The Midnight Star (The Young Elites #3)

ชื่อเรื่อง The Midnight Star
จากชุด The Young Elites
ผู้แต่ง Marie Lu
วรรณกรรมเยาวชน เหนือจริง
สำนักพิมพ์ G.P. Putnam’s Sons Books for Young Readers

เรื่องย่อ

There was once a time when darkness shrouded the world, and the darkness had a queen.

Adelina Amouteru is done suffering. She’s turned her back on those who have betrayed her and achieved the ultimate revenge: victory. Her reign as the White Wolf has been a triumphant one, but with each conquest her cruelty only grows. The darkness within her has begun to spiral out of control, threatening to destroy all she’s gained.

When a new danger appears, Adelina’s forced to revisit old wounds, putting not only herself at risk, but every Elite. In order to preserve her empire, Adelina and her Roses must join the Daggers on a perilous quest—though this uneasy alliance may prove to be the real danger.

REVIEW

หนึ่งปีผ่านไป อดีไลน่าบุกตีเมืองต่างๆและยึดพื้นที่มาได้มากมาย เธอยังตามหาไวโอเล็ตต้าอย่างไม่ลดละโดยมีมาเกียโน่และเซอจิโอ้อยู่ข้างๆ เทอเรนกลายเป็นนักโทษภายใต้การปกครองของเธอ มัลเฟ็ตโต้ไม่ต้องอยู่อย่างอดสูอีกต่อไป พวกเขามีชีวิตที่ดีเหนือบุคคลธรรมดา ทุกหนแห่งตกอยู่ภายใต้ความหวาดกลัวของราชินีอดีไลน่า

spoiler: คลิกเพื่อดู Spoiler

กระทั่งอดีไลน่าได้รับจดหมายจากราฟฟาเอลว่าไวโอเล็ตต้ากำลังจะตาย เธอจึงเดินทางไปพบน้องสาวของเธอพร้อมกองทัพเรือหนุนหลัง การต่อสู้อุบัติขึ้น อดีไลน่าพลาดท่าและถูกจับตัวไปเป็นนักโทษ ที่นั่นเธอได้พบกับราฟฟาเอลและไวโอเล็ตต้าที่กำลังแย่ ราฟฟาเอลบอกว่ามีบางสิ่งผิดปกติเกิดขึ้นในโลกใบนี้ พลังของอีลิทกำลังเป็นปัญหาและทำลายผู้ถือครองจากภายใน น้องสาวของเธอเองก็เช่นกัน หนทางเดียวที่จะช่วยเธอเอาไว้คือเดินทางไปยังรอยแยกของโลกที่ครั้งหนึ่งเทพแห่งความสำราญได้ลงมาเหยียบแผ่นดินของมนุษย์จนเป็นสาเหตุทำให้บลัดฟีเวอร์อุบัติขึ้นมา

เสียงในหัวของอดีไลน่าบอกให้เธอหันหลังกลับและทรยศราฟฟเอลหลังจากที่เธอยื่นข้อเสนอและได้รับการปล่อยตัว แต่ถ้านี่คือการช่วยเหลือน้องสาวและตัวเธอเอง อดีไลน่าก็ต้องทำตามนั้นอย่างไม่มีทางเลือก ทางเดียวที่เดินทางเข้าสู่โลกแห่งความตายคือต้องใช้อีลิทที่ถือครองพลังตรงกับเทพเจ้าทั้งหมด และส่วนสุดท้ายที่คณะเดินทางขาดคือพลังแห่งสงครามที่อยู่ในตัวของเทอเรน

อดีไลน่าปล่อยตัวเทอเรนและขอความช่วยเหลือจากเขา โชคดีที่เขาทำลายพลังอีดิทซึ่งแรกเริ่มเดิมทีไม่สมควรจะมีอยู่บนโลกใบนี้คือจุดมุ่งหมายของเทอเรน เขาเดินทางไปกับเธอพร้อมทั้งเมฟที่ตามมาทีหลัง ทุกคนเดินทางไปยังดินแดนแห่งน้ำแข็ง ไวโอเล็ตต้าอ่อนกำลังลงเรื่อยๆจนเธอสิ้นใจตายในเวลาถัดมา

เมื่อไม่อาจหันหลังกลับได้ ทุกคนเลยเดินหน้าต่อในเมื่อจิตวิญญาณของไวโอเล็ตต้าไปรออยู่ที่โลกหลังความตายแล้ว พวกเขาเลยผ่านเข้าไปในนั้นได้และต้องต่อสู้กับเหล่าอสุรกายที่มาขวางเอาไว้ อดีไลน่าได้พบเจอกับคนที่ตายไปแล้วด้วยฝีมือของเธอในเสาทุกต้น ด้วยความสะพรึง เสียงสะท้อนในหัวของเธอดังกว่าเดิม จนเมื่อได้พบกับมอริตาสและได้สละพลังของตนคืนให้ คนอื่นๆก็เช่นกัน พวกเขาได้คืนสมดุลให้กับโลกอีกครั้ง

ระหว่างขากลับอดีไลน่าได้พบกับร่างที่ไร้ชีวิตของไวโอเล็ตต้า เธอเลยทำข้อตกลงในการแลกชีวิตของเธอกับน้องสาว เธอทำผิดต่อไวโอเล็ตต้ามามาก และนี่อาจจะเป็นหนทางที่ดีที่สุดที่จะได้ชดใช้

ไวโอเล็ตต้าใจสลายเมื่อเห็นพี่สาวของเธอตายเพราะช่วยเธอเอาไว้ เธอได้ขอร้องคอมพาเซียให้พาอดีไลน่าไปเป็นหมู่ดาวบนฟ้าเหมือนกับคนรักของหล่อน เทพธิดารับคำขอ ไวโอเล็ตจึงกลับมาโลกคนเป็นพร้อมกับความเสียใจของมาเจียโน่ เมื่อกลับมา...ไวโอเล็ตต้าขึ้นปกครองอาณาจักรแทนอดีไลน่า มาเจียโน่ก็ได้ออกเดินทางเพื่อตามหาดวงดาวที่เป็นของอดีไลน่าพร้อมกับหวังเอาไว้ว่าเขาจะได้พบกับเธออีกครั้งเมื่อเวลาแห่งรัตติกาลมาถึงและดาวดวงนั้นฉายแสงเจิดจรัส

..............................................................

เราชอบความเรียบของหนังสือเล่มนี้นะ ถึงจะไม่หวือหวา ซึ่งต่างจากสองเล่มที่แล้ว แต่ก็ทรงพลังหนักแน่นในแง่ของอารมณ์ความรู้สึก และแม้ว่าจะเนื้อเรื่องจะสั้นและดูรวบรัดไปหน่อย เราก็ยังถือว่า The Midnight Star เป็นส่วนเติมเต็มให้กับซีรีส์ชุดนี้เป็นอย่างดี ตอนจบสวยงาม เจิดจ้า และเศร้าใจในเวลาเดียวกัน มันไม่ใช่อารมณ์ที่ลึกจนถึงขนาดทำให้เราร้องไห้เหมือนกับตอนจบเรื่องอื่นๆ แต่มันก็เป็นความเข้าใจในความเป็นไปของชีวิต การเปลี่ยนผันของช่วงเวลาและการลาจากเป็นเรื่องที่ธรรมดาเรียบง่ายเหลือเกินเมื่อมาอยู่ในหนังสือเล่มนี้ สะท้อนคำกล่าวที่ว่า What goes around, comes around ออกมาได้ตรงจุดและหนักแน่นดี

The Midnight Star อาจจะเป็นหนังสือที่เราชอบน้อยที่สุดในบรรดาสามเล่ม แต่ปฏิเสธไม่ได้เลยว่ามันสมบูรณ์แบบในตัวของมัน ถึงแม้จะมีบางช่วงที่ไม่ลื่นไหล ทำให้เราเฉลียวใจจนเกิดการตั้งคำถามขึ้นมาบ้าง แต่มันก็เหมือนการลากเส้นเชื่อมต่อจุดที่กระจัดกระจายเข้าหากัน สุดท้ายถึงเส้นตรงเหล่านั้นมันจะบิดเบี้ยวไป ยังไงเราก็ทำให้ความกระจัดกระจายนั่นกลายเป็นภาพเดียวกันได้อยู่ดี

เรารำคาญอดีไลน่าเล็กๆนะสำหรับในเล่มนี้ เราว่ามันเป็นช่วงเสื่อมถอยของตัวละครด้วยแหละที่ทำให้อารมณ์มันค่อนข้างจะดาวน์ตลอดทั้งเล่ม ความพีคเลยหล่นฮวบ หลุดที่เราคาดหวังเอาไว้ไปหมดเลย ถึงยังงั้นก็เถอะ...เราก็รู้สึกว่าคุ้มนะที่ตัดสินใจหยิบซีรีส์ชุดนี้ขึ้นมาอ่าน อาจเป็นเพราะมันตรงกับความชอบส่วนตัวด้วยแหละเลยทำให้อ่านรวดเดียวสามเล่มได้

แนะนำเลย ใครชอบแนวๆนี้ พลังวิเศษ ยุคเรอเนสซองซ์ ตัวละครหลักดาร์คๆ ไม่แมรี่ซู เรื่องนี้คงโดนใจแน่นอน

คะแนน 8/10