Aug 10, 2015

Fablehaven (Fablehaven #1)


ชื่อเรื่อง Fablehaven
จากชุด Fablehaven
ผู้แต่ง  Brandon Mull
วรรณกรรมเยาวชน แฟนตาซี

เรื่องย่อ

For centuries mystical creatures of all description were gathered into a hidden refuge called Fablehaven to prevent their extinction. The sanctuary survives today as one of the last strongholds of true magic. Enchanting? Absolutely. Exciting? You bet. Safe? Well, actually, quite the opposite.

Kendra and her brother, Seth, have no idea that their grandfather is the current caretaker of Fablehaven. Inside the gated woods, ancient laws keep relative order among greedy trolls, mischievous satyrs, plotting witches, spiteful imps, and jealous fairies. However, when the rules get broken -- Seth is a bit too curious and reckless for his own good -- powerful forces of evil are unleashed, and Kendra and her brother face the greatest challenge of their lives. To save their family, Fablehaven, and perhaps even the world, Kendra and Seth must find the courage to do what they fear most.

REVIEW

เคนดร้าและเซธไปพักอาศัยร่วมกับคุณปู่ เด็กทั้งสองได้ไปพักในห้องใต้หลังคา ทีแรกพวกเขาคิดว่าบ้านนี้เป็นบ้านธรรมดาๆ นอกจากคำสั่งของคุณปู่ที่ห้ามเด็กๆเข้าป่า จนกระทั่งวันหนึ่งเคนดร้าและเซธเริ่มมองเห็นความผิดปกติเกี่ยวกับที่แห่งนี้ เซธเดินสำรวจป่าและได้พบกับแม่มดที่นั่งแทะปมเชือกอยู่ เมื่อเขากลับมาเคนดร้าก็ได้พบหนังสือที่บอกว่าให้เธอดื่มนม พอพวกเขาดื่มนมเข้าไป โลกอีกใบก็ระเบิดต่อสายตาพวกเขา เหล่าแฟรี่บินว่อนอยู่รอบบ้าน และสิ่งมีชีวิตที่อยู่เหนือธรรมชาติตัวอื่นๆที่พวกเด็กไม่เคยเห็นมาก่อน

คุณปู่อธิบายให้พวกเขาฟังว่าที่แห่งนี้คือเฟเบิลเฮเวน ซึ่งเป็นที่พำนักของสิ่งมีชีวิตเหนือธรรมชาติซึ่งมีทั้งอันตรายและไม่อันตราย จนกระทั่งเซธไปจับแฟรี่ตนนึงเข้าและโดนพรรคพวกแฟรี่ที่เหลือรุมทำร้าย ปู่ของเขาจึงต้องพาเซธเข้าไปในป่าเพื่อขอความช่วยเหลือจากมูเรียล แม่มดแก่เพื่อแรกกับการทำลายปมเชือกที่ล่ามเธอเอาไว้ หากปมเชือกถูกทำลายจนหมด แม่มดตนนั้นก็จะเป็นอิสระ

วันมิดซัมเมอร์อีฟมาถึง ปู่ของเด็กทั้งสองเตือนว่าจะเป็นวันที่เหล่าสิ่งมีชีวิตออกมาอาละวาดและเขาขอให้เซธกับเคนดร้าเก็บตัวอยู่ในห้อง แต่มีหรือที่เซธจะยอมฟังคำของปู่ ตกกลางคืน...เขาเปิดประตูห้องให้สัตว์ประหลาดและก็อบลินเข้ามาในห้องนอน พอถึงตอนเช้าทั้งคู่ก็พบว่าคนในบ้านได้หายตัวไปหมด ดังนั้นพวกเขาจึงออกตามหาคุณปู่และคนในบ้าน

เซธและเคนดร้าได้พบกับคุณย่าที่กลายร่างเป็นไก่ ดังนั้นพวกเขาจึงพาเธอไปหามูเรียล แลกกับการทำลายปมเชือกปมสุดท้ายของเธอ มูเรียลจึงเป็นอิสระ เมื่อคุณย่าพบว่าคุณปู่ถูกจับไปยังโบสถ์ร้าง หล่อนก็เล่าให้เด็กๆฟังว่าที่แห่งนั้นคือสถานคุมขังของเบอามัท ออกมูเรียลไปถึงก่อน แม่มดจะปล่อยเบอามัดออกมา และไม่มีสนธิสัญญาหรือเขตแดนใดๆที่จะปกป้องทุกๆคนที่อาศัยอยู่ในเฟเบิลเฮเวนแห่งนี้อีกต่อไป

เมื่อทุกคนถูกมูเรียลจับตัวไว้ เคนดร้าวิ่งหนีออกมาและมาขอความช่วยเหลือจากราชินีแฟรี่ เธอได้นำกองทัพแฟรี่ที่มีไซส์ใหญ่เท่ามนุษย์ไปบุกถึงโบสถ์และจัดการกับมูเรียลและเบอามัทได้สำเร็จ หลังจากนั้นเด็กๆก็ถึงเวลาที่พ่อแม่จะมารับกลับบ้าน โดยเคนดร้ารู้ว่าดิเอเวนนิ่งสตาร์ซึ่งเป็นองค์กรที่ต้องทำการทำลายอย่างพักพิงของสิ่งมีชีวิตเหนือธรรมชาติอยู่ภายใต้แผนการณ์ปลดปล่อยเบอามัทในครั้งนี้ และพวกเขากำลังรอวันที่จะแทรกซึมเพื่อทำลายเฟเบิลเฮเวนให้จงได้

...............................................

เรารู้สึกว่าผู้แต่งมาถูกทางละนะ เนื้อเรื่องก็สนุกพอตัวเลยแหละ มีเอกลักษณ์อยู่บ้าง แต่เราว่ามันยังไม่สุด เหมือนกับขาดอะไรบางอย่างไป ทีแรกว่าจะให้แค่ 2 ดาว แต่พออ่านตอนจบแล้วเราว่ามันโอเคขึ้นมาหน่อย และบวกอีก 1 ดาวเพิ่มไปละกัน ตอนแรกเรารำคาญตัวละครทั้งสองตัวมาก โดยเฉพาะ...เซธ เขาเป็นเด็กผู้ชายที่ตอนแรกเรามองว่าซุกซน แต่พออ่านไปเรื่อยๆเรารู้สึกว่ามันมีเส้นบางๆกั้นระหว่างคำว่า...ซุกซน กับ นิสัยเสียอยู่ ซึ่งเราก็หาข้อสรุปได้ว่าเซธน่าจะเป็นอย่างหลังมากกว่า เราว่าซุกซนน่าจะใช้อธิบายเด็กๆที่ซน แต่ยังพอหาความน่ารักได้ พอโดนผู้ใหญ่ตักเตือน เขาจะรู้สึกผิดบ้างไม่มากก็น้อย แต่นิสัยเสียคือการที่ผู้ใหญ่เตือนก็ไม่ฟัง แลบลิ้นปลิ้นตา แถมยังขัดคำสั่งไปซะทุกอย่าง พยายามหาเหตุผลมาสนับสนุนว่าตัวเองทำในสิ่งที่ถูกต้องแล้ว ในขณะที่ผู้ใหญ่เป็นฝ่ายผิดต่อตัวเองเสมอ พอตัวเองทำผิดพลาดก็ไม่มีสลด ไม่เคยจำ หาเรื่องทำให้คนอื่นวุ่นวายโดยไร้ซึ่งสำนึกตลอด ส่วนพี่สาวก็เหมือนจะห้ามปรามน้องนะ แต่เอาจริงๆแล้วก็ไม่ เออออห่อหมกไปกับน้องตลอด

ฉากในห้องนอนนี่เกลียดมาก เดาได้ว่าต้องเกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้น แต่นิสัยของเซธนี่น่าตบให้หัวทิ่มเลยจริงๆ ซึ่งนี่อาจจะเป็นความตั้งใจของผู้แต่งก็ได้ที่ต้องการดีไซน์ให้เซธออกมานิสัยแบบนี้เพื่อให้ผู้อ่านไม่ชอบขี้หน้า ถ้าผู้แต่งตั้งใจแบบนั้นจริงๆ เราขอกราบงามๆสามที เพราะคุณทำสำเร็จแล้วล่ะ
"Are all girls as brainless as you ?"
เจอประโยคนี้เข้าไปถึงกับเงิบ นี่คือประโยคที่เซธพูดกับพี่สาวตัวเอง เดิมทีไม่ค่อยชอบเซธอยู่แล้ว ถึงตรงนี้เรากลายเป็นเกลียดเด็กร้ายกาจคนนี้ไปเลย  น่ากลัวมากนะที่จะปล่อยให้เด็กคนนี้โตไปโดยไม่มีเครื่องขัดเกลา แต่ตอนท้ายเคนดร้าก็เริ่มโอเคสำหรับเราขึ้นมานิดนึง แต่เซธเนี่ยแทบอยากจะบอกผู้แต่งว่าฆ่ามันทิ้งเหอะ ไม่มีหลาบจำหรอก คือกำลังอ่านสนุกๆ อยู่ดีๆเซธก็จะโพล่งประโยคที่ทำให้เราหมดอารมณ์ตลอด

บ่นเรื่องของตัวละครมาซะยืดยาว มาถึงตรงนี้เราบอกได้เลยว่า หนังสือชุดนี้ สนุกน่าติดตาม แม้ว่าเนื้อเรื่องจะไม่ได้หนัก แต่มันก็น่าสนใจมากพอที่จะทำให้เราติตดามหนังสือชุดนี้ต่อไป ตอนจบถึงจะง่ายไปหน่อย และถ้าสามารถมองข้ามนิสัยแย่ๆของตัวละครไปได้ หนังสือเล่มนี้จะสนุกไม่เบาเลยทีเดียว

คะแนน 7/10