Aug 28, 2023

Hidden Pictures



ชื่อเรื่อง Hidden Pictures
ผู้แต่ง Jason Rekulak
นิยายสยองขวัญ
สำนักพิมพ์ Flatiron Books

เรื่องย่อ
A wildly inventive spin on the supernatural thriller, about a woman working as a nanny for a young boy with strange and disturbing secrets.

Mallory Quinn is fresh out of rehab when she takes a job as a babysitter for Ted and Caroline Maxwell. She is to look after their five-year-old son, Teddy.

Mallory immediately loves it. She has her own living space, goes out for nightly runs, and has the stability she craves. And she sincerely bonds with Teddy, a sweet, shy boy who is never without his sketchbook and pencil. His drawings are the usual fare: trees, rabbits, balloons. But one day, he draws something different: a man in a forest, dragging a woman’s lifeless body.

Then, Teddy’s artwork becomes increasingly sinister, and his stick figures quickly evolve into lifelike sketches well beyond the ability of any five-year-old. Mallory begins to wonder if these are glimpses of a long-unsolved murder, perhaps relayed by a supernatural force.

Knowing just how crazy it all sounds, Mallory nevertheless sets out to decipher the images and save Teddy before it’s too late.

REVIEW

มัลลอรี ควินน์ เคยติดยามาก่อน เธอได้รับการบำบัดละพร้อมที่จะเริ่มต้นชีวิตใหม่ในฐานะพี่เลี้ยงเด็กให้กับเท็ดดี้ ลูกชายของเท็ดและคาโรไลน์ซึ่งเพิ่งย้ายมาจากบาร์เซโลน่า ที่นั่นมัลลอรีได้พบกับเหตุการณ์แปลกๆ เช่นเท็ดดี้มักจะใช้เวลาในยามบ่ายอยู่ในห้องเงียบๆ คนเดียวและภาพวาดที่ชักจะน่ากลัวสยดสยองมากขึ้นทุกที เพราะพวกมันคือภาพของหญิงสาวที่ถูกลากเข้าไปในป่าและถูกฝังเอาไว้


มัลลอรีได้พบกับเอเดรียน หนุ่มหล่อที่เธอต้องโกหกเกี่ยวกับชีวิตของเธอว่าตัวเองไม่ได้ติดยา และเพื่อนบ้านอย่างมิตซีที่สามารถติดต่อภูติผีได้ และเมื่อภาพวาดของเท็ดดี้ชักจะน่ากลัวขึ้นเรื่อยๆ มัลลอรีก็คิดว่าทั้งเท็ดและคาโรไลน์คงช่วยอะไรไม่ได้ พวกเขาไม่เชื่อในพระเจ้า ไม่เชื่อในเรื่องผีสาง และไหนจะเรื่องที่เท็ดดี้พูดคุยกับอันยา เพื่อนในจินตนาการของเขาอีก พ่อแม่ของเท็ดดี้บอกว่าเป็นเรื่องปกติสำหรับเด็กในวัยนี้

และอันยาก็อาจจะไปคล้ายคลึงกับแอนนี เรื่องเล่าที่คนในชุมชนนี้รู้กันหมดว่าเธอหายตัวไป ทิ้งรอยเลือดเอาไว้ให้ดูต่างหน้า กลายเป็นเรื่องสยองขวัญในกระท่อมหลังที่มัลลอรีอาศัยอยู่ ซึ่งแน่นอนว่าเธอเองมักจะได้ยินเสียงแปลกๆ ในตอนกลางคืนหรือความรู้สึกที่เหมือนมีใครจ้องมองตัวเองอยู่ และจากภาพวาดลายเส้นของเด็กเริ่มจะพัฒนาเป็นการให้แสงและเงาตามแบบฉบับที่เด็กอย่างเท็ดดี้ไม่สามารถทำได้ เรื่องนี้ไม่ชอบมาพากลเสียแล้ว โดยเฉพาะวันหนึ่งที่มัลลอรีซ่อนกล้องไว้ในห้องเท็ดดี้และพบว่าเขาเหมือนถูกอะไรบางอย่างสิงสู่ กลิ่นแปลกๆ ที่ดูไม่น่าจะเกิดขึ้นได้

การค้นหาความจริงจึงเริ่มต้นขึ้นโดยเอเดรียนให้ความช่วยเหลือ พวกเขาอัญเชิญวิญญาณของแอนนี่ด้วยผีถ้วยแก้วแต่พบว่าสิ่งที่เธอพยายามจะบอกเป็นตัวอักษณมั่วซั่วถึงไม่มีใครตีความได้ และมัลลอรี่เองก็เผลอหลับในบ่ายวันหนึ่ง ตื่นขึ้นมาพร้อมกับภาพวาดเต็มผนังบ้าน แน่นอนว่าทั้งเท็ดและคาโรไลน์เต็มทนกับเธอและตัดสินใจไล่มัลลอรีออก เธอจึงเหลือเวลาอีกไม่กี่วันในการพิสูจน์ความจริงว่าเป็นฝีมือของแอนนี่ที่เข้ามาสิงสู่เธอนั่นเอง

แต่จู่ๆ มิตซีก็หายตัวไป ตำรวจพบศพเธอในป่า ระหว่างที่มัลลอรีและเอเดรียนเข้าไปในบ้านเพื่อเอากระดาษจดสารจากผีถ้วยแก้วและรู้ว่ามันคือภาษาฮังกาเรียน เอเดรียนเดินทางไปหาญาติที่ยังเหลืออยู่ของแอนนี่และได้รู้ความจริง เรื่องราวที่ตรงกันข้ามกับเรื่องเล่าที่มัลลอรีได้ยินมาสิ้นเชิง แอนนี่ บาร์เรตไม่ได้ถูกฆ่าหรือเสียชีวิต เธอหนีไปกับผู้ชายผิวดำและตั้งท้อง และด้วยความอับอายของคนในสมัยนั้น พี่ชายของแอนนี่ได้สร้างเรื่องทั้งหมดขึ้นมากลบเกลื่อน

แล้วถ้าผีที่กำลังจะบอกอะไรบางอย่างไม่ใช่แอนนี่ เธอเป็นคนไทย สุดท้ายมัลลอรีก็แก้ปริศนาเอง ข้อความสุดท้ายที่มิตซีกำลังจะส่งมาให้เธอว่าอันยาไม่ใช่ชื่อคน และมัลลอรีก็รู้ว่าแท้จริงแล้วอันยาคือคำว่าแม่ในภาษาฮังกาเรียน เธอตัดสินใจไปเผชิญหน้ากับเท็ดและคาโรไลน์เมื่อรู้ในที่สุดว่า เท็ดดี้ไม้ใช่เด็กผู้ชายแต่เป็นเด็กผู้หญิง

มัลลอรีถูกทั้งสองทำร้าย และคาโรไลน์จับเธอมัดติดกับเก้าอี้ในกระท่อม หวังจะฆ่าปิดปากเธอด้วยการเสพเฮโรอีนเกินขนาด เธอเปิดเผยความจริงว่าสมัยอยู่ในนิวยอร์ค เธอกับเท็ดพยายามมีลูกแต่ไม่สำเร็จกระทั่งวันหนึ่งไปเจอกับแม่ตัวจริงของเท็ดดี้ในสวนกำลังวาดภาพอยู่ และเห็นว่าเธอละเลยลูกสาวตัวเองมากแค่ไหน วันหนึ่งเท็ดดี้หายเข้าไปในป่า คาโรไลน์ตามไปช่วยแต่มีปากเสียงกับแม่ของเท็ดดี้ซึ่งพูดภาษาอังกฤษไม่ได้ เธอใช้ที่ช็อตไฟฟ้าจัดการกับแม่ของเท็ดดี้ และขอให้เท็ดช่วยอำพรางศพ ทั้งคู่พาลูกสาวของคนอื่นหลบหนี มอบชื่อใหม่ให้เป็นเท็ดดี้ แปลงเขาเป็นผู้ชายเพื่อความปลอดภัยกระทั่งมัลลอรีมารู้ความจริงและเปิดโปงพวกเขา ภาพวาดทั้งหมดนั้นปะติดปะต่อเป็นเรื่องราว นางฟ้าในรูปคือรอยสักรูปปีกกลางหลังของคาโรไลน์ แม่ตัวจริงของเท็ดดี้คือผู้หญิงที่ฆ่าและลากไปฝัง

เท็ดเข้ามาช่วยมัลลอรี บอกว่าทั้งคู่จะหนีไปด้วยกันเพราะเขาหลงรักเธอ และไม่เอาเมียตัวเองอีกแล้ว แต่คาโรไลน์มาสกัดเอาไว้และยิงสามีตัวเอง มัลลอรีไปช่วยเท็ดดี้และทั้งคู่หนีเข้าไปในป่า ปีนขึ้นต้นไม้แต่คาโรไลน์กลับหาพบ เท็ดดี้ถูกแม่แท้ๆ ของเขาเข้าจริงแล้วเขาหัวลูกศรทิ่มคอคาโรไลน์จนตาย ตำรวจมาพบและมัลลอรีเป็นคนรับผิดทั้งหมด พ่อตัวจริงของเท็ดดี้มารับลูกสาวของเขาไป และไปเริ่มต้นชีวิตใหม่

เท็ดดี้กลับไปใช้ชื่อฟลอร่า แต่งตัวเป็นเด็กผู้หญิงเหมือนเดิม แต่หมอไม่ให้เธอพบกับมัลลอรีจนกว่าอีกฝ่ายจะพร้อม สุดท้ายวันนั้นก็มาถึง มัลลอรีไปหาฟลอร่าที่แทบจำเธอไม่ได้ เธอกับเอเดรียนกลับไปด้วยความเสียดายแต่วินาทีสุดท้าย ฟลอร่าก็วิ่งเข้ามากอดพร้อมกับมอบภาพวาดที่มีมัลลอรีกับเธอให้...


........................................................

เราหยิบ Hidden Pictures ขึ้นมาอ่านเพราะคำโฆษณาที่ว่าแฟนๆ Stranger Things กับ Riley Sager ต้องชอบ เราก็เอาละ หนังสือเล่มนี้เข้าทางเราแน่ๆ ยิ่งอ่านบทแรกๆ ละพบว่ามันมีความเป็นอเมริกันจ๋ามากๆ แบบโคตรจะอเมริกันในทุกๆ aspect เลย ใครเป็นแฟนหนังสยองขวัญในช่วงยุค 2000s จะอ๋อทันที องค์ประกอบอย่างเช่นเด็กน้อยที่มีพฤติกรรมแปลกๆ วาดรูปแปลกๆ กับเรื่องเล่าสยองขวัญคนถูกฆ่าประจำชุมชนไรงี้

การเล่าเรื่องลื่นไหล ย้ำว่าลื่นไหลมาก ไม่สะดุดตรงไหนเลย ผ่านมุมมองบุคคลที่หนึ่ง ถือว่าเป็นจุดแข็งของหนังสือเล่มนี้ สไตล์การเขียนก็ดี ถูกจริตเรามาก ยิ่งภาพประกอบซึ่งไต่ระดับความหลอนขึ้นเรื่อยๆ ลุ้นทุกครั้งเวลาพลิกหน้าต่อไปว่าจะเจอกับภาพน่ากลัวแค่ไหน ปมปริศนาและจุดหักมุมที่เส้นผมบังภูเขา แต่ถ้าใครดูหนังสยองขวัญยุคเก่าๆ มามากพอ มันจะพอเดาออกทันที เพราะทุกอย่างในหนังสือเล่มนี้แทบไม่มีอะไรสดใหม่เลย

หลังจากนี้เราขอติดสปอยล์เอาไว้ เพราะถ้าพูดถึงจุดนึงเพียงนิดเดียวมันจะคลายปมทั้งหมดของเรื่องออกมาหมด

รีวิวที่มีสปอยล์: คลิกเพื่อดู
Hidden Pictures มันคือการยำรวมเว่อของหนังสยองขวัญหลายๆ เรื่อง การเล่าเรื่องไม่ซับซ้อน หักมุมครั้งใหญ่ตอนท้ายทีเดียว ถามว่าเหวอไหม ไม่เหวอเหมือน Home Before Dark ซึ่งเราได้อ่านก่อนหน้านี้ที่หักมุมในหักมุมในหักมุมอีกที อันนี้พอเผยความจริงออกมา เรามีความรู้สึกแค่ว่า อ่อ แค่นี้เอง และยิ่งมานึกถึงหลังอ่านจบ ตอนพิมพ์รีวิวไปนี่ เราว่าบางมุมมองมันค่อนข้างตลกและดูลอยๆ

มันมี Plot armor อันเบ้อเริ่มอยู่ในเรื่อง ที่ทำให้เรารู้สึกว่ามัลลอรีนี่ไม่ตายก่อนแน่ๆ เพราะนางเป็นคนเล่าเรื่อง แถมไม่มี pov คนอื่นแทรกเข้ามาตลอดทั้งเล่มเลย ต่อให้สถานการณ์มันจะย่ำแย่อย่างไหน เดี๋ยวก็จะมี Deus ex machina มาช่วยให้นางรอดไปได้ นางเป็นนักวิ่ง โดนตีหัวเลือดอาบ ฉีดแป้งเข้าเส้นเลือดยังวิ่งสับหนีออกมาได้ มีกะจิตกะใจจะย้อนกลับไปช่วยเด็กอีกด้วยนะ หรือตัวละครหลักเจอทางตันก็จะได้รับโทรศัพท์บอกเล่าความจริงมาช่วยให้คลายปมได้ต่อ โดยเฉพาะช่วงท้าย ผู้แต่งใช้ plot devices ที่ว่ามาเปลืองเสียจนทำที่ปูมาดีๆ เสียเกือบหมด ซึ่งมันค่อนข้างน่าเสียดาย

อีกจุดที่เราไม่อินคือความรักที่มัลลอรีมีให้กับเท็ดดี้ จะผูกพันธ์หรือจะอะไรแล้วแต่ แต่สำหรับเราคือเท็ดดี้คือไม่น่าเอ็นดูสักนิด นอกจากไม่ให้ความร่วมมือในการสืบสวนอะไรสักอย่างตลอดทั้งเล่มด้วยแล้ว ตอนหนีตายยังจะทำเสียเรื่องเป็นภาระชาวบ้านอีก บางคนอาจจะ defend ว่าเขาเป็นแค่เด็ก ซึ่งก็ถูก แต่ผู้แต่งสร้างตัวละครเท็ดดี้มาค่อนข้าง unlikable ไปนิด พอถึงบทส่งท้ายที่มาอาลัยอาวรณ์จะทำซึ้งเราเลยไม่อินและรู้สึกว่ายืดเยื้อไม่จำเป็นไปเลย

ซึ่งเท็ดดี้ก็ถูกใช้เป็น plot device ตัวเบิ้มๆ อีกนั่นแหละ
 
เอาจริง ค่อนข้างผิดหวังเลยแหละ ยิ่งมีคำว่า Stranger Things มาด้วยแบบนี้ไอ้เราก็คาดหวังอะไรยิ่งใหญ่อลังการ ซับซ้อนซ่อนเงื่อน พอเจอแบบนี้ก็โอเค เข้าใจได้ แต่คงไม่ใช่หนังสือสยองขวัญลำดับต้นๆ ที่เราจะแนะนำให้เพื่อนๆ คนรู้จักอ่านแน่ๆ ยกเว้นอยากลองว่าคนเขามุงอะไรกัน ก็นั่นแหละ อ่านได้เพลินๆ ไม่เสียหาย แต่กว่าจะไปสนุกก็ 25% สุดท้ายอะเราว่า 75% แรกเหมือนเดินเล่นในสวน

แอบลังเลว่าจะให้ 6.5 หรือ 7 ดี อยากให้ 7 แต่พอนึกถึงเท็ดดี้แล้วก็แบบเอิ่ม ทั้งเล่มมีแค่ 2 บทบาทคือทำตัวแบ๊วน่ารักประสาเด็กวัยนั้นกับทำตัวไม่มีประโยชน์ในส่วนที่เหลือ สรุปคือ 75% แรกถึงจะกินลมชมวิว เอื่อยๆ ไม่มีอะไรเกิดขึ้น แต่เราก็ชอบนะ เพราะสไตล์การเขียนกับการเล่าเรื่องดีมากทำให้อยากอ่านต่อเรื่อยๆ แต่พอเฉลยปมแล้วเราว่ามัน hit or miss ไปเลย ใครชอบก็ชอบมาก ใครไม่ชอบก็จะไม่ชอบเหมือนเรา แทบไม่มีตรงกลาง สำหรับเราคือพอถึงช่วงเฉลยปมแล้วมันฟีลละครคุณธรรมมากๆ
 
คะแนน 6.5/10

No comments:

Post a Comment