Kingdom of Ash (Throne of Glass #7)

ชื่อเรื่อง Kingdom of Ash
จากชุด Throne of Glass
ผู้แต่ง Sarah J. Maas
วรรณกรรมเยาวชน แฟนตาซี
สำนักพิมพ์ Bloomsbury USA Childrens

เรื่องย่อ

Years in the making, Sarah J. Maas’s #1 New York Times bestselling Throne of Glass series draws to an epic, unforgettable conclusion. Aelin Galathynius’s journey from slave to king’s assassin to the queen of a once-great kingdom reaches its heart-rending finale as war erupts across her world. . .

Aelin has risked everything to save her people―but at a tremendous cost. Locked within an iron coffin by the Queen of the Fae, Aelin must draw upon her fiery will as she endures months of torture. Aware that yielding to Maeve will doom those she loves keeps her from breaking, though her resolve begins to unravel with each passing day…

With Aelin captured, Aedion and Lysandra remain the last line of defense to protect Terrasen from utter destruction. Yet they soon realize that the many allies they’ve gathered to battle Erawan’s hordes might not be enough to save them. Scattered across the continent and racing against time, Chaol, Manon, and Dorian are forced to forge their own paths to meet their fates. Hanging in the balance is any hope of salvation―and a better world.

And across the sea, his companions unwavering beside him, Rowan hunts to find his captured wife and queen―before she is lost to him forever.

As the threads of fate weave together at last, all must fight, if they are to have a chance at a future. Some bonds will grow even deeper, while others will be severed forever in the explosive final chapter of the Throne of Glass series.

REVIEW

หลังจากที่เอลินโดนมาอีฟจับขังในกล่องเหล็ก เอเดียนและไลแซนดราก็ต้องมุ่งหน้าเดินทางเพื่อปกป้องเมืองของพวกเขาจากกองทัพของโมราธที่ประชิดเข้ามาเรื่อยๆ ในร่างของเอลินตัวปลอมที่ไลแซนดราต้องจำแลง ทางด้านดอเรียนและแมรนอนก็กำลังเดินทางตามหากุญแจดอกที่สามที่ตกอยู่ในมือของเอราวาน ระหว่างนั้นแมนนอนก็ต้องตามหาแม่มดเผ่าโครคานเพื่อให้มาช่วยเหลือเธอในมหาศึกที่กำลังจะเกิดขึ้นในไม่ช้า

โรแวน อีไลด์ ลอร์คานและเกเวรียลก็หาวิธีพาเอลินกลับคืนมาจากเงื้อมือของมาอีฟ ทางด้านเคออลและอิรีนก็นำทัพของพวกเขามาสมทบเพื่อต่อกรกับเอราวาน ขณะเอลินที่ถูกจองจำต้องเผชิญหน้ากับความทรมานที่ไม่มีวันจบสิ้น ร่างกายของเธอถูกทำให้แตกสลายก่อนที่จะทำให้กลับมาเป็นเหมือนเดิม มาอีฟต้องการความลับของกุญแจทั้งสามดอกเพื่อที่เธอจะได้หาทางไม่ให้เอราวานเพื่อพี่ชายทั้งสองของเขามายังโลกนี้ได้สำเร็จ

spoiler: คลิกเพื่อดู Spoiler

กองทัพของเอเดียนประสบปัญหาจากกำลังคนที่มีไม่พอเมื่อเทียบกับโมราธ เขาจึงต้องร่นถอยไปเรื่อยๆ และเมื่อไลซานดราตามหาเผ่าโครคานจนเจอ พวกเขาก็ยังไม่ยอมรับเธอ กระทั่งดอเรียนเริ่มฝึกจำแลงกายได้สำเร็จและคิดค้นหาทางเข้าไปขโมยกุญแจดอกที่สามมาจากเอราวาน
เอลินยอมรับความตายที่อยู่ตรงหน้า ทว่าโรวานและคนอื่นๆ มาช่วยเธอไว้ได้ทัน พร้อมกับเฟนริสที่บาดเจ็บสาหัส ซึ่งในเวลาต่อมาเอลินก็ทำสาบานเลือดและรักษาชีวิตของเขาเอาไว้ กองทัพเล็กๆ นี้จึงออกเดินทางไปยังอาณาจักรของเธอที่กำลังต้องการความช่วยเหลือโดยที่เอลินเองก็ได้รับการสนับสนุนจากเหล่าจิตวิญญาณที่ทุกคนคิดว่าหลายสาบสูญไปตามกาลเวลา

แมนนอนพยายามโน้มน้าวให้เหล่าแม่มดฟันเหล็กเข้าร่วมกับเธอ แต่นั่นเป็นการเปิดโอกาสให้เหล่ามารดาบุกเข้าโจมตี แมนนอนเอาชนะพวกหล่อนได้จนเหล่าโครคานยอมรับเธอเป็นราชินีในที่สุด เอลินเองก็กลายเป็นคนละคนหลังจากที่รอดจากความตายมาได้ เธอกับโรแวนแทบจะไม่ได้คุยอะไรกันเพราะเขาเองก็เข้าใจความเงียบนั้นเป็นอย่างดีและให้เวลากับเธอ

เคออลและคนอื่นๆ เดินหน้าสู่บ้านเกิดของเขาเพื่อปกป้องเมืองของเขาจากกองทัพโมราธ ที่นั่นเขาได้พบกับพ่อที่ไม่ลงรอยกันนัก และเอลินมาเสริมทัพได้ทันเวลา ลอร์คานออกไปต่อสู้โดยที่มีคำเกลียดชังจากอีไลด์อยู่ในหัวใจ เขาพลีชีพ และพออีไลด์เห็น เธอก็ขี่ม้าออกไปช่วยโดยไม่สนใจอะไรทั้งนั้น ไม่สนแม้กระทั่งเขื่อนที่กำลังจะพังลงมาและทำลายเมืองให้ราบเป็นหน้ากลองในอีกไม่นาน ทว่าสุดท้ายด้วยพลังจากไฟของเอลิน บ้านเกิดของเคออลก็ปลอดภัยและจากนั้นกองทัพทั้งหมดก็เดินสู่จุดมุ่งหมายเดียวกัน

ดอเรียนจำแลงกายสำเร็จและบุกเข้าสู่อาณาจักรของเอราวาน ที่นั่นเขาได้พบกับมาอีฟที่มาขอความช่วยเหลือจากพี่เขย ซึ่งเป็นเรื่องที่ไม่น่าจะเป็นไปได้ ดอเรียนพยายามตามหากุญแจดอกสุดท้ายให้เจอ ถ้าไม่ติดว่าเขาโดนมาอีฟจับได้เสียก่อน ด้วยกลอุบาย...ทั้งสองจึงร่วมมืกัน จนในท้ายที่สุดเมื่อดอเรียนหากุญแจเจอ มาอีฟก็คิดจะควบคุมเขา ดอเรียนที่ไหวตัวทันก็ซ้อนแผนและควบคุมมาอีฟ เขาทำลายโมราธจนล่มสลาย และทิ้งมาอีฟให้เน่าตายภายใต้เงื้อมือของเอราวาน

เมื่อดอเรียนตามหาเอลินจนเจอและถึงเวลารวมกุญแจทั้งสามดอกเข้าด้วยกัน ต้องมีใครสักคนที่สละชีวิต เอลินเลือกให้ผู้นำทุกคนโหวต สุดท้ายเธอจะต้องสังเวยชีวิตในรุ่งเช้า โรแวนไม่ยอมให้เรื่องเป็นแบบนั้น เขาจะไม่ยอมสูญเสียเธอไป และรั้งเอลินไว้ทุกวิถีทาง จนสุดท้ายเธอก็ยอมให้ดอเรียนแชร์ชะตากรรมกับเธอด้วยที่ทั้งสองจะหลอมกุญแจเข้าสู่ล็อคไปพร้อมๆ กัน

ในโลกที่เชื่อมประตูสู่โลกต่างๆ ดอเรียนได้พบพ่อของเขาอีกครั้ง ชายผู้ไร้ชือ เขาอาสาจะมอบพลังเพื่อหลอมล็อค ดอเรียนเองก็ไม่คิดจะขัดเพราะไม่งั้นทั้งเขาและเอลินก็ต้องตายทั้งคู่ แต่ในวินาทีสุดท้าย เอลินก็ผลักเขาออกมาและเธอเองก็คิดจะสังเวยชีวิต และพาเหล่าทวยเทพกลับคืนสู่โลกเดิมที่พวกเขาจากมาเพื่อแลกกับข้อเสนอในการกำจัดเอราวาน แต่เมื่อเอลินได้พบกับเอเลน่าอีกครั้ง เธอก็รู้ว่าตัวเองจะไม่ทำแบบนั้น ดังนั้นเธอจึงยื่นข้อเสนอใหม่ แต่เหล่าทวยเทพกับหักหลังเธอและปล่อยให้เอราวานเป็นภาระที่เธอต้องจัดการ ดังนั้นเอลินจึงส่งพวกนั้นไปสู่นรก ไม่เว้นแม้แต่มาลาที่มอบพลังเสี้ยวสุดท้ายให้แก่เธอ

เมื่อล็อคถูกหลอมจนสำเร็จ เอลินก็ผนึกประตูระหว่างโลกได้ ไม่มีทางที่เอราวานหรือใครจะเปิดมันได้อีก ระหว่างที่เธอกำลังร่วงหล่นและหาทางกลับสู่โลกเดิมด้วยพลังที่เหลืออยู่ของมาลา เธอก็ได้รับความช่วยจากชายผู้มีปีกสีดำและเฟย์สาวที่กำลังตั้งท้อง (ริซกับเฟย์เรอ) ริซช่วยเหลือให้เอลินกับสู่โลกเดิมได้สำเร็จและได้พบกับโรแวนอีกครั้ง

จากนั้นพวกเขาก็มุ่งหน้าสู่ศึกสุดท้ายที่จะตัดสินชะตาของโลกใบนี้ ที่นั่นเอเดียนกำลังจะพ่ายทัพ แมนนอนเองที่พาทัพของเธอกับโครคานมาทีหลังก็กำลังจะจนตรอก รวมถึงพี่น้องของเธอทั้งสิบสองคนที่สละชีวิตเพื่อทำลายหอคอยแม่มดที่ทรงพลานุภาพ แมนนอนหัวใจสลายที่ต้องสูญเสียทุกคนไปในคราวเดียว และนั่นก็ไม่ได้ทำให้พวกเขาถือไพ่เหนือโมราธขึ้นมาแต่อย่างใด

ในคืนสุดท้ายของการสู้รบ พวกเขาเตรียมใจตาย กระทั่งเอลินและคนอื่นๆ เดินทางมาถึงสำเร็จ และช่วยเมืองให้รอดปลอดภัย โดยแลกกับชีวิตของแกเวรียลในการรักษาประตูของเมืองเอาไว้ โดยที่เอเดียนแทบจะไม่มีโอกาสได้คุยกับพ่อของตนเท่าไรก่อนที่จะเสียเขาไป

แต่ชัยชนะก็อยู่กับพวกเขาได้ไม่นานเมื่อเอราวานและมาอีฟมุ่งหน้ามาตีปราการด่านสุดท้ายให้แตกพ่าย เอลินจึงเผชิญหน้ากับทั้งคู่ ทั้งๆ ที่แทบไม่มีพลังเหลือ เธอหลอกให้เอราวานตกหลุมพรางและมุ่งหน้าไปเพื่อทำลายอิรีนที่เตรียมพร้อมรออยู่แล้ว เมื่อเหลือเพียงมาอีฟและเอลิน นี่คือการแก้แค้น ทั้งคู่สู้กันโดยมีโรแวน เฟนริสและลอร์คานค่อยช่วยเหลือ สุดท้ายเมื่อพวกเขาเอาชนะภาพลวงตาที่มาอีฟสร้างขึ้นมาได้ เธอก็ถูกทำลายด้วยการรวมพลังกันของพวกเขา

อิรีน ดอเรียน อีไลด์ รวมไปถึงคนอื่นๆ ยืนหยัดต่อหน้าเอราวานที่ถูกกำราบด้วยพลังแห่งการเยียวยาของอิรีน ในวินาทีสุดท้าย ดอเรียนเค้นเอาความจริงออกมาจากปากของเอราวานได้สำเร็จ ชื่อพ่อของเขา ที่ชื่อเดียวกันกับเขา ดอเรียน ก่อนที่เอราวานจะจบชีวิตลง

เอลินขึ้นครองบัลลังก์ในเวลาต่อมา และทำตามคำสัญญาของเธอที่บอกจะพาโลกนี้ไปสู่โลกใบใหม่ที่ดีกว่าเดิม สร้างทุกอย่างขึ้นมาใหม่จากเถ้าถ่าน โดยมีโรแวนและเหล่าคณะติดตามที่อยู่ใกล้ๆ อีไลด์และลอร์คานก็ก้าวข้ามความเกลียดชังมาสู่คู่รักที่พร้อมจะตายด้วยกันตามอายุอันแสนสั้นของมนุษย์ เอเดียนที่ยังไม่ก้าวผ่านความสูญเสียพ่อของตนไปก็มีไลแซนดราอยู่เคียงข้าง และเคออลก็ได้ใช้ชีวิตกับอิรีนและลูกของพวกเขาที่กำลังจะลืมตาดูโลกในอีกไม่นาน

ที่ใดที่หนึ่งในอาณาจักรที่ถูกปกครองโดยราชินีที่ต่อสู้เพื่อประชาชนของเธอ ดอกคิงส์เฟรมกำลังเบ่งบาน ...

...............................................

เป็นตอนจบที่ยิ่งใหญ่ สมการรอคอย น้ำตาไหลตลอดเวลา หลากหลายอารมณ์มากๆ หนังสือเล่มนี้ แมสเขียนออกมาได้กลมกล่อม ช่วงที่พีคก็พีคสุดๆ พีคจนตายไปข้าง ช่วงที่ปูเรื่องก็เล่าได้ดี ไม่น่าเบื่อ เหมือนรู้ว่าตรงไหนเริ่มเวิ่น แมสจะดึงมาได้ทันทุกครั้งและกลับสู่จังหวะเดียวกันได้ตลอดทั้งเล่ม เราเลยคิดว่านี่ KoA เป็นหนังสือเล่มสุดท้ายที่ปิดชุด ToG ได้อย่างสมบูรณ์แบบ แม้แต่ประโยคสุดท้ายของหนังสือที่พูดว่า "Tell me tomorrow" ซึ่งเป็นประโยคสุดท้ายของ ToG เล่มแรก เหมือนกับเนื้อเรื่องมันมาบรรจบกัน คืนสู่จุดเริ่มต้นในที่สุด

ตัวละครแต่ละตัวมีพัฒนาล้ำหน้าไปมาก ไม่ต้องพูดถึงเอลิน จากทาส มาเป็นนักฆ่า มาเป็นคนรับใช้ราชา มาจนถึงราชินีที่ต้องต่อสู้เพื่อชิงอาณาจักรของเธอคืนมา เราเห็นทุกอารมณ์ของเธอ เห็นทุกเสี้ยวของตัวละครตัวนี้ที่มันมีมิติเสียเหลือเกิน จนทำให้เราอินไปกับทุกการตัดสินใจ ทุกการเสียสละ ทุกการสูญเสีย ช่วงไหนที่ตัวละครร้องไห้ เราหัวใจสลาย ช่วงไหนที่ฮึกเหิม เราก็ลุ้นตามไปด้วย ต้องขอบคุณภาษาการเขียนของแมสที่ตราตรึง เอดิทเตอร์ต่างๆ ทีมงาน กองบก. ต้องทำงานเป็นทีมเวิร์คมากๆ แน่ จนทำให้หนังสือเล่มนี้ออกมาลงตัวถึงขนาดนี้

คู่ที่เราชอบมากๆ ในเล่มนี้ก็คงจะเป็น ลอร์คาน กับ อีไลด์ ถึงจะออกมาไม่มาก แต่เอาใจเราไปเต็มๆ conflict ในใจของทั้งคู่คือมันเรียล มันมีเหตุผลในตัวของตัวเองที่จะไม่ยอมเปิดใจ ไม่รับรู้ถึงความรู้สึกของอีกคน จนกลายเป็นทำร้ายกันไปในที่สุด มีตอนที่เราน้ำตาซึมด้วยแหละของคู่นี้นะ โดยเฉพาะฉากสงครามตอนนั้นนี่ มันมีพลังมาก เป็นส่วนที่เรียกได้ว่าพิสูจน์ความสัมพันธ์ของคนสองคนได้อย่างมีประสิทธิภาพเลยล่ะ

เอาจริง ใจหายนะ เราติดตามเรื่องนี้มาตั้งแต่ช่วงที่ HoF ออกมาใหม่ๆ ถ้าจะนับก็ 3-4 ปีได้แล้วมั้ง ถึงจะไม่นานเท่าคนที่ตามมาตั้งแต่ ToG ออกแรกๆ แต่ก็ถือว่ามันผูกพันธ์ โตมาด้วยกัน ได้เห็นมุมมองที่เปลี่ยนไปของตัวละครผ่านช่วงอายุของคนอ่านที่เพิ่มขึ้น มันทำให้เราลองมองย้อนกลับไปถึงเล่มแรกๆ และก็ได้แต่พูดกับตัวเองว่า ... นี่พวกเรามาไกลกันเหลือเกิน โดยเฉพาะบทท้ายๆ นี่ อ่านแล้วเพลง See You Again ขึ้นมาในหัวเลย ทุกคนล้วนก็ต้องมีชีวิตเป็นของตัวเอง

เป็นซีรีส์อีกชุดที่ควรอ่าน ยาว หนา เนื้อเรื่องแน่น ยิ่งใหญ่ มีหลายเล่ม อ่านกันจุใจไปเลย แต่ถ้าใครอยากอ่านแบบ 3 เล่มจบ ACOTAR คือคำตอบของคุณ ยิ่ง KoA เล่มนี้หนาน่ากลัวมาก 1000+ หน้า เรียกได้ว่าถ้าซื้อหนังสือเป็นเล่มมาอ่าน อ่านตอนนอน ร่วงใส่หน้า หน้าแหกแน่นอน ยังไม่รวมถึงช่วง 3-4 เล่มท้ายที่หนาแบบลืมโลก ถึงใช้กระดาษบางลงก็แทบจะไม่ช่วยอะไร 555

จริงๆ ตอนอ่านมีรู้สึกบ้างที่ว่าทำไมเล่มนี้โรแวนดูจืดๆ ชอบกล หรือตัวละครมันเยอะมาก เส้นเรื่องก็พันกันยุ่งเหยิง ตัวละครบางตัวก็เลยบทน้อย แต่ไม่สิ เราคิดว่าเล่มนี้แมสเกลี่ยบทดีมากๆ แล้วนะ สงสัยตั้งแต่ HoF โรแวนยังคงเป็นโรแวนคนเดิม ที่เพิ่มเติมคือรักเอลินเพิ่มขึ้นด้วยละมั้ง พัฒนาการด้านอื่นๆ ไม่ค่อยมีให้เห็นมากนัก แต่ลอร์คานนี่ เรากรี๊ดมาก แอตติจูดต่างๆ คือได้ใจไปเลย เอเดียนก็เฉยๆ มีแมนนอนแหละที่รู้สึกว่าเริ่ม shine ละ แต่อ๋อ เล่มนี้เป็นเล่มจบแล้ว 5555

การตายของตัวละครบางตัวนี่งงมากๆ จู่ๆ ก็ตายเฉย บางตัวก็ตายเพื่อ!?!? เข้าใจว่านิยายส่วนใหญ่ต้องมีตัวละครที่ใกล้ชิดกับตัวเอกและตายในตอนจบ เพื่อให้ตัวเอกได้ไปต่อ ได้พัฒนาความคิดจิตใจของตัวเอง แต่ในเรื่องนี้เราว่าการตายมันเร่งไปหน่อย ตัวละครยังแสดงอารมณ์ออกมาได้ไม่มากพอ มันเลยรู้สึกไม่เคลียร์  แต่มันด็เป็นจุดอ่อนเล็กๆ ที่ถูกเสริมด้วยจุดแข็งหลายๆ จุดจนทำให้เรามองข้ามไปได้แบบสบายๆ แถมยังเล่นประเด็นเรื่อง Multiverse อีก เออ เราว่าอันนี้น่าสนใจ ไม่รู้จะด้วยต้องการเซอร์วิสแฟนๆ หรืออะไรก็แล้วแต่ แต่เรากรี๊ดสลบฉากนั้นมาก อ่านย้อนไปย้อนมาด้วยความตื้นตันใจ 555

ให้ 10 แบบ ACOWAR คือมีก้ำๆ กึ่งๆ ระหว่าง 9 กว่าๆ แต่มันมีช่วงที่เราชอบมากๆ แบบมากๆ กับช่วงที่กำปั้นทุบดินไปหน่อย แต่พออ่านจบก็ finale ได้อยู่

คะแนน 10/10