ชื่อเรื่อง แด่ฟิลลิปด้วยดวงใจ (To Sir Phillip, With Love)
จากชุด บริดเจอร์ตัน (Bridgertons)
ผู้แต่ง Julia Quinn
ผู้แปล มัณฑุกา
โรมานซ์ ย้อนยุค
สำนักพิมพ์ แก้วกานต์
เรื่องย่อ
การเขียนจดหมายโต้ตอบกับญาติห่าง ๆ ของภรรยาผู้จากไป ทำให้เซอร์ฟิลลิปรู้ว่า เอโลอิส บริดเจอร์ตัน เป็นสาวโสดขึ้นคาน เขาขอเธอแต่งงานโดยคาดว่าเธอน่าจะเป็นสตรีผู้สงบเสงี่ยมเจียมตัว และกระหายจะได้ออกเรือน แต่ทว่า...กลับไม่ใช่ สาวงามที่ปรากฏตัวหน้าประตูบ้านของเขาไม่มีเค้าแห่งความสงบเสงี่ยม และเมื่อเธอหยุดพูดนานพอที่จะหุบปาก เขาก็คิดแต่อยากจะจูบเธอเท่านั้น...
เอโลอิส บริดเจอร์ตันไม่มีวันจะแต่งงานกับชายที่เธอไม่เคยเห็นหน้า! แต่แล้วเธอก็เริ่มคิด...และสงสัย...พอรู้ตัวอีกที เธอก็เช่ารถม้ากลางดึกเพื่อเดินทางไปหาชายที่เธอหวังว่าจะเป็นคู่ครองที่เหมาะสม แต่ทว่า...กลับไม่ใช่ สามีในอุดมคติของเธอไม่มีทางเป็นคนอารมณ์บูดและมารยาททรามถึงปานนี้ และเขาไม่ได้เล่าแน่ๆ ว่าเขามีลูกเล็กจอมทโมนอยู่สองคน ซึ่งต้องการมารดาพอๆ กับที่ฟิลลิปต้องการคู่ชีวิต...
จากชุด บริดเจอร์ตัน (Bridgertons)
ผู้แต่ง Julia Quinn
ผู้แปล มัณฑุกา
โรมานซ์ ย้อนยุค
สำนักพิมพ์ แก้วกานต์
เรื่องย่อ
การเขียนจดหมายโต้ตอบกับญาติห่าง ๆ ของภรรยาผู้จากไป ทำให้เซอร์ฟิลลิปรู้ว่า เอโลอิส บริดเจอร์ตัน เป็นสาวโสดขึ้นคาน เขาขอเธอแต่งงานโดยคาดว่าเธอน่าจะเป็นสตรีผู้สงบเสงี่ยมเจียมตัว และกระหายจะได้ออกเรือน แต่ทว่า...กลับไม่ใช่ สาวงามที่ปรากฏตัวหน้าประตูบ้านของเขาไม่มีเค้าแห่งความสงบเสงี่ยม และเมื่อเธอหยุดพูดนานพอที่จะหุบปาก เขาก็คิดแต่อยากจะจูบเธอเท่านั้น...
เอโลอิส บริดเจอร์ตันไม่มีวันจะแต่งงานกับชายที่เธอไม่เคยเห็นหน้า! แต่แล้วเธอก็เริ่มคิด...และสงสัย...พอรู้ตัวอีกที เธอก็เช่ารถม้ากลางดึกเพื่อเดินทางไปหาชายที่เธอหวังว่าจะเป็นคู่ครองที่เหมาะสม แต่ทว่า...กลับไม่ใช่ สามีในอุดมคติของเธอไม่มีทางเป็นคนอารมณ์บูดและมารยาททรามถึงปานนี้ และเขาไม่ได้เล่าแน่ๆ ว่าเขามีลูกเล็กจอมทโมนอยู่สองคน ซึ่งต้องการมารดาพอๆ กับที่ฟิลลิปต้องการคู่ชีวิต...
REVIEW
เรื่องราวทั้งหมดเริ่มต้นด้วยจดหมาย... เอโลอิสเขียนจดหมายโต้ตอบกับฟิลลิปเพื่อแสดงความเสียใจต่อการสูญเสียภรรยา เขาต้องเลี้ยงดูลูกแฝดทั้งสองตามลำพังและอะไรจะดีไปกว่าการหาแม่คนใหม่ให้กับโอลิเวอร์และอแมนดา ดังนั้นเขาจึงชวนเอโลอิสมาที่บ้านของเขา
ทว่าเธอกลับออกจากลอนดอนกะทันหันหลังจากเรื่องราวทั้งหมดที่เกิดขึ้น เพเนโลพีเพิ่งจะแต่งงาน และจะเหลือแต่เธอ ดังนั้นเธอจึงหวังว่าฟิลลิปจะเป็นความหวังสุดท้ายสำหรับการแต่งงาน แต่เมื่อไปถึง... เอโลอิสกลับประหลาดใจกับอะไรหลายๆ อย่าง ฟิลลิปดูเหมือนจะไม่ยินดีเท่าไรที่เธอมาปรากฏตัวแบบนี้ ซึ่งเขาเองก็แปลกใจเช่นกันที่เอโลอิสทำให้เขาเกิดอารมณ์ความรู้สึกที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน
........................................................
หลังจากทิ้งเวลาไปพักใหญ่กับจากเล่มที่แล้ว พอได้ดูบริดเจอร์ตันซีซันสองก็ทำให้เราอยากจะหยิบซีรีส์ชุดนี้ขึ้นมาอ่านอีกครั้งโดยเฉพาะได้รู้จักกับเซอร์ฟิลลิปแบบเยอะยิ่งขึ้นในซีซันนี้
หนังสือเปิดตัวมาด้วยการโต้ตอบจดหมายระหว่างเอโลอิสกับฟิลลิป และการออกจากลอนดอนกะทันหัน เนื้อเรื่องในช่วงต้นจึงดำเนินไปอย่างกระชับฉับไว มี potential ที่ทำให้เราติดหนึบ เกิดความกระหายใคร่รู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นต่อหลังจากเหตุการณ์ในตอนต้น ทำให้เราแอบคิดในใจว่าเราต้องชอบหนังสือเล่มนี้มากกว่าเล่มก่อนๆ แน่
ฟิลลิปเป็นพระเอกที่มีคาแรคเตอร์ไม่เหมือนกับพระเอกเล่มก่อนหน้า เขาตัวใหญ่ บูดบึ้งในบางครั้ง พูดไม่ค่อยเก่ง ชอบอยู่กับต้นไม้ และมีปมในอดีตที่คอยตามหลอกหลอน แต่ตามประสานิยายโรมานซ์ เอโลอิสซึ่งเป็นนางเอกในเล่มนี้จะมาเป็นคนที่เปลี่ยนทุกสิ่งทุกอย่างไปในทางที่ดีขึ้น ตอนแรกทั้งคู่จะตั้งแง่แทบจะไม่คุยกัน พ่อแง่แม่งอน แต่ก็มีความน่ารักของลูกแฝดมาทำให้โทนเรื่องดูสดใสมากกว่าเล่มอื่น ปมที่เหมือนจะหนักก็ไม่หนัก ดูผ่อนคลาย เบาสมอง ตลกนิดๆ
แต่หลังจากเอโลอิสไปถึงบ้านของฟิลลิปแล้ว เราเริ่มรู้สึกว่าไดอะล็อคเริ่มวนไปวนมาไม่ไปไหน ทั้งๆ ที่เนื้อเรื่องมันก็ไหลไปข้างหน้าเรื่อยๆ เหมือนพระนางพูดแต่เรื่องเดิมๆ คุยกันเรื่องเดิมๆ มีความลับหรือปมในใจเดิมๆ ที่คงจะไม่เปิดเผยออกมาจนกระทั่งบทท้ายๆ ตามสูตรสำเร็จนิยายโรมานซ์ พอโทนเรื่องมันเบาๆ สบายๆ อยู่แล้ว ไม่มีปมหนักๆ อะไรเท่าไรมันก็เลยยิ่งดูเบาไปกันใหญ่ จะมีบ้างก็ตรงที่พี่น้องบริดเจอร์ตันเดินเข้าฉากมาช่วยเพิ่มสีสันทำให้ไดอะล็อคมันเผ็ดแซ่บมากขึ้น แต่ก็แค่นั้น... เพราะคาแรคเตอร์ของฟิลลิปนั้นน่าสนใจแค่ช่วงแรก พอเราเห็นทุกมุมของเขา เข้าใจว่าเขาเป็นยังไง ความสนใจมันก็หยุดอยู่แค่นั้น ตัวละครนี้ค่อนข้างขาดไดนามิกอยู่พอสมควร แถมชอบอมพะนำ เราเลยไม่ค่อยอินกับเขาเท่าที่ควร
ถ้าเทียบจากสี่เล่มก่อนหน้าที่มีสีสัน (แบบ pastel) แตกต่างกันไป เล่มนี้จะซีดกว่าเล่มอื่น มีเพียงคาแรคเตอร์ของเอโลอิสเท่านั้นที่แบกเอาไว้อยู่ทำให้เราอ่านจนจบได้ แต่กว่าจะอ่านจบก็เป็นอาทิตย์นะ ช่วงแรกอ่านไวมาก ครึ่งเล่มไม่กี่ชั่วโมง หลังจากนั้นก็หยิบๆ วางๆ ไม่รู้สึกอยากอ่านเท่าไร
เอโลอิสปากแจ๋ว คุยสนุก คุยอร่อยมาก ทำให้เรายิ่งอยากจะฟังเธอคิดเธอพูดอยู่ตลอดเวลา แต่พอมาเข้าคู่กับฟิลลิป คุยๆ กันอยู่จะต้องมีสักเรื่องที่ทำให้สักคนเดินหนี ไม่พอใจ ปากพาจนที่แท้ ละเป็นแบบนี้เกือบทั้งเล่ม ไคลแมกซ์ตอนท้ายเล่ม (ไม่รู้เรียกว่าไคลแมกซ์ได้มั้ยก่อน) ก็เหมือนใส่มางั้นๆ ให้มันดูมีอะไร หลายคนน่าจะเดาออกตั้งแต่เอโลอิสไปถึงบ้านเบเนดิกต์แล้วด้วยซ้ำว่าปัญหานี้จะคลี่คลายยังไง
Character development ของฟิลลิปไม่ค่อยชัดเจน (มีพัฒนาการอยู่ แต่เหมือนพัฒนาแบบหลอกๆ พอหอมปากหอมคอเพื่อให้เนื้อเรื่องหาทางลงได้) โดยเฉพาะในช่วงท้ายๆ การทำให้คนอ่านเชื่อว่าฟิลลิปเปลี่ยนความคิดได้โดยเหตุการณ์ที่เป็นจุดเปลี่ยนในตอนท้ายยังไม่หนักแน่นพอ พอมันไม่หนักแน่นพอ มันก็ทำให้คนอ่านเชื่อได้ไม่สนิทใจว่าตัวละครนี้มีไดนามิกที่จะพัฒนา ก้าวพ้นจากอารมณ์ความรู้สึกที่มีในตอนต้นเรื่องไปได้แล้วนะ แต่เรื่องความสัมพันธ์กับลูกๆ เราว่าจูเลีย ควินน์ผูกมาดี ดีมากด้วย ตรงนี้เราค่อนข้างที่จะสนิทใจอยู่ น่าจะเป็นส่วนที่ดีที่สุดของหนังสือเล่มนี้เลยก็ว่าได้
สรุป... ชอบต้นต้นเรื่องมากๆ กราฟพุ่งสุงแล้วก็ค่อยๆ ร่วงลงมา แผ่วลงเรื่อยๆ ความรู้สึกหลังอ่านจบเลยไม่ยินดียินร้ายอะไรเท่าไร ดีใจด้วยที่ทั้งคู่ลงเอยรักกันได้ แต่ไม่ได้ประทับใจถึงขนาดฟินจิกหมอน
ปล. มีคำผิดอยู่ประปราย
คะแนน 7/10
No comments:
Post a Comment