Jan 20, 2016

The Ocean at the End of the Lane



ชื่อเรื่อง The Ocean at the End of the Lane
ผู้แต่ง Neil Gaiman
วรรรกรรมเยาวชน แฟนตาซี
สำนักพิมพ์ William Morrow

เรื่องย่อ

Sussex, England. A middle-aged man returns to his childhood home to attend a funeral. Although the house he lived in is long gone, he is drawn to the farm at the end of the road, where, when he was seven, he encountered a most remarkable girl, Lettie Hempstock, and her mother and grandmother. He hasn't thought of Lettie in decades, and yet as he sits by the pond (a pond that she'd claimed was an ocean) behind the ramshackle old farmhouse, the unremembered past comes flooding back. And it is a past too strange, too frightening, too dangerous to have happened to anyone, let alone a small boy.

Forty years earlier, a man committed suicide in a stolen car at this farm at the end of the road. Like a fuse on a firework, his death lit a touchpaper and resonated in unimaginable ways. The darkness was unleashed, something scary and thoroughly incomprehensible to a little boy. And Lettie—magical, comforting, wise beyond her years—promised to protect him, no matter what.

A groundbreaking work from a master, The Ocean at the End of the Lane is told with a rare understanding of all that makes us human, and shows the power of stories to reveal and shelter us from the darkness inside and out. It is a stirring, terrifying, and elegiac fable as delicate as a butterfly's wing and as menacing as a knife in the dark

REVIEW

ชายวัยกลางคนคนนึงเดินทางกลับมายังที่ที่ครั้งหนึ่งเขาเคยอาศัยอยู่ เขาเดินผ่านบ้านฟาร์มเก่าๆ และความทรงจำในวัยเด็กก็ค่อยๆหวนคืนกลับมา ครั้นตอนที่เขายังเป็นเด็กและอาศัยอยู่กับพ่อแม่ เขาไม่เคยคิดว่าวันที่เขาพบศพชายหนึ่งในรถของพ่อเขาจะทำให้เขาได้พบกับเลตตี้ เฮมป์สต็อก เด็กสาวที่อยู่อยู่ที่ฟาร์มสุดปลายถนนกับแม่และยายของเธอ เลตตี้บอกกับเขาว่าบางสิ่งกำลังรุกคืบเข้ามาเมื่อเขาตื่นเช้าพร้อมกับเหรียญที่ติดอยู่ในคอของเขา เลตตี้จึงพาเด็กชายไปเพื่อกำจัดสิ่งที่เป็นสาเหตุเหล่านี้


แต่ใครจะรู้ว่านั่นทำให้เป็นการเปิดโอกาสให้หนอนตัวหนึ่งชอนไชเข้าในส้นเท้าของเด็กชายจนกระทั่งเขาคีบมันออกมาและพบว่าในวันรุ่งขึ้น หญิงสาวคนหนึ่งมาปรากฏกายที่บ้านของเขา เธอชื่อว่าเออซูล่า ความไม่น่าเชื่อเกิดขึ้นเมื่อเออซูล่าตามเด็กชายไปทุกหนแห่งและขู่ว่าจะขังเขาไว้ในห้องใต้หลังคา แถมเย็นวันหนึ่งเออซูล่ายังทำให้พ่อของเด็กชายจับหัวของเขากดน้ำอีกด้วย

เลตตี้ช่วยเด็กชายเอาไว้ เธอให้ที่พักพิงแก่เขาในคืนที่เขาวิ่งหนีเออซูล่าออกมาจากบ้าน เลตตี้หาทางกำจัดเออซูล่าโดยการเสนอข้อต่อรองที่จะพาเธอกลับไปในที่ที่เธอจากมา หรือไม่งั้นเธอจะเรียกฮังเกอร์เบิร์ดออกมาจัดการ เออซูล่าเลือกอย่างหลัง เธอจึงถูกฉีกทึ้งจนไม่เหลือชิ้นส่วน แต่เมื่อฮังเกอร์เบิร์ดไม่ยอมจากไปหลังจากกำจัดเออซูล่าแล้ว พวกมันต้องการเด็กชาย นั่นจึงเป็นหน้าที่ของเลตตี้และครอบครัวที่ป้องปกป้องเขาเอาไว้ให้ได้

ฮังเกอร์เบิร์ดขู่ว่าจะฉีกกระชากโลกทั้งใบให้เหลือแต่ความว่างเปล่า เด็กชายยอมให้นกพวกนี้พรากทุกสิ่งไปจากเขาไม่ได้ ดังนั้นเขาจึงยอมตาย แต่เลตตี้กลับปกป้องเขาเอาไว้จากนกจนเธอได้รับบาดเจ็บสาหัส แม่ของเธอนำร่างของเธอไปไว้ในมหาสมุทร เพื่อที่สักวันมหาสมุทรจะคืนเธอกลับมาอีกครั้ง หลังจากนั้นเด็กชายกลับบ้านก็กลับบ้านของเขาและความทรงจำที่หลงเหลืออยู่ก็คือเลตตี้จากไปต่างประเทศหลังจากปาร์ตี้สุดสนุกในคืนนั้น

ชายวัยกลางคนจ้องมองมหาสมุทรและรอคอยเลตตี้กลับมาเขา แต่แม่และยายของเลตตี้บอกว่าสาเหตุที่ทำให้เขากลับมายังบ้านแห่งนี้ก็คือเลตตี้ต้องการที่จะจ้องดูว่าสิ่งที่เธอเสียสละไปนั้นคุ้มค่าหรือเปล่า ...


******************************


การหยิบหนังสือเล่มนี้ขึ้นมาอ่าน บอกเลยว่าเป็นอะไรที่เงิบมากๆสำหรับเรา เพราะก่อนหน้าเรานั่งเล็งๆใน GR เห็นว่าเป็น Fantasy YA ก็เลยตัดสินใจซื้อมาอ่านแบบไม่คิดอะไร น่าจะมาแนวมหาสมุทรที่มีผีหรือไม่ก็พารานอร์มอลบีอิ้งอาศัยอยู่ พออ่านไปสองสามบทแรก ... เฮ้ย ชอบอ่ะ บรรยากาศอิงแลนด์เก่าๆ การเล่าเรื่องคมๆติสท์ๆสไตล์เกแมนแบบนี้ชอบมากเลย แต่อ่านไปเรื่อยๆ เราเนื้อเรื่องว่าเนื้อเรื่องมันหลุดกรอบ ฉีกขนบนิยายแฟนตาซีทั้งหลายแหล่ไปแบบไม่เห็นฝุ่นเลยนะ เพราะทุกบรรทัดมันแฝงเร้นด้วยความหมายของชีวิต การร้อยเรื่องราวที่ไม่ได้อิงกรอบความคิดจากหนังสือเล่มใดๆนี่แหละ เลยทำให้ The Ocean at the End of the Lane มันมีความติสท์และแอ็บสแตร็กส์ที่มัดใจเราเอาไว้ได้

ใครจะรู้ว่าพ้อยท์ที่หนังสือเล่มนี้พยายามย้ำนักหนากลับกลายเป็นสิ่งที่ทำให้เราชอบสุดๆไปเลย การเติบโตผ่านช่วงเวลาที่ยากลำบาก ความผันแปรที่ก่อให้เกิดความไม่แน่นอน และที่โคตรติสท์ที่สุดคือ ... ตัวเอกที่เป็นตัวเล่าเรื่อง ผู้แต่งไม่ได้เขียนว่าเขาชื่ออะไรเลย ตอนแรกเราคิดว่าเราอ่านตกหล่นไป แต่พอไปเสริจจริงๆแล้ว เค้าบอกว่าตัวที่เล่าเรื่องน่ะ คือ The Nameless Boy ซึ่งทำให้เราคิดต่อยอดกลับไปอีกว่า ประเด็นที่นักเขียนตั้งใจจะสื่อผ่านหนังสือเล่มนี้จริงๆแล้วคืออะไรกันแน่

ในหนังสือเล่มนี้ ความทรงจำในวัยเด็กและการเติบโตเป็นผู้ใหญ่ถูกนำมาเปรียบเทียบกันได้อย่างชาญฉลาด แต่ถึงกระนั้นก็แฝงความขมขื่นที่คนที่ผ่านประสบการณ์เหล่านี้มาถึงจะรู้ การเติบโตเป็นผู้ใหญ่นั้นต้องแลกกับการสูญเสียตัวตนที่แสนจะบริสุทธิ์ในวัยเด็กไป
“Adults should not weep, I knew. They did not have mothers who would comfort them.”

รู้สึกว่าหนังสือเล่มนี้จะใช้ภาษาพรรณาได้เว่อร์วังดาวล้านดวงมากๆ นี่ขึ้นอยู่กับรสนิยมเลยว่าชอบ section ไหนของหนังสือ บางช่วงก็ทำความเข้าใจง่าย แต่บางอย่างก็ต้องตีลังกากลับหัวคิดว่าจริงๆแล้วเนื้อความทั้งย่อหน้าต้องการจะชี้ให้เห็นถึงประเด็นไหน เป็นหนังสือที่เหมาะแก่การดิสคัสยาวๆมากเลย ฮ่าๆ

คะแนน 7.5/10