Feb 13, 2017

King's Cage (Red Queen #3)



ชื่อเรื่อง King's Cage
จากชุด Red Queen
ผู้แต่ง Victoria Aveyard
วรรณกรรมเยาวชน แฟนตาซี
สำนักพิมพ์ HarperTeen

เรื่องย่อ

In this breathless third installment to Victoria Aveyard’s bestselling Red Queen series, allegiances are tested on every side. And when the Lightning Girl's spark is gone, who will light the way for the rebellion?

Mare Barrow is a prisoner, powerless without her lightning, tormented by her lethal mistakes. She lives at the mercy of a boy she once loved, a boy made of lies and betrayal. Now a king, Maven Calore continues weaving his dead mother's web in an attempt to maintain control over his country—and his prisoner.

As Mare bears the weight of Silent Stone in the palace, her once-ragtag band of newbloods and Reds continue organizing, training, and expanding. They prepare for war, no longer able to linger in the shadows. And Cal, the exiled prince with his own claim on Mare's heart, will stop at nothing to bring her back.

When blood turns on blood, and ability on ability, there may be no one left to put out the fire—leaving Norta as Mare knows it to burn all the way down.

REVIEW

แมร์กลายเป็นนักโทษของมาเวน เขาทำให้เธอกลายเป็นสัตว์เลี้ยงตัวหนึ่งของเขา เป้าหมายของความหมกมุ่น จนเธอค่อยๆคายความลับเกี่ยวกับเหล่าสการ์เล็ตการ์ดออกมาผ่านการถูกทรมาน ทางด้านของคาเมล่อนที่ร่วมมือกับเหล่าการ์ดเพื่อพาตัวแมร์กลับมาก็ได้วางแผนอย่างลับๆ รวมถึงคาลกับคิลอร์นที่ห่วงความปลอดภัยของแมร์หรือสิ่งอื่นใด แม้ว่าจะมีการออกอากาศของแมร์ที่เชิญชวนให้เหล่านิวบลัดไปเข้าร่วมกับเธอ พวกเขาก็ยังเชื่อว่านั่นคือแผนการของมาเวนที่ต้องการตบตาประชาชนเลือดสีเงินของเขา

มาเวนได้วางแผนสงบศึกกับเลคแลนหลังจากที่คนในเริ่มทรยศหักหลังและไม่ยอมอยู่ภายใต้การปกครองของเขา เขาได้ยุติสงครามและชี้ให้เห็นว่าสการ์เล็ตการ์ดคือศัตรูเดียวที่ต้องถูกกำจัด สัญญาสงบศึกทำให้เขาต้องแต่งงานกับองค์หญิงแห่งเลคแลนด์ ไอริช ระหว่างงานแต่ง เหล่าสการ์เล็ตการ์ดได้บุกเข้ามาและช่วยเหลือแมร์ออกไป เธอถล่มพระราชวังจนเกือบจะพังยับ จากนั้นก็ไปสมทบกับคาลที่กำลังขับเคี่ยวอยู่อีกด้าน

แมร์กลับคืนสู่คาล ความรักระหว่างทั้งคู่งอกงามขึ้นเรื่อยๆจนฟาร์เล่ย์ได้ข่าวว่ามาเวนที่กำลังหลบซ่อนตัวมีแผนชิงเมืองที่เหล่าสการ์เล็ตการ์ดยึดได้คืนมา พวกเขาจะไม่ยอมให้มาเวนครอบครองความได้เปรียบได้ ดังนั้นเหล่านิวบลัดรวมถงพันธมิตรก็เดินหน้าเพื่อทำสงครามกับราชา

คาลได้ทำสัญญากับย่าของเขาอย่างลับๆ และได้รับความช่วยเหลือจากอีวาเจลีนและคนอื่นๆ ทำให้พวกเขาชนะศึกครั้งนี้ได้อย่างหวุดหวิด และก็ลงได้ด้วยข้อตกลงว่าย่าต้องการให้คาลขึ้นบัลลังก์แทนมาเวน รวมถึงแต่งงานกับอีวาเจลีนและทำให้เธอเป็นราชินี แมร์ตกใจ เธอไม่คิดว่าคาลจะผิดคำสัญญาที่ได้ให้ไว้กับเธอ เมื่อเขามองว่าอำนาจสามารถแก้ปัญหาทุกอย่างที่กำลังเกิดขึ้นได้ แต่แมร์ไม่ได้คิดแบบนั้น เธอเลยเดินจากมาและทิ้งคาลเอาไว้เบื้องหลังอย่างโดดเดี่ยว

......................................................................

ฟิลเลอร์เพียบ เนื้อเรื่องจริงๆมีอยู่ไม่ถึง 10% ทั้งๆที่เห็นแววจะไม่รอดมาตั้งแต่ Glass Sword ละ เราก็ยังหนักแน่นที่จะตามอ่านต่อ แล้วผลลัพธ์ที่ได้ก็พังพินาศแบบสุดๆ  King's Cage เป็นหนังสือที่ถ้าหากเรียกว่าแย่ก็คงจะไม่ไกลความจริงเกินไปนัก ด้านการเขียนมีปัญหาอย่างชัดเจน สำนวนไม่นิ่ง การบรรยายไม่ชัด ใช้แพทเทิร์นเดิมๆในแต่ละบทคือ มีการบรรยายฉาก ตามด้วยเสื้อผ้าหน้าผม แล้วก็ให้ตัวละครเล่าเรื่องปิดท้าย เป็นแบบนี้ 1 2 3, 1 2 3 วนไปวนมาจนจบเล่ม น่าเบื่อมาก เบื่อจนถอนหายใจกี่ครั้งก็ไม่สามารถบรรเทาได้ อ่านแล้วเหมือนอ่าน screenplay เลยอ่ะ ไม่เหมือนอ่านนิยาย ความไหลลื่นไม่มี ขาดความต่อเนื่องของแต่ละเหตุการณ์ สะดุดกึกๆบ่อยมาก

ถ้าหากคิดว่า Glass Sword แย่แล้ว King's Cage นี่แย่กว่า ถึงมันจะมีฉากสงครามบู๊แหลกก็เถอะ แต่มันทำออกมาได้ประดักประเดิดมาก อยู่ๆก็ตัดฉับแล้วขึ้นบทใหม่ขณะที่บทที่แล้วสงครามเพิ่งดำเนินได้แค่ครึ่งๆกลางๆ เหมือนผู้แต่งหมดความสนใจ เหมือนหนังสือยาวไปแล้วไม่รู้จะเอายังไงดี ตัดจบแบบนี้เลยละกัน ซึ่งมันไม่ใช่ ช่วงแรกเป็นช่วงที่น่าเบื่อ เวิ่นเว้อ มาเวน ตัวร้ายที่ดูเหมือนจะหล่อ เท่ห์ กระชากใจ เล่มนี้กลับกลายเป็นตัวละครอะไรก็ไม่รู้ที่แบนราบไม่น่าสนใจไปเลย แมร์ก็เล่าเรื่องได้น่าเบื่อ คาเมรอนนี่ไม่ได้มีความจำเป็นอะไรเลยด้วยซ้ำ ใส่มาทำไมเยอะแยะ

รู้สึกว่าเหมือนกำลังอ่านหนังสือที่ป่วยเป็นไบโพลาร์อยู่เลยอ่ะ อารมณ์สวิงขึ้นลงตลอดเวลา ตัวละครเปลี่ยนนิสัยปุบปับ ราวกับผู้แต่งไม่ได้ดราฟท์งานอย่างละเอียดก่อนลงมือเขียนงาน จู่ๆก็มาเขียนเลย จุดบกพร่องเยอะมาก logic ตัวละครบางช่วงแปลกมาก จนเราอุทาน หืมม์ แบบนี้เลยหรอ เหมือน VA เห็นภาพเต็ม 100% และเข้าใจอยู่คนเดียว คนอ่านจะเป็นยังไงก็ช่าง อ่านแล้วไม่อินไม่เก็ตก็เรื่องของเธอ สงสารตัวเองไปอีก

เราสงสัยว่าผู้แต่งเข้าใจตัวละครที่เธอสร้างขึ้นมาจริงๆใช่ไหม ถ้าจะมองในแง่ของการกระทำและแรงจูงใจ มันขัดกันแบบน่ารำคาญมาก แมร์เล่มที่แล้วนี่มั่นหน้าสุด พอมาเล่มนี้นี่เธออ้อนวอนในใจเงียบๆอยู่ตลอดเวลา ทั้งมันยังไม่มีประเด็นอะไรนักหนาที่จะมา break ตัวละครนี้ (ยังจำตอน Darrow ใน Red Rising ได้อยู่ กับ Katniss ใน Mockingjay คือจิตใจพังทั้งคู่เพราะสงคราม) แต่นังแม นี่เค้ายังไม่ทันทำอะไรหล่อนเลย หล่อนเตรียมจะออกปากขอร้องและ ปล่อยฉัน อย่านะ ฉันจะฆ่าแก ถ้าฉันหลุดไปได้นะ ฉันเอาตายแน่ ฮึ่ม ! อยากจะถามจริงๆว่าเธอเป็นไบโพลาร์หรอ เกลียดมาเวนแต่พอเขาไม่สนใจเธอ เธอก็พยายามจะวิ่งเข้าหา มีความย้อนแย้งอยู่ในตัวเองด้วย ตลกจัง

นี่ไม่อินแรงมาก ทีแรกเกรงใจไม่อยากรีวิวตรงๆ กลัวมีคนมาด่าว่ากดคะแนนกันเกินไปไหม ไบแอสเกินไปหรือเปล่า งั้นเราขอยกเคส Sarah J Maas ขึ้นมาเลย คือพูดตรงๆ เราไม่ชอบ Throne of Glass เล่มแรกๆ ของเธอ แต่ Empire of Storm เราคลั่งมาก อันนี้คือมันมีพัฒนาการในทางที่ดีขึ้น ตัวละคร เนื้อเรื่อง โลกในนิยายมันดูโตขึ้น อะไรดีเราก็บอกว่าดี แต่นี่ Red Queen เล่มแรกทำไว้ได้ค่อนข้างดี ถึงจะเหมือน X-Men + The Hunger Games + Game of Thrones มากไปหน่อย แต่เราก็มองว่ามันเป็นไอเดียของผู้แต่งที่จะหยิบพล็อตอะไรมาก็ได้ แล้วมาเปลี่ยนมาปรับให้มีเอกลักษณ์เป็นของตัวเอง พอมาเล่มสองกลิ่น X-Men ชักจะแรงไปหน่อยละ เหมือนย่อยองค์ประกอบมาได้ไม่ดี หยิบพล็อตมาทั้งดุ้นเลยนั่นแหละ แต่เราก็ยังไม่เลิกอ่านนะ ให้โอกาสอ่านต่อไป เสียเงินซื้อเล่มสาม (ที่ราคาเท่ากับอาหารสามมื้อ) พออ่านแล้วขนาดไม่ได้หวังอะไรไว้มากยังแอบผิดหวังเลย เห็นจุดบกพร่องเยอะแยะมากมายจนรู้สึกตกใจว่านี่คนเขียนคนเดียวกับตอนเล่มแรกจริงๆน่ะเหรอ เรื่องวนไปวนมาอยู่ในอ่าง ไม่อ่านเล่มนี้แล้วข้ามไปอ่านเล่มหน้ายังรู้เรื่องเลย เอาจริงๆ

ให้ 3 คะแนนเพราะคาล โดยเฉพาะฉากถอดเสื้อนั้น....

คะแนน 3/10

No comments:

Post a Comment