Jul 4, 2016

The Rose & the Dagger (The Wrath & the Dawn #2)



ชื่อเรื่อง The Rose & the Dagger
จากชุด The Wrath & the Dawn
ผู้แต่ง Renée Ahdieh
วรรณกรรมเยาวชน แฟนตาซี
สำนักพิมพ์ G.P. Putnam's Sons Books

เรื่องย่อ

The darker the sky, the brighter the stars.

In a land on the brink of war, Shahrzad is forced from the arms of her beloved husband, the Caliph of Khorasan. She once thought Khalid a monster—a merciless killer of wives, responsible for immeasurable heartache and pain—but as she unraveled his secrets, she found instead an extraordinary man and a love she could not deny. Still, a curse threatens to keep Shazi and Khalid apart forever.

Now she’s reunited with her family, who have found refuge in the desert, where a deadly force is gathering against Khalid—a force set on destroying his empire and commanded by Shazi’s spurned childhood sweetheart. Trapped between loyalties to those she loves, the only thing Shazi can do is act. Using the burgeoning magic within her as a guide, she strikes out on her own to end both this terrible curse and the brewing war once and for all. But to do it, she must evade enemies of her own to stay alive.

The saga that began with The Wrath and the Dawn takes its final turn as Shahrzad risks everything to find her way back to her one true love again.

REVIEW

ชาห์สาดต้องพรากจากคาลิดอย่างไม่เต็มใจ แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าเธอจะไม่ได้พบกับเขาเลยทีเดียว เมื่อพ่อของเธอได้รับบาดเจ็บ ในอ้อมอกของเขาคือหนังสือที่ทำลายเมืองทั้งเมืองให้พังราบด้วยเวทมนตร์อันตราย ชาห์สาดต้องค้นหาคำตอบในการปลดปล่อยคนรักของเธอจากคำสาป ในขณะที่ต้องรับมือกับความรักครั้งเก่าระหว่างเธอกับทาริคที่ดูเหมือนจะเป็นชนวนที่ทำให้เกิดสงครามครั้งนี้อีกด้วย

ไอซา น้องสาวของชาห์สาดพบรักกับราฮิม และดูเหมือนว่าทั้งคู่ไปด้วยกันได้ดีจนกระทั่ง ชาห์สาดแอบย่องออกไปตอนกลางคืนเพื่อพบกับมูซาจนกระทั่งเธอได้หนทางในการทำลายคำสาปของคาลิดในที่สุดคือเขาจะต้องเป็นคนทำลายหนังสือที่พ่อของชาห์สาดครอบครองอยู่ แผนการณ์จึงเริ่มต้นขึ้นพร้อมๆกับสงครามที่รุดใกล้เข้ามา เมื่อทาริคและเรซาแตกออกจากกัน พ่อของชาห์สาดจึงร่วมกับสุลต่านซาลิมเพื่อจับตัวลูกสาวของเธอไปภายใต้โฉมหน้าที่แท้จริงของสาวใช้ของเธอ ชาห์สาดต้องหาวิธียับยั้งไม่ให้สุลต่านเป็นฝ่ายชนะสงครามครั้งนี้ให้ได้

คาลิดนำกองกำลังที่เขามีบุกมาถึงเมืองที่ซาลิมปกครอง เขาเจรจาต่อรองจนกระทั่งยุติสงครามนี้ได้ แต่ในวิธีที่ทุกคนกำลังเผลอ พ่อของชาห์สาดได้ปักมีดเข้าสู่หัวใจของคาลิดจนเขาถึงแก่ชีวิต แต่ในเมื่อพ่อของเธอรู้สึกว่าตัวเองไม่ได้อะไรจากการกระทำครั้งนี้และการเห็นลูกสาวของตัวเองโศรกเศร้าเสียใจคือสิ่งทรมานที่สุดยิ่งกว่าการเสียเธอไปทั้งเป็น ดังนั้นคนเป็นพ่อจึงใช้เวทมนตร์จากตำราที่ถูกทำลายไปแล้วคืนชีพให้แก่คาลิดด้วยการสังเวยชีวิตของเขาเอง

ชาห์สาดและคาลิดได้อยู่ด้วยกันโดยมีลูกชายหนึ่งคนที่เติบโตขึ้นมาพร้อมๆกับเรื่องเล่าขานที่ออกมาจากปากของหญิงสาวที่ครอบครองหัวใจของราชาเอาไว้ทั้งดวง

................................................

ไม่รู้มาก่อนว่านี่เป็นเล่มจบ เพราะคิดว่าหนังสือมีสามเล่ม เนื้อเรื่องใน The Rose & the Dagger จะค่อนข้างแตกต่างจาก The Wrath & the Dawn คือไม่ได้เต็มไปด้วยความลึกลับซ่อนเงื่อน ปริศนาที่ชวนสงสัยให้อยากอ่านต่อไปแบบเล่มแรก เล่มนี้การเล่าเรื่องจะเป็นเส้นตรง ไม่ได้แตกต่างอะไรจากหนังสือ YA ทั่วไปนัก ยังไงก็ตาม...ตัวละครแต่ละตัวก็มีความโดดเด่น ชวนหลงใหล รวมไปถึงฉากกับบรรยากาศซึ่งตราตรึงและทำให้เราประทับใจเป็นอย่างมาก นับได้ว่าเป็นจุดแข็งของนิยายชุดนี้เลยก็ว่าได้

จุดที่เราไม่ชอบคือเนื้อเรื่องครึ่งหลังที่เหมือนไร้การควบคุม มีความสะเปะสะปะที่เห็นได้ชัด ไม่รู้ว่าผู้แต่งพยายามเร่งให้จบด้วยการบีบอัดสิ่งที่ยังไม่ได้เล่าลงไปทีเดียวหรือยังไง การแก้ปัญหาบางอย่างเลยดูลอยจนน่าตลก บางอย่างไม่สมเหตุสมผลอย่างแรง อ่านปุ๊บจะรู้ได้ทันดีเลยว่า เหตุผลแบบนั้นมันไม่โอเค สำหรับช่วงท้ายสุดที่แบบหาทางออกได้ดิสนีย์แฟร์รี่เทลล์มากๆ ถ้าไปอยู่ในนิยายปกเด็กน้อยจะไม่ว่า แต่พอมาอยู่ในนิยายแนวนี้เลยคิดว่าดูไม่เข้ากันเท่าไร หรืออาจคาดหวังจากเล่มแรกว่าเล่มนี้จะดีกว่านี้ พอมาเจออะไรแอนตี้ไคลแมกซ์เข้าไปเลยมีเหวอๆนิดหน่อย

สรุป...เป็นซีรีย์ที่ควรค่าแก่การอ่าน แต่ไม่ได้ถึงกับ must read ถ้าจะพลาดไปก็ไม่เป็นไร การเล่าเรื่องเก๋ดี ไม่ชักช้าลีลา มีย้วยนิดหน่อย แต่ไม่มาก จุดเด่นที่สุดคือ...ภาษา... เรียงร้อยงดงามอลังการดาวล้วนดวง บางประโยคถ่ายทอดอารมณ์เหมือนดอกไม้สีขาวอมชมพูทีกำลังเบ่งบาน กลีบค่อยๆคลี่แย้มละมุนละไม เกสรสีสดใสเห็นแล้วสบายตา เป็นความเพลิดเพลินทางจิตใจที่หาได้ยากในสื่อสมัยนี้

คะแนน 7.5/10

No comments:

Post a Comment