Jul 16, 2023

Home Before Dark



ชื่อเรื่อง Home Before Dark
ผู้แต่ง Riley Sager
นิยายสยองขวัญ
สำนักพิมพ์ Dutton Books

เรื่องย่อ

What was it like? Living in that house.

Maggie Holt is used to such questions. Twenty-five years ago, she and her parents, Ewan and Jess, moved into Baneberry Hall, a rambling Victorian estate in the Vermont woods. They spent three weeks there before fleeing in the dead of night, an ordeal Ewan later recounted in a nonfiction book called House of Horrors. His tale of ghostly happenings and encounters with malevolent spirits became a worldwide phenomenon, rivaling The Amityville Horror in popularity—and skepticism.

Today, Maggie is a restorer of old homes and too young to remember any of the events mentioned in her father’s book. But she also doesn’t believe a word of it. Ghosts, after all, don’t exist. When Maggie inherits Baneberry Hall after her father’s death, she returns to renovate the place to prepare it for sale. But her homecoming is anything but warm. People from the past, chronicled in House of Horrors, lurk in the shadows. And locals aren’t thrilled that their small town has been made infamous thanks to Maggie’s father. Even more unnerving is Baneberry Hall itself—a place filled with relics from another era that hint at a history of dark deeds. As Maggie experiences strange occurrences straight out of her father’s book, she starts to believe that what he wrote was more fact than fiction.

In the latest thriller from New York Times bestseller Riley Sager, a woman returns to the house made famous by her father’s bestselling horror memoir. Is the place really haunted by evil forces, as her father claimed? Or are there more earthbound—and dangerous—secrets hidden within its walls?

REVIEW

แม็กกี้ โฮลท์เติบโตมากับหนังสือที่พ่อของเธอเป็นคนเขียนเกี่ยวกับบ้านผีสิงที่เขากับครอบครัววิ่งหนีออกมากลางดึกและทิ้งของทุกอย่างเอาไว้ในบ้านตั้งแต่หลายปีก่อน เธอรู้สึกแปลกแยกมาโดยตลอดและเชื่อว่าทุกอย่างเป็นเรื่องแต่งจนกระทั่งพ่อของเธอเสียชีวิตและได้รู้ว่าเขายังเป็นเจ้าของบ้านผีสิงหลังนั้นอยู่

เบนเบอร์รี่ฮอลล์ตั้งตระหง่านเหนือหมู่แมกไม้เมื่อแม็กกี้ขับรถกลับไปเพื่อรีโนเวตใหม่สำหรับขายต่อ เธอกำลังจะได้ค้นพบกับความจริงที่ซุกซ่อนอยู่ในบ้านหลังนี้นับตั้งแต่วินาทีที่แม็กกี้เยื้องกรายเข้าไปด้านใน


เบนเบอร์รี่ฮอลล์เป็นสถานที่ซึ่งทีคนมากมายตายที่นี่ หนึ่งในนั้นคือเคอร์ติสที่ฆ่าลูกสาวตัวเองโดยเอาหมอนกดหน้า กับอินดิโก การ์สันซึ่งว่ากันว่าถูกพ่อตัวเองฆ่า แต่ความจริงก็ไม่ชัดเจน แม็กกี้ได้พบกับเดน หนุ่มดูแลบ้านซึ่งเปี่ยมไปด้วยเสน่ห์และเธอก็ขอให้เขาเข้ามาช่วยในการรีโนเวตบ้านครั้งนี้

ความจริงเริ่มเปิดเผยเมื่อเธอได้รู้ว่าพ่อของตัวเองได้กลับมาที่เบนเบอร์รี่ฮอลล์ทุกๆ ปีหลังจากเหตุการณ์ในวันนั้น รวมไปถึงการหายตัวของเพทรา เพื่อนสมัยเด็กของแม็กกี้ที่เขาลือกันว่าหนีตามผู้ชายไป นอกจากนี้ยังมีเหตุการณ์แปลกๆ ที่เกิดขึ้นในยามค่ำคืน เสียงเพลงที่ดังขึ้นเอง เสียงฝีเท้าที่ดังอยู่ภายในบ้านราวกับมีคนเดินไปเดินมา แม็กกี้่ต้องรู้ให้ได้ว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่ และสิ่งที่อยู่ในหนังสือของพ่อเธอนั้นเป็นเรื่องโกหกหรือเปล่า

ระหว่างซ่อมบ้าน เดนได้กดผนังที่โป่งพองทำให้สิ่งที่ซ่อนอยู่นั้นหล่นลงมา มันคือซากศพของมนุษย์ ซึ่งแม็กกี้แน่ใจในทันทีว่านี่คือชิ้นส่วนกระดูกของเพทราที่หายตัวไป เหตุการณ์จึงซับซ้อนขึ้นเมื่อทุกคนเริ่มสงสัยว่าบางทีพ่อของแม็กกี้อาจจะเป็นคนฆ่าเพทราเนื่องจากความสัมพันธ์ชู้สาวระหว่างทั้งคู่ แต่ความจริงก็ยังไม่แน่ชัดและแม็กกี้ต้องสืบหาความจริงให้ได้

เธอย้อนกลับไปหาจิตแพทย์ที่พ่อของเะอเคยพามาหาตอนสมัยแม็กกี้เป็นเด็กและเห็นเพื่อนในจินตนาการ มิสเตอร์แชโดว์กับมิสเพนนี่เฟซ หลังจากนั้นก็ไปพบมาร์ธาแม่ของเด็กสาวที่ถูกพ่อตัวเองฆ่าตายก่อนที่เขาจะเอาถุงครอบหัวตายตาม ทั้งคู่นัดกันมาคุยที่บ้าน ขุดคุ้ยหาอดีตและแม็กกี้ก็ได้รู้ว่าเหตุการณ์บางอย่างในหนังสือเป็นเรื่องจริง แต่บางส่วนก็เป็นสิ่งที่พ่อของเธอแต่งขึ้นมา ซ้ำร้ายไปกว่านั้น แม็กกี้พบว่าของหลายชิ้นในเบนเบอร์รี่ฮอลล์หายไปเรื่อยๆ และคนที่แอบลักลอบเข้ามาขโมยไปนั้นไม่ใช่ใครที่ไหนแต่เป็นน้องสาวของเพทราที่นำไปขายในอินเทอร์เน็ตเพื่อแลกกับเงินนั่นเอง

แม็กกี้ได้รู้ในที่สุดว่ายังมีทางเข้าลับทางด้านหลังของเบนเบอร์รี่ฮอลล์ และเป็นช่องทางที่น้องสาวของเพทราแอบลักลอบเข้าไปในบ้านตอนกลางคืน หลอกให้เธอกลัวโดยเสียงเพลงบนห้องทำงานชั้นสามที่ดังขึ้นมาเอง รวมไปถึงเงาในเห็นนอกบ้านล้วนแต่เป็นฝีมือของเธอ แม็กกี้ค้นพบทางลับนั้นอันนำไปสู่ประตูตู้เสื้อผ้าในห้องของเธอ ความจริงจึงปรากฏว่าตั้งแต่ตอนเด็กที่อยู่ที่นี่ อาจมีคนอาศัยเส้นทางนี้ในการเข้ามาในห้องเธออยู่เป็นประจำ

แม็กกี้โทรหาเดนระหว่างนั้นก็ดูรูปภาพโพลารอยด์ที่พ่อของเธอถ่ายเอาไว้วันที่ซ่อมเพดานซึ่งมีงูหล่นลงมา ในนั้นคือเดนสมัยวัยรุ่นที่เข้ามาช่วยบ้าน เขาเป็นคนรักของเพทรา และแม็กกี้ปะติดปะต่อเรื่องได้ทันทีว่าอาจเป็นเขาที่ฆ่าเพทราและซ่อนศพเอาไว้ พอเดนมาถึง แม็กกี้ก็หนีตายสุดชีวิต หนีไปจนถึงห้องที่มืดสนิทและหลอกล่อให้เดนตกลงไปผ่านรูบนพื้น

ตำรวจและแม่ของเธอมาหาหลังจากนั้น แม่ของแม็กกี้ยอมบอกความจริงกับลูกสาวว่าแท้จริงแล้วพ่อของเธอไม่ได้เป็นฆ่าเพทรา แต่เป็นแม็กกี้ในวัยเด็กต่างหากที่ผลักเพทราตกบันได ทำให้ทั้งพ่อและแม่ของแม็กกี้ต้องปิดบังอำพรางฆาตกรรมในครั้งนี้และแต่งเรื่องบ้านผีสิงขึ้นมาเพื่อเบี่ยงเบนความสนใจของคนอื่น เพื่อปกปิดความผิดของลูกสาวตัวเอง และมันก็ได้ผลเกิดคาด ไม่มีใครค้นพบศพของเพทราที่ถูกซ่อนเอาไว้ แถมหนังสือเล่มนั้นยังดังเป็นพลุแตก เนื้อหาในหนังสือกล่าวถึงผีของอินดิโกที่พ่อของแม็กกี้เข้าใจผิดคิดเป็นคนอื่นมาโดยตลอด เธอต้องการล้างแค้นพ่อทุกคนที่เข้าพักที่นี่ด้วยการทำให้เขาฆ่าลูกสาว จะเกิดโศกนาฏกรรมครั้งแล้วครั้งเล่า และเขาก็พาแม็กกี้หนีออกมาในคืนนั้นเพราะกลัวว่าตัวเองจะทำร้ายเธอ ซึ่งเรื่องเล่าเกี่ยวกับผีนี้นั้น เป็นเรื่องแต่งเกือบทั้งหมดรวมไปถึงเรื่องที่เขาสื่อสารกับวิญญาณของเคอร์ติสผ่านกระดิ่งอีกด้วย

แม็กกี้กลับไปนอนในห้องของเธอและสะดุ้งตื่นยามดึกเพราะมิสเพนนีเฟซมายืนที่ปลายเตียง ปรากฏว่าไม่ใช่ใครที่ไหนแต่เป็นมาร์ธานั่นเอง แว่นของเจ้าหล่อนสะท้อนแสงจันทร์ทำให้เหมือนมีเหรียญวางทาบไว้ที่ดวงตา มาร์ธาเองก็อาศัยช่องทางลับในการแอบเข้ามาดูแม็กกี้นอนหลับตั้งแต่ตอนเด็กเพราะคิดถึงลูกสาวที่ตายไปของเธอ และในคืนนั้นที่เพทรามานอนด้วยเพราะพ่อแม่ของแม็กกี้ต้องการแอบไปจู๋จี๋กันที่โรงแรม เพทราเห็นมาร์ธาบุกรุกเข้ามาในห้องและกำลังจะโทรแจ้งตำรวจแต่ก็ถูกผลักตกลงบันไดจนเสียชีวิตเสียก่อน

แม็กกี้ที่กินพายที่มาร์ธาให้มาก่อนหน้าถูกวางยา เธอตะเกียกตะกายเอาตัวรอดตกบันไดและกำลังจะตาย วินาทีนั้นเธอเห็นร่างของเพทรายืนอยู่ข้างหลังมาร์ธาและผลักเจ้าหล่อนตกบันไดลงมาคอหักตาย ซึ่งกลายเป็นว่าคนที่ผลักคือแม่ของเพทราที่ป่วยเป็นอัลไซเมอร์นั่นเอง

หลังจากทุกอย่างสิ้นสุดลง แม็กกี้รีโนเวตบ้านจนเสร็จ เธอตัดสินใจเขียนหนังสือเล่มใหม่ของตัวเองขึ้นมาซึ่งอาจจะเป็นภาคต่อจากเล่มที่พ่อของเธอเขียนเอาไว้ ทว่าคราวนี้ แม็กกี้จะบอกเล่าความจริงทั้งหมด...


........................................................

เราห่างหายจากการอ่านนิยายไปนานมากกกกกกก เพราะหมดไฟ หยิบเล่มไหนมาอ่านก็ไม่สนุก บางเล่มอ่านไม่จบ ปล่อยให้ค้างเติ่งเอาไว้อย่างนั้น จนเกือบๆ ปีผ่านไปเราตัดสินใจหยิบเล่มนี้ขึ้นมาอ่านเพราะช่วงนี้กำลังอินกับภาพยนตร์แนว horror มากเป็นพิเศษ และ Home Before Dark นั้นอยู่เป็นอันดับหนึ่งในลิสต์ want to read ของเรามานาน

อ่านไปได้แรกๆ เราก็รู้สึกว่าเอ๊ะ นี่มันก็เป็นเรื่องเกี่ยวกับบ้านผีสิงทั่วไปนี่หว่า เสียงฝีเท้าตอนกลางคืน เพลงที่ดังขึ้นเองกลางดึก หรือเงามืดที่ยืนอยู่ตรงปลายเตียง แต่คุณ Riley ก็ทำได้ดีในแง่ที่หนังสือเป็นเล่มนี้เป็นการเล่าเรื่องที่ตัดสลับไปมาระหว่างแม็กกี้ในพาร์ทปัจจุบันกับเนื้อหาในหนังสือสยองขวัญที่พ่อของเธอเขียนขึ้นมาในอดีตตีคู่กันไปแบบไคลแม็กซ์ช็อตต่อช็อต ดังนั้นจึงแทบไม่มีส่วนไหนที่ทำให้อารมณ์สะดุดเลยยกเว้นช่วงท้ายๆ ที่พาร์ทของแม็กกี้นั้นจะเข้มข้นและทำให้เราอยากรู้มากกว่า

เราชอบวิธีการเล่าเรื่องรวมไปถึงการสร้างบรรยากาศที่ทำให้คนอ่านหวาดระแวงไปด้วยกับนางเอกของเรื่องนี้ตลอดเวลา การเล่นกับความกระหายใคร่รู้โดยการหยอดสิ่งเหนือธรรมชาติเข้าไปอีกเล็กน้อยทำให้เป็นส่วนผสมชั้นดีสำหรับนิยายสยองขวัญสักเรื่องที่จะพาคนอ่านนั่งรถไฟเหาะตั้งแต่ต้นไปจนถึงตอนจบ

แม้เราพอจะเดาตอนจบได้ เพราะแนวบ้านผีสิงมันก็มี tactics ได้ไม่กี่แบบ ซึ่งทุกแบบคอหนังสยองขวัญก็คงผ่านตากันมาหมดแล้ว แต่คุณ Riley ก็ยังคงปล่อยหมัดเด็ด ใช้วิธีการหักมุมรัวๆ ในช่วงไม่กี่บทตอนท้ายและชกเข้าทุกหมัด ลากให้เราอ่านยาวๆ จนจบถึงตีสาม เรียกได้ว่านักเขียนมือถึงและแทบไม่มีช่วงไหนดรอปเลยด้วยซ้ำ ไม่มีบทสนทนายืดยาวชวนง่วง ไม่มีฟิลเลอร์ที่ใส่มาให้หนังสือหนาขึ้นโดยไม่จำเป็น ทุกอย่างในหนังสือเล่มนี้คือเศษเสี้ยวของความเป็นจริงผสมกับเรื่องโกหกที่คนอ่านต้องแยกออกจากกันให้ได้ก่อนจะไปเผชิญหน้ากับบทสรุป

จุดสังเกตสำหรับหนังสือเรื่องนี้คือตัวละคร ซึ่งการออกแบบนั้นไม่ได้ทำให้คนอ่านรู้สึกผูกพันธ์กับใครเลย เราไม่เอาใจช่วยใครเลยสักคน แค่อยากรู้ว่าปมมันจะถูกคลายออกมาแบบไหน ดังนั้นฟีลลิ่งในตอนอ่านจึงคล้ายๆ กับการนั่งดูหนังสยองขวัญสักเรื่องที่ตัวเอกกำลังวิ่งหนีอะไรสักอย่างโดยที่คนดูไม่รู้ว่าเขาหรือเธอจะรอดตายไปจนถึงตอนจบหรือไม่เพราะสิ่งที่ดึงความสนใจไปจากตรงนี้คือปมในเรื่องที่อิรุงตุงนังจนทำให้คนดูอยากจะรู้ความจริงมากกว่าการเอาใจช่วยตัวเอก

แต่พออ่านจบก็ต้องยอมรับว่า คุณ Riley ได้นักเขียนคนโปรดของเราอีกคนที่จะตามอ่านนิยายทุกเรื่องของเขาอย่างแน่นอน


คะแนน 8/10

No comments:

Post a Comment