Aug 2, 2015

A Court of Thorns and Roses (A Court of Thorns and Roses #1)



ชื่อเรื่อง A Court of Thorns and Roses
จากชุด A Court of Thorns and Roses
ผู้แต่ง Sarah J. Maas
วรรณกรรมเยาวชน แฟนตาซี
สำนักพิมพ์ Bloomsbury USA Childrens

เรื่องย่อ

A thrilling, seductive new series from New York Timesbestselling author Sarah J. Maas, blending Beauty and the Beast with faerie lore.

When nineteen-year-old huntress Feyre kills a wolf in the woods, a beast-like creature arrives to demand retribution for it. Dragged to a treacherous magical land she only knows about from legends, Feyre discovers that her captor is not an animal, but Tamlin—one of the lethal, immortal faeries who once ruled their world.

As she dwells on his estate, her feelings for Tamlin transform from icy hostility into a fiery passion that burns through every lie and warning she's been told about the beautiful, dangerous world of the Fae. But an ancient, wicked shadow grows over the faerie lands, and Feyre must find a way to stop it . . . or doom Tamlin—and his world—forever.

Perfect for fans of Kristin Cashore and George R. R. Martin, this first book in a sexy and action-packed new series is impossible to put down!

REVIEW

เฟย์เรอฆ่าหมาป่าตัวนึงตาย และนั่นทำให้เธอต้องชดใช้ด้วยการไปอยู่กับทัมลินในดินแดนแฟรี่ของเขา แต่ความเป็นจริงไม่ใช่สิ่งที่เฟย์เรอเรียนรู้มาโดยตลอดว่าแฟรี่คือสิ่งชั่วร้ายที่ทำสงครามกับมนุษย์จนยุติด้วยการทำสนธิสัญญา และดินแดนทั้งสองฝั่งมีกำแพงที่เป็นปราการกั้นเอาไว้ เมื่อทัมลินพาเฟย์เรอมายังสปริงคอร์ทของเขา ทัมลินเอาใจใส่ดูแลเฟย์เรอเป็นอย่างดี เขาไม่เคยเอาเรื่องที่เธอไปฆ่าเพื่อนของเขาในคราบหมาป่าจนตาย แต่การมาใช้ชีวิตอยู่กับทัมลิมทำให้เฟย์เรอต้องทิ้งครอบครัวเธอเอาไว้เบื้องหลัง ครอบครัวที่ไม่เคยใยดีเธอเลยแม้แต่น้อย ทัมลินและเฟย์เรอจึงใช้เวลาอยู่ด้วยกันเมื่อทำความรู้จักตัวตนของแต่ละฝ่ายมากขึ้นเรื่อยๆในแต่ละวันที่ผ่านไป

เมื่อริแซนด์เดินทางมายังที่อยู่ของทัมลินเพื่อข่มขู่เขาเกี่ยวกับอมารันธา ทัมลินจึงตัดสินใจส่งเฟย์เรอผ่านกำแพงสู่โลกมนุษย์ซึ่งเป็นบ้านของเธอ เขาจะยอมให้อมารันธาใช้เฟย์เรอเป็นเครื่องมือไม่ได้ เขารักเฟย์เรอมากเกินกว่าจะทนเห็นเธอเจ็บปวดเพราะเขา แต่เมื่อเฟย์เรอเริ่มเห็นว่าโลกมนุษย์เริ่มถูกรบกวนโดยเหล่าแฟรี่ เธอรู้ในทันทีว่าต้องมีอะไรผิดปกติเกิดขึ้นในสปริงคอร์ทที่ทัมลินปกครองอยู่ นั่นส่งผลให้เฟย์เรอเดินทางกับมายังดินแดนแห่งแฟรี่ผ่านช่องโหว่บนกำแพง และได้พบกับความว่างเปล่าและซากความเสียหายเมื่อเธอกลับไป ...

เฟย์เรอได้รู้ความจริงว่าแท้จริงแล้วไม่ได้มีความเสื่อมถอยในโลกแห่งแฟรี่อะไรทั้งนั้นที่ทำให้เวทมนตร์เสื่อมสภาพลง มีแต่ความชิงชังของอมารันธาต่อเหล่ามนุษย์เพราะการถูกทรยศของน้องสาวเธอ อมารันธาแทรกซึมเข้าสู่คอร์ทต่างๆของแฟรี่และเมื่อเธอปราถนาในตัวของทัมลินและต้องการเขามาเป็นของเธอ ทัมลินปฏิเสธ ดังนั้นอมารันธาจึงสาปทัมลินว่าเขาจะต้องตกมาเป็นของหล่อนเมื่อเวลาเจ็ดปีผ่านไปเจ็ดหน ทางเดียวที่จะแก้คำสาปได้ก็คือ...ทัมลินต้องหาหญิงสาวที่ชิงชังแฟรี่สุดหัวใจซึ่งมากพอที่จะทำให้เธอลงมือสังหารคนของเขาได้ หญิงสาวที่จิตใจนั้นเย็นยะเยือก และคำว่ารักจากปากของเธอเท่านั้น ที่จะถอนคำสาปนี้ได้

ในปีแรกหลังคำสาปทัมลินส่งคนของเขาไปตายในดินแดนมนุษย์มากมาย จนเขาล้มเลิกความตั้งใจ แต่เมื่อเวลาสี่สิบเก้าปีผ่านไปและเขาเหลือเวลาอีกไม่มาก ทัมลินจึงส่งคนออกไปอีกครั้ง เพื่อที่ดินแดนที่เขาปกครองจะได้ไม่ตกอยู่ในอำนาจของอมารันธา นั่นทำให้เขาได้พบกับเฟย์เรอ เมื่อเธอตัดสินใจฆ่าหมาป่าที่เป็นคนของทัมลิน และทัมลินนำตัวเธอมายังคฤหาสน์ของเขา

เฟย์เรอต้องทำภารกิจทั้งสามอย่างเพื่อแลกกับการปล่อยให้อมารันธาปล่อยตัวทัมลินและอิสรภาพของคอร์ทต่างๆ ภารกิจแรกเฟย์เรอต้องต่อสู้กับหนอนยักษ์ เธอเอาชนะมันได้ ภารกิจที่สองเธอต้องตอบคำถามบนกำแพงทั้งๆที่เธออ่านหนังสือไม่ออก เธอผ่านมันมาได้ พอถึงภารกิจที่สาม เฟย์เรอต้องลงมือฆ่าผู้บริสุทธิ์ทั้งสามคน แม้ว่าจะฝืนใจแค่ไหน เธอก็ลงมือฆ่าไปแล้วทั้งสองคน พอมาถึงคนที่สาม เฟย์เรอพบว่าคนนั้นคือทัมลิน เธอฆ่าเขาไม่ได้ และอมารันธาจะเป็นผู้ชนะในเกมครั้งนี้อย่างใสสะอาด

แต่เฟย์เรอรู้ความลับอีกอย่างตลอดเวลาที่เธออาศัยอยู่ที่คอร์ทว่า หัวใจของทัมลินนั้นเป็นหิน ดังนั้นเธอจึงปักมีดลงไป แต่อมารันธานั้นเจ้าเล่ห์ยิ่งนัก เธอไม่ได้ตกลงทำสัญญาว่าจะมอบอิสรภาพให้ทันทีหลังจากที่เฟย์เรอทำภารกิจทั้งสามอย่างเสร็จ แต่อมารันธาจะปลดปล่อยแฟรี่ไปก็ต่อเมื่อ เธอแก้คำปริศนาของหล่อนได้ และเมื่อวินาทีสุดท้ายของเฟย์เรอมาถึง...เธอรู้แล้วว่าคำตอบของปริศนานั้นคือคำว่ารัก เธอตอบปริศนานั้นได้สำเร็จพร้อมลมหายใจสุดท้ายที่ถูกพรากไปจากร่างของเธอ

เมื่อคำสาปถูกถอน ทัมลินฆ่าอมารันธาจนตาย หน้ากากที่สวมใส่อยู่บนใบหน้าของเหล่าแฟรี่สปริงคอร์ทเนื่องด้วยคำสาปนั้นได้หลุดออกไปจนหมด โผยโฉมหน้าที่แท้จริงของทัมลินภายใต้หน้ากาก เหล่าแฟรี่ที่เห็นการเสียสละอันยิ่งใหญ่ของเฟย์เรอนั้นได้มอบพลังอำนาจแก่เธอ จนสุดท้ายเฟย์เรอได้กลายเป็นแฟรี่เหมือนพวกเขา เหมือนกับทัมลิน และทัมลินกับเฟย์เรอก็ได้อยู่ด้วยกันในท้ายที่สุด...

.............................................

สนุกนะ สนุกว่าชุด Throne of Glass อีก คือก่อนหน้าที่จะอ่าน ACOTAR เราไม่ได้คาดหวังอะไรเลยกับงานของ Maas เล่มนี้ ด้วยการไม่หวังอะไรนี่แหละ เลยทำให้เราสมหวังมากหลังจากอ่านหนังสือเล่มนี้จบ ACOTAR คือการนำ Beauty and the Beast มาปัดฝุ่นและเล่าใหม่ผ่านโลกแห่งแฟนตาซีของ Maas ที่กว้างใหญ่ไพศาลจนต้องเขียนแผนที่ออกมา โดยการเล่าเรื่องใหม่ครั้งนี้ไม่ได้ทำให้มันออกมาหวานจ๋อยเหมือนกับการ์ตูนของดิสนีย์หรือนิยายรีเทลลิ่งเรื่องอื่นๆ แต่ Maas เล่าผ่านพื้นหลังที่ลึกลับ ซับซ้อนและดาร์คอยู่พอตัว

ดังนั้นแน่นอน หนังสือเล่มนี้จึงไม่ได้เจาะกลุ่มเป้าหมาย YA สักเท่าไร เพราะเราว่ามันน่าจะเหมาะกับผู้ใหญ่มากกว่า เนื้อเรื่องถึงพริกถึงขิง มีฉากรัก ช่วงแรกจะให้อารมณ์ว่านางเอกคือร่างอวตารของแคตนิส เอเวอร์ดีน + เบลล่า สวอน พอนางเอกมาอยู่กับพระเอกแล้ว ช่วงนี้แหละคือจุดที่เราจะหักคะแนน โอยยย มันเนือยมากกกก มันน่าเบื่ออ่ะ คือเราไม่ได้รู้สึกถึงเคมีระหว่างพระนางเลยแม้แต่น้อย ในทางตรงข้าม...สิ่งที่เราชื่อว่ามันมีความรักระหว่างทั้งคู่อยู่ก็คือ Maas ทำให้เราเชื่อมาตั้งแต่ต้นว่าเฟย์เรอคือ Beauty และทัมลินคือ Beast และทั้งสองเกิดมาเพื่อคู่กัน นั่นทำให้เราพอจะอ่านต่อไปได้จนจบโดยไม่ติดใจอะไรมาก นิสัยของพระเอกจะดูเมินๆ เฉยๆ โอเค ... มันมีช่วงที่พระเอกพยายามจะเข้าหานางเอกอยู่ก็จริง แต่เราว่ามันไม่สุดอ่ะ มันเหมือนเด็กไฮสคูลที่เพิ่งหัดจีบกัน เนือยไปอีก

ความรักระหว่างพระนางเนี่ย Maas เขียนออกมาได้งุ่มง่ามมาก ช่วงเลิฟซีนก็พยายามบรรยายหลบๆเลี่ยงๆตลอด (แอบขัดใจ) นางเอกสมบุกสมบันต่อสู้จนแขนหักกระดูกทิ่มออกมา ส่วนพระเอกทำอะไรหรอ ? นั่งเฉยๆอยู่ข้างตัวร้ายจ้า (โอยยยย ร้องไห้แป๊บ) แต่คือถ้าใครชอบ เบลล่า Twilight ในคราบสาวนักสู้แบบแคตนิส The Hunger Games กับพระเอกทื่อๆแบบโฟร์ Divergent ก็คงจะชอบเรื่องนี้แน่ๆ (แล้วเราก็เป็นหนึ่งในนั้นด้วยไง)

แต่โดยรวมแล้วสนุก อ่านแล้วต้องเปิดหน้าต่อไปพั่บๆๆๆ เรียกว่าเป็น real page-turner เลยก็ว่าได้ ตอนจบถึงจะห้วนไปหน่อย แต่เข้าใจว่ามีเล่มต่อ และยังเหลือคิงไฮเบิร์นอีกราย เนื้อเรื่องน่าจะไม่หยุดแค่นี้แน่ๆ 9 คะแนนเพราะตรงกับรสนิยมส่วนตัวเต็มๆ ชอบการเล่าเรื่องกับโลกในหนังสือเล่มนี้มากๆ

คะแนน 9/10