Jan 3, 2021

ไวส์เคานต์ที่เฝ้ารอ - The Viscount Who Loved Me (Bridgertons #2)



ชื่อเรื่อง ไวส์เคานต์ที่เฝ้ารอ (The Viscount Who Loved Me) 
จากชุด บริดเจอร์ตัน (Bridgertons)
ผู้แต่ง Julia Quinn
ผู้แปล มัณฑุกา
โรมานซ์ ย้อนยุค
สำนักพิมพ์ แก้วกานต์

เรื่องย่อ

ฤดูออกงานของปี 1814 คงมีเรื่องราวเกิดขึ้นมากมาย แต่ผู้เขียนเชื่อว่า แอนโทนี บริดเจอร์ตันผู้หวงแหนสถานภาพชายโสดของตนอย่างยิ่งยวดคงเป็นข้อยกเว้น ขุนนางหนุ่มผู้นี้ดูไม่มีท่าทีอยากจะแต่งงานเลยแม้แต่น้อย และในความเป็นจริง เขาจะอยากลงหลักปักฐานไปทำไมเล่า ในเมื่อเขาเล่นบทชายเสเพลได้ดีเกินหน้าบุรุษใด --หนังสือพิมพ์ข่าวสังคมของเลดี้วิสเซิลดาวน์, เมษายน 1814

แต่ครั้งนี้นักเขียนคอลัมน์ข่าวซุบซิบเดาผิด

แอนโทนี บริดเจอร์ตันเพิ่งตัดสินใจที่จะแต่งงาน และเขาเลือกเจ้าสาวไว้แล้วด้วยซ้ำ! อุปสรรคหนึ่งเดียวของเขาก็คือ พี่สาวของว่าที่ภรรยา เคท เชฟฟิลด์ หญิงสาวจอมจุ้นจ้านอันดับหนึ่งในลอนดอนผู้มีฝีปากกล้าคนนี้กำลังจะทำให้แอนโทนีเป็นบ้าด้วยการขัดขวางแผนการของเขา แต่ทว่าในยามหลับใหล เคทกลับเป็นสตรีที่หลอกหลอนเขาในความฝันที่นับวันก็วาบหวามขึ้นเรื่อย ๆ

เคทไม่เห็นด้วยกับความเชื่อที่ว่า ชายเสเพลที่กลับใจจะเป็นสามีชั้นยอด และแอนโทนี บริดเจอร์ตันก็เป็นเสือผู้หญิงขั้นเลวร้ายที่สุด เคทหมายมั่นจะปกป้องน้องสาว แต่หัวใจของเธอกลับไร้เกราะกั้น เพราะเมื่อริมฝีปากของแอนโทนีสัมผัสเธอ จู่ ๆ เธอก็กลัวว่าเธออาจจะต้านทานชายเสเพลผู้นี้ไม่ได้เสียเอง...

REVIEW

แอนโทนี บริดเจอร์ตันคิดว่าเขาต้องแต่งงานและลาโลกก่อนวัยอันควร การสูญเสียบิดาจากการถูกผึ้งต่อยยังคงเป็นความหลังฝังใจ ดังนั้นเมื่อเขารู้ว่าเอ็ดวินา เชฟฟิลด์คือเพชรน้ำเอกของฤดูกาลนี้ เขาก็ตั้งใจแต่งงานกับหล่อนทันที แต่เคทรู้ชื่อเสียงของผู้ชายคนนี้ ดังนั้นหล่อนจึงตั้งใจจะขัดขวางเขาไม่ให้แต่งงานกับน้องสาวของหล่อนทุกวิถีทาง

แม้ว่าเคทจะสวยสู้กับเอ็ดวิน่าก็ได้ แต่แอนโทนีก็ต้องยอมรับว่าเขารู้สึกอะไรบางอย่างกับเธอ ทั้งคู่ปะทะคารมณ์กันหลายทั้ง ตั้งแต่งานเลี้ยงไปจนถึงการพานิวตัน สุนัขพันธุ์คอร์กี้ของเคทไปเดินเล่นซึ่งนำไปสู่หายนะอันแสนร้ายกาจเมื่อนิวตันวิ่งชนเอ็ดวินาจนหล่อนตกน้ำ แอนโทนีลงไปช่วยและเขาเดือดดาลเป็นอย่างมาก


เคทกำลังหลบอยู่ในงานเลี้ยงเมื่อแอนโทนีพามาเรีย รอสโซเข้ามาในห้องทำงาน หวังจะลืมผู้หญิงร้ายกาจคนนั้นที่หลอกหลอนเขาในความฝัน แต่หารู้ไม่ว่าเคทที่หลบอยู่ใต้โต๊ะทำงานเป็นพยานรู้เห็น แอนโทนีจับเธอได้ เขาจึงขอให้มาเรียออกจาห้องไป จากนั้นเขาก็จูบเธอ แม้ว่าเคทำพยายามจะลืมจูบนั้นแค่ไหน เธอก็ไม่สามารถทำได้ แต่เคทสาบานว่าหล่อนจะไม่ยอมให้เสือผู้หญิงอย่างแอนโทนีแต่งงานกับเอ็ดวินาเด็ดขาด

หลังจากนั้นมิสซิสบริดเจอร์ตันก็ชวนครอบครัวเชฟฟิลด์ไปยังคฤหาสน์ประจำตระกูล ที่นั่นพวกหล่อนได้รับการต้อนรับ เคทแก้แค้นแอนโทนีในการแข่งขันเพลเมลโดยการตีลูกของเขาตกน้ำ ทั้งคู่กลับมายังคฤหาสน์และแอนโทนีจะต้องรู้ให้ได้ว่าตอนนี้เคทคิดยังไงกับเขา และเขาก็เค้นความจริงจากปากของหล่อนมาได้สำเร็จเสียด้วย หล่อนไม่เกลียดเขาแล้ว

เคทที่นอนไม่หลับไปยังห้องหนังสือ หญิงสาวกลัวเสียงฟ้าร้องได้แต่คู้ตัวอยู่ใต้โต๊ะเมื่อพายุฝนกระหน่ำคฤหาสน์กระทั่งแอนโทนีไปพบหล่อน เขาปลอบหล่อนจนเคทเล่าเรื่องพ่อแม่ให้ฟัง ว่าหล่อนคิดถึงพวกเขาแค่ไหน และเหตุการณ์นี้ก็ทำให้เคทสนิทกับแอนโทนีและมองเขาเปลี่ยนไป

เมื่อแอนโทนีเจอเคทที่เดินเล่นในสวน บทสนทนานำไปสู่การที่เคทถูกผึ้งต่อย เขาตะหนกเมื่อเห็นสาเหตุการตายของบิดาเกิดขึ้นตรงหน้าอีกครั้ง แอนโทนีตัดสินใจดูดพิษให้กับเธอ ระหว่างนั้นก็มีคนมาเห็นเข้าและแอนโทนีจำต้องแต่งงานกับเคทในท้ายที่สุด ขณะที่เอ็ดวินาก็พบรักกับนักวิชาการที่เธอต้องการพอดี

แอนโทนีบอกชัดเจนว่าจะไม่มีความรักในชีวิตคู่ครั้งนี้ หากถึงเวลาที่เขาต้องลาโลกใบนี้ไป ความรักจะเป็นสิ่งที่ทำให้เขาต้องทนทรมานกว่าจะถึงเวลานั้น เมื่อเริ่มต้นชีวิตคู่ แอนโทนีก็ช่วยให้เคทรู้ถึงสาเหตุของการกลัวเสียงฟ้าร้องและเอาชนะมัน แต่สำหรับเขา ความกลัวกลับหยั่งรากลึกยิ่งกว่านั้น พอหล่อนบอกว่าต้องการเขาตลอดกาลและตลอดไป แอนโทนีก็สติแตกแล้วรีบร้อนออกจากบ้าน

แต่เมื่อคอลินและเบเนดิกต์ก็ทำให้แอนโทนีคิดได้ว่าถ้าเขารักเธอ ก็แค่ต้องบอกเธอ แอนโทนีจึงรุดหน้ามาหาเคทและพบว่าเธอประสบอุบัติเหตุรถม้าคว่ำ เขาเกือบจะสูญเสียเธอไป แอนโทนีบอกเล่าความกลัวและสังหรณ์ให้หล่อนฟังจนหมดและบอกว่าเขารักเธอ ซึ่งไม่มีอะไรจะมาพิสูจน์ได้ว่าเขาจะไม่จบชีวิตก่อนวัยอันควร แต่เมื่อได้เข้าใจความรักแล้ว เขาจะไม่ยอมเสียวินาทีเดียวที่จะได้อยู่กับเคท ผู้หญิงที่เขารัก

แต่สุดท้าย หลายปีผ่านไป แอนโทนีก็ได้ฉลองวันเกิดปีที่สามสิบเก้า ไม่มีเรื่องน่ากลัวเกิดขึ้น มีเพียงเลดี้วิสเซิลดาวน์ที่กำลังจรดปากกาเขียนข่าวเรื่องต่อไป...

........................................................

เล่มนี้ดีขึ้นกว่าเล่มแรก สามารถกลบจุดอ่อนได้เกือบหมด การดำเนินเรื่องไหลลื่น ไม่เนือย ไม่บรรยายแช่อยู่ที่ฉากใดฉากหนึ่งนานเกินไปจนทำให้คนอ่านรู้สึกเบื่อ ไดอะล็อคยังเขียนออกมาได้ดีเหมือนเดิม บทสนทนาของตัวละคร การปะทะคารมณ์ของแอนโทนีและเคทคือจุดแข็งของหนังสือเล่มนี้ที่ทำให้เราพลิกหน้าต่อไปเรื่อยๆ กระทั่งถึงตอนจบ

เราชอบฝีปากของเคท เธอเถียงเก่ง กล้าหาญ เคทสร้างสีสันให้กับเนื้อเรื่องเป็นอย่างมาก เราชอบปมความกลัวของพระนางทั้งคู่ รู้สึกว่าจูเลีย ควินน์สร้างออกมาได้ดีมีเหตุผล แม้ว่าบางมุมของแอนโทนีจะคล้ายกับไซมอนในเล่มที่แล้วจนเรารู้สึกว่า cliché ไปสักนิด ตรงที่ไซมอนพอแต่งงานแล้วก็ยืนยันจะไม่มีลูกกับดาฟนีเด็ดขาด ส่วนแอนโทนีก็จะไม่มีวันมอบความรักให้กับเคทเด็ดขาด ซึ่งเกิดจากปมในใจของพระเอกที่มีแต่เด็กทั้งคู่ แต่พอเล่าเรื่องด้วย pattern คล้ายๆ กันเราเลยรู้สึกว่าอารมณ์จะสุดก็ไม่สุด มันให้ความรู้สึกคล้ายกับเล่มที่แล้วไปหมด อารมณ์ผักบุ้งกุ้งนาง กาสะลองซ้องปีบ ยังดีที่คาแรคเตอร์ของนางเอกมีความต่างกันอยู่

ตอนท้ายเรายังว่าเคลียร์ง่ายไปหน่อย ดีที่มีเหตุการณ์สำคัญมาแทรกทำให้เหตุผลอารมณ์ความรู้สึกของตัวละครดูไม่ลอยและโฟลว์ไปได้เนียนๆ ทำให้เราเชื่อได้ว่าแอนโทนีเริ่มเปลี่ยนความคิดที่ฝังใจเขามาตลอดได้แล้วจริงๆ บางครั้งความกลัวมันก็ไม่จำเป็นต้องมีเหตุผลแบบนี้นี่แหละ ก็แค่รู้สึกกลัวขึ้นมาเท่านั้นเอง
 
ทั้งนี้ทั้งนั้น เล่มนี้มีปัญหาเรื่องแปลงง แปลแล้วความหมายเพี้ยน รวมถึงแปลไม่ครบอยู่หลายจุด ยกตัวอย่างที่มาร์คไว้สองจุด จริงๆ ยังมีจุดอื่นที่เราเอะใจตอนอ่าน แต่พอเจอหนักๆ เข้า ไปเปิดไล่เช็คไล่เทียบตรงที่เรางงๆ แล้วก็พบว่ามี errors ในงานเพียบเลย

หน้า 309 ย่อหน้าสุดท้าย "...อย่างแรกคือคำสาบานต่อหน้าพระเจ้าและสักขีพยานว่าจะเป็นภรรยาที่ดี แต่ในใจฉันมีมากกว่านั้น" ซึ่งดูเผินๆ ประโยคเหมือนจะไม่มีปัญหา แต่ปรากฏว่านักแปลเก็บความไม่ครบ เพราะหลังจากนั้นมันมีการนับคำสาบานเกิดขึ้น หนึ่ง สอง สาม ตามลำดับ เราอ่านแล้วงงๆ เลยไปเปิดต้นฉบับดู ปรากฏต้นฉบับเป็นแบบนี้ "...There was the vow I made to him, before God and witnesses, to be his wife. But in my heart I made two other vows." ถ้าเก็บความครบต้องเป็น แต่ในใจฉัน ฉันได้ให้คำสาบานเอาไว้อีกสองเรื่อง

หน้า 275 ย่อหน้าสุดท้าย "แล้วจากนั้นมือของเขาก็สอดใต้สะโพกเธอยกขึ้น และดึงชุดกระโปรงออกทางข้างใต้..." อันนี้ก็อ่านแล้วงง สอดใต้สะโพกเธอยกขึ้น คืออิหยัง ไปเช็คต้นฉบับ เลยพบว่าแปลตกอีกแล้ว "And then his hands slid beneath her hips, and he was lifting her up, yanking the dress out from underneath her." ตรงสอดใต้สะโพกยกขึ้น น่าจะเป็น แล้วจากนั้นมือของเขาก็สอดเข้าที่ใต้สะโพกเธอ เขายกเธอขึ้น...

ปกติเราอ่านนิยายแทบจะไม่ได้จับผิดคำแปลอะไรเท่าไรเลยนะ บางทีแปลผิดแต่มันเนียนไปกับบริบท คนอ่านอย่างเราก็ไม่รู้หรอก แต่เล่มนี้ไม่ได้จริงๆ อ่านแล้วสะดุดกึกๆ งงๆ ในรูปประโยคบ่อยมาก ซึ่งเล่มนี้พิสูจน์อักษรเองก็ยังมีคำผิดหลุดมาอยู่พอสมควร เล่มที่แล้วมีเล็กๆ น้อยๆ เลยไม่ได้โน้ตเอาไว้ แต่เล่มนี้เยอะขึ้นจนเริ่มทำให้อ่านติดๆ ขัดๆ ผิดแบบต้องเดาเอาเองเลยว่าคำที่ผิดควรจะเป็นคำว่าอะไร ไม่ใช่แค่สระตกหรือตัวสะกดหาย คำฉีกแยกออกจากกันเวลาขึ้นบรรทัดใหม่เลยก็มี

อย่างไรก็ตาม เราให้คะแนนหนังสือโดยไม่หักเรื่องการแปลและสำนวนงงๆ นะ ถือว่าสามารถไปอ่านต้นฉบับเก็บๆ เอาได้ และเราคิดว่ามันไม่แฟร์ต่อผู้แต่งด้วยเพราะต้องยอมรับว่าเล่มนี้จูเลีย ควินน์ เธอเขียนดีจริงๆ ชอบแอนโทนีกับเคทมาก ฉากบนเตียงเข้มข้นและร้อนแรง เก็บอารมณ์ความรู้สึกของตัวละครได้หมดโดยที่ไม่ต้องใช้คำบรรยายเยอะๆ ยาวๆ เลย เวลาแอนโทนีรักเคทนี่เขาทุ่มสุดตัวจริงๆ

คาแรคเตอร์แอนโทนีในหนังสือนี่คนละเรื่องกับในซีรีส์ netflix เลยนะ ละบทนักร้องที่เป็นผู้หญิงเก็บคนก่อนของแอนโทนีเนี่ย ในซีรีส์เล่นยาวๆ ครบ 8 ep แต่ในหนังสือโผล่มาอยู่ 1 บทสั้นๆ แต่เราว่าซีรีส์ทำออกมาดีนะ เพราะถ้าจะให้เล่าเรื่องไซมอนกับดาฟนีทั้งซีซั่นคงไม่ไหว ในหนังสือเล่มแรกก็มีเนื้อหาอยู่แค่นั้น เลยต้องปูตัวละครอื่นด้วย ส่วนเนื้อเรื่องที่แทรกเพิ่มเข้าไปอย่างเจ้าชายอะไรนั่น ก็ไม่ได้ทำให้ตะขิดตะขวงใจเลยสักนิดเดียว

ซีซั่นสอง ลุ้นเลยว่าใครจะมาแสดงเป็นเคท ส่วนแอนโทนีก็สมบทบาทตั้งแต่ซีซั่นแรกละ เป็นตัวละครที่เราชอบมากกว่าไซมอนอีก พอมาอ่านหนังสือก็ชอบกว่าเหมือนกัน 555

คะแนน 8/10

2 comments:

  1. มายกมือมาว่าเป็นคนแปลค่ะ เช็คแล้วพลาดไปจริงๆด้วย แง บางทีรีบแปลก็มึน ขอโทษนะคะ เดี๋ยวจะแจ้ง บ.ก. เอาไว้ เผื่อมีพิมพ์ใหม่จะได้แก้ ขอบคุณสำหรับคำวิจารณ์ค่ะ <3

    ReplyDelete
    Replies
    1. ซื้อผลงานแปลของคุณมัณฑุกาที่ออกกับแก้วกานต์มาครบทุกเรื่องเลย เดี๋ยวจะพยายามไล่อ่านให้ครบน้า

      Delete