ชุด A Sign of Love
ผู้แต่ง Mia Sheridan
โรมานซ์ ร่วมสมัย
เรื่องย่อ
Dirt poor. Hillbilly. Backwoods hick. Mountain folk.
Tenleigh Falyn struggles each day to survive in a small, poverty-stricken, coal mining town where she lives with her sister and mentally ill mother. Her dream of winning the college scholarship given to one student by the local coal company and escaping the harshness of her life, keeps her going.
Kyland Barrett lives in the hills, too, and has worked tirelessly—through near starvation, through deep loneliness, against all odds—to win the Tyton Coal Scholarship and leave the town that is full of so much pain.
They're both determined not to form any attachments, but one moment changes everything. What happens when only one person gets to win? When only one person gets to leave? And what happens to the one left behind?
Kyland is a story of desperation and hope, loss and sacrifice, pain and forgiveness, but ultimately, a story of deep and unending love.
REVIEW
เทนลีห์อาศัยอยู่อย่างยากจนข้นแค้นกับแม่ของเธอที่ป่วยเป็นโรคประสาท เมื่อเทนลีห์ต้องการจะหนีจากชีวิตอันแสนยากลำบากเหล่านี้ หนทางเดียวที่เธอจะออกไปจากสถานที่นี้ได้คือเธอต้องเอาชนะทุนการศึกษาให้ได้ ประจวบเหมาะเมื่อเทนลีห์ช่วยไม่ให้ไคแลนด์โดนตำรวจจับเมื่อเขาขโมยของในร้านค้าที่เธอทำงานอยู่เพื่อไปให้คนอื่น เทนลีห์โดนไล่ออกจากงานเพราะเขา ไคแลนด์ติดหนี้บุญคุณเธอ ดังนั้นเขาจึงอาสาเดินพาเธอกลับบ้านทุกวัน จนทั้งคู่เริ่มสนิทกันมากขึ้น แต่ไคแลนด์ก็รู้ดีว่าเขาจะเอาความรู้สึกไปผูกอยู่กับเทนลีห์ไม่ได้เป็นอันขาด ในเมื่อสุดท้ายแล้วไม่ว่าเขาจะได้รับทุนการศึกษาหรือไม่ เขาก็จะต้องออกไปจากเมืองนี้อยู่ดี
ไคแลนด์สูญเสียพ่อและพี่ชายไปในการระเบิดของเหมืองแร่ เขาอยู่ตัวคนเดียวมาโดยตลอดและเคยนอนกับผู้หญิงมามากมาย แต่ไม่เคยมีใครที่ทำให้เขารู้สึกดีเหมือนอย่างเทนลีห์ แม้ว่าเธอจะขอให้เขาเมดเลิฟกับเธอกี่ครั้งก็ตามแต่ ไคแลนด์ไม่คิดจะพาทั้งคู่ไปสู่จุดนั้นเพราะเขารู้ดีว่าอะไรจะเกิดขึ้นต่อหลังนั้น จนกระทั่งวันเกิดของไคแลนด์ซึ่งก็เป็นวันเกิดของเทนลีห์เช่นเดียวกัน ไคแลนด์รู้ตัวในที่สุดว่าเขารักเทนลีห์ และเทนลีห์ก็รักเขา ดังนั้นเขาจึงเมดเลิฟกับเธอ หลังจากนั้นเมื่อเทนลีห์กลับไปทำงานตามปกติของเธอ เธอก็ถูกลูกค้าที่มาใช้บริการทำร้ายร่างกาย นั่นทำให้ไคแลนด์โมโหและตัดสินใจบางอย่างได้
ทุนการศึกษาตกเป็นของเทนลีห์ เธอไม่เข้าใจว่าทำไมเธอถึงได้รับโอกาสนี้ ในเมื่อเธอทำลายโอกาสของเธอตอนสอบไฟนอลเพื่อไคแลนด์ เมื่อเทนลีห์ไปหาไคแลนด์ เขาก็สั่งให้เธอออกไปจากเมืองนี้และไม่ต้องกลับมาอีก เทนลีห์พยายามทุกวิถีทางเพื่อที่จะชักจูงให้ไคแลนด์ยอมไปกับเธอ จนกระทั่งไคแลนด์ตัดสินใจบอกกับเทนลีห์ว่า เขาทำเชลบี้ที่เป็นทั้งเพื่อนและคนที่เขาเคยนอนด้วยท้อง เทนลีห์เสียใจเป็นอย่างมาก เธอจึงออกนอกเมืองหลังจากนั้นไม่นาน และสาบานว่าจะไม่ตกหลุมรักใครอีก
สี่ปีผ่านไป ... เทนลีห์กลับมาที่เมืองแห่งนี้เพื่อสร้างโรงเรียนให้กับเด็กๆ เธอได้พบกับไคแลนด์พร้อมกับกระอักกระอ่วน เชลบี้จึงมาบอกกับเทนลีห์ว่าไคแลนด์ไม่ได้เป็นพ่อของลูกเธอ เธอโดนข่มขืนและไปขอความช่วยเหลือจากไคแลนด์หลังจากนั้น เทนลีห์จึงตระหนักได้ในที่สุดว่าแท้จริงแล้วไคแลนด์เสียสละเพื่อเธอมาโดยตลอด
ความจริงแล้วตอนนั้นไคแลนด์ชนะทุนการศึกษาแต่เขาโอนถ่ายทุนการศึกษามาให้เทนลีห์โดยแลกกับสัญญาจ้างที่ต้องทำงานในเหมืองแร่ตลอดสี่ปี ไม่งั้นทุนการศึกษาของเทนลีห์จะถูกเพิกถอน เขาต้องเอาชีวิตท่ามกลางพื้นที่แคบที่เปรียบเสมือนนรกสำหรับเขา นั่นก็เพื่อเทนลีห์ที่เขารักเพียงคนเดียว เมื่อเทนลีห์ได้ฟังเรื่องราวทั้งหมด เธอก็ตัดสินใจวางแผนอนาคตที่จะช่วยเหลือไคแลนด์เพื่อชดเชยกับสิ่งที่เขาเสียสละไปเพื่อเธอมากมาย
.............................................................
Kyland เป็นเรื่องราวของคนสองคนที่แสดงให้ความว่าความรักคือการเสียสละอย่างแท้จริง เราไม่คิดว่าพระเอกอย่างไคแลนด์จะเป็นคนที่ยอมเสียสละมากมายอะไรขนาดนี้ เสียดายที่เนื้อเรื่องครึ่งเล่มแรกไม่ได้ทำให้เราเข้าถึงอารมณ์ตัวละครมากเท่าที่ควร ไม่งั้นเนื้อเรื่องในตอนท้ายๆคงทำให้เราร้องไห้ฟูมฟายเหมือนกับหนังสือเล่มอื่นๆของ Mia Sheridan ไปแล้ว พูดง่ายๆคือเนื้อเรื่องให้อารมณ์โทนเดียวกันตลอดเลยทั้งเล่ม
ในช่วงแรกไคแลนด์จะพยายามปฏิเสธความรู้สึกของตัวเองตลอด และคิดว่าเขาจะเผลอไปรักกับนางเอกไม่ได้ ดังนั้นความรักของทั้งคู่จึงตั้งอยู่บนเงื่อนไขที่ไคแลนด์สร้างขึ้นมา และเทนลีห์ก็ต้องยอมรับมันให้ได้หากเธอคิดสร้างความสัมพันธ์กับเขา ซึ่งเราไม่ค่อยชอบพลอตนิยายแบบนี้สักเท่าไร แต่เราก็เชื่อมั่นว่า Mia Sheridan จะสามารถสร้างเนื้อเรื่องที่ทรงพลังออกมาได้เมื่อถึงจุดของมันเอง แต่เอาเข้าจริงๆ เมื่อเราอ่านหนังสือเล่มนี้จบแล้ว ... เรากลับพบว่าเนื้อเรื่องไม่ได้ทรงพลังมากเท่าที่ควรเหมือนตอนที่เราอ่าน Archer's Voice กับ Becoming Calder จบ แต่มันก็ยังมีพลังที่ทำให้เราอ้าปากค้างในช่วงไคลแมกซ์ตอนสุดท้ายได้อยู่
สรุปว่า ... เป็นนิยายอีกเล่มที่อ่านได้เรื่อยๆ สนุกในระดับหนึ่ง ก็อย่างที่ตัวละครในเรื่องได้บอกไปว่า "หนังสือเล่มหนึ่งจะดีหรือไม่ ขึ้นอยู่กับหัวใจของคนอ่านเลือกที่จะมอง"
สี่ปีผ่านไป ... เทนลีห์กลับมาที่เมืองแห่งนี้เพื่อสร้างโรงเรียนให้กับเด็กๆ เธอได้พบกับไคแลนด์พร้อมกับกระอักกระอ่วน เชลบี้จึงมาบอกกับเทนลีห์ว่าไคแลนด์ไม่ได้เป็นพ่อของลูกเธอ เธอโดนข่มขืนและไปขอความช่วยเหลือจากไคแลนด์หลังจากนั้น เทนลีห์จึงตระหนักได้ในที่สุดว่าแท้จริงแล้วไคแลนด์เสียสละเพื่อเธอมาโดยตลอด
ความจริงแล้วตอนนั้นไคแลนด์ชนะทุนการศึกษาแต่เขาโอนถ่ายทุนการศึกษามาให้เทนลีห์โดยแลกกับสัญญาจ้างที่ต้องทำงานในเหมืองแร่ตลอดสี่ปี ไม่งั้นทุนการศึกษาของเทนลีห์จะถูกเพิกถอน เขาต้องเอาชีวิตท่ามกลางพื้นที่แคบที่เปรียบเสมือนนรกสำหรับเขา นั่นก็เพื่อเทนลีห์ที่เขารักเพียงคนเดียว เมื่อเทนลีห์ได้ฟังเรื่องราวทั้งหมด เธอก็ตัดสินใจวางแผนอนาคตที่จะช่วยเหลือไคแลนด์เพื่อชดเชยกับสิ่งที่เขาเสียสละไปเพื่อเธอมากมาย
.............................................................
Kyland เป็นเรื่องราวของคนสองคนที่แสดงให้ความว่าความรักคือการเสียสละอย่างแท้จริง เราไม่คิดว่าพระเอกอย่างไคแลนด์จะเป็นคนที่ยอมเสียสละมากมายอะไรขนาดนี้ เสียดายที่เนื้อเรื่องครึ่งเล่มแรกไม่ได้ทำให้เราเข้าถึงอารมณ์ตัวละครมากเท่าที่ควร ไม่งั้นเนื้อเรื่องในตอนท้ายๆคงทำให้เราร้องไห้ฟูมฟายเหมือนกับหนังสือเล่มอื่นๆของ Mia Sheridan ไปแล้ว พูดง่ายๆคือเนื้อเรื่องให้อารมณ์โทนเดียวกันตลอดเลยทั้งเล่ม
ในช่วงแรกไคแลนด์จะพยายามปฏิเสธความรู้สึกของตัวเองตลอด และคิดว่าเขาจะเผลอไปรักกับนางเอกไม่ได้ ดังนั้นความรักของทั้งคู่จึงตั้งอยู่บนเงื่อนไขที่ไคแลนด์สร้างขึ้นมา และเทนลีห์ก็ต้องยอมรับมันให้ได้หากเธอคิดสร้างความสัมพันธ์กับเขา ซึ่งเราไม่ค่อยชอบพลอตนิยายแบบนี้สักเท่าไร แต่เราก็เชื่อมั่นว่า Mia Sheridan จะสามารถสร้างเนื้อเรื่องที่ทรงพลังออกมาได้เมื่อถึงจุดของมันเอง แต่เอาเข้าจริงๆ เมื่อเราอ่านหนังสือเล่มนี้จบแล้ว ... เรากลับพบว่าเนื้อเรื่องไม่ได้ทรงพลังมากเท่าที่ควรเหมือนตอนที่เราอ่าน Archer's Voice กับ Becoming Calder จบ แต่มันก็ยังมีพลังที่ทำให้เราอ้าปากค้างในช่วงไคลแมกซ์ตอนสุดท้ายได้อยู่
สรุปว่า ... เป็นนิยายอีกเล่มที่อ่านได้เรื่อยๆ สนุกในระดับหนึ่ง ก็อย่างที่ตัวละครในเรื่องได้บอกไปว่า "หนังสือเล่มหนึ่งจะดีหรือไม่ ขึ้นอยู่กับหัวใจของคนอ่านเลือกที่จะมอง"
คะแนน 8.5/10
No comments:
Post a Comment