ชื่อเรื่อง Mexican Gothic
ผู้แต่ง Silvia Moreno-Garcia
นิยายสยองขวัญ
สำนักพิมพ์ Del Rey
เรื่องย่อ
After receiving a frantic letter from her newly-wed cousin begging for someone to save her from a mysterious doom, Noemí Taboada heads to High Place, a distant house in the Mexican countryside. She’s not sure what she will find—her cousin’s husband, a handsome Englishman, is a stranger, and Noemí knows little about the region.
Noemí is also an unlikely rescuer: She’s a glamorous debutante, and her chic gowns and perfect red lipstick are more suited for cocktail parties than amateur sleuthing. But she’s also tough and smart, with an indomitable will, and she is not afraid: Not of her cousin’s new husband, who is both menacing and alluring; not of his father, the ancient patriarch who seems to be fascinated by Noemí; and not even of the house itself, which begins to invade Noemí’s dreams with visions of blood and doom.
Her only ally in this inhospitable abode is the family’s youngest son. Shy and gentle, he seems to want to help Noemí, but might also be hiding dark knowledge of his family’s past. For there are many secrets behind the walls of High Place. The family’s once colossal wealth and faded mining empire kept them from prying eyes, but as Noemí digs deeper she unearths stories of violence and madness.
And Noemí, mesmerized by the terrifying yet seductive world of High Place, may soon find it impossible to ever leave this enigmatic house behind.
REVIEW
โนเอมีได้รับจดหมายจากลูกพี่ลูกน้องของเธอ คาทาลิน่า เนื้อความไม่ปะติดปะต่อเหมือนกับว่าเธอกำลังจะเสียสติ และด้วยความเป็นห่วงคาทาลิน่าที่เพิ่งแต่งงานกับเวอร์จิล ดอยล์ไปได้ไม่นาน พ่อของโนเอมีจึงไหว้หวานให้เธอไปดูอาการของคาทาลิน่าถึงที่ โนเอมีจึงออกเดินทางไปยังสถานที่ซึ่งถูกปกคลุมไปด้วยหมอกและบรรยากาศชวนหลอน ที่นั่นถูกเรียกว่า High Place
High Place เป็นสถานที่ที่แปลกประหลาด ผู้คนแทบไม่พูดไม่จาระหว่างมื้อเย็น เมื่อก่อนพวกเขาเคยทำเหมืองเงินแต่ก็ต้องปิดไป มีคนงานตายเยอะแยะที่เหมืองและถูกฝัง โฮเวิร์ด เจ้าของบ้านที่ดูเหมือนจะเจ็บป่วยและกำลังพักรักษาตัว เขาแทบไม่ออกไปไหน นอนพักอยู่ในห้องกับรูปวาดภรรยาทั้งสองคนคือแอกเนสกับอลิซที่เป็นพี่น้องกัน โนเอมีมีฟรานซิส ลูกพี่ลูกน้องของเวอร์จิลคอยทำหน้าที่เป็นสารถีเวลาเธอจะไปไหนมาไหน และฟลอเรนซ์ แม่ของฟรานซิสที่เข้มงวดกับเธอเป็นพิเศษ ห้ามโนเอมีสูบบุหรี่ในห้อง ห้ามไปไหนมาไหนคนเดียว ห้ามทุกอย่าง
คำขอของคาทาลิน่าทำให้โนเอมีต้องลงไปในเมืองและหายาตามที่อีกฝ่ายสั่ง ที่นั่นเธอได้พบกับคุณหมอและไหว้หวานให้มาตรวจดูอาการของโนเอมีอีกทีว่าเป็นแค่วัณโรคหรือเปล่าหรือมีอาการทางจิตแฝงอยู่ โนเอมีได้รู้เรื่องราวครอบครัวดอยล์ว่าพวกเขาเคยถูกรูธ ลูกสาวของบ้านสังหารหมู่ และทิ้งให้โฮเวิร์ดบาดเจ็บสาหัส เรื่องชักไม่ชอบมาพากลไปกันใหญ่เมื่อโนเอมีเริ่มฝันแปลกๆ เห็นสิ่งที่มีรูปร่างคล้ายกับคนที่เป็นสีทอง รวมไปถึงเสียงหึ่งที่ดังมาจากกำแพงบ้านและคำพูดของคาทาลิน่าที่บอกว่าพวกมันล้วนได้ยินเธอ
โนเอมีกับฟรานซิสใกล้ชิดกันมากขึ้น เมื่อโนเอมีได้รับยาที่คาทาลิน่าสั่งเอาไว้ เธอก็นำไปให้อีกฝ่ายและเมื่อกินลงไป ลูกพี่ลูกน้องของเธอเกิดชัก และแทบทุกคนโทษว่าเป็นคนผิดของเธอ โนเอมีเองก็เริ่มเห็นสิ่งแปลกๆ ในบ้านมากขึ้นเรื่อยๆ กำแพงที่ขยับได้ เห็ดราที่เหมือนมีชีวิต เธอเริ่มละเมอเดิน เวอร์จิลเข้ามาในห้องเธอและสัมผัสเธออย่างเร่าร้อน เป็นเรื่องน่าอายที่เธอเองก็มีความปรารถนาแต่รังเกียจผู้ชายคนนี้ การแสดงสีหน้าท่าทางของเขามักจะดูชั่วร้ายอยู่เสมอ ภายใต้หน้ากากนั้นมีบางอย่างแอบแฝง
เมื่อทนไม่ไหวอีกต่อไป โนเอมีวางแผนจะกลับเม็กซิโกซิตี้ ออกไปจากบ้านหลังนี้ แต่ก่อนไปพวกเขาได้จัดมื้อเย็นส่งท้ายและโนเอมีต้องไปพบกับโฮเวิร์ด เขาให้เธอเข้าไปใกล้ๆ แล้วจูบเธอ สอดลิ้นเข้ามาพร้อมกับอะไรบางอย่างทะลักเข้ามาในตัวโนเอมี เธอหมดสติ ตื่นขึ้นมาอีกทีและรู้ความจริงจากนิมิตว่าโฮเวิร์ดได้รับพลังอมตะจากเห็ดราที่เติบโตในบ้าน เห็ดที่รักษาโรคและยืดชีวิตคนออกไปได้ เขาฆ่านักบวชและได้มาซึ่งอำนาจ จากนั้นก็ประกอบพิธีกรรมพาหญิงที่ท้องลูกของเขามาที่บ้านและให้น้องสาวทั้งสองคนซึ่งก็คือแอกแนสและอลิซกับเด็กทารกที่เพิ่งคลอด ส่วนร่างของหญิงคนนั้นถูกฝังทั้งเป็นเพื่อสร้างโครงข่ายเห็ดรา ซึ่งก็คือเดอะกลูมเพื่อให้เขาสามารถควบคุมจิตใจคนได้
นอกจากนั้นโฮเวิร์ดยังสามารถถ่ายโอนจิตของเขาหลังจากที่ตายไปแล้วไปยังเดอะกลูม และจากที่นั่นเขาสามารถเข้าไปอยู่ในร่างใหม่ที่อ่อนเยาว์กว่าเพื่อมีชีวิตเป็นอมตะ โนเอมีคือตัวเลือกใหม่ของเขา เธอมีความเข้ากันได้กับเห็ดราในบ้านหลังนี้ได้อย่างน่าประหลาด และลูกของเธอจะทำให้เชื้อพันธุ์ดอยล์แข็งแกร่งขึ้นหลังจากแต่งงานกันเองภายในครอบครัวมาหลายรุ่น โนเอมีรู้สึกรังเกียจจนทนไม่ไหว พวกเขามีอะไรกับพี่น้องตัวเอง ผสมพันธุ์กันในครอบครัวไปเรื่อยๆ เธอและฟรานซิสวางแผนจะหลบหนีออกไปจากที่นี่โดยพาคาทาลิน่าออกไปด้วย โนเอมีดื่มยาที่เธอไปหามาและมันทำให้ฤทธิ์ของสปอร์เห็ดมีผลต่อเธอน้อยลง มันคือความตั้งใจของคาทาลิน่ามาโดยตลอด
โฮเวิร์ดจัดพิธีแต่งงานให้กับเธอและฟรานซิส เธอทำร้ายเวอร์จิลจนสลบ จัดการฮเวิร์ดจนสาหัส ฆ่าฟลอเรนซ์และพากันหลบหนีออกมาทางสุสาน ที่นั่นพวกเขาได้พบกับความน่าสะพรึง ร่างของแอกเนสที่ตายทั้งเป็นเพื่อเป็นสติปัญญาให้กับโครงข่ายเห็ดราในบ้านหลังนี้ และโฮเวิร์ดก็มีอำนาจควบคุมทุกคนได้ตราบใดที่มันยังอยู่ เวอร์จิลมาสกัดไม่ให้พวกเขาหลบหนี และโนเอมีจัดการเผาเห็ดราเหล่านี้ทิ้งจนหมด เธอ คาทาลิน่าและฟรานซิสพากันหนีออกมาได้สำเร็จ High Place ถูกเผา โนเอมีและฟรานซิสลงเอยได้อยู่ด้วยกันแม้ว่าเขากลัวว่าวันหนึ่งเขาจะคบวคุมตัวเองไม่ได้ก็ตามเพราะอยู่ใต้ฤทธิ์ของเห็ดเหล่านั้นมานานเกินไป...
........................................................
Mexican Gothic เห็นหลายคนบอกว่าให้บรรยากาศคล้ายๆ กับ Crimson Peak + Get Out คือมีความลึกลับอวลอยู่ในบ้าน แถมคนที่อาศัยอยู่ในนั้นก็มีท่าทางแปลกๆ อีก เจ้าของบ้านที่ป่วยหนัก หมอกที่ปกคลุมไปทั่ว หลุมศพชวนสยอง แต่ทั้งหมดที่ว่ามานี้กลับไม่มีความสยองอยู่เลยสักนิดขณะที่อ่าน ปัญหาเราว่ามาจากการเล่าเรื่องแบบเนือยๆ ผู้แต่งบิวท์บรรยากาศหลอนๆ เก่งมาก แต่พอโอกาสที่จะขยี้ความหลอนมาถึง เธอกลับไม่ขยี้ ใช้วิธีบรรยายแบบลวกๆ แล้วก็ปล่อยเลยตามเลยไป ซึ่งมันน่าเสียดายมากเพราะ Mexican Gothic มีวัตถุดิบที่ดีมากๆ ที่จะเป็นนิยายสยองขวัญขึ้นหิ้ง แต่กลับถูกทำให้เสียของด้วยการเล่าเรื่อง
จังหวะการเล่าเรื่องมันไม่ลื่นไหล ช่วงแรกอืด ช่วงกลางอืดยิ่งกว่าและไปเร่งๆ ตอนท้ายหลังเฉลยว่ามีอะไรอยู่ในคฤหาสน์หลังนี้ ความรู้สึกเราตอนที่อ่านคือมันให้อารมณ์เหมือนนิยายโรมานซ์ย้อนยุคกับ Resident Evil 7 กับ Resident Evil Village ผสมกัน ตอนจบไม่ได้สะใจอะไรเพราะมันเป็นอย่างที่เดาเอาไว้ แต่องค์ประกอบโดยรวมเราถือว่าทำได้ดี
โนเอมีเป็นตัวละครที่หัวสมัยใหม่ ซึ่งตรงนี้น่าสนใจเพราะเซตติ้งนั้นจะย้อนยุคนิดๆ แต่ความคิดความอ่านของนางคือหัวก้าวหน้า มีความฉูดฉาดและหัวขบถ มันมีรายละเอียดในซีนเล็กๆ น้อยๆ แต่สะท้อนตัวตนของเธอออกมาชัดเจนซึ่งผู้แต่งแทบไม่ต้องอธิบายยาวยืดอะไรเลย แต่ความก๋ากั่นและไม่ค่อยกลัวอะไรของเธอนี่แหละมันคือดาบสองคม ที่พอมาอยู่ในนิยายสยองขวัญแล้วมันทำให้คนอ่านไม่รู้สึกกลัวตามไปด้วย แบบนางเอกของเรื่องยังกล้าหน้าเชิ่ดขนาดนี้ แล้วเราจะต้องกลัวไปทำไม 5555
จุดที่เราชอบใน Mexican Gothic คือกลิ่นอายบ้านหลอนแบบกอธิคผสมความเม็กซิกันลงไป และการเฉลยปมที่เล่นใหญ่เล่นโต หวือหวา และหวือหวาในที่นี้คือเราน่าจะต้องทั้งแปะสปอยล์และใส่เป็น Trigger Warning ไปพร้อมๆ กัน (เตือนอีกครั้งว่า Trigger Warning มันสปอยล์หนักมาก)
ตัวละครมีความสัมพันธ์กันในหมู่เครือญาติ / มีฉากที่กินเนื้อเด็ก กินเนื้อมนุษย์ / ข่มขืน ถึงจะแค่เกือบๆ แต่ก็นั่นแหละ / มีคำพูดในเชิงเหยียดชาติพันธุ์
ตอนคลายปมช่วงท้ายทำได้ดี ตื่นเต้น แต่ทุกอย่างช่วงนั้นมันเกิดขึ้นเร็วมากๆ น่าจะลดเวลาปูเรื่องในช่วงแรกไปใส่ใจกับการบิวท์ไคลแม็กซ์กว่านี้ น่าจะต่อยอดเป็นนิยายสยองขวัญที่ได้ 10/10 จากเราไปสบายๆ เพราะเราชอบองค์ประกอบและประวัติความเป็นมาในเรื่อง ส่วน plot device ก็มาเกือบดีแล้ว ถ้าใส่ red herring เข้าไปเราว่ามันจะฉ่ำจะว้าวมากกว่านี้ ซึ่งภาพรวมตอนนี้หลังอ่านจบเราว่ามันจะมีบางจุดขาดๆ เกินๆ อยู่
สรุปได้ว่า Mexican Gothic เป็นนิยายที่กลางๆ สำหรับเรา อ่านได้แต่อ่านได้ช้ามากเพราะมันเรื่อยๆ ไม่ค่อยมีอะไรเกิดขึ้นประมาณ 70% ของหนังสือเลย ไปสนุกเอาช่วงท้าย การคลายปมและเฉลยต่างๆ ทำได้ดีและฉูดฉาดอยู่พอสมควร ไม่แปลกใจที่ดังเป็นพลุแตกตอนออกใหม่ๆ แต่ได้คะแนนไปแค่ 3.68 ใน goodreads คือเป็นหนังสือที่มีปัญหาจุกจิกหลายอย่าง ถ้ามองข้ามไปได้ก็พอจะสนุกกับมันได้อยู่
No comments:
Post a Comment