Apr 20, 2020

Imagine Me (Shatter Me #6)



ชื่อเรื่อง Imagine Me
จากชุด Believe Me
ผู้แต่ง Tahereh Mafi
วรรณกรรมเยาวชน แฟนตาซี
สำนักพิมพ์ HarperCollins

เรื่องย่อ

The explosive finale to the New York Times and USA Today bestselling Shatter Me series.

Juliette Ferrars.

Ella Sommers.

Which is the truth and which is the lie?

Now that Ella knows who Juliette is and what she was created for, things have only become more complicated. As she struggles to understand the past that haunts her and looks to a future more uncertain than ever, the lines between right and wrong—between Ella and Juliette—blur. And with old enemies looming, her destiny may not be her own to control.

The day of reckoning for the Reestablishment is coming. But she may not get to choose what side she fights on.

REVIEW

จูเลียตหรือเอลล่าเอาชีวิตรอดจากการจับกุมของ The Reestablishment มาได้อย่างหวุดหวิด วอร์เนอร์หรือแอรอนได้หมั้นหมายกับเธอเป็นที่เรียบร้อย ทว่าการที่เอลล่าถูกจับตัวไปทดลองและผ่าตัดนั้นทำให้มีส่วนเสี้ยวของเอ็มมาลีน พี่สาวของเธอหลงเหลืออยู่ และเธอก็กำลังดิ้นรน ตะเกียกตะกายครอบงำตัวตนของเอลล่าเพื่อจุดประสงค์บางอย่าง เพื่อจบชีวิตอันแสนเศร้าและทรมาน? เพื่อใช้ชีวิตที่เธอไม่เคยมีโอกาส? เพื่อการแก้แค้น? หรือเพื่อสิ่งที่ยิ่งใหญ่กว่านั้น? เรื่องนั้นไม่มีใครรู้

ฝันร้ายมาเยือนเอลล่าอยู่บ่อยครั้ง เธอไม่รู้ตัวว่าเกิดอะไรขึ้นนับตั้งแต่ที่หนีมาได้ และคืนหนึ่ง เธอได้ระเบิดพลังอย่างมหาศาล แอรอนพยายามที่จะช่วยเธอเอาไว้ เคนจิและนาซีร่าตามไปพบ ซึ่งเกือบจะสายเกินไป หลังจากนั้นเธอจึงอยู่ในอาการโคม่าและทำให้แอรอนที่รักเธอแทบจะแหลกสลาย และเมื่อหล่อนตื่นขึ้นมา แอรอนกลับพูดว่าเธอเปลี่ยนไปไม่ใช่คนเดิม อะไรบางอย่างในตัวเธอนั้นไม่ใช่สิ่งที่เขาคุ้นเคยอีกต่อไปแล้ว ซ้ำร้าย...การระเบิดพลังนั่นทำให้เหล่า The Reestablishment รู้ตำแหน่งของ Sanctuary ที่ซ่อนของเหล่าผู้มีพลังและคิดจะยับยั้งการปกครองที่ไม่เป็นธรรมนี้ การเปิดเผยทำให้แอนเดอร์สันได้นำคนของเขาบุกเข้ามาเพื่อที่จะจับตัวเอลล่ากลับไป เขาต้องการควบคุมผู้คนด้วยพลังของเธอ และตอนนี้เอ็มมาลีนที่พวกเขาใช้ในการตบตาประชาชนเริ่มจะสูญเสียพลังและเสื่อมถอย เอลล่าจึงเป็นตัวตายตัวแทนที่ดี

แอนเดอร์สันอาศัยช่วงชุลมุนจับตัวเอลล่าไปได้สำเร็จ และเขาได้ทำบางอย่างทำเธอ ทำให้เธอตกอยู่ในอาณัติของเขา เชื่อฟังคำสั่งเขาทุกอย่าง แม้กระทั่งตอนที่เขาขอให้เธอตัดนิ้วตัวเอง เอลล่าก็ยอมทำโดยไม่ตั้งคำถาม ทางด้านเคนจิที่พยายามทำให้วอร์เนอร์รู้สึกดีขึ้นก็กำลังวางแผนที่จะช่วยจูเลียต ทว่าแผนของเขานั้นก็ไม่มีอะไรมากนอกจากจะขโมยเครื่องบินแล้วบุกเข้าไปยังสถานที่ที่จูเลียตโดนขังเอาไว้ เมื่อไปถึงที่นั่น พวกเขาก็ได้เผชิญหน้ากับแอนเดอร์สัน แม็กซื พ่อแท้ๆ ของเอลล่า รวมไปถึงผู้นำคนสำคัญของ The Reestablishment ที่ต้องการดำเนินการ Operation Synthesis เพื่อย้ายพลังจากเอ็มมาลีนมายังเอลล่าทันที โดยไม่สนว่าขั้นตอนสุดท้ายนั้นยังไม่พร้อม

แอรอนเข้าปะทะเอลล่า เขาไม่ทำร้ายเธอ แค่ปัดป้องการโจมตีเท่านั้น และสุดท้ายเขาก็ได้กอดและจูบ ปลุกความทรงจำที่เลือนหายให้ผู้หญิงที่เขารักกลับมาเป็นคนเดิมได้สำคัญ แอนเดอร์ดันและคนอื่นๆ ถูกฆ่าตาย เอลล่าที่รู้ตัวไปยังแทงค์ที่ขังเอ็มมาลีนเอาไว้ ที่นั่นเขาได้ปลดปล่อยเธอจากชีวิตอันแสนทรมาน และปล่อยให้เธอฆ่าแม็กซ์ได้สำเร็จ หลังจากนั้นเอลล่าจึงทำลายทุกอย่างให้ราบเป็นหน้ากลอง

ในตอนท้าย วอร์เนอร์กับเอลล่าได้ไปเลือกชุดแต่งงานกันเนื่องจากเคนจิเป็นคนทำพัง และเมื่อเขาเดินทางกลับมายัง Sanctuary พวกเขาก็ได้เห็นว่าผู้คนที่ถูกกดขี่มาโดยตลอด เมื่อได้รับอิสระแล้วนั้นยกย่องและเทิดทูนเอลล่ามากแค่ไหน

........................................................

เล่มสุดท้ายนี่ค่อนข้างพังเลยทีเดียว พังกว่า Ignite Me ที่ปิดไตรภาคแรกอีกมั้ง แต่ก็ไม่ถึงกับไม่อยากอ่านต่อนะ คืออย่างที่เราเคยรีวิวไปกับเกี่ยวกับซีรีส์ Shatter Me ว่าอยู่ได้เพราะสไตล์การเขียนของ Mafi ที่แปลกประหลาด มีเอกลักษณ์เฉพาะ และดึงดูดให้คนอ่านไหลไปตามเนื้อเรื่องและอารมณ์ตัวละครได้อย่างง่ายๆ แต่สำหรับ Imagine Me การปะติดปะต่อเนื้อเรื่องนั้น สอบตกโดยสิ้นเชิง...

Pace ค่อนข้างไม่นิ่ง มีบางช่วงที่เร็วเกินจนคนอ่านมีงงว่าเกิดอะไรขึ้น ต้องพลิกย้อนกลับไปดูว่าตัวเองนั้นอ่านข้ามบทหรือเปล่า หรือบางช่วงที่หนืด ช้า ตัวละครไม่ทำอะไร วอร์เนอร์ก็เอาแต่นั่งหน้าบูดหน้าบึ้ง ฟีลลิ่งหนุ่มคลั่งรักโรคจิตเกือบๆ ทั้งเล่ม

point of view ของเคนจินั้น มีบางช่วงที่น่าสนใจ และบางช่วงที่อะไรก็ไม่รู้ อิหยังวะ แต่โดยรวมแล้วโดนความสะเปะสะปะของการดำเนินเรื่องตลอดทั้งเล่มลากลงเหวไปด้วยกัน แต่ก็ไม่ได้จืดชืดเท่ากับ Ella / Juliette part ที่เล่าได้ monotone มาก อารมณ์เหมือนเปิด google translate แล้วให้นางออกเสียงตามที่เราพิมพ์อะ

มีประมาณ 2-3 บทที่ adrenaline rush แล้วอ่านใจเต้นตึกๆ พลิกหน้าต่อไปรัวๆ แต่ทั้งเล่มมันก็มีแค่นั้นแหละ ส่วนที่เหลือคือง่าย ง่ายไปหมด ตอนจบก็ยังง่าย จะไม่ง่ายได้ไงในเมื่อพลังนางเอกนั้นเซ็ตมาให้เวอร์วังซะขนาดนั้น อารมณ์ธานอสดีดนิ้วแล้วทุกอย่างหายไปหมดนั่นแหละ ซึ่งเกือบทั้งเรื่องนางเลยโดน nerf ซะ

เอาจริง เนื้อเรื่องมันไม่ควรมีต่ออะ ควรจบที่ 3 เล่มแรกอะดีแล้ว บทตัวร้ายตายแล้วฟื้นนี่ Cliché มาก แต่พอบทจะหมดบท ก็หมดเสียง่ายๆ เหมือนใน Ignite Me ไม่มีผิด แต่ด้วยความที่การเล่าเรื่องที่มันไม่ปะติดปะต่อ อย่างเล่มที่แล้ว Defy Me คือมันมีเส้นแบ่งระหว่าง timeline ปัจจุบันกับการย้อนอดีตชัดเจน แต่เล่มนี้คือมีแค่ timeline เดียวนะ แต่คือข้ามเหตุการณ์บ่อยมากโดยเฉพาะเมื่อถึง climax และเส้นกราฟค่อยๆ ลงอะ timeline จะขาดแล้วกระโดดไปเล่าตอนที่ตัวละคร xxx ตื่นขึ้นมาเป็นแบบ xxx ซึ่งทำให้เส้นเรื่องของตัวละครที่เหลือต้องถูกเร่งและกระโดดตามไปด้วย

สรุป... น่าจะเป็นเล่มที่เนื้อเรื่องอ่อนสุดในบรรดา 6 เล่มที่ผ่านมา แต่สำหรับแฟนคลับ Shatter Me อย่างเราถือว่าไม่ได้แย่ อ่านแล้วไม่ค่อยเบื่อ ถึงจะมีง่วงบ้างแต่ก็ทนไหว ดังนั้นเลยให้ 7 แต่ถ้ามองว่าเป็นหนังสือเล่มหนึ่ง ไม่ bias คะแนนคงอยู่ที่ระดับ 5-6 ไม่เกินนี้

คะแนน 7/10



No comments:

Post a Comment