Showing posts with label Non-Fiction. Show all posts
Showing posts with label Non-Fiction. Show all posts

Jul 23, 2015

Very Good Lives: The Fringe Benefits of Failure and the Importance of Imagination


ชื่อเรื่อง Very Good Lives
ผู้แต่ง J.K. Rowling
สำนักพิมพ์ Little, Brown and Company

เรื่องย่อ

In 2008, J.K. Rowling delivered a deeply affecting commencement speech at Harvard University. Now published for the first time in book form, Very Good Lives offers J.K. Rowling’s words of wisdom for anyone at a turning point in life, asking the profound and provocative questions: How can we embrace failure? And how can we use our imagination to better both ourselves and others?

Drawing from stories of her own post-graduate years, the world-famous author addresses some of life’s most important issues with acuity and emotional force.

REVIEW

เป็นหนังสือที่คมมาก ช่วงแรกๆแฝงไปด้วยอารมณ์ขัน ความล้มเหลว การจินตนาการและจุดพลิกผันของชีวิตที่ใครๆก็คาดไม่ถึง ชีวิตเป็นเรื่องซับซ้อน บางครั้งคุณอาจควบคุมมันไม่ได้ แต่มนุษย์อย่างเราๆรู้ว่าจะเอาชีวิตรอดจากมันมาได้ยังไง และการหลอกตัวเองว่าเรื่องยุ่งๆจะจบสวยเหมือนกับในนิทาน ทั้งๆที่ในความเป็นจริงมันไม่ใช่แบบนั้น ก็ไม่ได้ช่วยอะไรอีกเช่นเดียวกัน

พอมาถึงในช่วงท้ายก็เริ่มเข้าสู่การกล่าวถึงคุณค่าของความเป็นมนุษย์ และจากการทำงานของเจเคโรว์ลิ่งทำให้เธอได้เห็นผู้คนมากมายที่ผ่านประสบการณ์อันเลวร้ายมา และเธอยังได้พูดอีกว่าเราไม่ได้ต้องการเวทมตร์บนโลกใบนี้หรอก แต่เรามีพลังอยู่ในตัวเราเรียบร้อยแล้ว เรามีพลังที่จะคิดถึงในสิ่งที่ดีกว่า เธอได้ปลูกฝังให้รู้สึกการใช้จินตนาการเพื่อสัมผัสคนอื่น ได้รู้ว่าพวกเขารู้สึกยังไง

ยิ่งอ่านยิ่งชอบ จนต้องกลับไปอ่านซ้ำใหม่ คำพูดของเธอไม่ได้เรียบเป็นเส้นตรงและมันมี volume ที่ทำให้เรารู้สึกว่าตัวเองสามารถรับมือกับความล้มเหลวได้ดีขึ้นหลังจากอ่านหนังสือเล่มนี้จบแล้ว นอกจากนี้...เรายังรู้สึกชอบคำพูดของเจเคโรว์ลิ่ง ตรงที่เธอไม่ได้เริ่มต้นประโยคว่า 'พวกคุณต้อง...' อย่างที่บางคนนิยมใช้คำพูดพวกนี้ในกล่าวเปิดงานต่างๆ ซึ่งเราคิดว่ามันคล้ายกับการตีกรอบอนาคตไปในตัว 'พวกคุณต้องเป็นคนดีของประเทศชาติ' ใช่ ! คุณพูดถูกต้อง แต่เรารู้สึกว่ามันเป็นคำพูดที่กลวง ผ่านไปสองสามวันก็ลืมหมดแล้ว แต่ถ้ามองในแง่กลับกันว่า...หากลองใช้คำพูดที่ทิ้งแง่คิด คำพูดธรรมดาๆนี่แหละ ที่ทำให้เราเริ่มต้นตั้งคำถามกับตัวเองหลังฟังจบว่า 'เออ มันก็จริงนี่นา !?' เราว่ามันจะดีกว่าเยอะเลย

เจเคโรว์ลิ่งเธอมีความสามารถที่จะขัดเกลาคำพูดธรรมดาๆให้ออกมาไม่ธรรมดา บทความไม่กี่หน้าแต่ทำให้เรารู้สึกได้อะไรมากกว่านั้น สุดยอดจริงๆ ... อ่านไปก็ขำกิ๊กๆตรงมุกแฮร์รี่ พอตเตอร์ที่เธอยิงมาได้ถูกที่ถูกเวลา โดยเฉพาะตอนท้ายนี่เราขำก๊ากเลย
"They are my children's godparents, the people to whom I've been able to turn in times of trouble, people who have been kind enough not to sue me when I took their names for Death Eaters."
ที่จริงหนังสือเล่มนี้คือ Commencement ตั้งแต่ปี 2008 โน่นแน่ะ แต่สนพ.เพิ่งจะเอามาตีพิมพ์ปีนี้ เห็นบอกว่ารายได้ทั้งหมดจะเข้ามูลนิธิ Lumos เพื่อช่วยเหลือเด็กๆที่ประสบความยากจน บกพร่อง ตามประเทศต่างๆ (ตามที่กล่าวไว้ท้ายเล่ม)
คะแนน 8.5/10

Jan 31, 2015

American Sniper


ชื่อเรื่อง วีรบุรุษมัจจุราช
จากเรื่อง American Sniper
ผู้แต่ง Chris Kyle, Scott McEwen, Jim DeFelice
แนว ชีวประวัติ
ผู้แปล ยุทธวี ยุทธวงศ์ชัย
สำนักพิมพ์ น้ำพุ

เรื่องย่อ

บนอาคารร้างกลางเมืองนาซีรียา ประเทศอิรัก คริส ไคล์ พลชุ่มยิงของหน่วยซีล ทำหน้าที่คุ้มกันทหารนาวิกโยธินที่กำลังเดินลาดตระเวน ทุกอย่างดูเงียบสงบ เด็กๆ กำลังเล่นกันอยู่บนท้องถนน แต่จู่ๆ หญิงชาวบ้านคนหนึ่งก็เดินมาทางขบวนทหารพร้อมระเบิดในมืด หัวหน้าตะโกนเร่งให้เหนี่ยวไก่ แต่ไคล์กลับลังเล นี่เป็นครั้งแรกที่เขาจะต้องฆ่าผู้หญิงแถม ถ้าทำพลาด เด็กๆ ก็อาจโดนลูกหลงไปด้วย แต่ถ้าไม่ยิง เพื่อนร่วมชาตินับร้อยจะจ้องตาย

การตัดสินใจในครั้งนั้นเป็นก้าวแรกของชายผู้ถูกเรียกขานว่า วีรบุรุษมัจจุราช เขาสังหารศัตรูได้มากที่สุดในประวัติศาสตร์ของกองทัพ และช่วยชีวิตคนนับล้าน นั่นทำให้เขากลายเป็นวีรบุรุษของชาติ แต่ด้วยหน้าที่ที่ไม่ต่างจากมัจจุราช เขาจึงเป็นปีศาจร้ายที่ตกเป็นเป้าไล่ล่าอันดับหนึ่งของศัตรูเช่นกัน

REVIEW

คริส ไคล์เริ่มต้นจากเด็กหนุ่มธรรมดาๆที่ชีวิตของเขาเปลี่ยนแปลงไปเรื่อยๆ จนกระทั่งเขาได้มาอยู่ในหน่วยซีลและได้ต่อสู้เคียงบ่าเคียงไหล่กับนาวิกโยธินในสงครามของอิรัก นอกจากสถิติการซุ่มยิงของเขาเป็นที่ถูกกล่าวขานแล้ว ชีวิตของเขาก็ไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ เมื่อเขามีครอบครัวที่ต้องรับผิดชอบ แต่ในเมื่อสายเลือดนักรบมันแล่นอยู่ในตัวของเขา ดังนั้นจึงไม่น่าแปลกใจเราที่คริสจะเห็นความสำคัญของประเทศชาติมาก่อนครอบครัว

ประสบการณ์เฉียดตายในสนามรบไม่เคยทำให้คริสย่อท้อหรืออยากเลิดเป็นทหารแม้แต่อย่างใด เขาต้องการกำจัดกบฎให้หมดสิ้นและมีส่วนร่วมในการทำสงครามให้มากที่สุด คริสต้องเผชิญกับการสูญเสียเพื่อนร่วมทีมและสภาวะกดดันระหว่างออกรบ รวมถึงความเจ็บป่วยที่เขาคาดไม่ถึงมาก่อน เมื่อถึงปลายทางแห่งความรักชาติของเขา คริสต้องตัดสินใจเปลี่ยนแปลงชีวิตของตนเองครั้งยิ่งใหญ่ด้วยการลาออกจากหน้าที่และกลับมาดูแลครอบครัวของเขาให้ดีที่สุด

.........................................................

น่าเสียดายที่เราไม่ได้ติดตามข่าวสารหรือเรื่องสงครามอิรักเมื่อไม่กี่ปีก่อนหน้านี้ ไม่งั้นคงอ่านหนังสือเล่มนี้ได้มันกว่านี้แน่ๆ เราพยายามอ่านหนังสือเล่มนี้ด้วยใจที่เป็นกลาง และมองว่าสงครามมีทั้งด้านดีและด้านเลวร้ายแฝงอยู่เสมอ เราสัญญากับตัวเองว่าเราจะไม่ตัดสินใจคริส ไคล์หรือนาวิกโยธินคนไหนทั้งนั้น เพราะเราไม่เคยอยู่ในเหตุการณ์และไม่รู้ว่าแท้จริงแล้วสถานการณ์มันเป็นยังไง ถ้าเราไปตัดสินเรื่องนี้ตั้งแต่ต้น มันคงจะน่าเสียดายน่าดู...เพราะเราต้องอ่านหนังสือเล่มนี้ด้วยใจที่เป็นอคติแน่นอน

สำหรับเนื้อเรื่อง เราต้องขอบอกไว้ก่อนว่านี่ไม่ใช่ฉบับภาพยนตร์ ที่อัดแน่นไปด้วยความสนุกตื่นเต้น หรือทริลเลอร์ในบรรยกาศของสงคราม หนังสือเล่มนี้เป็น Biography ที่ถูกเขียนโดยทหารผ่านศึกที่มีประสบการณ์นองเลือดมาอย่างโชกโชน ดังนั้นเรื่องราวที่เขาเล่าเลยอัดแน่นไปด้วยข้อมูลและเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจริงๆอย่างไม่แน่สงสัย

เราพบว่าภาษาที่คริส ไคล์ใช้เล่ามีความดิบและดูห้วน ทำให้เราสะดุดไปหลายครั้งระหว่างการอ่านด้วยการเล่าสถานการณ์ที่กระโดดไปมา ขาดความต่อเนื่องที่จะทำให้ผู้อ่านพอจะเชื่อมโยงเหตุการณ์ต่างๆที่เกิดขึ้นเข้าด้วยกัน เราเข้าใจว่าตอนเขียนหนังสือเล่มนี้คริส ไคล์พยายามคัดเอาเหตุการณ์เฉพาะที่เขาพอจะนึกออก(และอยากนำมาเล่า) แล้วก็นำมาเรียงทามไลน์ใหม่ทั้งหมด เพราะตัวเขาก็ปฏิบัติหน้าที่มาเป็นสิบๆปี จะให้ถ่ายทอดเนื้อเรื่องออกมาเหมือนนิยายเล่มหนึ่งมันก็คงไม่ใช่ ดังนั้นต้องมีเหตุการณ์บางอย่างที่เขาจำไม่ได้ และหายไประหว่างหน้ากระดาษแน่นอน

แรกๆสนุก อ่านเพลิน น่าสนใจ กลางๆ-หลังๆ เริ่มไม่อยากอ่าน ความน่าสนใจในช่วงแรกค่อยๆหายไป มีรายละเอียดของสงครามที่ดำเนินต่อไปอย่างยืดยาวเข้ามาแทนที่เลยรู้สึกน่าเบื่อไปหน่อย

คะแนน 6.5/10