Showing posts with label Kiera Cass. Show all posts
Showing posts with label Kiera Cass. Show all posts

May 7, 2015

The Heir (The Selection #4)


ชื่อเรื่อง The Heir
ผู้แต่ง Kiera Cass
วรรณกรรมเยาวชน โรมานซ์-ดิสโทเปีย
สำนักพิมพ์ HarperTeen

เรื่องย่อ

Princess Eadlyn has grown up hearing endless stories about how her mother and father met. Twenty years ago, America Singer entered the Selection and won the heart of Prince Maxon—and they lived happily ever after. Eadlyn has always found their fairy-tale story romantic, but she has no interest in trying to repeat it. If it were up to her, she'd put off marriage for as long as possible.

But a princess's life is never entirely her own, and Eadlyn can't escape her very own Selection—no matter how fervently she protests.

Eadlyn doesn't expect her story to end in romance. But as the competition begins, one entry may just capture Eadlyn's heart, showing her all the possibilities that lie in front of her . . . and proving that finding her own happily ever after isn't as impossible as she's always thought.

REVIEW

อิดลินต้องสืบทอดบัลลังก์ราชีนีต่อจากอเมริกา มารดาของเธอ แต่เมื่อสถานการณ์บ้านเมืองไม่สงบสุขสักเท่าไร แม็กซอนจึงวางแผนที่จะจัด The Selection ขึ้นมาเพื่อดึงดูดความสนใจ ดังนั้นอิดลินจึงตกเป็นเป้าของการแข่งขันครั้งใหม่ แต่กติกายังคงเดิม เพียงเปลี่ยนจากหญิงสาวสามสิบห้าคนมาที่ได้เข้าแข่งขัน คราวนี้กลายเป็นชายหนุ่มมากหน้าหลายตาที่ต่างลงแข่งขันเพื่อที่จะเอาชนะใจเจ้าหญิงอิดลินให้ได้

อิดลินกำจัดผู้เข้าแข่งขันของเธอออกเป็นจำนวนมากในครั้งแรกอย่างบ้าบิ่น และนั่นทำให้เธอวางแผนที่จะจูบกับไคล์เพื่อให้กล้องจับได้เพื่อเรียกกระแสของ The Selection จากนั้นเธอก็กล้ำกลืนฝืนใจที่จะขับเคลื่อนให้การแข่งขันครั้งนี้ลุล่วงไปได้ด้วยดี แต่อิดลินก็ได้รู้จักกับเฮนรี่ เฮล อีริค ฟ็อกซ์ที่ต่างคนต่างก็มีที่มาที่ทำให้เธอตัดสินใจไล่พวกเขาออกจากการแข่งขันไม่ได้

เมื่ออิดลินตัดสินใจเลือกใครไม่ได้ เป็นเพราะเธอไม่อยากที่จะเปิดใจกับใครสักคนและแต่งงานกับเขา นั่นทำให้สถานการณ์แย่ลงเรื่อยๆ เมื่อน้องชายฝาแฝดของเธอหนีไปแต่งงานกับเจ้าหญิงฝรั่งเศส และแม่ของเธอก็หัวใจวายกระทันหัน สุดท้ายอิดลินก็ได้รู้ว่าความรักที่แท้จริงมันเป็นแบบไหน และเธอตั้งมั่นว่าจะขับเคลื่อน The Selection ครั้งนี้ให้ผ่านพ้นไปได้ด้วยดีให้ได้

....................................................................................

เนื้อเรื่องนิ่งมาก อ่านตั้งหลายวันกว่าจะจบ และก็เบื่อมากๆ บวกกับพลอตเก่าที่นำมาขายซ้ำใหม่อีกครัั้ง ทุกอย่างเลยดูไม่มีอะไรน่าตื่นใจแปลกใหม่อีกแล้ว พลอตเกมส์การแข่งขันที่ใช้ในสามเล่มแรก บอกเลยว่าสำหรับในเล่มนี้มันไม่ได้ผลสำหรับเราจริงๆ ส่วนตัวละครนางเอกอย่างอิดลินเราว่ามันแย่ แย่มากๆ คือนางถูกสปอยล์มากเกินไปหรืออย่างไร ทำไมดูไม่มีวุฒิภาวะเลย ทั้งๆที่น้องชายฝาแฝดของนางยังจะดูโตมากกว่า ดูเป็นผู้ใหญ่กว่านางอีก ตอนแรกเราเอ็นดูนางนะ เพราะนางน่ารัก แต่หลังๆนี่ชักมากไปหน่อยละ -*- แถมเนื้อเรื่องยังเล่าผ่านมุมมองนางอีก โอยยย อยากจะร้องไห้

นี่บอกเลยว่า Kiera Cass มาแนวเดียวกับ Sylvia Day อีกละ หนังสือตัวเองน่าทำเป็น Trilogy แล้วจบแบบอีพิคไปเลย แต่ในเมื่อของเก่ายังมันขายได้เรื่อยๆ ก็เลยเขียนเล่ม 4 เล่ม 5 เพิ่ม แต่เรื่องของแม็กซอนกับอเมริกามันจบไปแล้ว เลยตัดสินใจเขียนเรื่องรุ่นลูกต่อไปอีก จะได้ขายได้อีกสองเล่มสวยๆ ทำเป็น Pentalogy จบปิ๊ง!

เล่มนี้ดีกว่าเล่มแรกหน่อยนึง จำได้ว่าตอนอ่าน The Selection นี่รำคาญนางเอกมาก แต่ The Heir นิสัยนางเอกแย่กว่าเล่มแรกอีกนะ แต่เรากลับไม่ค่อยรำคาญ สงสัยเป็นเพราะสกิลการเขียนของผู้แต่งพัฒนาขึ้นด้วยละมั้ง มันเลยออกมาไม่หนักหนาเท่าไร

คะแนน 5/10

Nov 27, 2014

The One (The Selection #3)


ชื่อเรื่อง The One
ผู้แต่ง Kiera Cass
วรรณกรรมเยาวชน โรมานซ์-ดิสโทเปีย
สำนักพิมพ์ HarperTeen

เรื่องย่อ

The time has come for one winner to be crowned.

When she was chosen to compete in the Selection, America never dreamed she would find herself anywhere close to the crown—or to Prince Maxon's heart. But as the end of the competition approaches, and the threats outside the palace walls grow more vicious, America realizes just how much she stands to lose—and how hard she'll have to fight for the future she wants.

REVIEW

พวกกบฎรุกคืบพระราชวังเข้ามาเรื่อยๆ ตอนนี้เหลือ the Elite ทั้งหมดสี่คน และสถานะของอเมริกาในการแข่งขันครั้งนี้ก็ย่ำแย่ได้ที่ เมื่อกบฏทางเหนือนัดคุยกับแม็กซอนและอเมริกาเป็นการส่วนตัวเพื่อขอให้พวกเขายกเลิกระบบชนชั้น วิถีทางเดียวคือแม็กซอนต้องขึ้นเป็นพระราชาและจบเกมส์นี้ให้โดยเร็วที่สุด ก่อนที่กบฎจากทางใต้จะปฏิวัติและยึดครองอำนาจไปทั้งหมดไปอยู่ในมือของพวกเขา

อเมริการู้ใจตัวเองในที่สุดว่าเธอรักแม็กซอนเข้าแล้วจริงๆ แต่เธอก็ไม่ได้สารภาพให้เขาฟัง หลังจากนั้นแม็กซอนและอเมริกาแอบไปลักลอบพบกบฏทางจากเหนือเพื่อพูดคุยและวางแผนในการจัดการกบฏจากทางใต้ที่เริ่มโจมตีรุนแรงขึ้นเรื่อยๆโดยเริ่มจากครอบครัวของระดับสองและไล่ระดับลงไปเรื่อยๆ พระราชาหวังให้อเมริกาใช้ความประทับใจของประชาชนที่มีต่อเธอชักจูงให้พวกเขาพอใจในสภาพความเป็นอยู่ของตัวเอง แต่อเมริกาไม่คิดจะทำตามนั้นหลังจากที่เธอตัดสินหัวขโมยโดยการมอบเครื่องเพชรของเธอให้กับเขา นั่นทำให้พระราชารู้สึกไม่พอใจในตัวของอเมริกาอย่างมาก

อเมริกาได้รับข่าวว่าพ่อของเธอเสียชีวิต ดังนั้นเธอจึงมุ่งหน้ากลับบ้านทันที หลังจากจัดงานศพเรียบร้อยแล้วอเมริกาก็กลับมายังพระราชวังและรู้ว่าแม็กซอนประกาศงานแต่งงานแล้ว และเธอก็เป็นคนที่แม็กซอนเลือกให้มาเป็นภรรยาของเขาเสียด้วย คืนนั้นทั้งคืนอเมริกาและแม็กซอนอยู่ด้วยกันและสารภาพความรู้สึกของแต่ละฝ่ายออกมาทั้งหมด จนกระทั่งตอนที่อเมริกาตัดสินใจไปอธิบายให้แอสเพนฟังว่าสุดท้ายแล้วเธอก็รักแม็กซอน โชคร้ายที่แม็กซอนมาเห็นทั้งคู่อยู่ด้วยกัน เขาโกรธอเมริกามาก และอเมริกาก็รู้ดีว่าทุกอย่างผิดพลาดไปหมดตั้งแต่วินาทีนั้น แม็กซอนก็รู้ในตอนนั้นว่าผู้ชายที่ครอบครองหัวใจอเมริกามาก่อนหน้าก็คือ ... แอสเพนนั่นเอง

เมื่อเวลาประกาศผู้ชนะของ The Selection มาถึง อเมริการู้ดีแล้วว่าเธอทำลายโอกาสไปเรียบร้อยแล้ว ทันใดนั้นก็เกิดความโกลาหลขึ้นเมื่อกบฏจากทางใต้แฝงตัวเข้ามาอยู่ในงานและกราดยิงผู้คนล้มตายมากมาย หนึ่งในนั้นคือพระราชาและราชินี แม็กซอนได้รับบาดเจ็บสาหัส ส่วนอเมริกาก็ถูกแอสเพนพาไปซ่อนยังที่ปลอดภัย

หลังจากเหตุการณ์ทั้งหมดสงบลง อเมริกาก็รีบตามหาแม็กซอนทันที และเขาก็บอกให้เธอรู้ว่า เขายังเลือกเธอ ไม่ว่าอเมริกาจะทำลายหัวใจเขาไปมากแค่ไหน ยังไงแม็กซอนก็ยังรักเธอ และจะปกป้องเธอเสมอไป ดังนั้น แม็กซอนจึงขึ้นเป็นพระราชา และ ... มงกุฎแห่งชัยชนะและเกียรติยศจึงตกเป็นของอเมริกาในท้ายที่สุด

..................................................................

มีประโยคนึงที่เราชอบมากๆในตอนจบ ตอนที่แม็กซอนพูดว่า "Break my heart. Break it a thousand times if you like. It was only ever yours to break anyway." นั่นทำให้เรารู้ว่าแม็กซอนโตแล้ว และเราเชื่อจริงๆว่าเขาตัวเป็นผู้ชายทีพร้อมจะเสียสละและกลายเป็นพระราชาในอนาคต ไม่ใช่แค่เด็กชายที่เรียกร้องต้องการในสิ่งที่เขาอยากได้มาโดยตลอด

ถือว่าเล่มนี้เป็นเล่มที่มีการเปลี่ยนแปลงคาแรคเตอร์หลายตัวเลยทีเดียว เพราะเนื้อเรื่องขับเคลื่อนมาจนถึงเล่มจบแล้ว ส่วนประเด็นการเมืองก็เข้มข้นขึ้นกว่าสองเล่มที่แล้วเป็นอย่างมาก และถึงจะไม่ได้ซับซ้อนซ่อนเงื่อนอะไรแบบที่เราหวัง แต่เราก็รู้สึกว่า The One คือหนังสือที่สนุกที่สุดในชุด The Selection การเข้าถึงไคลแมกซ์ในตอนท้ายก็ทำได้ดีพอสมควร แม้ว่ามันจะมาแบบไม่ทันตั้งตัวก็ตามเถอะ เพราะการปูเรื่องช่วงแรกถือว่านิ่งมากๆ นิ่งจนไม่คิดว่าจะหาตอนจบที่ทำให้เรารู้สึกชอบได้ แต่ท้ายสุดแล้ว ... ตอนจบแบบนี้ก็ถือว่าดีกว่าที่เราคาดเอาไว้จริงๆ การแก้ไขปัญหาอาจจะดูง่ายไปหน่อย อย่างเช่นเมื่อคิดว่าจัดการความขัดแย้งระหว่างพระราชากับอเมริกาไม่ได้ง่ายๆ ก็เลยตัดสินใจฆ่าตัวละครทิ้งซะเลย อืม ! แบบนี้น่าจะง่ายกว่าการไปนั่งจับเข่าคุยเคลียร์ปัญหากันตอนท้ายเนอะ 555 เพราะพระราชาตั้งตัวเป็นอริกับอเมริกาซะขนาดนั้น

สรุปว่าเล่มนี้ดี แม้ว่ายังจะมีการตัดสินใจและสาระบบความคิดที่น่ารำคาญปรากฏอยู่บ้าง แต่อย่างน้อยก็ได้เห็นการพัฒนาของตัวละครชัดๆในเล่มนี้นี่แหละ

คะแนน 7/10

Nov 13, 2014

The Elite (The Selection #2)


ชื่อเรื่อง The Elite
ผู้แต่ง Kiera Cass
วรรณกรรมเยาวชน โรมานซ์-ดิสโทเปีย
สำนักพิมพ์ HarperTeen

เรื่องย่อ

The hotly-anticipated sequel to the New York Times bestseller The Selection.

Thirty-five girls came to the palace to compete in the Selection. All but six have been sent home. And only one will get to marry Prince Maxon and be crowned princess of Illea.

America still isn’t sure where her heart lies. When she’s with Maxon, she’s swept up in their new and breathless romance, and can’t dream of being with anyone else. But whenever she sees Aspen standing guard around the palace, and is overcome with memories of the life they planned to share. With the group narrowed down to the Elite, the other girls are even more determined to win Maxon over—and time is running out for America to decide.

Just when America is sure she’s made her choice, a devastating loss makes her question everything again. And while she’s struggling to imagine her future, the violent rebels that are determined to overthrow the monarchy are growing stronger and their plans could destroy her chance at any kind of happy ending.

REVIEW

เหลือผู้เข้าแข่งขันเพียง 6 คนที่กลายมาเป็น the Elite และแล้วเหตุการณ์ไม่คาดฝันก็เกิดขึ้นเมื่อมาร์ลี เพื่อนสนิทของอเมริกาถูกจับได้ว่าไปมีความสัมพันธ์กับผู้ชายคนอื่นนอกเหนือจากแม็กซอน เธอจึงถูกลงโทษอย่างหนักต่อหน้าประชาชน นั่นทำให้อเมริกาตกใจเป็นอย่างมาก แต่แม็กซอนก็เข้ามาปลอบใจเธอและขอโอกาสกับเธอ อเมริการู้ตัวดีว่าเธอรู้สึกอะไรบางอย่างกับแม็กซอน ในขณะเดียวกันเธอก็ยังมีความรู้สึกที่ยังหลงเหลืออยู่กับแอสเพนเช่นเดียวกัน

กลุ่มขบถบุกเข้ามาในพระราชวังอีกครั้งพร้อมกับขโมยหนังสือออกไป อเมริกาที่ไล่ตามพวกนั้นเข้าไปในป่าพบว่าหญิงสาวคนหนึ่งในกลุ่มไม่ได้มีท่าทีคุกคามเธอแต่อย่างใด นั่นทำให้ทุกคนเริ่มตั้งข้อสงสัยเกี่ยวกับเรื่องนี้ อเมริกากลายเป็นที่โหล่ในการแข่งขันครั้งนี้ทันทีที่เธอเอาตัวไปขวางในการลงโทษมาร์ลี อเมริกาจึงเริ่มเป็นกังวลว่าคริส เพื่อนของเธออาจจะเป็นคนที่แม็กซอนชอบจริงๆก็ได้

อเมริกาจับได้ว่าแม็กซอนไปยืนกอดจูบกับเซเลสท์ ดังนั้นเธอจึงตัดสินใจทำอะไรโง่ๆลงไปอย่างเช่นการทำโปรเจคขอให้ยกเลิกการแบ่งชนชั้นในสังคมต่อหน้านักข่าว นั่นทำให้พระราชาไม่พอใจอเมริกาเป็นอย่างมากและคิดจะไล่เธอออกจากการแข่งขันนี้ เมื่อเวลาสุดท้ายของอเมริกาที่จะอยู่ในสถานะ the Elite กำลังจะหมดไป เธอกำลังจะถูกไล่ออก กลุ่มขบถก็บุกเข้ามาในวังอีกครั้งและโจมตีอย่างหนัก อเมริกาติดอยู่ในห้องกับแม็กซอนและได้ล่วงรู้ถึงความลับและรอยแผลทั้งหมดของเขา

อเมริกาเตรียมตัวออกจากการแข่งขันเมื่อแม็กซอนมาหาเธอและบอกว่าเธอได้รับโอกาสให้อยู่ต่อ แม้ว่าครั้งนี้พระราชาจะข่มขู่เธออย่างโน้นอย่างนี้ก็ตาม แต่อเมริกามั่นใจว่าต้องมีสักทางที่เธอจะชนะการแข่งขันนี้ให้ได้

.....................................................................

คาแรคเตอร์ของตัวละครไม่ไปไหนเลย ย่ำไปย่ำมาอยู่ตรงที่เดิม เล่มนี้อเมริกาก็เอาแต่คร่ำครวญโน่นนี่นี่นั่น โทษคนอื่นหมด ยกเว้นโทษตัวเอง ทั้งๆที่เล่มสองต้องได้เห็นการพัฒนาของตัวละครบ้างได้แล้ว แต่เราก็ยังไม่เห็นอยู่ดี เหมือนยิ่งอ่าน ตัวละครก็ถอยหลังลงคลองมากขึ้นทุกที อย่างแม็กซอนเนี่ย เข้าใจว่าผู้แต่งต้องการให้เห็นอีกมิติของตัวละครใช่มั้ย? แต่ทำไมเรามองว่าแม็กซอนเป็นเด็กไม่รู้จักโตมากกว่าเจ้าชายที่พร้อมจะทำหน้าที่ปกครองประเทศทั้งประเทศได้ล่ะ

เล่มนี้เคมีระหว่างพระนางไม่มีเลย เล่มหน้าก็เป็นเล่มจบแล้ว นี่จะทำให้เราเชื่อได้อย่างไรว่าแม็กซอนกับอเมริกาจะลงเอยกันได้จริงๆ เพราะมันก็เหลือแค่เล่มเดียวให้ได้แก้ตัวแล้วนะ แอบสงสัยว่าจะเคลียร์กันยังไงทั้งประเด็นรักสามเศร้าและพวกขบถที่ดูเหมือนจะยังมึนๆอยู่ ไม่รู้ว่าพวกนั้นต้องการอะไรกันแน่ นอกจากขโมยหนังสือและบุกเข้ามาในพระราชวังเนี่ย แล้วทำไมทางพระราชวังไม่หาทางป้องกันพวกขบถเสียตั้งแต่ทีแรกอย่างสร้างกำแพงสูงๆมากั้น หรือวางกลยุทธควบคุมคนเหล่านี้ ทำไมถึงปล่อยให้บุกเข้ามาในวังแล้วฆ่าทหารยามไปซะเยอะแยะ ? เราสงสัยจริงๆ

เนื้อเรื่องไม่กระดิกไปไหนเลยเล่มนี้ วนไปวนมาอยู่ตรงรักสามเศร้าระหว่างแม็กซอน-อเมริกา-แอสเพน ที่ดูเหมือนจะเคลียร์กันไม่ได้สักทีอยู่นั่นแหละ เราสงสัยว่าถ้ายุบหนังสือทั้งสามเล่มให้เป็นเล่มเดียว แล้วโฟกัสไปที่ประเด็นการเมืองให้มากกว่านี้ ตัดสาระบบความคิดงี่เง่าที่อยู่ในหัวนางเอกออกไปบ้าง หนังสือชุดนี้คงต้องน่าสนใจมากกว่านี้แน่ๆ

คะแนน 4/10

Sep 30, 2014

The Selection (The Selection #1)


ชื่อเรื่อง The Selection
ผู้แต่ง Kiera Cass
วรรณกรรมเยาวชน โรมานซ์-ดิสโทเปีย
สำนักพิมพ์ HarperTeen

เรื่องย่อ

For thirty-five girls, the Selection is the chance of a lifetime. The opportunity to escape the life laid out for them since birth. To be swept up in a world of glittering gowns and priceless jewels. To live in a palace and compete for the heart of gorgeous Prince Maxon.

But for America Singer, being Selected is a nightmare. It means turning her back on her secret love with Aspen, who is a caste below her. Leaving her home to enter a fierce competition for a crown she doesn't want. Living in a palace that is constantly threatened by violent rebel attacks.

Then America meets Prince Maxon. Gradually, she starts to question all the plans she's made for herself—and realizes that the life she's always dreamed of may not compare to a future she never imagined.

REVIEW

อเมริกา ซิงเกอร์ ไม่นึกไม่ฝันว่าเธอจะต้องเข้าร่วมการแข่งขัน The Selection ในการเลือกเฟ้นหญิงสาวเพียงหนึ่งเดียวเพื่อเป็นคู่ครองของเจ้าชายแม็กซอน จากผู้เข้าแข่งขัน 35 คน อเมริกาไม่คิดที่จะเป็นผู้ชนะในเกมครั้งนี้แม้แต่น้อย เพราะเธอไม่ได้สนใจแม็กซอน แต่แอสเพน ผู้ชายที่อเมริกาเคยรักก็กลับมาทิ้งเธอไป เพื่อให้เธอได้พบกับชีวิตที่ดีกว่าการอยู่กับเขา อเมริกาจึงไม่มีทางเลือกนอกจากเข้าร่วม The Selection ตามแรงผลักดันจากแม่ของเธอ

อเมริกาได้ใช้ชีวิตในพระราชวังอันหรูหรา รายล้อมไปด้วยคนรับใช้และผู้เข้าแข่งขันมากหน้าหลายตา ค่ำคืนแรกอเมริกาได้พบกับแม็กซอนและได้แสดงเจตจำนงออกไปชัดเจนว่าเธอไม่อยากเข้าร่วมการแข่งขันครั้งนี้แม้แต่น้อย แม็กซอนจึงเสนอว่าเขาขอเป็นแค่เพื่อนกับเธอเท่านั้น

เมื่อพระราชวังไม่ใช่สถานที่ที่ปลอดภัยหรูหราอย่างที่ทุกคนคิด ขบถชาวเหนือและใต้ต่างบุกเข้ามาโจมตีพระราชวังบ่อยครั้งด้วยจุดประสงค์ที่แตกต่างกันออกไป แม็กซอนคาดว่าขบถชาวใต้ต้องการทำลายพวกเขา ในขณะที่ขบถชาวเหนือต้องการของบางอย่างจากพวกเขา

แม็กซอนและอเมริกาสนิทสนมกันเร็วกว่าที่คิดว่าหญิงสาวตัดสินใจเล่าเรื่องของตัวเองให้แม็กซอนฟังพร้อมกับเผยสาเหตุว่าทำไมเธอถึงอยากอยู่ห่างๆจากบ้าน แม็กซอนจึงสัญญากับอเมริกาว่าเขาจะทำทุกอย่างเพื่อยื้อให้เธอเป็นผู้เข้ารอบสองคนสุดท้ายให้ได้

จูบแรกของแม็กซอนเป็นของอเมริกา เมื่อแอสเพนเข้ามาเป็นทหารเฝ้ายามในพระราชวังและได้พบกับอเมริกาอีกครั้ง จิตใจของเธอก็หวั่นไหวหลงลืมไปกับผู้ชายคนที่เธอเคยรัก จนกระทั่งมีการบุกโจมตีจากกลุ่มขบถและพระราชวังตกอยู่ในความสงบในที่สุด แม็กซอนก็ประรายชื่อ The Elite 6 คนสุดท้ายที่จะได้เข้ารอบ แม็กซอนมาพบอเมริกาที่ห้องและพยายามเคลียร์ความรู้สึกทั้งคู่ จากนั้นแอสเพนก็เข้ามาหาเธอ อเมริกาตัดสินใจทีจะทิ้งระยะห่างระหว่างเธอกับแอสเพน แต่แอสเพนก็ไม่ยอมแพ้ พร้อมกับสัญญาว่าเขาจะพยายามให้หนักขึ้น เพื่อที่จะชนะใจอเมริกาอีกครั้ง

.............................................................................................

ต้องยอมรับว่าช่วงหลังๆนิยาย YA ขยันออกแนว Dystopia มาจนเกลื่อน และในนั้นมีทั้งเรื่องที่สนุกและไม่สนุก สำหรับ The Selection เราว่าพลอตอ่อนมากๆถึงมากที่สุด เนื้อเรื่องไม่ได้มีอะไรนอกจากจะดำเนินไปเหมือนกับเกม The Bachelor ที่มีแบ็คกราวน์เป็นพระราชวังเท่านั้นเอง ตัวละครหลักของอเมริกานั้นมีบุคลิกที่น่ารำคาญตามประสาตัวละครหญิงในนิยาย YA เลยจริงๆ เธอมีความขัดแย้งในตัวเองแต่การตัดสินใจของเธอทำให้เราหงุดหงิดหลายต่อหลายครั้ง แบบ เอาจริงดิ !? คิดอย่างนี้น่ะหรอ !? คือบอกตรงๆว่าเราไม่ถูกจริตกับบุคลิกของอเมริกาตั้งแต่แรกเริ่มเดิมทีแล้ว

เรื่องนี้เล่าหลังหลังสงครามโลก และมีการแบ่งสถานะคนเป็นระดับชั้นตั้งแต่ 1-8 ระดับ 8 คือระดับล่าง ดังนั้นจึงมีการเลือกสรรหญิงสาวตัวแทนจากที่ต่างๆเพื่อมาแข่งขันเกมเอาชนะใจเจ้าชาย ซึ่งนางเอกก็ไม่คิดอยากจะเข้าร่วมเกมนี้เอาเสียเลยตั้งแต่ทีแรก กลับถูกคัดเลือกจนได้ อืม ! พลอตแบบนี้คุ้นๆไหม ใช่แล้ว ! มันคือพลอตจาก The Hunger Games และเนื้อเรื่องส่วนใหญ่ 70% ได้มั้ง แทบจะเหมือนกับ The Hunger Games หมดเลย มีผู้ชายสองคนเข้ามาพัวพันกับนางเอก คนนึงเป็นคนรักเก่า(เกล) อีกคนเป็นผู้ชายในเกมที่เธอต้องมามีส่วนร่วม(พีต้า)...

การเขียนของ Cass เราว่ามันเบาโหวงในทุกจุด ไม่มีจุดไหนที่เราจะสามารถหยิบยกแล้วบอกว่า 'นี่เป็นไคลแมกซ์ของเรื่องนะ' ได้เลย ถึงแม้ว่าเธอจะใส่ประเด็นของกบฎเข้ามา แต่เราก็ไม่ได้รู้สึกตื่นเต้นไปด้วยเลยในช่วงท้ายๆเรื่อง ดังนั้นการอ่านตลอดทั้งเรื่องของเราจึงเป็นกราฟที่ดิ่งลงๆมากขึ้นเรื่อยๆ คิดอยากจะเลิกอ่านหลายครั้ง แต่พอดีเล่มมันไม่ได้หนาก็เลยทนๆอ่านจนจบ แต่บอกได้เลยว่าอ่านจบแล้วไม่ประทับใจเลย เนื่องด้วยเหตุผลหลายประการ

- พลอตเหมือน The Hunger Games จนคิดว่าเป็นเรื่องเดียวกันในตอนแรก
- Love triangle ระหว่างตัวละครทั้งสามไม่ได้ส่งเสริมให้เนื้อเรื่องน่าสนใจขึ้น แต่กลับฉุดให้เนื้อเรื่องดิ่งลง
- การปูพื้นในเล่มหนึ่งอ่อนมาก เพราะปกตินิยายชุดจะใช้เล่มแรกในการปูพื้น แต่สำหรับ The Selection อ่านเล่มแรกจบแล้วยังไม่เห็น Scope จริงๆของเรื่องเลยด้วยซ้ำ
- อเมริกาทำตัวได้น่ารังเกียจมาก เธอใช้ความรู้สึกของแม็กซอนเป็นเครื่องมือในการให้ตัวเองไม่ต้องออกจากการแข่งขันตั้งแต่เนิ่นๆ คืออ่านจริงๆแล้วจะรู้สึกว่า เฮ้อ ! นี่หรอนางเอก ?
- เนื้อเรื่องเป็นแนวดิสโทเปียที่ภาพรวมกลวงๆ ให้อารมณ์เหมือนจับนิยายเรื่องนู้น หนังเรื่องนี้ รายการทีวีอันนั้นมายำรวมกัน แล้วก็ ปุ๋ง ! กลายเป็น The Selection
- ฯลฯ

จัดไป 2 คะแนนเบาๆก่อน รอดูว่าเล่มหน้าจะดีขึ้นกว่าเล่มนี้มั้ย ...

คะแนน 2/10