Empire of Storms (Throne of Glass #5)

ชื่อเรื่อง Empire of Storms
จากชุด Throne of Glass
ผู้แต่ง Sarah J. Maas
วรรณกรรมเยาวชน แฟนตาซี
สำนักพิมพ์ Bloomsbury USA Childrens

เรื่องย่อ

The long path to the throne has only just begun for Aelin Galathynius. Loyalties have been broken and bought, friends have been lost and gained, and those who possess magic find themselves at odds with those don't.

As the kingdoms of Erilea fracture around her, enemies must become allies if Aelin is to keep those she loves from falling to the dark forces poised to claim her world. With war looming on all horizons, the only chance for salvation lies in a desperate quest that may mark the end of everything Aelin holds dear.

Aelin's journey from assassin to queen has entranced millions across the globe, and this fifth installment will leave fans breathless. Will Aelin succeed in keeping her world from splintering, or will it all come crashing down?

REVIEW

หลังจากสยบราชาแห่งอดาลานได้แล้ว เอลินก็เดินหน้าเพื่อทวงคืนบัลลังก์แห่งเทราเซนของเธอ แต่เธอกลับถูกขัดขวางด้วยความไม่ชอบธรรม ด้วยเหตุผลที่ว่าเธอไม่มีพันธมิตรใดๆ สำหรับศึกสงครามที่กำลังจะมาถึง โดยเอราวานและกองทัพปีศาจของเขา ด้วยความที่เอลินถือครองเวิร์ดคีย์อยู่หนึ่งส่วน ทำให้การปิดเวิร์ดเกตเป็นเรื่องที่ไม่ได้ไกลเกินเอื้อมอีกต่อไป ในขณะที่อีกฝั่ง...อีไลด์ที่ออกตามหาเซเลน่า ซาร์โดเธียนได้พบกับลอร์แคน เฟย์หนุ่มที่ออกตามหากุญแจและศัตรูตัวฉกาลของเอลิน

เมื่อแม่มดฟันเหล็กได้บุกปล้นอดาลาน ดอเรียนหนีเอาชีวิตรอดมาได้อย่างหวุดหวิดด้วยความช่วยเหลือของแมนนอนที่ทำให้เธอต้องชดใช้อย่างสาสม นั่นทำให้เธอหลบหนีออกจากอาณัติของเอราวานและเข้าสมทบกองกำลังของเอลินที่กำลังออกเดินทางเพื่อรวบรวมพันธมิตรและต่อการกับกองทัพเอราวานที่กำลังขับใกล้เข้ามาในไม่ช้า

spoiler: คลิกเพื่อดู Spoiler

การตามหาล็อคที่จะใช้กับกุญแจทั้งสามนำพาเอลินเข้าสู่กับดักและทำให้เธอต้องใช้ไฟของเธอในการต่อกร ความรักระหว่างเธอและโรแวนก็คืบหน้าไปเยอะเช่นกัน เขารู้แล้วว่าเอลินคือหนึ่งเดียวของเขาและจะไม่มีวันปล่อยเธอไปไหนไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น ทางด้านแมนนอนและดอเรียนก็เริ่มเปิดเผยความรู้สึกของแต่ละฝ่ายออกมา ในที่สุดอีไลด์กับลอร์แคนก็มาสมทบกับทุกคนในที่สุดแม้ว่าเฟย์สองคนในกลุ่มการเดินทางจะหมายตัวเขาเอาไว้ก็ตาม

กองกำลังของมาอีฟได้โอบล้อมเรือของเอลิน ในขณะที่เธอรวบรวมกองกำลังเข้าสู่โมราธ และได้ยื่นข้อเสนอให้เธอยอมจำนน เอลินและแมนนอนได้เดินทางผ่านกระจกและได้เรียนรู้ความจริงที่เอเลนาปกปิดเอาไว้ว่าสายเลือดของมาลาต้องหลั่งรินเพื่อชดใช้ให้กับความผิดพลาดที่เธอทำลงไปในการใช้ล็อคขังเอเรวานเอาไว้แทนที่จะปล่อยให้พ่อของเธอได้ปลดปล่อยพลังและส่งเอราวานคืนสู่ถิ่นเดิมและการทำลายปีศาจตนนี้ก็จะเป็นหน้าที่ของเหล่าเทพเจ้า

ดังนั้นเอลินจึงต้องเสียสละในการคืนความสงบสู่โลกใบนี้ เธอยินยอมพร้อมใจที่จะตายและเตรียมแผนสำรองเอาไว้หมดเรียบร้อยแล้ว ในระหว่างนั้น...กองทัพเรือที่เอเดียนและโรแวนบัญชาการก็ได้เข้าปะทะกับกองเรือรบของมาอีฟที่ร่องเข้ามาโจมตี การรับมือเป็นไปอย่างสูสีจนกระทั่งสมุนของแมนนอนโผล่มาพลิกสถานการณ์เอาไว้ได้สำเร็จ

เอลินและแมนนอนปรากฏตัวและได้ประจันหน้ากับมาอีฟที่จับอีไลด์เอาไว้เป็นตัวประกัน หล่อนขอให้เอลินยอมจำนนและกลับไปด้วยกันเพื่อแลกกับชีวิตของผู้บริสุทธิ์ เอลินไม่ทางเลือก เธอยอมให้มาอีฟเฆี่ยนเธอจนสาหัสและพาตัวไป โรแวนที่ตามมาทีหลังแทบคลั่งเมื่อเจ้าตัวรู้ว่าภรรยาและคู่ชีวิตเพียงคนเดียวของเขาถูกพาตัวไปหลังรู้ความจริงทั้งหมดถึงการจัดฉากของมาอีฟที่ทำให้เขาเข้าใจผิดว่าลิเรียเป็นคู่ของตนทั้งที่ความจริงเอลินคือคู่ของเขามาโดยตลอด การทำลายโรแวนและเซเลน่าที่ถูกทำให้แตกร้าวเป็นส่วนสำคัญที่ทำให้แผนของมาอีฟลุล่วงไปได้ด้วยดีในที่สุด

ท้ายสุดแล้ว ไม่ว่าสิ่งที่เอลินได้ทำเอาไว้จะส่งผลออกมาเกินคาดหวังก็ตาม กองทัพจากเมืองต่างได้เข้าร่วมกันเทราเซนเพื่อใช้หนี้ที่ติดค้างเอาไว้ มันไม่มีอะไรสำคัญเลยถ้าไม่มีเอลินยืนอยู่เคียงข้างเขา ดังนั้นโรแวนจึงรีบรุดหน้าเพื่อตามหาและพาภรรยาของเขากลับมาให้ได้...

.............................................

ก่อนอื่นต้องขอชื่นชม Maas ที่เราเห็นว่าฟอร์มดีมาตั้งแต่ต้นปีกับ ACOMAF พอมาถึง EoS เล่มนี้ บอกได้เลยว่าฝีมือของเธอพัฒนาไปไกลมาก ทั้งๆที่เล่มนี้ในด้านเนื้อหา ความแตกต่างแทบจะไม่ห่างกับ Heir of Fire หรือ Queen of Shadows นัก แต่การเล่าเรื่องถือได้ว่าคมกว่า เร่งเร้ากว่า คนอ่านรู้ว่าจะคาดหวังอะไรในบทต่อๆไป เรียกได้ว่าทิ้ง HoF กับ QoS แบบไม่เห็นฝุ่นเลยก็ว่าได้

การเกลี่ยบททำได้ดีและสมดุล ตัวละครที่ออกมาเดินเพ่นพ่านแต่ละตัวล้วนเชื่อมโยงไปสู่เหตุการณ์ที่ทอดยาวไปเป็นเส้นเดียว ไม่เหมือน 2 เล่มที่แล้วที่ทุกอย่างเป็นภาพเบลอ พอหลุดจาก POV ของเอลินเมื่อไร โฟกัสของเราจะหลุดออกจากหนังสือทันที ผิดกับเล่มนี้ที่อ่านแล้วไม่เคยหลุด ถึงจะจำรายละเอียดปลีกย่อยก่อนหน้าได้ไม่หมด แต่ก็สามารถอินตามไปกับการเดินทางของนางเอกและคนอื่นๆได้อย่างไม่ยาก

ด้วยความหนา 700 หน้ากับการหย่อนบอมบ์ที่มีมาเรื่อยๆทำให้การอ่านไม่ได้จืดชืดเลยแม้ว่าครั้งเดียว ตัวละครลึกขึ้น ความคิดเป็นระเบียบมากขึ้น ภาษาที่ใช้บรรยายสวยงามตระการตาเช่นเดิม รู้สึกจมดิ่งไปในบางพาร์ทที่ตัวละครแสดงความรู้สึกนึกคิดออกมา รับรู้ได้ถึงความคิด ความเศร้า ความทะเยอทะยาน ครบรสเลยล่ะ

จุดที่เจ๋งอีกอย่างคือการผูกเรื่องที่ Maas ทำออกมาได้อย่างไร้ที่ติ เธอเผยความจริงสำคัญออกมาแทบจะหมด ทำให้ปริศนาและบางส่วนที่ยังคลุมเครือเปิดออกจนหมดเกลี้ยงและส่งผลกระทบต่อความรู้สึกเราอย่างเต็มๆ ทุกอย่างคือจิ๊กซอว์ชิ้นสำคัญที่ทำให้เนื้อเรื่องสมบูรณ์ขึ้น ไม่มีส่วนไหนที่จะปล่อยผ่านไปได้เลย

เป็นการอ่านที่คุ้มมากมาย ถึงเล่มนี้จะอยู่ในชุด ToG ที่เราไม่ได้ชอบอะไรเท่าไรเพราะสองเล่มที่ผ่านมาค่อนข้างไม่โอเคสำหรับเรา แต่เล่มนี้มันมีความกลมกล่อมที่มีอยู่ใน ACOMAF ซึ่งถูกจับมาวางใส่ในเล่มนี้อย่างพอดิบพอดี นั่นเป็นส่วนสำคัญที่ทำให้ ACOMAF แตกต่างและดีกว่า ACOTAR และทำให้ EoS ดีกว่าทุกๆเล่มที่ผ่านมาเช่นกัน

สรุปแล้ว EoS มีความดีงามกว่าสี่เล่มก่อนหน้าและพัฒนาการที่เห็นได้อย่างชัดเจน

คะแนน 9.5/10