Jun 3, 2014

ดั่งดวงตะวัน - Night Embrace (Dark-Hunter #2)


ชื่อเรื่อง พรานราตรี
ตอน ดั่งดวงตะวัน
จากเรื่อง NIGHT EMBRACE
ผู้แต่ง เชอริลีน แคนยอน
โรมานซ์ เหนือจริง
ผู้แปล จิตอุษา
สำนักพิมพ์ แก้วกานต์

เรื่องย่อ

พรานราตรีคือบรรดานักรบโบราณที่ได้รับการปลดปล่อยมาสู่โลกสมัยใหม่ เพื่อปกป้องมนุษย์จากปิศาจชั่วร้าย
ทาลอนเป็นหนึ่งในพรานราตรี ขณะที่เข้าช่วยปกป้องสาวสวยนางหนึ่งจากฝูงปิศาจ เขาก็ถูกรถขบวนแห่มาร์ดีกราส์คันหนึ่งแล่นชน แต่ซันไชน์ รันนิ่งวูลฟ์ผู้ร่าเริงแจ่มใสและงดงามดุจดวงตะวันช่วยชีวิตเขาไว้ หล่อนเป็นสตรีที่เหมาะกับพรานราตรีเช่นเขา เพราะไม่ต้องการอะไรที่เลยพ้นคืนนี้ไป ไม่ว่าจะความผูกพันหรือพันธะอันยาวนาน
แต่ทุกครั้งที่ทาลอนมองหล่อน ความใฝ่ฝันที่ฝังไว้เมื่อหลายร้อยปีก่อนก็ผุดพลุ่งขึ้นมาใหม่ แต่สำหรับเขาแล้ว การรักหล่อนนั้นหมายถึงการตายของหล่อน เขาถูกสาปไม่ให้พบความสงบหรือความสุข ศัตรูของเขารอคอยอยู่ในความมืดเพื่อทำลายเขาและสตรีที่เขารัก...

REVIEW

ทาลอนสูญเสียคนที่เขารักไปจนหมด รวมถึงภรรยาอันเป็นที่รักของเขา อันเนื่องมาจากคำสาปแช่งที่เขาได้รับมา ทำให้คนรอบข้างเขาต่างล้มตายไปทีละคน เมื่อเขากลายมาเป็นดาร์ค-ฮันเตอร์ ทาลอนก็เลือกที่จะขจัดอารมณ์ความรู้สึกทั้งหลายจนหมด แต่เมื่อเขาได้ะบกับซันไชน์ หล่อนเป็นศิลปิน เป็นผู้หญิงที่เขาไม่เคยได้สัมผัสมาก่อนตลอดหลายศตวรรษที่ผ่านมานี้ ซันไชน์ทำให้เขาเกิดความรู้สึกที่เขาหลงลืมไปนานมากแล้วขึ้นมาใหม่

ซันไชน์ฝันเห็นว่าหล่อนเคยเป็นนีเนีย ภรรยาสุดที่รักของทาลอนเมื่อชาติภพที่แล้ว ทั้งคู่เป็นรักแรกของกันและกัน ต่อมา ... ทาลอนสูญเสียนีเนียและลูกชายไปในการคลอดของภรรยา แต่ถึงกระนั้น ... แม้ว่านีเนียจะตายไปแล้ว และทาลอนก็ปราถนาในตัวของซันไชน์พอๆกับนีเนียของเขา แต่เขาก็จะไม่ยอมให้ตัวเองถลำลึกลงไปในความรู้สึกนั้นเด็ดขาด ดาร์ค-ฮันเตอร์คือหน้าที่ทั้งหมดของเขา ดังนั้นเขาจึงจะมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งกับหล่อนไม่ได้

เมื่อแคมูลัส เทพเจ้าที่เคยสาปส่งทาลอนกลับมาป่วนในชีวิตของเขาอีกครั้ง คราวนี้แคมูลัสมีแผนที่จะพรากซันไชน์ไปจากเขา ทาลอนจะไม่ยอมให้เป็นอย่างนั้นอีกแน่ๆ เขาจะไม่มีทางสูญเสียหล่อนไปอีกครั้งเป็นอันขาด

ทางด้านแอชรอน หัวหน้าของเหล่าดาร์ค-ฮันเตอร์ที่มีอายุยืนยาวมามากกว่าหนึ่งหมื่นปี เขาต้องรับมือกับความยุ่งยากที่เกิดขึ้น ทั้งเรื่องของซาเร็คที่ดูเหมือนจะตกเป็นผู้ต้องสงสัยสังหารมนุษย์ตามท้องถนน และพี่น้องของเขาที่มีหน้าตาเหมือนกับแอชรอนราวกับแกะที่กลับมาเพื่อท้าทายเขา ไหนจะเรื่องของสองพี่น้องเวนกับแฟ็งอีกที่มีบทบาทสำคัญ ทั้งคู่เป็นเวอร์-ฮันเตอร์ที่สามารถกลายร่างเป็นหมาป่าได้

ทาลอนต้องปล่อยซันไชน์ไป เพราะการรักหล่อนหมายถึงความตายของหล่อน ทาลอนขอร้องให้คิวปิดยิงศรตะกั่วในซันไชน์เพื่อที่หล่อนจะได้เกลียดเขาไปตลอดกาล แต่ศรกลับไม่มีผลใดๆต่อหล่อนเพราะเขาและซันไชน์เป็นคู่วิญญาณของกันและกัน ไม่ว่าอีกกี่ชาติภพ ทั้งคู่ก็จะกลับมาคู่กันอยู่ดี

ซันไซน์เผชิญหน้ากับแคมูลัสอีกครั้ง คราวนี้เขาเสนอวิญญาณของหล่อนกับการถอนคำสาปให้ทาลอน

ทาลอนมาช่วยชีวิตซันไชน์ไว้เมื่อสายเกินไป หล่อนถูกแคมูลัสทำร้ายจนสาหัสถึงแก่ชีวิต ทาลอนจึงรักษาหล่อนและรับเอาบาดแผลทั้งหมดมาไว้เสียเอง แม้ว่านั่นจะหมายถึงความตายของเขาก็ตาม

แอชรอนขอให้อาร์ทิมิสคืนวิญญาณให้แก่ทาลอนโดยแลกเปลี่ยนกับตัวเขา เมื่อทาลอนได้วิญญาณของตนคืนมาอีกครั้ง พี่น้องฝาแฝดของแอชรอนที่มีเป้าหมายทำลายโลกใบนี้โดยการปลดปล่อยเดอะเดสทรอยเออร์ออกมาก็ถูกอาร์ทิมิสส่งไปยังตรุทาร์ทารัส และทาลอนกับซันไชน์ก็ได้ใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันบนความเป็นอมตะชั่วนิรันดร์

.... .... อืม เราว่าเล่มนี้จบง่ายไปหน่อย(อีกแล้ว) หลังจากที่ทาลอนกับซันไชน์เผชิญอะไรต่อมิอะไรด้วยกันมา สุดท้ายก็กลับได้รับความช่วยเหลือจากเทพเจ้าในการแก้ไขปัญหาทั้งสิ้น ทาลอนแทบไม่ต้องต่อสู้อะไรเลยกับการจัดการศัตรูของเขา

แล้วไหนจะเรื่องนีเนีย ที่ดูเหมือนจะกลับชาติมาเกิดเป็นซันไชน์ แต่ความจริงแล้วไม่ใช่คนๆเดียวกัน มันทำให้คนอ่านรู้สึกสับสนว่าที่แท้จริงแล้วทาลอนรักผู้หญิงคนเดียวเท่านั้น(ทั้งภพก่อนหน้าและภพนี้) หรือรักผู้หญิงสองคนที่มีจิตวิญญาณเป็นดวงเดียวกัน เราว่าประเด็นมันไม่ค่อยเคลียร์นะ บางแง่มุมผู้เขียนก็ดูเหมือนจะจงใจให้ความรักของทาลอนที่มีให้นีเนียคือความรักที่มีให้กับซันไชน์เหมือนกัน บางครั้งก็ดูเหมือนทาลอนรักซันไชน์มากกว่า เพราะนีเนียของเขาตายไปแล้ว โดยตอนจบซันไชน์ยังสงสัยในเรื่องนั้นเลยว่าทาลอนอาจจะยังรักนีเนียอยู่ (ซึ่งจริงๆก็คือตัวซันไชน์นี่แหละ) เหมือนประเด็นนี้จะไม่ค่อยชัดเจนเลยอ่ะในความรู้สึกเรา

เล่มที่แล้วสนุกกว่าเล่มนี้นะ ทางด้านความเข้มข้นของอารมณ์ความรู้สึก หรือการดำเนินเรื่อง เล่มนี้มีตัวละครเพิ่มขึ้นเยอะไปหน่อยจนทำให้เนื้อเรื่องดูกร่อยๆไปบ้างเป็นบางตอน แต่ความสนุกก็ยังอยู่ในระดับเกรด B อยู่นะ

คะแนน 8.5/10 

No comments:

Post a Comment