Feb 12, 2016

Morning Star (Red Rising #3)



ชื่อเรื่อง Morning Star
จากชุด Red Rising
ผู้แต่ง Pierce Brown
วรรณกรรมเยาวชน แฟนตาซี
สำนักพิมพ์ Del Rey

เรื่องย่อ

Darrow would have lived in peace, but his enemies brought him war. The Gold overlords demanded his obedience, hanged his wife, and enslaved his people. But Darrow is determined to fight back. Risking everything to transform himself and breach Gold society, Darrow has battled to survive the cutthroat rivalries that breed Society’s mightiest warriors, climbed the ranks, and waited patiently to unleash the revolution that will tear the hierarchy apart from within.

Finally, the time has come.

But devotion to honor and hunger for vengeance run deep on both sides. Darrow and his comrades-in-arms face powerful enemies without scruple or mercy. Among them are some Darrow once considered friends. To win, Darrow will need to inspire those shackled in darkness to break their chains, unmake the world their cruel masters have built, and claim a destiny too long denied—and too glorious to surrender. 

REVIEW

หลังจากความวินาศที่เกิดขึ้นในวันฉลองของแดร์โรว เขาก็ถูก the Jackal กลับไปขังเอาไว้ไม่เห็นเดือนเห็นตะวันและค่อยๆถูกทำลายตัวตนจนหมดสิ้น จนกระทั่งวันที่แดร์โรวหลบหนีมาได้ด้วยความช่วยเหลือจากฮอลิเดย์และทริกก์ ซึ่งระหว่างการหลบหนี ทริกก์ถูกอาจาฆ่าตาย แดร์โรวและฮอลิเดย์จึงได้เดินทางมายังไทนอสและมาสมทบกับเซฟโร ซึ่งคุมบังเหียนในตำแหน่งของแอรีสหลังจากที่พ่อของเขาตายไปแล้ว


เซฟโรมาแผนที่จะลักพาตัวควิกซิลเวอร์จากโฟบอสเพื่อทำลายเศรษฐกิจ การลักพาตัวนั่นทำให้แดร์โรวและเซฟโรรู้ว่าควิกซิลเวอร์อยู่ฝ่ายเดียวกับตน และเป็นผู้คอยหนุนในเรื่องงบประมาณให้แก่บุตรแห่งแอรีสมาโดยตลอด แดร์โรวได้พบกับมัสแตงระหว่างภารกิจและได้รับเธอกลับเข้ากลุ่ม เขาและแร็กนาร์วางแผนที่จะเดินทางกลับไปยังบ้านเกิดของออบซิเดียนเพื่อทำลายล้างพระเจ้า และทำให้เหล่าออบซิเดียนรู้ว่าพระเจ้าที่พวกเขาเคารพบูชานั้น ก็คือมนุษย์ดีๆนี่เอง และก็ไม่ได้เป็นอมตะอย่างที่พวกเขาเชื่อมาโดยตลอด

แร็กนาร์ถูกอาจาฆ่าระหว่างการต่อสู้ แดร์โรวจึงต้องจัดการเรื่องการชักชวนออบซิเดียนแต่เพียงคนเดียว เมื่อเขาทำได้สำเร็จ แดร์โรวจึงได้กองทัพออบซิเดียนมาอยู่ร่วมกับฝ่ายตน แต่แคสเซียสกลับบอกกับแดร์โรวว่า the Jackal ได้รวบรวมระเบิดนิวเคลียร์ที่จะทำลายดาวอังคารได้ทั้งดวงหากเขาไม่สามารถบรรลุจุดมุ่งหมายได้ ดังนั้นแดร์โรวจึงต้องเปลี่ยนกลยุทธและออกเดินทางไปในอวกาศเพื่อยึดยานซอร์ดอมันด้ามาให้ได้

แผนการณ์หลอกล่อของแดร์โรวสำเร็จลุล่วง นั่นทำให้เขาสามารถบุกทะลวงสู่หอบัญชาการของโร้คได้และยึดกองเรือรบสำเร็จ ความอัปยศที่เกิดขึ้นทำให้โร้คตัดสินใจฆ่าตัวตาย หลังจากที่แดร์โรวยึดซอร์ดอมันด้าได้แล้ว the Jackal ก็เผยแพร่ภาพการสังหารลุงของแดร์โรว ซึ่งนั่นก่อให้เกิดความแตกแยกระหว่างสีแดงและสีทองกันเอง เมื่อเซฟโรทำให้เหตุการณ์สงบลงโดยการเสี่ยงชีวิตได้สำเร็จ แดร์โรวและกองทัพก็มุ่งหน้าสู่ลูนาอย่างเต็มกำลัง

แดร์โรวตัดสินใจปล่อยแคสเซียส แต่เขากลับทรยศแดร์โรวและตัดมือแดร์โรว แคสเซียสฆ่าเซฟโรและพาตัวแดร์โรวกับมัสแตงมามอบให้ออคตาเวียถึงที่ ที่นั่นแดร์โรวพบกับ the Jackal และอาจา ออคตาเวียสั่งให้แคสเซียสสังการแดร์โรว แต่ทั้งหมดกลับเป็นแผนการณ์ของแคสเซียสที่ต้องการตบตาทุกคนเพื่อพาแดร์โรว เซฟโรและมัสแตงมายังใจกลางของศึกครั้งนี้ แดร์โรวแทงออคตาเวีย เซฟโรฟื้นขึ้นมาด้วยพิษงูตื่นขึ้นมาช่วยแดร์โรวฆ่าอาจา

วินาทีที่ทุกคนคิดว่าสงครามกำลังจะจบลง the Jackal กลับบอกว่าเขาได้ฝังอาวุธนิวเคลียร์ไว้ที่ลูนาหมดแล้วและจะสั่งให้ลูกน้องระเบิดทีละจุดไปเรื่อยๆจนดาวทั้งดวงกลายเป็นจุน แดร์โรวกระชากลิ้นของ the Jackal จนขาด และเดิมพันกับ Ash Lord ให้เขาใช้กองกำลังหยุดกองทัพของ the Jackal ลงให้ได้

เมื่อสงครามสิ้นสุด มัสแตงสถาปนาตนเองแทนตำแหน่งของออคตาเวีย คือผู้ปกครองสูงสุด และมัสแตงก็พาลูกของเธอกับแดร์โรวมาให้เขาเห็นเป็นครั้งแรกหลังจากที่เธอปกปิดแดร์โรวมานาน ...

...........................................................

ตอนจบของไตรภาคชุด Red Rising ที่อัดแน่นไปด้วยฉากต่อสู้ที่สุดแสนจะ epic เนื้อเรื่องที่เต็มไปด้วยการทรยศหักหลัง คราบเลือดและหยาดน้ำตา Pierce Brown เขียนหนังสืออกมาได้สุดยอดและเกือบจะไร้ที่ติ เขาค้นคว้ามาดีทั้งเรื่องยานอวกาศและอาวุธหน้าตาแปลกๆในท้องเรื่อง จากไตรภาคชุดนี้ เรามั่นใจว่า Pierce Brown ต้องเป็นนักเขียนแถวหน้าของวงการอย่างแน่นอน รอภาพยนตร์ฉายก่อนเถอะ อีกไม่นานเกินรอ

Morning Star เป็นหนังสือที่มีความดาร์คที่สุดในบรรดาทั้งสามเล่ม จากเด็กชายที่สูญเสียภรรยาในเล่มแรก เติบโตและมีความเป็นผู้นำใน Golden Son และสำหรับเล่มนี้ แดร์โรวต้องเอาชนะทั้งตัวเอง รวมถึงดำเนินหน้าการรบที่ต้องคงความสมดุลของผลลัพธ์เอาไว้ด้วย ผู้เขียนสามารถสร้างเนื้อเรื่องที่กลมกล่อมและทรงพลังออกมาได้อย่างไม่ผิดหวังเลยทีเดียว ตัวละครแทบจะทุกตัวเป็นสีเทา มีความมนุษย์อยู่สูง และที่ทำให้เราชอบมากที่สุดเลยก็คือ ความแข็งแกร่งของเนื้อเรื่องในเล่มนี้ ที่บอกเลยว่าโคตรจะสตรองงงงงง !

หักคะแนนไปนิดนึงเพราะว่าตอนจบที่แบบว่า ... โลกสวยเกินไป จากโลกดิสโทเปียที่ต่อสู้แทบตายกันมาสามเล่ม กลายมาเป็นยูโทเปียในบทท้ายๆได้ยังไงก็ไม่รู้ ในความคิดเรา เราอยากได้ตอนจบแบบ Mockingjay ซึ่งถ้าใครอ่านก็พอจะรู้ว่ามันรู้สึกยังไง คือมันไม่ได้เพอร์เฟ็ค แต่มันทิ้งตะกอนไว้ในใจเราตลอด ทำให้เราเริ่มตั้งคำถามตั้งแต่แรกเลยว่า สงครามมีไว้เพื่ออะไร ? และมนุษย์เราได้อะไรจากสงคราม ? และทำให้เรารู้สึกเห็นใจตัวละครแม้ว่าหนังสือจะจบไปแล้วก็ตาม

อีกจุดคือมัสแตงในตอนท้าย แบบเหวยๆ มันจะง่ายไปหน่อยมั้ย อ่านแล้วแอบมีสะดุดบ้าง อยากให้การฟื้นฟูสังคมมันมีอะไรมากกว่านี้ ดูมีปัญหามากกว่านี้ ไม่ใช่ศัตรูแตกพ่าย ประชาชนแยกย้าย ตัวเอกชูกำปั้นขึ้นฟ้าประกาศว่า ... กูชนะแล้วโว้ยยยยย เราว่าน่าจะสร้างอะไรที่มันมี impact หน่อย (แต่ไม่ได้มากแบบ Allegiant นะ อันนั้นมากไป 555)

สรุป ... ชอบ ถึงจะมีศัพท์แสงเกี่ยวกับยานอวกาศเยอะแยะที่ทำเราตึ้บไปหลายรอบเหมือนกัน แต่ภาพรวมเล่มนี้ดาร์คขึ้น หักมุมก็แบบหักกันจริงๆ อ้าปากค้างกันเลย จุดกระชากอารมณ์ก็ถึงเครื่อง บทสรุปก็สมบูณ์แบบ(เกินไป) ตัวละครมีพัฒนาการแบบดีมาก อย่างแดร์โรวในตอนแรกนี่ ป่นปี้ย่อยยับจนถึงระดับโมเลกุลเลยก็ว่าได้ เราชอบเซฟโร ตัวสร้างสีสันให้กับเนื้อเรื่องเลย ครบทุกอารมณ์ มีจุดที่ยืดเยื้อ แต่ไม่มาก ฉากต่อสู้ก็มันสะเด็ดเลย รับรอง ! อารมณ์หนังสือจะคล้ายๆกับ Harry Potter + The Hunger Games + Star Trek คือผู้แต่งเป็นแฟนแฮร์รี่ เล่มแรกนี่บ้านกริฟฟินดอร์ สลิธีรีนปาดคอกันมันส์เลย เล่มสองกับเล่มสามการเมืองเริ่มหนักได้กลิ่นอาย The Hunger Games ฉากรบในอวกาศอ่านแล้วจะโอ้โห ! คิดได้ไง

คะแนน 8/10

No comments: