีว่า ... ในชุมชนที่เสื่อมทรามแห่งนี้ ไม่มีสัตว์ร้ายที่คอยดักซุ่มในป่าอยู่จริงๆ ตามที่แอนนาเบลลา ผู้ซึ่งตอนนี้ล่วงลับไปแล้วได้เคยกล่าวเอาไว้ แต่สัตว์ร้ายที่หล่อนเคยอ้าง คือฝีมือของมนุษย์ผู้อิจฉาริษยาที่คอยแก่งแย่งแข่งขันกัน และสามารถทำได้แม้กระทั่งคร่าชีวิตของเพื่อนมนุษย์ด้วยกันเอง ...

คิราตัดสินใจไม่หนีไปกับพ่อของเธอและอาศัยอยู่ในชุมชนแห่งความเสื่อมทรามต่อไป เพราะเด็กสาวเชื่อว่า สักวันเธอจะเป็นคนกำหนดอนาคตของที่นี่ด้วยความสามารถแห่งการถักทอและย้อมสีของเธอ ...

..................................................................................

ไม่รู้ว่าจริงๆแล้วเราได้อะไรจากหนังสือเล่มนี้กันแน่ และเราก็ไม่ได้รู้สึกสนุกไปกับเนื้อเรื่องเลยแม้แต่น้อย เพราะเนื้อเรื่องใน Gathering Blue จะตรงกันข้ามกับ The Giver โดยสิ้นเชิง ทั้งสภาพสังคมของชุมชนที่คิราอาศัยอยู่นั้นเสื่อมโทรมด้วยฝีมือและความเห็นแก่ตัวของมนุษย์โดยแท้ และหนังสือเล่มนี้ยังตีแผ่ให้เห็นถึงสิ่งพิเศษในตัวของมนุษย์ที่เรียกว่าพรสวรรค์ ซึ่งมีหลายคนแก่งแย่งกันเพื่อที่จะครอบครองพรสวรรค์เหล่านั้นอยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน

เราสามารถบอกได้เต็มปากเลยว่า เราไม่ประทับใจในตอนจบเท่าไรนัก ก็อย่างว่าแหละ ... สไตล์การเขียนตอนจบแทบจะไม่ได้แตกต่างอะไรจากเล่มแรกที่เรียกได้ว่า "ให้ผู้อ่านไปตีความเอาเอง" สุดท้ายแล้ว ... คิราจะสามารถสรรค์สร้างอนาคตขึ้นมาใหม่ด้วยพรวสรรค์ของเธอได้หรือไม่ หนังสือไม่ได้กล่าวเอาไว้ แต่ผู้แต่งก็ได้ชี้นำไว้ในตอนท้ายว่าอาจจะมีความเป็นไปได้ที่ชุมชนแห่งนี้นั้นเน่าเฟะเกินกว่ามือเล็กๆของเด็กหญิงคนหนึ่งจะเยียวยาได้ หรือคิราจะสามารถกอบกู้สังคมนี้ขึ้นมาใหม่ได้ในที่สุด

Gathering Blue เป็นหนังสือเล่มบางๆเบาๆ แต่ความหนักของเนื้อเรื่องกลับไม่ได้เบาไปด้วยเลย อย่าหลงเชื่อเป็นอันขาดว่าเนื้อเรื่องสบายๆอย่างที่ได้อ่านในตอนแรก จะจบลงด้วยความผาสุขของตัวละครในตอนท้าย ถึงแม้ว่า Gathering Blue จะจบลงตรงที่ไม่มีความสูญเสียใดๆเกิดขึ้น แต่ impact ที่หนังสือเล่มนี้สร้างให้แก่ผู้อ่านกลับมากมายยิ่งกว่านั้น

ไม่เชื่อคุณก็ลองอ่านหนังสือเล่มนี้ดู และคุณจะได้รู้ว่าเราไม่ได้พูดเกินจริง !

คะแนน 7/10

No comments:

Post a Comment