Sep 16, 2015

The 5th Wave (The 5th Wave #1)



ชื่อเรื่อง The 5th Wave
จากชุด The 5th Wave
ผู้แต่ง Rick Yancey
วรรณเยาวชน ดิสโทเปีย
สำนักพิมพ์ Putnam Juvenile

เรื่องย่อ

After the 1st wave, only darkness remains. After the 2nd, only the lucky escape. And after the 3rd, only the unlucky survive. After the 4th wave, only one rule applies: trust no one.

Now, it’s the dawn of the 5th wave, and on a lonely stretch of highway, Cassie runs from Them. The beings who only look human, who roam the countryside killing anyone they see. Who have scattered Earth’s last survivors. To stay alone is to stay alive, Cassie believes, until she meets Evan Walker.

Beguiling and mysterious, Evan Walker may be Cassie’s only hope for rescuing her brother—or even saving herself. But Cassie must choose: between trust and despair, between defiance and surrender, between life and death. To give up or to get up.

REVIEW

...หลังจากคลื่นลูกแรก ทุกอย่างตกอยู่ในความมืดมิด ไฟฟ้าใช้การไม่ได้ ... คลื่นลูกที่สอง ภัยธรรมชาติกวาดล้างชีวิตผู้คนไปมากมาย ... คลื่นลูกที่สาม โรคระบาดคร่าคนให้ตายอย่างทรมาน ... หลังจากคลื่นลูกที่สี่นั้น ไซเลนเซอร์ได้บังเกิดขึ้น ...

แคสซี่ต้องเสียแม่ของเธอไปจากคลื่นลูกที่สาม แคสซี่ พ่อและแซมมี่ น้องชายของเธอต้องร่อนเร่มายังสถานที่ที่น้องชายของเธอถูกจับส่งขึ้นรถโรงเรียนไปยังพื้นที่ที่ปลอดภัย ในขณะที่แคสซี่ต้องทนเห็นพ่อของเธอถูกฆ่าตายต่อหน้าต่อตา ผู้คนที่คิดว่าเป็นมนุษย์ที่หลงเหลืออยู่ กลับกลายเป็นอสูรกายในสายตาของเด็กสาววัยสิบหกที่เข่นฆ่าพวกเดียวกันเอง แคสซี่ต้องเอาชีวิตรอดและเธอจะไว้ใจใครไม่ได้อีกเด็ดขาด ตั้งแต่วันที่ดิออร์เธอร์บุกโลก โลกทั้งใบของเด็กสาวก็เปลี่ยนไป

แคสซี่ถูกยิงระหว่างการหนีเอาชีวิตรอดและนั่นทำให้เธอได้พบกับอีวาน วอล์คเกอร์ ชายหนุ่มรูปหล่อที่เสียแฟนสาวไปหมาดๆ แคสซี่วางแผนว่าจะจากอีวานไปทันทีที่เธอทำได้ แต่อีวานไม่ยอมปล่อยแคสซี่ไป เขารั้งเธอไว้ เขาจูบเธอ เมื่อแคสซี่ยังดื้อดึงที่จะไปตามหาแซมมี่ ความจริงก็ปรากฏว่าจริงๆแล้วอีวานเป็นมนุษย์ที่ไม่ใช่มนุษย์ เขาคือผลผลิตจากดิออร์เธอร์ที่เข้าไปอยู่ในร่างของมนุษย์ตั้งแต่เด็ก (ถ้าใครเคยดูหนังเรื่อง The Host เราว่าน่าจะหลักการคล้ายๆกัน)

เบนเพื่อนที่โรงเรียนของแคสซี่ถูกจับไปฝึกเป็นทหาร ที่นั่นเขาได้พบกับนักเก็ต หรือแซมมี่ น้องชายของแคสซี่ ภายหลังเขาค้นพบว่าแผนการณ์ทั้งหมดคือคลื่นลูกที่ 5 ที่ต้องการให้ผู้คนฆ่ากันเอง ดังนั้นเขาจึงตัดสินใจย้อนกลับมายังฐานเพื่อช่วยเหลือแซมมี่ออกมาจากที่นั่น และทำให้เขาได้พบกับแคสซี่ที่กำลังช่วยเหลือน้องชายของเธออยู่พอดี อีวานตามเข้ามาช่วยแคสซี่ เบนและแซมมี่ออกไป แต่เขากลับย้อนกลับเพื่อระเบิดทำลายฐานพร้อมกับคำสัญญาว่าเขาจะหาแคสซี่ให้เจออีกครั้งหนึ่ง

....................................................

รู้สึกเหมือนทุกอย่างในนิยายเล่มนี้ถูกจับวางอย่างผิดที่ผิดทางไปเสียหมด องค์ประกอบของนิยายไม่ได้แตกต่างอะไรกับภาพยนตร์แนวเอเลี่ยนบุกโลกมากนัก The 5th Wave มีกลิ่นอายที่ทำให้เรานึกถึง The Host แต่เนื้อเรื่องไม่ได้เหมือนกันเลยนะ ... เมื่อปีที่แล้ว (พ.ย. 57) เราได้หยิบหนังสือเล่มนี้ขึ้นมาอ่าน แต่อ่านไม่พ้น 25% ก็เป็นอันต้องวาง เพราะเรารู้สึกเบื่อ ตอนแรกของหนังสือ ... การเล่าเรื่องช้ามากถึงมากที่สุด ไม่มีอะไรน่าสนใจและสามารถเดาได้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นต่อไป

จนเมื่อวันก่อนเราได้มีโอกาสดูเทรลเลอร์ของภาพยนตร์ที่กำลังจะฉายปีหน้าและคิดว่ามันน่าสนใจมากๆ จึงไม่เสียหายอะไรหากจะลองหยิบหนังสือที่ครั้งหนึ่งเราเคยอ่านไม่จบขึ้นมาอ่านใหม่ หลายคนที่อ่านบลอคเรามาถึงตรงนี้อาจจะคิดว่า 'นี่แกบ้าหรือเปล่า เนื้อเรื่องสนุกขนาดนั้น ทำไมยังจะไม่ชอบอีก ?' เราบอกเลยว่า ... เนื้อเรื่องนิยายเล่มนี้สนุกมาก แต่วิธีการนำเสนอกลับทำให้ของดีๆเสียเปล่าอย่างสิ้นเชิง เหมือนกับอาหารภัตตาคารหรูแต่ถูกจับยัดใส่ถุงก๊อบแก๊บก้นรั่วๆ แล้วบอกลูกค้าว่า 'นี่ไง หูฉลามราคาสองพันห้า' ถามหน่อยนะ ... ใครมันจะเชื่อว่าของที่อยู่ข้างในจะคุณภาพดีขนาดนั้น จริงมั้ย ในเมื่อแพคเกจมันไม่ได้ชวนเชื่อแบบนั้นเลย

การเล่าเรื่องจะตัดสลับผ่านตัวละครหลายตัว ซึ่งเป็นไปด้วยความมึนงงชวนสับสน เนื้อเรื่องเล่าผ่านบุคคลที่ 1 และ 3 ตามใจฉัน (ซึ่งเรายังไม่เคยเจอนักเขียนคนไหนจะใจกล้าเล่าเรื่องด้วยวิธีแบบนี้มาก่อน) มีทั้งตัวละครเป็นคนเล่าเรื่องเอง (2 ตัว - แคสซี่ กับ เบน) และนักเขียนเป็นคนเล่าเรื่องของตัวละคร (1 ตัว - อีวาน) แค่นี้ก็ฟังดูปวดหัวแล้ว พออ่านจริงๆ มันยังมีมากกว่านั้น ระหว่างบทยังมีการตัดขึ้น POV ใหม่ของตัวละครแบบไม่กล่าวถึงก่อนว่าบทที่กำลังจะอ่านเป็น POV ของใคร คือต้องให้คนอ่านทำความเข้าใจเองจริงๆว่าตัวละครไหนกำลังเล่าเรื่องบทนี้ ซึ่งมันเกิดกับเรามาแล้วล่ะว่าตอนอ่าน POV ของเบน ไอ้เราก็เพลินๆคิดว่าแคสซี่เป็นคนเล่า พอสะดุดตรง he เราก็แบบเฮ้ย ! อะไรวะ นี่เราเข้าใจอะไรผิด อ่านต่อไปอีกหน่อย อุ๊แม่เจ้า ! นี่เราเข้าใจตัวละครผิดมาครึ่งค่อนบทเลยรึนี่

อีกจุดหนึ่งที่เราไม่ชอบเลยก็คือ ... ความรักระหว่างอีวานกับแคสซี่ คือทั้งสองคนนี้รักกันเร็วมากกกก (แบบเร็วจนเราไม่รู้ว่ามันแอบไปรักกันตอนไหน) เอะอะเดี๋ยวก็จูบ ก็จูบ ! นางเอกก็แบบ ... ไม่นะ เธอเป็นศัตรูฉัน ... อีวาน ฉันจะไม่จูบกับเธอหรอก (แต่แล้วนางก็ยื่นปากให้เค้าจูบสวยๆ) คือแบบไม่เข้าใจจริงๆว่าทำไมความรักของพระนางในเรื่องมันเป็นแบบนี้ มีคนเอาหนังสือเล่มนี้ไปเปรียบเทียบกับ Twilight ซึ่งเรา Twilight สมเหตุสมผลกว่าเยอะนะ แบบเออ เข้าใจว่าพระเอกมันกระหายเลือดนางเอกด้วยไง แต่ The 5th Wave นี่เราเชื่อได้แค่อย่างเดียวว่า ... พระเอกโดนนางเอกทำเสน่ห์ใส่เข้าแล้วล่ะมั้ง เลย crazy in love ได้ซะขนาดนี้ เหตุผลทุกอย่างของตัวละครดูเบาโหวงไปหมด จนไม่รู้จะเชื่อยังไง

คิดไม่ออกเลยว่าจะอ่านเล่มต่อไปดีมั้ย ... เอาไว้รอหนังเข้าละกัน ถ้าหนังปรับบทอะไรให้ดีกว่าหนังสือคงจะโอเคมากเลยแหละ ในหนังสือนี่ทั้ง flashback ภาคปัจจุบัน POV อะไรก็ไม่รู้สลับกันมั่วไปหมด ... ปวดหัว ตอนสุดท้ายก็เหมือนจะสนุกนะ คือมันไม่ได้ cliffhanger อะไรมากหรอก แต่มันให้อารมณ์เหมือนผู้แต่งต้องการจะบอกว่า 'ฉันจะให้จบแบบนี้ ใครจะทำไม ใครไม่พอใจนัดตบกันได้นะ !' คนอ่านอย่างเราๆก็ต้องก้มหน้าก้มตารับชะตากรรมตาปริบๆไป หรือไม่ก็หยิบ The Infinite Sea ขึ้นมาอ่านเงียบๆ

คะแนน 4/10