A Court of Mist and Fury (A Court of Thorns and Roses #2)

ชื่อเรื่อง A Court of Mist and Fury
จากชุด A Court of Thorns and Roses
ผู้แต่ง Sarah J. Maas
วรรณกรรมเยาวชน แฟนตาซี
สำนักพิมพ์ Bloomsbury USA Childrens

เรื่องย่อ

Feyre survived Amarantha's clutches to return to the Spring Court--but at a steep cost. Though she now has the powers of the High Fae, her heart remains human, and it can't forget the terrible deeds she performed to save Tamlin's people.

Nor has Feyre forgotten her bargain with Rhysand, High Lord of the feared Night Court. As Feyre navigates its dark web of politics, passion, and dazzling power, a greater evil looms--and she might be key to stopping it. But only if she can harness her harrowing gifts, heal her fractured soul, and decide how she wishes to shape her future--and the future of a world cleaved in two.

With more than a million copies sold of her beloved Throne of Glass series, Sarah J. Maas's masterful storytelling brings this second book in her seductive and action-packed series to new heights.

REVIEW

หลังจากเฟย์เรอรอดชีวิตจากอมารันธา ฝันร้ายตามหลอกหลอนเธอ เลือดของเหล่าเฟย์ที่ชุ่มโชกมือของเธอทำให้ชีวิตเธอไม่สงบสุข เธอเผชิญกับฝันร้าย จนกระทั่งวันแต่งงานระหว่างเธอกับทัมลินแล่นใกล้เข้ามา วินาทีที่เธอกำลังจะเดินเข้าไปกล่าวคำปฏิญาณ ริแซนด์ก็ปรากฏกายขึ้นและทวงหาสัญญาที่เธอเคยให้ไว้กับเขาว่าเฟย์เรอจะไปอยู่ที่ดินแดนแห่งราตรีกับเขาเป็นเวลาหนึ่งอาทิตย์ หลังจากเธอไปอยู่ที่นั่น ริซสอนเธอเขียนหนังสือ สอนเธอใช้พลังแห่งเฟย์ทั้งเจ็ดคอร์ทที่เธอเพิ่งได้มาหมาดๆหลังจากฟื้นคืนชีพ

ระยะห่างระหว่างเฟย์เรอกับทัมลินกว้างขึ้นเรื่อยๆ เมื่อเขาขังเธอไว้ในคฤหาสน์ไม่ให้เธอไปเผชิญโลกภายนอก นั่นคือฟางเส้นสุดท้าย เธอร้องเรียกริแซนด์ให้มาช่วยพาเธอไปจากที่นี่ เขาตอบรับคำขอเธอและให้มอร์ ลูกพี่น้องลูกน้องของเขาพาเธอหลบหนีเพื่อไม่ให้เป็นการละเมิดสนธิสัญญา

ริซไม่เหมือนทัมลิน เขาปล่อยให้เฟย์เรอใช้ชีวิตอย่างที่สมควรจะเป็น แม้ว่าสิ่งที่เขาต้องแลกมากับการรักษาเมืองเล็กๆที่ไม่ปรากฏบนแผ่นที่ก็คือการตกเป็นโสเภณีของอมารันธา แต่นั่นคือราคาที่เขาต้องจ่ายเพื่อปกป้องผู้คนของเขาเอาไว้ ดังนั้นเฟย์เรอจึงได้รู้ว่าสิ่งที่อีกฝ่ายแสดงออกมาเป็นแค่หน้ากากเท่านั้น แท้จริงแล้วริซเป็นผู้ชายที่เสียสละและจิตใจดี เขารักพวกพ้อง ประชาชนของเขาเหนือสิ่งอื่นใด และนั่นทำให้ความรู้สึกแปลกๆระหว่างทั้งคู่เริ่มก่อตัวขึ้น

spoiler: คลิกเพื่อดู Spoiler

คิงไฮเบิร์นกำลังตามหาเดอะคอลดรัน หม้อใหญ่ที่บรรจุเวทมตร์เหนือจินตาการ ก่อเกิดสิ่งมีชีวิตบนดินแดนแห่งนี้ เขาต้องการคืนชีพจูเลียนและทำลายกำแพงที่กั้นระหว่างดินแดนเฟย์และมนุษย์ออกเพื่อที่เขาจะได้รุกล้ำและทำสงคราม ริแซนด์และคนอื่นๆจึงต้องหาทางยับยั้งในการตามหาหนังสือแห่งลมหายใจเพื่อลบล้างอำนาจของเดอะคอลดรันให้ได้ก่อนที่จะสายเกินไป

เฟย์เรอรู้แล้วว่าริแซนด์คือคู่ครองเพียงคนเดียวของเธอ ไม่ใช่ทัมลิน ทั้งคู่เปิดเปลือยความรู้สึกข้างใน ริซเล่าความจริงทั้งหมดให้เธอฟังและเผยความในใจของเขาออกมาให้เธอได้รู้ และสุดท้ายเฟย์เรอก็เลือกเขา และนั่นคือสิ่งที่ดีที่สุดในชีวิตของริซที่เคยเกิดขึ้นเลยทีเดียว

ภารกิจตามหาหนังสือทำให้เฟย์เรอเกือบเอาตัวไม่รอด การขโมยจากเหล่าเฟย์น่ะเป็นเรื่องง่าย แต่การทำให้ราชินีมนุษย์มอบหนังสืออีกครึ่งให้เธออย่างเต็มใจนั้นยากยิ่งกว่าเมื่อการเจรจาต่อรองไม่เป็นผลสำเร็จ ใช้เวลานานกว่าพวกเขาจะได้ส่วนที่เหลือของหนังสือมาโดยแรกกับความลับเมืองแห่งแสงดาวของริแซนด์ที่ซ่อนเร้นมาหลายปี หลังจากนั้นไม่นานดินแดนของริซก็ถูกรุกรานโดยฝีมือของกองทัพจากคิงไฮเบิร์น

ทุกอย่างพังเสียหาย แต่ริแซนด์ต้องเดินหน้าต่อ เฟย์เรอเป็นคนนำพาหนังสือเข้าสู่อาณาจักรไฮเบิร์นเพื่อลบล้างอำนาจของเดอะคอลดรัน แต่แผนการณ์กลับล้มเหลวไม่เป็นท่า ทุกคนถูกจับและพบว่าแผนการณ์ทั้งหมดนั้นเกิดจากคิงไฮเบิร์นร่วมมือกับทัมลินและลูเซียน เฟย์เรอเกลียดชังชายคนที่เธอเคยรักแทบจะทันที เมื่อคิงไฮเบิร์นเปลี่ยนน้องสาวทั้งสองคนของเฟย์เรอให้เหมือนกับเธอ และหนึ่งในนั้นก็เมทกับลูเซียน เธอจึงซ้อนแผนโดยการแกล้งขอร้องให้คิงไฮเบิร์นตัดสายสัมพันธ์การครองคู่ระหว่างเธอกับริซ ทั้งๆที่ความเป็นจริงแล้วมันเป็นไปไม่ได้ ทัมลินจึงหลงเชื่อว่าอำนาจใดๆก็ตามที่ริซใช้กับเฟย์เรอได้หายไป และเธอจะกลับมาเป็นของเขาอีกครั้ง เขาพาเธอกลับสปริงคอร์ท แต่นั่นเป็นการจัดฉาก เพราะเฟย์เรอคือสายสืบที่จะเข้าไปทำลายศัตรูของเธอ รวมถึงทัมลินจากภายใน รวมถึงสงครามที่กำลังจะมาถึงในเร็ววัน

............................................................

ดีมาก ต่างจากเล่มแรกลิบลับ คือเล่มแรกเราก็ชอบมากแล้วนะ แต่เล่มนี้คือดีขึ้นไปอีก Maas เล่าเรื่องออกมาได้ถึงอารมณ์ ตัวละครทุกตัวมีพัฒนาการ ปมปัญหาดูซับซ้อนและจับต้องได้มากยิ่งขึ้น ทุกอย่างดูไม่ลอย เหตุการณ์เกี่ยวพันกันนำไปสู่ตอนจบในหน้าสุดท้ายที่เปิดไปสู่มหากาพย์สงครามซึ่งกำลังจะระเบิดขึ้นในเล่มสาม และต้องรอไปอีกหนึ่งปีเต็มเลยทีเดียว A Court of Mist and Fury ขอเรียกย่อๆว่า ACOMAF เป็นหนังสือ YA อีกเล่มที่เราอ่านแล้วชอบที่สุดในปีนี้ แน่นอนว่าต้องติด Top 10 อีกเล่มตามๆ The Beast ไปแน่ๆ ด้วยการเล่าเรื่องที่โคตรเทพ หาจุดติไม่เจอ การพรรณาหรือเปรียบเทียบนั้นทำออกมาได้ดี ดีจนเราขนลุก พาร์ทอารมณ์ของตัวละครทำเราร้องไห้ไปสองรอบ โดยเฉพาะฉากพระนางอยู่ด้วยกันและสารภาพความจริง ไม่น่าเชื่อว่าการเล่าผ่านมุมมองของริแซนด์จะทำให้เราปล่อยน้ำตาออกมาเยอะแยะมากมายขนาดนี้ เรารู้สึกสงสารเขา และเห็นใจต่อสิ่งที่เกิดขึ้น ผู้ชายอย่างเขาสมควรที่จะได้รับความรักแบบนี้แล้วล่ะ 

พาร์ท THE HOUSE OF MIST คือส่วนที่ดีที่สุดของหนังสือเล่มนี้ Maas ทำให้เราเชื่อว่าการสลับพระเอกหรืออาจจะเป็นความตั้งใจของเธอแต่แรกก็ไม่รู้ ไม่ได้ทำให้เราผิดหวังเลยแม้แต่น้อย ตรงกันข้าม ... ทุกอย่างดูมีที่มา ความรักระหว่างพระนางในเล่มนี้ดูเคมีที่เข้ากัน ต่างจากเล่มแรกที่โรมานซ์จืดชืด ให้คะแนนไปตั้ง 9 เพราะพลอตเรื่องกับการสร้างโลกล้วนๆที่นำออกมาได้น่าสนใจกว่าชุด Throne of Glass มาก ชุดนั้นเราไม่ค่อยชอบเท่าไร การสร้างโลกดีก็จริง แต่เนื้อเรื่องยังไม่น่าสนใจพอที่จะดูดเราเข้าไปเหมือนกับ ACOMAF หรือ ACOTAR

เฟย์เรอเติบโตขึ้นเยอะจากเล่มที่แล้ว สภาวะจิตใจของเธอทำให้เราเชื่อและถูกดูดเข้าไปในหนังสือ เรารับรู้ได้ถึงความสิ้นหวัง รวดร้าว ทุกความเจ็บปวดส่งมาถึงเราหมด นี่ต้องยกความดีความชอบให้ผู้เขียน ส่วนพลอตหลักก็ล้ำมาก บรรเจิดมาก ขยายสโคปไปได้แบบกว้างไกลไพศาลแต่ไม่หลุดออกจากกรอบ เพราะโฟกัสยังอยู่ที่นางเอกและคนรอบข้าง ฉากรักทำได้ดี ไม่งุ่มง่ามเหมือน ACOTAR แล้ว ไหนจะๆพวกเพื่อนๆของริซอีกที่สร้างคาแรคเตอร์ออกมาได้สวยมาก ทุกคนมีปมเป็นของตัวเอง ตัวละครมีหลายมิติ ไม่มีตัวไหนแบนราบเลย แม้กระทั่งประชาชนบนท้องถนนที่โผล่มาแค่ฉากเดียวยังดูจับจ้องได้เลยเหอะ

ชอบฉากรักในเล่มนี้ ฮอตดี ไม่เหนียม ไม่กั๊ก ใช่ว่านิยาย YA จะมีฉากรักเร่าร้อนไม่ได้ซะหน่อย เขียนออกมาดีๆ ภาษาสวยๆ ทำให้หนังสือเลอค่าขึ้นไปอีกหลายเท่า ไคลแมกซ์ตอนท้ายแบบคั้นหัวใจขั้นสุด ยิ่งสองบทสุดท้ายนี่กระแทกอารมณ์ได้อย่างตรงจุดและหนักแน่น รู้สึกสะใจ ดีใจและความคาดหวังอันสูงปรี๊ดสำหรับหนังสือเล่มต่อไป

คะแนน 10/10